เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 23

ตอนที่ 23 หลอนตัวเอง

วันถัดมา

วันพุธที่ 10 เมษายน

ฟางผิงตื่นนอนก็รู้สึกปวดกล้ามเนื้ออยู่บ้าง

แต่ยังดีกว่าที่คาดไว้ไม่น้อย คนไม่ได้ออกกำลังกายมานาน จู่ๆ มาออกกำลังกาย จะปวดเนื้อปวดตัวก็เป็นเรื่องธรรมดา

แต่เพราะค่าปราณที่เพิ่มสูงขึ้น อาการเจ็บปวดจึงลดน้อยลงอย่างยิ่ง

ยามนี้ฟางผิงค่อยเข้าใจขึ้นมาบ้างว่า เหตุใดถึงต้องกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของปราณสำหรับผู้ฝึกยุทธ์

ปราณแข็งแรง โรคภัยย่อมไม่กร่ำกราย ถึงกระทั่งทำให้ร่างกายไม่เหนื่อยเมื่อยล้า

คนเช่นนี้ถึงจะมีพลังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้ ไม่อย่างนั้น การออกกำลังของเมื่อวานก็เพียงพอจะทำให้ฟางผิงปวดตัวไปหลายวันแล้ว

ยามที่ตื่นนอน พ่อแม่ก็ออกไปทำงานก่อนแล้วเหมือนเช่นเคย

ฟางหยวนล้างหน้าแปรงฟันอย่างงัวเงีย เด็กสมัยนี้มักง่วงหงาวหาวนอนอยู่แล้ว

ฟางหยวนรู้เรื่องที่ฟางผิงออกกำลังกายเมื่อวานเช่นกัน

บังคับเปลือกตาที่แทบจะปิดมองพี่ชายที่ดูกระปรี้กระเปร่า ฟางหยวนก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย

“ฟางผิง นายไม่เหนื่อยหรือไง?”

“ไม่เหนื่อย รู้สึกสดชื่น เจริญอาหารดี!”

ฟางหยวนเบะปาก รู้ว่าเขาเย้าแหย่ตัวเองอยู่

สองพี่น้องจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว กินข้าวเช้าที่มารดาเตรียมไว้เสร็จแล้ว ก็พากันแบกกระเป๋าออกมาจากห้อง

เมื่อออกมา ฟางหยวนก็โยนกระเป๋าตัวเองให้ฟางผิง “นายบอกว่าไม่เหนื่อย? งั้นก็ช่วยฉันแบกหน่อย”

โรงเรียนมัธยมต้นของฟางหยวน ไม่ได้ห่างจากโรงเรียนของฟางผิงนัก ทั้งยังสามารถไปทางเดียวกันได้

ฟางผิงยิ้มทั้งส่ายศีรษะ ไม่ได้พูดอะไร คว้ากระเป๋ามาถือในมือ

ทั้งสองคนเพิ่งเดินออกมาจากประตูตึก ก็พบเข้ากับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ในมือยังถืออาหารเช้าอยู่

ฟางผิงกวาดสายตามองไปที เห็นอีกฝ่ายเดินขึ้นไปชั้นบนของตึกตัวเอง ก็คาดไม่ถึงอยู่บ้าง ครู่ต่อมาจึงนึกได้ น่าจะเป็นผู้เช่าคนใหม่ของชั้นบน

ตึกเก่าเช่นนี้ มีครอบครัวอาศัยอยู่ไม่กี่สิบครัวเรือนเท่านั้น น้อยนักที่จะเห็นคนแปลกหน้า

แต่ในเมื่อทุกคนไม่รู้จักกัน ฟางผิงก็ไม่มีความจำเป็นต้องทักทาย เดินผ่านอีกฝ่ายไป

ยามที่หวงปินเดินคลาดกับฟางผิง คิ้วที่เคยตั้งตรงก็ขมวดมุ่นขึ้นมา

ผู้ฝึกยุทธ์นั้นสามารถรับรู้สถานะปราณของคนทั่วไปได้คร่าวๆ

จุดนี้ หวังจินหยางก็ทำได้เช่นกัน

แต่ครั้งนี้เป็นเพราะระยะใกล้กัน พลังของผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างนับว่าไม่แข็งแกร่งนัก

เมื่อวานหวงปินที่อยู่ชั้นบนจึงไม่อาจสัมผัสได้

แต่ยามที่คลาดกันเมื่อครู่ ชั่วพริบตาหวงปินก็รับรู้ถึงความผิดปกติของฟางผิง!

เจ้าหนุ่มนี้ ค่าปราณสูงอย่างยิ่ง!

อย่างน้อยก็สูงกว่าคนทั่วไปอยู่มากโข

หวงปินขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาในใจ

เมื่อวานเขายังคิดว่า อนาคตภายหลัง เจ้าหนุ่มนี้ต้องสิ้นหวังแน่ๆ ทั้งยังคิดแทนฟางผิงว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม

เกิดในครอบครัวธรรมดา พรสวรรค์ย่อมเทียบคนอื่นไม่ได้

แต่ยามนี้กลับพบว่า เจ้าหนุ่มที่ตัวเองเห็นอกเห็นใจเมื่อวานมีค่าปราณสูงอย่างยิ่ง

จากข้อมูลที่เขารู้ หากการสอบไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไร เจ้าหนุ่มคนนี้ก็มีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้

เมื่อคิดเช่นนี้ ชั่วขณะนั้นหวงปินก็รู้สึกว่า ตัวเองหน้าชา!

ตัวเองถือสิทธิ์อะไรไปเห็นใจคนอื่น?

เทียบกับเจ้าหนุ่มคนนี้! ตัวเขาในเวลานั้นนับว่าไร้ความสามารถอย่างยิ่ง!

เขาไม่อาจสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้ เพื่อนร่วมชั้นในเวลานั้น อายุยี่สิบปีก็กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว

แต่เขาใช้เวลากว่าสิบปี ทั้งใช้เงินไม่รู้ตั้งมากมายเท่าใด จึงเพิ่งสามารถเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในอายุสามสิบได้

เด็กหนุ่มตรงหน้า หากสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เป็นไปได้ว่าจะสามารถกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ก่อนอายุยี่สิบปีด้วยซ้ำ

มีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้คอยสนับสนุน แม้เด็กหนุ่มจะมีฐานะทางบ้านไม่โดดเด่น แต่ค่าปราณเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา

บางที ใช้เวลาไม่กี่ปี อีกฝ่ายก็อาจจะทะลวงขั้นสองไม่ก็ขั้นสามได้แล้ว จากนั้นก็จะยืนมองตัวเขาอย่างดูแคลน…

คาดไม่ถึงว่าตัวเองจะเห็นใจเขา?

ทั้งยังสงสารเขา?

ยิ่งคิดหวงปินก็สีหน้าบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ

มนุษย์ทุกคนล้วนมีความอิจฉาอยู่ในใจ บางคนควบคุมได้ บางคนกลับไม่อาจควบคุม หรือจะพูดว่าไม่อยากทนเสียมากกว่า

หากเป็นหวงปินในเมื่อก่อน บางทีอาจจะทนไหว

แต่ยามที่ขีดจำกัดในใจเขาถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่พอยังถูกคนไล่จับกุม ทำได้แต่หลบอยู่ที่นี่เหมือนหนูข้างถนน

หวงปินก็ยากที่จะควบคุมความปรารถนาพวกนั้น!

ดังนั้นยามที่ฟางผิงเดินผ่านเขาไป สีหน้าของหวงปินจึงดูไม่ดีอย่างยิ่ง ถึงกระทั่งมีความคิดจะทำลายเจ้าหนุ่มนี้แวบเข้ามา

ดีที่สุดท้ายหวงปินยังควบคุมตัวเองได้

ยามนี้ต้องไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ จะให้เจ้าเด็กคนนี้มาทำตัวเองเสียเรื่องไม่ได้

แต่ก่อนที่จะไป หากบังเอิญพบเจ้าเด็กนี้ ลอบหาโอกาสลงมือก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ถือสิทธ์อะไรถึงได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระกว่าตัวเอง?

สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรม กระทั่งมาซ่อนตัว ก็ยังต้องทำให้เขามาพานพบกับคนที่มีพรสวรรค์ ไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว!

หวงปินเดินไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

ฟางผิงกลับอดหันไปมองอีกทีไม่ได้ พลังจิตของเขาสูงกว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง เมื่อครู่จู่ๆ ก็รู้สึกขนหลังลุกชันขึ้นมา

แม้ว่าจะเดินคลาดกันเพียงชั่วขณะ แต่ในสมองกลับมีความรู้สึกตื่นตระหนกผุดขึ้นมา

หันไปมองอยู่พักหนึ่ง เห็นเพียงแผ่นหลังของผู้เช่าคนใหม่เดินขึ้นไปชั้นบน

ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไร

ฟางหยวนเห็นเขาหยุดอยู่กับที่ก็ถามอย่างสงสัย “มองอะไรเหรอ?”

“แค่ดูว่าเมื่อกี้ใช่คนที่เช่าชั้นบนพวกเราหรือเปล่า”

“อ๋อ พวกป้าเฉินไปอยู่ที่อื่น ปล่อยให้ห้องว่างมานานแล้ว ไม่รู้ว่าคุณลุงมีลูกสาวหรือเปล่า ตึกนี้ของพวกเราแทบไม่มีนักเรียนหญิงอายุใกล้เคียงกับฉันเลย อยากจะชวนไปเล่นสักหน่อย ก็ไม่มีเพื่อนสักคน”

ฟางหยวนบ่นอุบอิบ คาดหวังให้อีกฝ่ายมีลูกสาวที่อายุรุ่นคราวเดียวกับตัวเอง

ฟางผิงสั่นศีรษะ “ชั้นบนมีแค่คุณลุงอยู่คนเดียว”

“แค่คนเดียวเหรอ?”

ฟางหยวนพึมพำ “คุณลุงคนนั้นกินเก่งจริงๆ เห็นซื้อข้าวเป็นสิบถุง ยังคิดว่าจะเอาไปกินกับคนทั้งบ้านซะอีก”

ตอนที่ 23 หลอนตัวเอง 1

ตอนที่ 23 หลอนตัวเอง 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน