ตอนที่ 184 การแข่งขันไม่ใช่เป้าหมายหลัก (2)
เวลานี้ฟางผิงไม่ได้แขวะต่อแล้ว จ้องไปที่พวกเขาด้วยแววตาข่มขู่แทน “ราชสีห์ถังบอกว่าฉันเรียกเขาลับหลังว่าราชสีห์ถัง เรื่องนี้น่าจะเป็นพวกนายที่เอาไปฟ้อง ฉันเตือนพวกนายไว้ก่อน ครั้งหน้าถ้าราชสีห์ถังมาหาเรื่องฉันเพราะเรื่องนี้อีก ฉันจะจัดการกับพวกนายให้ดู”
ทุกคนทำหน้าไร้คำจะพูด จ้าวเหล่ยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ให้ความเคารพกับอาจารย์หน่อย พวกเราไม่เคยพูดว่าร้ายกับอาจารย์หลู่ด้วยซ้ำ”
“เหลวไหล พวกนายกล้าหรือไง?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างดูแคลน ก่อนจะวกสู่ประเด็น “ไม่พูดเรื่องไร้สาระพวกนี้แล้ว ห้าคนลงสนาม พวกเรามีหกคน ถังซงถิงและเฉินอวิ๋นซี ใครจะลงสนาม?”
ถังซงถิงมองเฉินอวิ๋นซีไปแวบหนึ่ง ครุ่นคิดพลางเอ่ยว่า “เฉินอวิ๋นซีละกัน ฉันไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด ทั้งไม่ได้หลอมกระดูกสองครั้ง ปราณและการหลอมกระดูกน้อยกว่า เจอผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดมีโอกาสที่จะแพ้สูง”
ฟางผิงมองไปทางเฉินอวิ๋นซี เฉินอวิ๋นซีไม่พอใจอยู่บ้าง เอ่ยอย่างโมโห “อย่าเอาแต่สงสัยฉันได้หรือเปล่า? ฉัน…ฉันไม่ได้ไร้ความสามารถเหมือนที่พวกนายคิดขนาดนั้น!”
“งั้นเป็นเธอแล้วกัน”
ฟางผิงรู้เหมือนกันว่าถังซงถิงพูดถูก เขาต้องรับมือกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด แทบไม่มีความได้เปรียบแม้แต่น้อย มีโอกาสที่จะแพ้สูง
แต่พวกเฉินอวิ๋นซี แม้จะไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด แต่ปราณนั้นแข็งแกร่ง หลอมกระดูกได้เยอะ ทั่วร่างแทบจะยี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
ทางหนานเจียงคิดจะส่งผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดที่หลอมกระดูกสองครั้งออกมาห้าคน ไม่ได้เป็นเรื่องง่าย ถึงขั้นมหาวิทยาลัยใหญ่อย่างหนานเจียงจะมีผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกสองครั้งถึงห้าคนหรือเปล่ายังพูดยากเหมือนกัน
ยืนยันสมาชิกที่ลงสนามแล้ว ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “ครั้งนี้หนานเจียงต้องการทำให้นักศึกษาของตัวเองรู้สึกอัปยศอดสู พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น โดยทั่วไปสมาชิกที่ลงสนามคงไม่แข็งแกร่งนักหรอก แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่เป็นฝ่ายยอมแพ้ ยังไงก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด ทุกคนระวังหน่อยแล้วกัน อีกอย่างหวังจินหยางไม่ใช่คนโง่ ถึงเขาจะพูดว่าจ่ายค่าตอบแทนเป็นยาบำรุงขั้นสองสิบห้าเม็ด แต่คงไม่ให้พวกเราชนะได้อย่างง่ายๆ ถ้าหนานเจียงเอาชนะพวกเราได้ ความจริงก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างขวัญกำลังใจเช่นกัน ดังนั้นทุกคนต้องตั้งสติให้ดี! อีกอย่าง ลืมถามว่าการแข่งคืนนี้เป็นแบบชนะสามในห้า หรือเป็นการเวียนกันประลองเหมือนการแข่งขันแลกเปลี่ยนก่อนหน้านี้…ถ้าเป็นระบบเหมือนการแข่งครั้งก่อน คงง่ายสำหรับพวกเราแล้ว ยังไงนักศึกษาของหนานเจียงก็ไม่รู้ข้อมูลทีมของพวกเรา”
ก่อนหน้านี้เหล่าหวังจากไปอย่างรวดเร็ว พวกฟางผิงจึงลืมถามเรื่องนี้
จ้าวเหล่ยเผยสีหน้าหนักแน่น “ไม่ว่าจะใช้เกณฑ์อะไร แค่ฝีมือแข็งแกร่งก็เพียงพอแล้ว!”
“ปัญญาอ่อน…”
ฟางผิงอดด่าออกมาไม่ได้ ติดตามราชสีห์ถังแล้ว ไม่คิดจะใช้สมองบ้างหรือไง?
ยังไงจ้าวเหล่ยก็เป็นผู้สอบได้คะแนนอันดับหนึ่ง ไม่ใช่แค่ศิลปะการต่อสู้ วิชาทั่วไปก็เหมือนกัน
ปรากฏว่านักศึกษาที่ชำนาญทั้งวิชาการและการต่อสู้ ตอนนี้กลับแทบจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวซะแล้ว
ฟางผิงครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจโทรศัพท์ไปถาม
ทางเหล่าหวังมีเสียงดังเซ็งแซ่แทรกเข้ามา เหมือนจะกำลังเลือกสมาชิกลงสนาม
ได้ยินคำถามของฟางผิง หวังจินหยางจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ใช้ระบบเหมือนการแข่งขันแลกเปลี่ยนแล้วกัน ให้คนที่แข็งแกร่งมีโอกาสแสดงฝีมือหน่อย”
มั่นใจเรื่องระบบการแข่งขันแล้ว ฟางผิงไม่ถามอะไรอีก
ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาถึงกลางวันแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเย็นแล้ว ต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด ก็ควรจะเตรียมพร้อมสักหน่อย
ฟางผิงไม่ได้คิดว่าพวกเขาจะสามารถกำหนดผลแพ้ชนะได้จริงๆ
—
ในเวลาเดียวกัน
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง
“รังแกคนเกินไปแล้ว!”
“ได้ยินหรือยัง? นักศึกษาใหม่ของเซี่ยงไฮ้ห้าคนท้าประลองผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดของมหาวิทยาลัยพวกเรา อีกฝ่ายเป็นเด็กปีหนึ่งทั้งหมด”
“เด็กปีหนึ่ง? ท้าประลองผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด?”
“ใช่ เป็นทีมนักศึกษาใหม่ที่เข้าร่วมการแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งก่อนนั้นไง ได้ยินว่าทะลวงขั้นสองหมดแล้ว”
“ให้ตายเถอะ เร็วอะไรขนาดนี้?”
“นี่ พวกนายผิดประเด็นแล้ว ตอนนี้เด็กใหม่ของเซี่ยงไฮ้ท้าประลองนักศึกษาปีสูงของพวกเรา ถ้าหนานเจียงแพ้ วันข้างหน้าจะไม่กลายเป็นเรื่องตลกในมหาวิทยาลัยหรือไง?”
“พวกเขาเอาชนะไม่ได้หรอก แม้จะอยู่ขั้นสอง แต่ก็เพิ่งทะลวง…”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน