ตอนที่ 10 วัดค่าปราณ
ในห้องทำงาน
จ่ายเงิน ลงทะเบียน กรอกใบสมัคร ขั้นตอนนั้นผ่านไปอย่างเรียบง่าย
ยามที่คนอื่นไม่ได้สนใจ ฟางผิงก็ทำการทดลองอีกครั้ง แสร้งจับค่าสมัครสอบของคนอื่นอย่างไม่ตั้งใจ
ผลลัพธ์เป็นดังที่เขาคาด ค่าทรัพย์สินไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ฟางผิงคาดเดามาก่อนแล้ว จึงไม่ได้ผิดหวังมากนัก
จำนวนคนมีไม่เยอะ ไม่นานการสมัครสอบก็สิ้นสุดลง
อาจารย์ประจำชั้นรวบรวมใบสมัครของพวกนักเรียนเข้าด้วยกัน กวาดตามองนักเรียนแปดคนที่อยู่ด้านหน้า ทั้งนี่ก็นับเป็นความหวังในการสอบวรยุทธ์ของห้องสี่ปีนี้เช่นกัน
คนอื่นๆ ก่อนหน้านี้อาจารย์ประจำชั้นล้วนเดาได้คร่าวๆ แล้ว เว้นเสียคนหนึ่งนั่นก็คือฟางผิง
ขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์ประจำชั้นของฟางผิง ทั้งฟางหมิงหรงก็มาประชุมผู้ปกครองอยู่บ่อยครั้ง สถานะบ้านของตระกูลฟางเป็นอย่างไร หลิวอันกั๋วนั้นกระจ่างใจอย่างยิ่ง
แต่ทุกปีในเวลานี้ นักเรียนที่คิดจะพยายามสักครั้งก็มีไม่น้อยเช่นกัน แม้จะไม่คาดคิด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกนัก
หลิวอันกั๋วเก็บความคิดเอาไว้ เอ่ยขึ้นว่า “วันมะรืน หรือก็คือวันที่เก้า หวังจินหยาง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยวรยุทธ์หนานเจียงจะกลับมาชี้แจงเรื่องการสอบให้ทุกคนฟัง คาดว่าทุกคนคงจะรู้แล้ว อย่าลืมเสียล่ะ”
ทุกคนต่างผงกศีรษะอย่างรีบเร่ง มีรุ่นพี่มาเล่าประสบการณ์ นับเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อทุกคนอยู่บ้าง
“ถึงเวลานั้นโรงเรียนจะส่งตารางสอบวรยุทธ์ รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ ดูให้ดีด้วยล่ะ”
แม้หลิวอันกั๋วจะเป็นอาจารย์ประจำชั้นของทุกคน แต่หน้าที่หลักๆ คือสอนความรู้สายสังคมทั่วไป วิชาวรยุทธ์นั้นรู้เพียงเบื้องต้น เท่านั้น
แต่โรงเรียนมีคลาสเตรียมความพร้อมสำหรับวรยุทธ์ ด้านนอกก็มีสถาบันกวดวิชาเกี่ยวกับวรยุทธ์เช่นกัน นี่จึงจะเป็นจุดสำคัญของนักเรียนสายวรยุทธ์
คนอื่นต่างก็ไปเรียนกันมาหมด หรือบางคนยังเลือกที่จะเชิญติวเตอร์มาสอนที่บ้าน
ในกลุ่มนักเรียนเหล่านี้ หลินอันกั๋วกวาดสายตามองไปครั้งหนึ่ง เกรงว่าคงจะมีแต่ฟางผิงที่ไม่เคยทำอะไรพวกนี้
จุดนี้ไม่จำเป็นต้องถาม หากเคยไปจริงๆ แม้ฟางผิงจะไม่พูด แต่ยามที่พ่อเขามาประชุมผู้ปกครอง คงต้องเอ่ยถึงบ้าง
หลิวอันกั๋วลอบถอนหายใจ จู่ๆ ก็ก้มลงไปเปิดตู้ที่อยู่ตรงโต๊ะตัวเอง ผ่านไปสักพัก ค่อยหยัดกายพร้อมหนังสือปึกหนาในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะทำงาน เอ่ยกับฟางผิงว่า “ดูสิว่ามีเล่มไหนจำเป็นต้องใช้หรือเปล่า นักเรียนคนอื่นเคยเข้าคลาสเตรียมพร้อมของโรงเรียนมาก่อน มีของพวกนี้กันแล้ว เธอขาดเรื่องไหนก็เอาไปอ่านก่อนได้”
ฟางผิงคาดไม่ถึงอยู่บ้าง แต่นี่นับว่าเป็นของที่เขาต้องการในเวลานี้จริงๆ ฟังจบก็รีบเอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณครับอาจารย์”
หลิวอันกั๋วไม่ได้บันทึกเรื่องสำคัญอะไรไว้ในหนังสือพวกนี้ แม้ว่าของพวกนี้จะไม่ได้ราคาถูก ซื้อข้างนอกก็เกือบร้อยหยวน แต่สำหรับนักเรียนที่ฐานะทางบ้านขัดสน หากเขาสามารถดูแลได้หน่อย ย่อมยินดีจะช่วยเหลือเรื่องเล็กน้อยพวกนี้
เมื่อเห็นฟางผิงไม่ปฏิเสธ ทั้งกอดหนังสือพวกนั้นไว้ในอกอย่างเริงร่า หลิวอันกั๋วก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง
ดูจากท่าทางแล้ว เกรงว่าเจ้าหนุ่มคนนี้จะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เอาหนังสือไปหมดเช่นนี้หรอก
แม้ว่าจะไม่คาดหวังกับฟางผิง แต่หลิวอันกั๋วที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ประจำชั้นก็ยังคงลังเลเล็กน้อย หันศีรษะไปเอ่ยกับอู๋จื้อหาว “ฟางผิงยังอ่อนเรื่องการสอบวรยุทธ์กว่าพวกเธอ ความรู้วิชาทั่วไปก็เข้าใจไม่มาก หนังสือพวกนี้ หากคิดจะอ่านจบรวดเดียวคงเป็นเรื่องยาก อู๋จื้อหาว เธอดูสิว่า พอจะถ่ายโน้ตสรุปวิชาเฉพาะของเธอให้ฟางผิงสักชุดได้ไหม?”
เทียบกับหนังสือแล้ว โน้ตสรุปที่นักเรียนสายวรยุทธ์จดด้วยตัวเองเพื่อเตรียมสอบจะมีประโยชน์กว่ามาก!
เน้นหนักส่วนที่สำคัญ สรุปอย่างรวดรัด ของพวกนี้ล้วนเป็นพวกนักเรียนที่สรุปบันทึกกันเอง
อู๋จื้อหาวเป็นนักเรียนที่คะแนนสูงที่สุดในห้องสี่ เป็นคนที่เขาคาดหวังที่สุดในการสอบสายวรยุทธ์
ยืมโน้ตสรุปของเขา จะประหยัดแรงและเวลาไม่น้อย
แต่โน้ตสรุปถือเป็นของส่วนตัว แม้จะเป็นอาจารย์ประจำชั้น ก็ไม่มีอำนาจบังคับ ทำได้เพียงปรึกษาก่อน
เดิมทีอาจารย์ให้หนังสือตัวเอง ฟางผิงก็ซาบซึ้งมากแล้ว นึกไม่ถึงว่าอาจารย์จะเอ่ยปากขอถ่ายโน้ตสรุปจากอู๋จื้อหาวให้อีก
ชาติก่อน อาจารย์ประจำชั้นของตัวเองก็เป็นอาจารย์ที่ดีเช่นกัน แต่คะแนนของฟางผิงครึ่งๆ กลางๆ จึงมีความสัมพันธ์ธรรมดากับอาจารย์ ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กันมากนัก
คาดไม่ถึงว่า อาจารย์ประจำชั้นจะมีความรับผิดชอบกว่าที่คิด
เรื่องที่ฟางผิงไม่ได้เตรียมพร้อมกับการสอบ ไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของอาจารย์ การมอบหนังสือให้ถือเป็นสินน้ำใจ ตอนนี้ยังเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโน้ตสรุปช่วยเขาอีก
ฟางผิงไม่รอให้อู๋จื้อหาวเอ่ยปาก ก็เร่งเอ่ยว่า “อาจารย์หลิว ไม่ต้อง…”
เขาพูดไม่ทันจบ อู๋จื้อหาวที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อน “ไม่เป็นไร กลับไปฉันจะไปถ่ายให้นายหนึ่งชุด ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร หากพูดใกล้เคียงกับความจริงหน่อยก็คือ นายอาจจะไม่ได้ใช้ก็ได้”
อู๋จื้อหาวก็ไม่ได้กลัวว่าคำพูดตัวเองจะกระทบจิตใจฟางผิง ความจริงทุกคนต่างกระจ่างใจดี
แม้ว่าจะเป็นอู๋จื้อหาวเอง ก็ใช่ว่าจะมีหวังผ่านเข้าไปในด่านที่สี่…การสอบวิชาเฉพาะ
ในเมื่ออาจารย์เอ่ยปากแล้ว อู๋จื้อหาวก็ไม่คิดจะหักหน้าอาจารย์
อู๋จื้อหาวพูดขนาดนี้แล้ว ฟางผิงก็ไม่เล่นตัวอีก รีบขอบคุณทันที
แน่นอนว่า เห็นหนังสือกองใหญ่ในมือพวกนี้ ฟางผิงก็ตึงเครียดขึ้นมาแล้ว
หากยืมสรุปของอู๋จื้อหาว เขาก็จะทราบเนื้อหาสำคัญที่จะออกสอบ ไม่ใช่จับต้นชนปลายไม่ถูก อ่านจนจบทั้งเล่ม



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน