ตอนที่ 186 ไม่แข็งแกร่งก็ต้องทำเป็นแข็งแกร่ง (1)
รอบแรกหนานเจียงเป็นฝ่ายแพ้
เฉินเผิงเฟย ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด คะแนนภารกิจสะสมที่อันดับสามถูกเอาชนะ
ด้านล่างเวทีมีเสียงดังโกลาหลขึ้นมาอีกครั้ง
“เฉินเผิงเฟยแพ้!”
“เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด อีกฝ่ายเพิ่งจะทะลวงขั้นสองเท่านั้น นี่คือแพ้แล้ว อะไรกันเนี่ย!”
“พวกนายปัญญาอ่อนหรือไง? จ้าวเหล่ยหลอมกระดูกสองครั้ง ปราณไม่ได้ด้อยไปกว่าเฉินเผิงเฟย ทั้งจวงกงยังอยู่ขั้นสภาวะว่างเปล่า เฉินเผิงเฟยคาดการณ์พลาด ไม่งั้นคงเป็นจ้าวเหล่ยที่แพ้ ไม่ใช่เฉินเผิงเฟยอ่อนแอ แต่จ้าวเหล่ยแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้ต่างหาก!”
มีคนแก้ต่างแทนเฉินเผิงเฟย จ้าวเหล่ยมีโอกาสแสดงฝีมือในการแข่งขันแลกเปลี่ยนไม่เยอะ ทุกคนจึงไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขา
จวงกงสภาวะว่างเปล่าไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามหลายคนยังทำถึงจุดนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
เฉินเผิงเฟยอาศัยประสบการณ์จากอดีต ไม่ได้ถือว่าคาดคะเนผิด แค่ประเมินจ้าวเหล่ยต่ำไปเท่านั้น
การพ่ายแพ้ในรอบแรกได้เพิ่มเงาดำขึ้นมาในใจของนักศึกษาหนานเจียงเช่นกัน
มหาวิทยาลัยหนานเจียง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามมีไม่เยอะ สิบกว่าคนเท่านั้น
ขั้นสองสูงสุดเพียงพอที่จะเป็นหน้าเป็นตาให้หนานเจียงได้แล้ว
แต่ตอนนี้ประลองรอบแรกก็แพ้ซะแล้ว!
—
“จ้าวเหล่ยจะต่อหรือเปล่า?”
หวังจินหยางถามออกไป จ้าวเหล่ยกำลังจะอ้าปาก
ฟางผิงกลับสาวเท้าเข้ามาก่อน เอ่ยว่า “การแข่งขันแลกเปลี่ยนความรู้เท่านั้น สิ้นเปลืองปราณเยอะแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องสู้ต่อ”
แม้ว่าจ้าวเหล่ยจะอยากสู้อีกสักรอบ แต่ตระหนักได้ว่าคนต่อไปจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดเช่นกัน คิดดูแล้วจึงเดินลงจากเวทีไป
“สู้ได้ดี จวงกงสภาวะว่างเปล่าแล้ว ซ่อนมาจนถึงตอนนี้เตรียมจะใช้กับใครกัน?”
ฟางผิงมองจ้าวเหล่ยที่เดินลงเวทีด้วยรอยยิ้ม จ้าวเหล่ยใบหน้าดำคล้ำ แค่นเสียงว่า “แค่ไม่ได้เจอคนที่ทำให้ฉันต้องสู้สุดกำลังเท่านั้น!”
“อย่างนั้นเหรอ?”
ฟางผิงหัวเราะ ไม่พูดอะไรต่อ ก้าวขึ้นไปบนเวที
“ฟางผิง ขั้นสองสูงสุด มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้!”
“หัวหน้าทีมของเซี่ยงไฮ้คนนั้น?”
“เป็นคนหนานเจียงเหมือนกัน เขาทะลวงขั้นสองสูงสุดแล้ว!”
“เขาฝึกวิชายังไง? การแข่งขันเดือนมกราไม่ใช่ยังอยู่ขั้นหนึ่งสูงสุดหรอกเหรอ?”
“…”
สิ้นเสียงของฟางผิง ด้านล่างเวทีก็ไร้ความสงบอีกต่อไป
ขั้นสองสูงสุด!
นี่เพิ่งจะกี่วันเอง?
ทุกคนอยู่ในช่วงคนธรรมดาไม่ได้พัฒนาเร็วขนาดนั้น
—
อีกด้านหนึ่งของเวที
จางติ้งหนานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เด็กคนนี้เป็นลูกศิษย์ของหลู่เฟิ่งโหรวสินะ?”
“ใช่แล้ว”
“เรียนวิชาดาบของฉัน? ครั้งก่อนฉันดูอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน…แต่มองไม่ออก ฉันคิดว่าเขาเรียนจาก ‘โจวอีเตา’ ซะอีก”
“แค่กๆๆ…”
หวงจิ่งและอธิการบดีมหาวิทยาลัยหนานเจียงต่างสำลักไอ ก่อนจะหัวเราะเล็กน้อย
‘โจวอีเตา’ เป็นปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญวิชาดาบเช่นกัน แต่ไหนแต่ไรก็ฟันคนโดยดาบเดียว ดาบเดียวไม่พอก็เพิ่มอีกดาบ ไม่มีทักษะหรือกระบวนท่าซับซ้อนมากมาย
แม้ว่าดาบคลั่งโลหิตจะใช้รูปแบบเดียวกัน กลับไม่ใช่การฟันดาบออกไปอย่างเดียว
ก่อนหน้านี้ในการแข่งขันแลกเปลี่ยนมองไม่ออกจริงๆ ว่าฟางผิงฝึกวิชาจากดาบคลั่งโลหิตที่อาศัยการปะทุปราณฟันออกไปติดต่อกัน
เอ่ยสัพยอกแล้ว จางติ้งหนานเอ่ยต่อว่า “คนหนานเจียง น่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่อาจรั้งให้อยู่หนานเจียงได้”
“คุณยึดติดกับบ้านเกิดเกินไป ตั้งข้อจำกัดเกินไป หรือนักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่คนจีน จะทุ่มเทเพื่อประเทศชาติไม่ได้?”
“ไม่เหมือนกัน…”
“ผมคิดว่าเหมือนกัน!”
“แล้วแต่นายเถอะ ครั้งนี้หากปากทางเข้าถ้ำปรากฏขึ้นที่หนานเจียง หวังว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะสามารถช่วยหนานเจียงผ่านมหันตภัยครั้งนี้ไปได้”
“เซี่ยงไฮ้ไม่นั่งเฉยๆ อยู่แล้ว วางใจเถอะ”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ทุกครั้งที่ปากทางเข้าถ้ำเปิดออก พื้นที่อื่นๆ จะมีการสั่นสะเทือนเช่นกัน ฉันกลัวแค่ว่าจะไม่ทันการณ์ โยกย้ายกำลังคนออกมาไม่ได้”
จางติ้งหนานเผยใบหน้าเป็นกังวล หนานเจียงสงบสุขมาหลายปี ถึงเวลาต้องเผชิญกับการหลั่งเลือดแล้วงั้นเหรอ?
—
คล้อยหลังจากเสียงซุบซิบของทุกคนล่างเวที
ไม่นานหนานเจียงก็มีคนเดินออกมา เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
ฟางผิงเห็นว่าผู้หญิงขึ้นเวทีมาคนเดียวจึงอดมองหวังจินหยางไปแวบหนึ่งไม่ได้
หวังจินหยางไม่ได้มองเขา ผู้ฝึกยุทธ์หญิงที่เปียผมเอ่ยด้วยแววตาเยียบเย็น “ไม่ต้องมองหรอก หรือนายคิดดูถูกผู้หญิง?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แค่คิดว่าอัดผู้หญิง ไม่รู้ว่าจะถูกด่าหรือเปล่า? นักศึกษานับพันของหนานเจียง นึกไม่ถึงว่าจะรวมกลุ่มผู้ชายมาไม่ได้? น่าเศร้าจริงๆ อย่าพูดถึงพวกเราเลย พวกเราไม่ได้ตั้งใจมาแข่งโดยเฉพาะ พูดตามตรง แค่ประจวบเหมาะเท่านั้น”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน