ตอนที่ 502 จริงหรือหลอกแยกยาก (3)
………………..
ฉินเฟิ่งชิงแทบจะบ้าอยูแล้ว เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “แม่งเหอะ ประตูแห่งชีวิตในประตูซานเจียวของนายปิดผนึกแล้ว! ปิดผนึกจริงๆ! ฉันเห็นแล้ว เมื่อกี้ที่ดึงออกมา ฉันเห็นเต็มๆ ตา! ในประตูแห่งชีวิตที่ปิดผนึกนั้นมีของอยู่! จริงๆ นะ เมื่อกี้มันเปิดอยู่นิดหนึ่ง มีของจริงๆ! หัวเหล็ก…เหมือนจะเป็นแหวนมิติเลย…ไม่สิ อาจจะเป็นอาวุธวิเศษ…ไม่ใช่เหมือนกัน ไม่สนแล้ว แต่ต้องเป็นของดีแน่นอน! ให้ตายเถอะ! นายเป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณกลับมาเกิดใหม่จริงๆ นึกไม่ถึงว่ายังจะเก็บของสืบทอดไว้! นอกจากประตูซานเจียวบานหนึ่งที่ผนึกด้วยตัวเอง ในนั้นยังวางของได้อีก ของอะไรที่เก็บอยู่ในประตูซานเจียวได้? หัวเหล็ก รีบเปิดประตูสิ…”
ฉินเฟิ่งชิงตื่นเต้นแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว!
แม้ไม่ใช่ของของเขา แต่ของของหัวเหล็ก…เป็นสหายร่วมกันชาตินี้ ทุกคนล้วนแบ่งปันกันได้
ถึงหัวเหล็กจะไม่ให้ตัวเอง แต่ได้เปิดหูเปิดตาก็เพียงพอแล้ว ไม่แน่ว่าหัวเหล็กอาจจะสงสารเขา ชาติก่อนเป็นคนใหญ่คนโต เก็บสะสมอาวุธวิเศษไว้หลายสิบชิ้น อาจจะยกให้เขาสักสองสามชิ้นก็ได้?
พวกเขาทั้งสองเดินทางเลียบไปตามเขตของทะเลหวงห้าม แม้จะค่อนข้างเงียบสงบ แต่อันตรายยังคงมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
อย่างเมื่อกี้ จู่ๆ ในน้ำก็มีสัตว์ปีศาจขั้นหกกระโดดขึ้นมาตัวหนึ่ง ไม่ได้เหมือนกับฟางผิงที่ซุ่มโจมตีในน้ำ แต่กระโดดออกมาตรงๆ
ทั้งสองคนต่อสู้เหน็ดเหนื่อยแทบหมดแรงอยู่ค่อนวัน ในที่สุดก็กำจัดอีกฝ่ายไปได้
หลี่หานซง เดิมทีก็ใกล้จะทะลวงด่านอยู่แล้ว ประตูทั้งสามปรากฏในครั้งเดียวคงไม่พูดถึงแล้ว ประเด็นคือประตูแห่งชีวิตภายในนั้นนึกไม่ถึงว่าจะปิดผนึกด้วยตัวเอง
ฉินเฟิ่งชิงตกตะลึงตาค้างไปแล้ว!
ยังมีคนที่ประตูซานเจียวบานหนึ่งปิดผนึกด้วยตัวเองได้ด้วย?
นี่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหมอนี้ถือว่าเข้าสู่ขั้นหกตอนกลาง ล้ำหน้าฟางผิงไปแล้ว?
หรือจะพูดว่าสามารถข้ามขั้นหกตอนปลายเข้าสู่ขั้นหกสูงสุดได้เลย ยังไงประตูแห่งชีวิตก็เป็นประตูที่ปิดผนึกบานสุดท้าย
ไม่ว่าจะพูดยังไง ประตูซานเจียวที่ปิดผนึกเอง เดิมทีก็เป็นข่าวใหญ่แล้ว
ข่าวใหญ่ยิ่งกว่านั้นคือเมื่อกี้ตอนที่ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า ประตูมองเห็นทะลุปรุโปร่งอยู่บ้าง ฉินเฟิ่งชิงเห็นของบางอย่างในประตูนั้นจริงๆ
แต่เขามั่นใจว่ามีของอย่างแน่นอน
หลี่หานซงเห็นเขากระโดดขึ้นๆ ลงๆ จึงเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เบาหน่อยเถอะ ที่นี่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ อีกอย่าง…เปิดประตูไม่ได้แล้ว!”
“เปิดประตูไม่ได้?”
“ไร้สาระ!”
หลี่หานซงขมวดคิ้วว่า “ฉันลองดูแล้ว เปิดไม่ได้ เป็นฝ่ายเปิดทำไม่ได้! บางที…บางทีต้องรอให้ฉันถึงขั้นเจ็ดก่อน พลังจิตใจปรากฏ จากนั้นถึงจะดึงประตูนี้เปิดออกได้”
“ให้ตายเถอะ!”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “นี่ไม่ได้หมายความว่าเสียแรงเปล่าหรือไง?”
“ไอ้เวร!”
หลี่หานซงแทบจะโมโหขึ้นมา เอ่ยอย่างหมดคำพูดว่า “ฉันทะลวงขั้นหกแล้ว ยังปิดผนึกหนึ่งในประตูซานเจียวด้วยตัวเอง นี่นับว่าเสียแรงเปล่าหรือไง? ฉันแค่ปิดผนึกสองบาน ฉันก็เป็นขั้นหกสูงสุดได้แล้ว เสียแรงเปล่าตรงไหน? นายทนเห็นฉันดีกว่าตัวเองไม่ได้?”
“ไม่ใช่…”
ฉินเฟิ่งชิงไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง ถอนหายใจว่า “ประเด็นอยู่ที่สถานการณ์ของพวกเรา ขั้นห้าหรือขั้นหกไม่ได้ต่างอะไรกันขนาดนั้น ถ้านายสามารถเปิดประตูได้ มีท่าไม้ตายอะไรสักหน่อย บางทีอาจจะจัดการขั้นเจ็ดขั้นแปดได้ นั่นถึงจะเรียกว่าใช้งานได้ คิดว่าไงล่ะ?”
หลี่หานซงไม่สนใจเขา เก็บประตูซานเจียวแล้ว เอ่ยขึ้นว่า “ฟางผิง…ประตูแห่งชีวิตของเขาปิดผนึกแล้วงั้นเหรอ?”
“ไม่ ฉันรู้ว่าเจ้าหมอนั่นเป็นจอมลวงโลก!” ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียงว่า “ตอนที่ประตูซานเจียวเขาปรากฏ ฉันอยู่แถวนั้นพอดี ประตูแห่งชีวิตไม่ได้ปิดผนึก อยู่ในสภาพปกตินั่นแหละ”
หลี่หานซงพึมพำว่า “พูดยาก นายว่าเขาอาจจะเปิดประตูแห่งชีวิตตั้งนานแล้วหรือเปล่า? หลังจากนั้นเลยได้ของบางอย่าง เช่น…แหวนมิติ? ไม่งั้นโลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ เขาจะไปหาแหวนมิติที่ไหน? เรื่องที่น่าบังเอิญขนาดนี้ถูกเขาค้นพบ? นายว่าเจ้าหมอนั่นจะยังซ่อนอาวุธวิเศษไว้กับตัวหรือเปล่า? อีกอย่างก่อนหน้านี้เขาก็มีปราณและพลังจิตใจไร้จำกัด…ฉินเฟิ่งชิง นายว่าความจริงแล้วเขาอาจจะใช้งานประตูซานเจียวได้ตั้งนานแล้วหรือเปล่า? ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นเรื่องปราณและพลังจิตใจของเขาก็สามารถอธิบายได้แล้ว! บางทีประตูซานเจียวของเขาอาจจะปิดผนึกไว้ตลอด เพียงแค่ถูกเขาจงใจเปิดออก ดังนั้นถึงมีการกลายพันธุ์แบบนั้น บางทีเจ้าหมอนี่อาจจะฟื้นตัวตั้งแต่ขั้นหนึ่งแล้ว!”
คำคาดเดานี้หลุดออกมา ฉินเฟิ่งชิงก็ตกตะลึงไป ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “เอ่อ…หมอนั่นเหมือนจะแทบไม่เคยใช้ทรัพยากรมาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนเขาได้คะแนน เอาไปซื้อยาบำรุงแล้วก็เอาไปขายต่อ ได้เงินมาก็ตั้งบริษัทโกโรโกโสนั่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าทำไปทำไม อันที่จริงก่อนหน้านี้ทุกคนต่างรู้ว่าเขาซื้อยาบำรุง ปกติจะไม่ซื้อยาบำรุงเลือดและปราณอะไรพวกนั้น แต่จะซื้อยาบำรุงจำพวกที่หลอมร่างกายได้รวดเร็ว…”
ฉินเฟิ่งชิงพูดไปพูดมาก็พึมพำว่า “เจ้าหมอนี่หรือได้แหวนมิติมาตั้งนานแล้ว? ในนั้นมียาบำรุงที่ใช้เกี่ยวกับฝึกวิชาอยู่ ดังนั้นที่ขายบำรุงเป็นเพราะแกล้งจน? แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีเงิน? หากเป็นแบบนั้นจริงๆ เจ้าหมอนี่ก็หน้าเนื้อใจเสือเกินไปแล้ว!”
ระหว่างที่พูด ทั้งสองคนก็สบสายตากัน พยักหน้าเล็กน้อย หน้าเนื้อใจเสือจริงๆ
หลี่หานซงเอ่ยเสียงเบาว่า “เจ้าหมอนั่นบางทีอาจจะรู้ความลับบางอย่างแต่ไม่พูด กังวลว่าความสามารถของพวกเราไม่เพียงพอ รับไม่ไหวอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าเจ้าหมอนี้…อันที่จริงชาติก่อนเป็นศัตรูเก่าของพวกเรา เหมือนที่นายพูด เมื่อก่อนเขาเป็นลูกน้องของพวกเรา? ยังไงจากคำพูดของเขา ยิ่งฝีมือแข็งแกร่งอันที่จริงจะยิ่งฟื้นตัวได้ช้า…”
ฟางผิงฟื้นตัวนานขนาดนั้นแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหมอนั่นฝีมืออ่อนแอหรือไง?


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน