ตอนที่ 465 ชะตาชีวิตอยู่ในมือตัวเอง (1)
………………..
เขตพัก
แม้จะพูดคุยกันแบบนั้น แต่ชนะหรือแพ้ถูกตัดสินออกมาแล้ว เรื่องการเดิมพันยังคงต้องมีการคุยกัน
อาวุธวิเศษห้าชิ้น!
พวกหลี่เฟยมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา แต่อาวุธวิเศษก็ไม่ได้พบเห็นง่ายๆ คนอย่างพวกเขา หากยังไม่ได้ทะลวงขั้นเจ็ด หนึ่งคนก็คงมีอาวุธวิเศษป้องกันตัวแค่ชิ้นเดียว
ถึงขั้นเจ็ดแล้ว พวกผู้อาวุโสอาจจะให้รางวัลมาบางส่วน แต่คงไม่มากจนเกินไป ป้องกันตัวหนึ่งชิ้น จู่โจมหนึ่งชิ้นน่าจะถึงขีดจำกัดแล้ว
แต่ตอนนี้กลับเสียไปห้าชิ้นในครั้งเดียว นี่ไม่ใช่ปัญหาของเงิน อาวุธวิเศษสามารถขายได้ กลับเป็นเรื่องยากที่จะใช้เงินซื้อ
รอฟางผิงและเจิ้งหนานฉีเดินเข้ามา ฉินเฟิ่งชิงก็หัวเราะว่า “นายอ้วน รองเท้าของนายถึงเวลาต้องถอดแล้วหรือเปล่า? หรือจะให้ฉันใช้คนไปซื้อรองเท้าแบรนด์เนมให้นายใส่สักคู่ก่อนดี?”
เจี่ยงเชาใบหน้าแข็งทื่อ เอ่ยด้วยใบหน้าอยากร้องไห้ “นายโล้น…นายอยากได้จริงๆ งั้นเหรอ? หรือพวกเรามาหารือกันสักนิด…”
“เจี่ยงเชา!”
เจิ้งหนานฉีตะโกนเสียงดัง เอ่ยด้วยสีหน้าแทบดูไม่ได้ “อย่าทำให้เมืองเจิ้นซิงของเราขายหน้า!”
แพ้ก็ต้องแพ้อย่างสง่างาม!
ขั้นหกห้าคนแพ้ให้ขั้นห้าห้าคน เดิมทีก็น่าอายพอแล้ว ตอนนี้นายอ้วนยังคิดจะเบี้ยวหนี้อีก ขายหน้ากันเกินไปแล้ว!
เจี่ยงเชาเอ่ยอย่างอัดอั้นว่า “งั้นฉันจะจ่ายเป็นหินพลังงาน”
สิบคน จากการตกลง…อันที่จริงพวกเขายังไม่ได้ตกลงกันดี เพราะไม่คิดว่าจะแพ้มาก่อน
แต่พอจะพูดคร่าวๆ แล้วเหมือนกัน ถ้าแพ้ คนที่ไม่เสียอาวุธวิเศษต้องชดใช้เป็นทรัพยากรที่ทัดเทียมกัน
ส่วนใครจ่ายเป็นอาวุธวิเศษ ใครจ่ายเป็นทรัพยากร ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ตกลงกัน
เจี่ยงเชายอมจ่ายเป็นหินพลังงาน ดีกว่าต้องจ่ายเป็นอาวุธวิเศษ
อันที่จริงไม่ใช่แค่เจี่ยงเชา สิบคนที่อยู่ตรงนั้นแทบไม่มีใครอยากจ่ายเป็นอาวุธวิเศษ
ฟางผิงเห็นแบบนั้นจึงส่งสายตาเป็นนัยให้ฉินเฟิ่งชิง ฉินเฟิ่งชิงพึมพำว่า “หินพลังงานฉันมีเยอะแล้ว…”
“ฉินเฟิ่งชิง!”
ฟางผิงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ตะเบ็งเสียงดัง ก่อนจะมองไปทางทุกคนด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ก่อนหน้านี้มองเป็นเรื่องขำๆ ละกัน ฉินเฟิ่งชิงตัดสินใจพลการเอง จะมองเป็นจริงเป็นจังได้ยังไง?”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้อย่าเพิ่งพูดกันเลย เพิ่งจะแข่งขันกันเสร็จ ทุกคนต่างเหนื่อยกันทั้งนั้น ฉันจัดเตรียมที่พักชั่วคราวให้ทุกคนแล้ว อีกอย่างในเมื่อทุกคนมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบไปเหมือนกัน คงไม่ใช่ประลองเสร็จแล้วก็กลับกันไปเลยสินะ? ตอนบ่ายฉันจะพาทุกคนไปสำรวจรอบๆ รวมถึงห้องเคล็ดวิชาต่อสู้ของพวกเรา นอกจากนี้อาจารย์ของพวกเราบางส่วน แม้ฝีมืออาจจะไม่แข็งแกร่งกว่าทุกคนเสมอไป แต่พวกเขาดูแลการสอนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มานับสิบปีแล้ว ประสบการณ์พื้นฐานบางอย่างยังคงมีอย่างเต็มเปี่ยม แม้ผู้อาวุโสของเมืองเจิ้นซิงจะฝีมือแข็งแกร่ง แต่ยังไงก็ไม่ใช่อาจารย์ที่สอนนักเรียนโดยเฉพาะ ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันได้…”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าไม่พอใจ พึมพำต่อว่า “สรุปแล้วเล่นๆ กันเท่านั้น? พวกปรมาจารย์ยังเป็นพยานได้…”
“ฉินเฟิ่งชิง!” ฟางผิงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “นายอยากให้ฉันไล่นายไปหรือไง?”
“น่าเบื่อ!”
ฉินเฟิ่งชิงทิ้งคำพูดนี้ไว้ หยัดกายลุกออกไปทันที
เจี่ยงเชาเอ่ยอย่างลำบากใจ “นายโล้น…”
“ฉินเฟิ่งชิง…” ซูจื่อซู่ใบหน้าขึ้นสีเช่นกัน รีบตะโกนตามหลัง
พวกหลี่เฟยและเจิ้งหนานฉีต่างสีหน้าดูไม่ได้ เจิ้งหนานฉียังอยากจะพูดอะไรต่อ ฟางผิงตัดบทว่า “ไม่ต้องสนใจเขา”
“รุ่นน้องฟาง!”
เจิ้งหนานฉีเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจังเช่นกัน “เรื่องเดิมพัน นายวางใจเถอะ พวกเราต้องให้คำตอบแน่! ตอนนี้รุ่นน้องฉินไปแล้ว รบกวนรุ่นน้องฟางบอกแทนฉันด้วย รอพวกเราตกลงกันแล้ว จะส่งของตามที่เดิมพันกันไว้แน่นอน!”
เวลานี้พวกเขายังไม่ได้คุยกัน สิบคนใครจ่ายเป็นอาวุธวิเศษ ใครจ่ายเป็นทรัพยากร ต่อหน้าทุกคนไม่อาจพูดได้
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เบี้ยวหนี้…นั่นเป็นเรื่องขายหน้าเมืองเจิ้นซิงอย่างถึงที่สุด!
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “รุ่นพี่เจิ้งไม่จำเป็นต้องลำบากใจ…เอาแบบนี้เถอะ ทุกคนกลับไปพักผ่อนกันก่อน ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บแล้ว เรื่องเดิมพันค่อยว่ากันอีกที”
พูดจบ ฟางผิงก็มองไปทางพวกเฉินอวิ๋นซีที่เพิ่งตามเข้ามา “อวิ๋นซี พาพวกรุ่นพี่ไปพักผ่อนหน่อย ช่วยจัดเตรียมอาหารกลางวันด้วย ตอนกลางวันฉันคงไม่ได้ต้อนรับทุกคน รอตอนเย็นแล้วทุกคนมารวมตัวกันอีกที”
พวกเจิ้งหนานฉีต้องกลับไปหารือกันอยู่แล้ว จึงไม่คิดเกรงใจ ตามพวกเฉินอวิ๋นซีออกไป

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน