ตอนที่ 501 เหล่าหวัง ถอด! (2)
………………..
ร่างทองขั้นแปดคนนี้ยังไม่ตายในทันที แม้จะเป็นขั้นเก้าสามตัวก็ไม่อาจลากเขาลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว
ชิงเหอที่อยู่ขั้นแปดเผยแววตาสิ้นหวัง แผดร้องเสียงแหลมว่า “จู๋มิ่ง เจ้าโหดเหี้ยมจริงๆ!”
ภายใต้น้ำเสียงที่แฝงโทสะ ชิงเหอประกายแววตาบ้าคลั่งขึ้นมา ร่างเปล่งแสงสีทองในชั่วพริบตา สสารไม่แตกดับจำนวนมากทะลักออกไป เสี้ยวนาทีนั้น…เกิดเสียงดังสะท้านฟ้าสะเทือนดินขึ้นมา!
“เปรี้ยงๆๆ…”
ร่างที่ถูกแทงทะลุด้วยหนวดหลายเส้นถูกระเบิดจนเละเทะ ราชาเฉียงเวยที่กำลังจะถึงชายฝั่งร่างโซซัดโซเซอยู่บ้างเหมือนกัน ชิงเหอระเบิดตัวเอง หลักๆ คือพุ่งเป้ามาที่เขา
ยอดฝีมือขั้นแปดระเบิดตัวเอง อานุภาพไม่ใช่น้อยๆ
ชั่วพริบตานี้ ราชาเฉียงเวยจึงถูกระเบิดกระอักเลือดสดออกมา
แต่ราชาเฉียงเวยก็ฉวยโอกาสนี้ไปถึงชายฝั่งได้สำเร็จ ร่วงลงที่ฝั่งตรงข้าม
อยู่บนชายฝั่งตรงข้ามแล้ว ราชาเฉียงเวยก็หันไปมองตำแหน่งที่ชิงเหอระเบิดตัวเอง ไม่ได้พูดอะไร มองผ่านออกไปยังราชาจู้อี้ที่ระเบิดเสียงคำรามติดต่อกัน เอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็นว่า “แปลกใจสินะว่าทำไมข้าถึงมีอาวุธวิเศษ? ขุ่นเคืองอย่างนั้นเหรอ? จู้อี้ ข้าจะบอกเจ้าให้ นี่เป็นสิ่งที่เขตหวงห้ามส่งมาให้ เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ? เมืองเฉียงเวยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแรกที่อยู่ใกล้กับทางเดินดินแดนแห่งการเกิดใหม่ ข้าจึงโชคดีได้ประทานรางวัลเป็นอาวุธวิเศษชิ้นหนึ่งจากเขตหวงห้าม! ตอนแรกหากไม่ถึงยามจำเป็นจริงๆ ข้าคงไม่อาจใช้อาวุธวิเศษ เป็นเจ้าที่บังคับข้าเอง! ไม่ใช่แค่นี้ ข้าไม่ได้มีอาวุธวิเศษแค่คนเดียว! คนอื่นๆ ข้าไม่รู้ แต่คนจากภายในเขตหวงห้ามมีอาวุธวิเศษทุกคน! จู้อี้ กลับไปบอกราชาหมื่นปีศาจเสียสิ เผ่าพันธุ์พวกเจ้าที่อยู่ในเขตหวงห้าม บางทีอาจจะถูกสังหารกันหมดแล้ว ฮ่าๆๆ!”
ราชาเฉียงเวยหัวเราะเสียงดัง ราชาจู้อี้กลับคำรามลั่น กวาดหางไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง แผ่นดินปริแยกเป็นเสี่ยงๆ!
ราชาเฉียงเวยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่สนใจมัน บนร่างประกายกลิ่นอายพลังชีวิตอย่างเข้มข้น ครู่ต่อมา บาดแผลข้างหลังก็ฟื้นฟูในชั่วพริบตา
ไม่ชักช้าอีก ราชาเฉียงเวยไม่พูดมากแล้ว เคลื่อนไหวร่างอย่างรวดเร็ว หายไปจากเบื้องหน้าทันที
ราชาจู้อี้คำรามยกใหญ่ ก่อนจะทะยานขึ้นฟ้า บินไปทางเขาหมื่นปีศาจ
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน…ฟางผิงและหวังจินหยางค่อยออกมาอย่างระมัดระวัง
หวังจินหยางใบหน้าดำคล้ำ นายมั่นใจนะว่าจะยอมรับผลงานนี้?
ฟางผิงแทบควบคุมความคิดตัวเองไม่อยู่ พึมพำว่า “นี่ถือว่าฉันฆ่าผู้ฝึกยุทธ์เมืองเฉียงเวยจนหมดเกลี้ยงแล้วหรือเปล่า? ตอนนี้นอกจากเจ้าเมืองขั้นเก้า พืชปีศาจผู้พิทักษ์ยังไม่เห็น คนอื่นๆ เหมือนจะตายกันหมดแล้ว!”
เมืองที่ใหญ่อย่างเมืองเฉียงเวย ประชากรนับล้านคน ผู้ฝึกยุทธ์หลายแสนคน
แต่มาถึงตอนนี้ นอกจากขั้นเก้าทั้งสอง คนอื่นเหมือนจะตายหมดแล้ว
ฟางผิงรู้สึกว่าควรจะนับเป็นผลงานของตัวเอง
หากไม่ใช่ว่าตัวเองระเบิดเมือง คนพวกนี้…จะมาพื้นที่เขตแดนหรือไง?
“ต้องทำให้ขั้นเก้าคนนั้นตายอีกที…ฉันก็จะฆ่าล้างเมืองได้จริงๆ แล้ว! ล้างบางเมืองราชา!”
หวังจินหยางเหนื่อยใจ เอ่ยอย่างหมดคำพูดว่า “ยังจะมีใจคิดเรื่องพวกนี้อีก? พวกเราจะข้ามไปยังไง? อันตรายเกินไป กระทั่งขั้นเก้ายังเกือบตายอยู่ตรงนี้…”
ฟางผิงไม่นึกถึงเรื่องฆ่าล้างเมืองอีก เอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “ในร่างราชาเฉียงเวยมีน้ำแร่ชีวิต!”
“ฟางผิง!”
ฟางผิงโบกไม้โบกมือ “อย่าใจร้อน! ในอากาศมีอันตราย เหมือน…เหมือนจะเป็นรอยแยกของมิติทำให้แม่ทัพขั้นเจ็ดคนนั้นถูกเฉือนไปตรงๆ กระทั่งขั้นเก้ายังไม่กล้าทะยานขึ้นสูงเกินไป ดังนั้นลอยสูงในอากาศ ไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไหร่”
หวังจินหยางอดกลอกตาไม่ได้ ไร้สาระ เรื่องนี้ฉันก็เดาได้ ยังต้องให้นายพูดอีก
“ในน้ำมีสัตว์ปีศาจขั้นเก้า แถมยังไม่ใช่น้อยๆ…”
ฟางผิงลูบคางว่า “พวกเขาระบุตำแหน่งผ่านกลิ่นอาย? ผ่านเสียง? หรือว่าอยู่ในน้ำก็สามารถมองเห็นข้างบน?”
เขามองไม่เห็นสถานการณ์ใต้น้ำ ทะเลหวงห้ามดูลึกลับอยู่บ้าง
“ถ้าเป็นกลิ่นอาย งั้นพวกเราเก็บงำกลิ่นอาย ข้ามไปตรงๆ ไม่เป็นไร ถ้าเป็นเสียง…เคลื่อนไหวเบาหน่อย นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กลัวก็แต่ว่าปีศาจใต้น้ำสามารถมองเห็นพวกเรา งั้นก็อย่าหวังจะข้ามไปเลย”
ฟางผิงนึกมาถึงตรงนี้ก็เอ่ยว่า “ลองโยนก้อนหินดู สิ่งที่ไม่มีสัญญาณชีพ พวกมันจะโจมตีหรือเปล่า”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็เก็บหินก้อนหนึ่งขึ้นมา อยู่ห่างจากผิวน้ำที่เงียบสงบอย่างน้อยพันเมตรแล้ว เวลานี้ฟางผิงค่อยใช้แรงเขวี้ยงออกไป
“ปัง!”
ครู่ต่อมา หนวดยาวที่ยื่นออกมาก็บดขยี้ก้อนหินทันที



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน