ตอนที่ 454 ทีมแลกเปลี่ยน (2)
………………..
เจี่ยงเชาหาวว่า “เมื่อก่อนไม่เคยได้ออกมา ไม่เคยได้เปิดหูเปิดตา ไม่เคยเจอสาวงามเท่าไหร่ถึงได้คิดแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้ออกมาแล้ว ได้ยินว่าเซี่ยงไฮ้มีสาวสวยเต็มไปหมด เธอสำคัญตัวเองขนาดนั้นเลยหรือไง ซู่ซู่ ถึงเวลานั้นฉันจีบสาวงามได้ เธออย่ามาอิจฉาก็พอ ตอนนี้เธอคิดว่าฉันไม่ดี ถึงเวลานั้นจะรู้เอง ฉันเจียงเชาคนนี้เป็นผู้ชายที่หาได้ยากแล้ว ถึงเวลานั้น…เธอก็คิดเสียดายไปเถอะ!”
“นาย…”
ซูจื่อซูหน้าแดงก่ำ ไอ้เวรนี้จะเกินไปแล้ว!
ในรถยังมีวัยรุ่นชายหญิงคนอื่นๆ อีก ตอนนี้ทยอยตำหนิขึ้นมา พุ่งเป้าไปที่เจียงเชากันหมด
เจียงเชาทำหน้าไม่แยแส ด่าก็ด่าไปเถอะ จะทำเป็นไม่ได้ยินแล้วกัน
รัฐมนตรีหวังและปรมาจารย์อีกคนสบสายตากัน จนใจอยู่บ้าง ส่ายหัวเบาๆ
เจ้าเด็กพวนี้…ทางที่ดีอย่าก่อเรื่องให้พวกเขาก็แล้วกัน
ส่วนการแข่งขันจะแพ้ก็ไม่เป็นไร ผู้อาวุโสพวกนั้นจะให้ลูกหลานของตัวเองลงสนามให้ได้ งั้นผลลัพธ์ก็ให้พวกเขารับผิดชอบเอง
ผู้อาวุโสพวกนี้ด้านหนึ่งหวังอยากให้ลูกหลานรุ่นหลังปลอดภัย
อีกด้านไม่อยากให้ลูกหลานพวกนี้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ อยากจะขัดเกลาพวกเขาอยู่บ้าง
ถ้ำใต้ดินอันตรายเกินไป ขั้นหกคนอื่นๆ ล้วนเป็นแม่ทัพโชกโชนประสบการณ์ อายุอานามไม่น้อยแล้ว ไม่สามารถกระตุ้นวัยรุ่นพวกนี้ได้แล้ว
จัดการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวทั่วโลกขึ้นมา ดึงผู้ฝึกยุทธ์ที่มีฐานะ อายุและความสามารถไล่เลี่ยกันมาต่อสู้ เพิ่มประสบการณ์มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะมีหลักประกันความปลอดภัยมากเท่านั้น
ถูกคนเอาชนะก็จะมีแรงกระตุ้นในการฝึกวิชา ไม่ทำให้พวกเขาเสียแรงเปล่า
คนอื่นๆ ยังพอว่า มีความทะเยอทะยานไม่น้อย
สายตาของรัฐมนตรีหวังมองไปที่เจี่ยงเชา เจ้าอ้วนนี้…แทบจะไม่มีความทะเยอทะยานแม้แต่น้อย ยังไม่รู้ว่าฝึกมาจนถึงขั้นหกได้ยังไง
ก่อนขั้นห้าคงไม่พูดถึงแล้ว สามารถเปิดประตูซานเจียวหนึ่งในสามได้ ก็ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์แล้ว ทำไมถึงทำตัวไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ล่ะ?
รัฐมนตรีหวังถูขมับเล็กน้อย หวังว่าการเดินทางไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ทุกอย่างจะราบรื่น
เขาเคยเจอฟางผิงมาก่อน เจ้าเด็กพวกนี้ทางที่ดีอย่าไปหาเรื่องหัวโจกมหาวิทยาลัยพวกนั้นเลย
ครั้งก่อนฟางผิงยังหลอกเจิ้งหมิงหงต่อหน้าปรมาจารย์ตั้งหลายคน
เจ้าเด็กนั่นใจกล้าดีเดือด
ถ้ำใต้ดินหนานเจียงและถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ยังถูกเขาก่อเรื่องจนวุ่นวายไปทั่ว
หากหาเรื่องเขาจริงๆ เขาแทบไม่สนใจว่าพวกนายจะเป็นลูกหลานของใคร
อีกอย่างถ้าถูกฟางผิงซ้อม ผู้อาวุโสของเด็กพวกนี้คงไม่มีหน้าพูดอะไร มีทรัพยากร เกราะและอาวุธที่ดีที่สุด รวมถึงเคล็ดวิชาที่เหมาะสมกับพวกเขาที่สุด ระดับขั้นก็ยังสูงกว่าอีกฝ่าย…
นี่ยังสู้ไม่ได้อีก นั่นก็เหมาะกับคำพูดที่ว่าไร้ประโยชน์อย่างแท้จริงแล้ว
“ประเด็นอยู่ที่…อาจจะสู้ไม่ได้เสมอไปจริงๆ…”
รัฐมนตรีหวังลอบพึมพำในใจ
แต่ครุ่นคิดดูแล้วตัวเองยังเข้าใจนิสัยฟางผิง เจ้าหมอนั่นก็เป็นคนฉลาดเหมือนกัน คงไม่ถึงกลับลงมือโหดเหี้ยม…แต่เจ้าเด็กที่มาด้วยครั้งนี้ ระวังถูกหลอกจนเหลือแต่กางเกงตัวเดียวกลับไปละกัน
“เป็นคนมีเงินทั้งหมด! หากถูกเด็กนั่นหลอกเงินไป เหมือนจะไม่เลวเหมือนกัน”
รัฐมนตรีหวังพึมพำในใจ บางทีฉันน่าจะเป็นฝ่ายสร้างปัญหาให้พวกเขาได้?
กระทรวงการศึกษาก็จนเหมือนกัน
ฟางผิงหลอกเอามาให้มากหน่อย แบ่งกันห้าสิบห้าสิบ พอจะมีหวังหรือเปล่า?
“ฟางผิงคนเดียวอาจไม่พอเสมอไป…หรือจะเรียกหลี่หานซงมาด้วย? ขั้นห้าสูงสุดสองคนซ้อมเจ้าพวกนั้น ไม่มีใครกล้าพูดอะไรหรอก…หวังจินหยางระดับต่ำไปหน่อย เพิ่งขั้นห้าตอนกลาง อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้พวกเขาเสมอไป…หรือจะลองเรียกมาด้วยดี?”
รัฐมนตรีหวังจมดิ่งในความคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าอาจเป็นเป็นไปได้เหมือนกัน
กระทรวงการศึกษาไม่มีเงิน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ก็ไม่มีเงิน เป็นคนจนกันทั้งนั้น
เจ้าเด็กบนรถพวกนี้เป็นเศรษฐีอย่างแท้จริง
แม้จะไม่ได้พกอะไรติดตัว เซ็นสัญญาเป็นลูกหนี้ จากฐานะของพวกเขา ครอบครัวคงไม่ถึงกับเบี้ยวหนี้หรอกนะ?
รัฐมนตรีหวังจมดิ่งในความเพ้อฝันไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดมีเหตุผลจริงๆ
ของบางอย่างรัฐบาลมีอยู่แล้ว แต่คนเยอะเกินไปจึงน้อยแทบไม่พอแบ่ง
พวกผู้อาวุโสมีของหลายอย่างที่ไม่ได้ใช้ แต่ก็ไม่อาจเป็นฝ่ายมอบให้ลูกหลานพวกนี้ก่อน มียอดฝีมือคนไหนบ้างไม่มีของสะสมส่วนตัว แบ่งให้คนอื่นหมด นั่นคงใช้การไม่ได้
แต่ลูกหลานสายตรงของพวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ น่าจะไม่เบี้ยวหนี้หรอกมั้ง?

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน