เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 5

ตอนที่ 5 เหอะๆ!

การสมัครจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ฟางผิงไม่ใช่เทพเซียน เหลือแค่วันพรุ่งนี้อีกวันเท่านั้น จะให้ไปหาเงินหนึ่งหมื่นที่ไหนกัน

รอจนฟางหมิงหรง บิดาของเขาแบกร่างที่เหนื่อยล้ากลับมาถึงบ้าน ยามที่ทุกคนกินข้าวพร้อมหน้าบนโต๊ะอาหาร ฟางผิงค่อยเอ่ยปากขึ้นมา

“พ่อครับ อาทิตย์หน้าจะมีการรับสมัครสอบวรยุทธ์ ผมอยากสอบวรยุทธ์ ต้องใช้ค่าสมัครสอบ…หนึ่งหมื่นหยวน”

สิ้นเสียงของฟางผิง ทั่วทั้งห้องก็เงียบกริบลงทันที

ปีนี้ฟางหมิงหรงเพิ่งจะอายุสี่สิบ ใบหน้ายังไม่มีรอยเหี่ยวย่น ทว่ามีผมหงอกประปรายอยู่บ้าง

ฟางหมิงหรงทำงานในโรงงานเครื่องเคลือบแห่งหนึ่งแถวชานเมืองหยางเฉิง เป็นเพียงคนงานทั่วไปเท่านั้น

ปัจจุบันคนงานทั่วไปในเมืองหยางเฉิงมีรายรับประมาณสองพันหยวน ฟางหมิงหรงได้เงินแต่ละเดือนประมาณสามพันกว่าหยวน

เจ้านายไม่ได้ชื่นชอบเขา และเขาก็ไม่ได้มีผลงานโดดเด่นอะไร

แต่เพราะเขาทำงานในโรงงานเครื่องเคลือบมานานแล้ว เสี่ยงเป็นโรคฝุ่นจับปอด ดังนั้นจึงเพิ่มเงินเดือนให้สูงขึ้นหน่อย แทบเรียกว่าได้ใช้สุขภาพแลกกับเงิน

แต่ฟางหมิงหรงกลับจำเป็นต้องทำ

เด็กสองคนในบ้าน คนหนึ่งอยู่ชั้นมัธยมปลาย อีกคนอยู่มัธยมต้น เสื้อผ้าข้าวปลาอาหารล้วนต้องใช้จ่ายทั้งนั้น

นอกจากต้องเก็บเงินเป็นค่าเทอมมหาวิทยาลัยให้ฟางผิง ยังต้องครุ่นคิดเรื่องแต่งงานซื้อบ้านหลังจากฟางผิงเรียนจบ ใช้ชีวิตแต่ละวันผ่านไปอย่างฝืดเคือง

เงินหนึ่งหมื่นหยวน หากหักเงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำออกไป สองสามีภรรยาต้องใช้เวลากว่าครึ่งปีถึงจะเก็บเงินได้

สังคมในยามนี้ให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์

แม้ว่าฟางหมิงหรงจะเป็นคนธรรมดา แต่ก็รู้ดีว่าการสอบเข้าสายวรยุทธ์เป็นเรื่องยาก ยากยิ่งกว่าการบินขึ้นไปบนฟ้าเสียอีก!

เมืองใหญ่อย่างหยางเฉิง ทุกปีมีนักเรียนนับหมื่นเข้าร่วมการสอบเกาเข่า คนที่สอบสายวรยุทธ์ได้ ใช้เพียงสองมือก็นับได้แล้ว

ฟางผิงเรียนในโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งหยางเฉิง นับเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองหยางเฉิง

แต่แม้จะเป็นโรงเรียนอันดับหนึ่ง ปีก่อนหยางเฉิงเพิ่งจะมีคนสอบเข้าสายวรยุทธ์ได้ห้าคน ตอนนี้มีนักเรียนมัธยมปลายปีสามหนึ่งพันห้าร้อยคน ห้องเรียนธรรมดายี่สิบกว่าห้อง

ปี 2007 ห้องเรียนธรรมดากว่ายี่สิบห้องนี้ มีคนสอบเข้าสายวรยุทธ์ได้ทั้งหมดสองคน

ข่าวพวกนี้ ไม่ได้แปลกใหม่สำหรับฟางหมิงหรงที่ไปประชุมผู้ปกครองบ่อยๆ อาจารย์ในโรงเรียนยังเป็นฝ่ายเผยแพร่ข่าวเสียเองด้วยซ้ำ

เพราะนักเรียนสองคนจากห้องธรรมดาสามารถสอบวรยุทธ์ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องเสียหาย กลับเป็นเรื่องดีที่คุ้มค่าให้อาจารย์ได้ภาคภูมิใจ

แต่จะใช้เงินหนึ่งหมื่น เดิมพันกับโอกาสที่เลื่อนลอย จะคุ้มค่าหรือไม่?

ฟางหมิงหรงไม่ได้รีบเอ่ยอะไร ด้านหลี่อวี้อิงก็ลังเลไม่กล้าพูดออกมา

ฟางหยวนก้มศีรษะไม่กล้าปริปาก เทียบกับฟางผิงแล้ว เธอเข้าใจเรื่องพื้นฐานพวกนี้ยิ่งกว่าฟางผิงเสียอีก แม้ว่าจะอยู่ชั้นมัธยมต้นก็ตาม

ฟางหมิงหรงยกแก้วเหล้าเล็กๆ ขึ้น ก่อนจะมองลูกชายไปแวบหนึ่ง ผ่านไปสักพักก็พยักหน้าเอ่ย

“อีกเดี๋ยวไปเอาบัตรธนาคารที่แม่ พรุ่งนี้ลูกก็ไปถอนเงินเองแล้วกัน”

“พ่อ…” ฟางผิงขบฟันแน่น อยากพูดปลอบใจพ่อเสียหน่อย

“ไม่ว่าจะสอบได้หรือไม่ได้ แกมีความตั้งใจนี้ก็เพียงพอแล้ว ถึงจะสอบไม่ได้ อย่างน้อยถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ วันหลังหยวนหยวนขึ้นมัธยมปลาย แกก็จะแนะนำน้องได้ แม้บ้านเราจะไม่ได้มั่งมี แต่นี่นับเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตคนๆ หนึ่ง!” จู่ๆ ฟางหมิงหรงก็ตัดบทขึ้นมาก่อน

แม้ว่าไม่คาดหวัง แต่การสอบสายวรยุทธ์นั้นเป็นเรื่องใหญ่ที่จะพลิกชะตาชีวิต หากฟางผิงไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ ฟางหมิงหรงคงจะไม่พูดออกมา

แต่เมื่อลูกชายเอ่ยถึง อย่างมากก็ทำงานให้เยอะขึ้นหน่อยเท่านั้น เงินหนึ่งหมื่นไม่ถึงกับทำให้ตระกูลฟางล้มละลายเสียหน่อย

พอได้ยินอย่างนั้น ฟางผิงก็ไม่พูดอะไรอีก

เวลาแบบนี้ เอ่ยคำพูดสวยหรูมากไปก็ไม่มีประโยชน์

ยิ่งไปกว่านั้น ฟางผิงเองก็ไม่มั่นใจว่าจะสอบเข้าได้จริงๆ

เขาแค่กลับมาเกิดใหม่ ไม่ได้พลังเซียนติดตัวมาเสียหน่อย

วรยุทธ์อย่างนั้นหรือ แม้จะไม่รู้ว่าหลักๆ ต้องสอบอะไร ก็พอเดาได้ว่าคงไม่พ้นเรื่องพวกสมรรถภาพทางร่างกาย

ความเป็นจริง ฟางผิงทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาเล็กน้อย ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะมาก

จะสอบวรยุทธ์ได้หรือไม่ ยามนี้ฟางผิงไม่มีความมั่นใจจริงๆ

แต่แม้จะสอบไม่ผ่าน แต่ในอนาคตจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา

ดังนั้นสำหรับอนาคต ฟางผิงคิดว่าแม้ตัวเองจะเดินไปไม่ถึงจุดสูงสุด ก็คงจะไม่เป็นเหมือนตอนนี้ รังแกน้องสาวเพราะเงินค่าขนมยี่สิบหยวน

เมื่อแก้ไขอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ขวางหน้าได้ ในใจฟางผิงจึงผ่อนคลายลงไม่น้อย

ฟางหยวนเป็นตัวเรียกเสียงหัวเราะในบ้าน เห็นทุกคนยังคงจมดิ่งกับหัวข้อเมื่อครู่ ก็เปลี่ยนเรื่องด้วยรอยยิ้ม “ฟางผิง นายจะสอบวรยุทธ์จริงเหรอ?”

ฟางผิงเห็นอย่างนั้นก็เอ่ยยิ้มๆ “ใช่แล้ว รอพี่ของเธอสอบวรยุทธ์ได้ กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ อีกหน่อยเธอก็จะรวยแล้ว ไปโรงเรียนเทอมหน้า เธอไปอวดเพื่อนได้เลยว่า ‘พี่ชายฉันเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว’ ฉันกล้ารับประกันว่า ถึงเวลานั้นเธอก็จะเป็นหัวโจกในโรงเรียน ต่อไปก็ไม่มีใครกล้าเรียกเธอว่า ‘ยัยหน้ากลม’ อีกแล้ว”

“ฟางผิง!”

ฟางหยวนโมโหขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเด็กสาวมีใบหน้าอ้วนกลม ทั้งชื่อยังมีคำว่าหยวน[1]

เพิ่งขึ้นมัธยมต้นไม่กี่วัน ก็ถูกพวกนักเรียนชายหัวโจกตั้งฉายาว่า…ยัยหน้ากลม!

เพราะเรื่องนี้ เด็กสาวจึงเตรียมพร้อมจะจัดการกับนักเรียนชายพวกนั้นแล้ว

ฟางผิงพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดเข้าแล้ว!

ฟางหยวนที่อยู่ในอารมณ์โกรธ จึงไม่ไว้หน้าพี่ชาย เอ่ยอย่างโมโห “นายสอบไม่ได้หรอก สิ้นเปลืองเงินขนาดนี้ เอาไปซื้อของอร่อยๆ กินดีกว่า!”

“หยวนหยวน!”

สองสามีภรรยาแทบจะตำหนิออกมาพร้อมกัน ฟางหยวนได้สติกลับมาทันที ก้มหน้าพูดพึมพำ “หนูแค่พูดไปเท่านั้นเอง,,,พี่เขาอาจจะสอบผ่านก็ได้”

ฟางผิงหัวเราะ ทำท่าบีบแก้มไปทางฟางหยวน ฟางหยวนที่อยู่ในอารมณ์คุกรุ่นจึงมองค้อนใส่เขาไปที

รอจนมื้อเย็นผ่านพ้นไป หลี่อวี้อิงก็เอาบัตรธนาคารให้ฟางผิง

พรุ่งนี้เธอต้องไปทำงาน ฟางผิงก็ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว ไปกดเงินเองไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

เมื่อก่อนตอนที่จำเป็นต้องใช้เงิน บางครั้งก็ให้ฟางผิงเป็นคนไปจัดการ

ฟางผิงรับบัตรธนาคารมา ก่อนจะถอนหายใจ “พ่อกับแม่ก็ไว้ใจกันเกินไป ไม่กลัวเราจะถอนเงินออกมาหมดหรือไง…”

แน่นอนว่าในบัตรคงไม่ได้มีเงินเพียงหมื่นเดียว หากเป็นก่อนหน้านี้ ฟางผิงย่อมไม่แตะต้อง

แต่ยามนี้…

ฟางผิงสะบัดศีรษะ ช่างเถอะ มีความจำเป็นอะไร บอกพ่อแม่ไปตรงๆ นั้นถูกแล้ว ตัวเองไปถอนเงินโดยไม่บอกกล่าว จะต่างอะไรกับการขโมยกัน

คืนนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว

วันถัดมา วันที่ 6 เดือนเมษายน

ฟางผิงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ก็ยังสายกว่าพ่อแม่ที่ออกไปทำงานแล้ว

เขาอาบน้ำแต่งตัวอย่างลวกๆ บนโต๊ะมีอาหารที่มารดาจัดเตรียมไว้ให้ กับข้าวสองสามอย่างและไข่เจียวน่าทาน

ฟางผิงที่คุ้นชินกับการซื้อข้าวเช้ากินระหว่างทางไปเรียนจึงนั่งลงบนเก้าอี้ ค่อยๆ กินอย่างละเมียดละไม รู้สึกดีกว่ากินแบบรีบเร่งเป็นไหนๆ

หากเขาในตอนนี้ ย้อนกลับไปในอดีตเฉยๆ ฟางผิงก็คงสงบใจไม่ได้แม้แต่น้อย

เกาเข่ามันสำคํญเท่าไหร่กัน?

ในโลกที่เขาจากมา แม้ว่าจะสอบเกาเข่าไม่ได้ แค่หาจังหวะเล็กน้อย ก็พอก้าวหน้าได้แล้ว!

แต่ในชาตินี้ไม่เหมือนกัน หากไม่เข้าร่วมการสอบวรยุทธ์ครั้งนี้ จะได้ลืมตาอ้าปากกับเขาไหม

ทั้งแม้ว่าวันหน้าจะไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ทำกิจการเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ดี

ฟางผิงเรียงลำดับความสำคัญได้ชัดเจนแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือเกาเข่า โดยเฉพาะการสอบสายวรยุทธ์!

เรื่องอื่นๆ ไว้ค่อยคิดทีหลัง

เว้นเสียแต่ครั้งนี้จะสอบไม่ได้ เวลานั้นฟางผิงถึงจะครุ่นคิดหาทางอื่น

ตอนที่ 5 เหอะๆ! 1

ตอนที่ 5 เหอะๆ! 2

ตอนที่ 5 เหอะๆ! 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน