ตอนที่ 542 ฉันไม่ได้พูดจริงๆ (1)
………………..
ในระหว่างที่ฟางผิงเตรียมการแข่งขัน
เมืองเซี่ยงไฮ้
โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง
แม้ว่าโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งจะอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ตำแหน่งอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากผู้คน บนเกาะแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเซี่ยงไฮ้
วันที่ 1 มิถุนายน
ตอนเย็น
เปรี้ยง!
เกิดเสียงระเบิดในความว่างเปล่า
ราตรีที่เงียบสงบในตอนแรก ชั่วพริบตาก็เกิดเสียงอึกทึกกึกก้อง เกาะใกล้เคียงถูกคลื่นเทียมฟ้าสาดซัด
นอกห้องฝึกวิชา โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง
ชายวัยกลางคนในชุดทหารคนหนึ่งเผยสีหน้าหนักอึ้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นกังวล
ด้านข้างนั้น ผู้หญิงที่ดูองอาจคนหนึ่ง เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ไม่เป็นไรหรอก! ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังปรากฏพลังจิตใจได้ไม่มีปัญหา!”
“เขากับฟางผิงไม่เหมือนกัน…”
ชายคนนั้นถอนหายใจเบาๆ “ฟางผิงหลอมร่างทองสำเร็จครึ่งหนึ่งแล้ว ประตูซานเจียวปิดผนึกหนึ่งบาน ฝีมือแข็งแกร่งมากกว่าเฉิงจวิน เขาสามารถปรากฏได้ ไม่ได้หมายความว่าเฉิงจวินจะสามารถปรากฏอย่างสมบูรณ์ได้เหมือนกัน”
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กังวลไปไม่มีประโยชน์”
หญิงคนนั้นก็กังวลในใจอยู่เหมือนกัน เหยาเฉิงจวินเทียบกับฟางผิงไม่ได้ ตอนนี้ยังอยู่แค่ขั้นห้าสูงสุดเท่านั้น
ปรากฏพลังจิตใจในขั้นห้าสูงสุด เขาจะสามารถประคองไหวงั้นเหรอ?
พลังจิตใจแข็งแกร่งเกินไป นั่นจะสร้างภาระที่เกินจะแบกรับได้ มีโอกาสที่จะบดขยี้เหยาเฉิงจวินได้เช่นกัน
ระหว่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน กลางอากาศก็ปรากฏวงแหวนของสะพานฟ้าดิน ก่อนวงแหวนจะแผ่ขยายเป็นสะพานพุ่งทะลวงท้องฟ้า
หลังจากนั้นทุกอย่างก็หยุดลง!
ใช่แล้ว หยุดลงอย่างกะทันหัน!
เดิมทีเวลานี้ควรจะมีประตูสามบานปรากฏในอากาศ ตั้งมั่นอยู่บนสะพาน ทว่ากลับมีแต่ความว่างเปล่า กลางอากาศเงียบสงบลงในชั่วพริบตา
ชายกลางคนยิ่งกังวลขึ้นไปอีก กดเสียงว่า “หลังจากเขาปรากฏพลังจิตใจจะบ่มเพาะยังไง?”
ฟางผิงนั้นปิดผนึกประตูไปบานหนึ่งแล้ว แม้จะไม่ใช่ประตูแห่งจิตใจ ยังไงก็สร้างที่หลบภัยให้แก่การปรากฏพลังจิตใจของตัวเองแล้ว
เหยาเฉิงจวินกลับแล้วใหญ่ ประตูซานเจียวยังไม่เปิดใช้งาน
เวลานี้เขาปรากฏพลังจิตใจกลับไม่มีสถานที่ให้บ่มเพาะ
หญิงคนนั้นไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากมาย ตอบกลับว่า “ไม่เป็นไร บ่มเพาะแค่เพื่อพัฒนาเท่านั้น ไม่มีที่ให้บ่มเพาะ พัฒนาพลังจิตใจไม่ได้อาจไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป”
พลังจิตใจที่ปรากฏเข้าไปในประตูซานเจียวก็เพื่อบ่มเพาะพลังจิตใจ
เหยาเฉิงจวินไม่สามารถหลอมสารจิงกับเลือดได้ ปรากฏล่วงหน้า ทั้งไม่มีวิธีบ่มเพาะ นี่หมายความว่าหลังจากนี้แม้จะสามารถพัฒนาพลังจิตใจก็จะช้าอย่างถึงที่สุด
มีแต่ต้องให้พลังจิตใจเพิ่มเองตามธรรมชาติ และนั่นก็ต้องช้ามากอยู่แล้ว
ปกติยอดฝีมือขั้นเจ็ด ถ้าอัตราเพิ่มของพลังจิตใจคือสิบ ฟางผิงมีแค่ห้า เหยาเฉิงจวินก็คงมีแค่หนึ่ง
ใช้ปราณบ่มเพาะพลังจิตใจ นี่เป็นสิ่งที่ยอดฝีมือระดับสูงทำได้ คนที่หลอมสารจิงกับเลือดก็ทำได้ ฟางผิงและเหยาเฉิงจวินกลับทำไม่ได้
ระหว่างที่พวกเขาคุยกัน เหยาเฉิงจวินก็เริ่มปรากฏพลังจิตใจแล้ว
ตอนที่พลังจิตใจปรากฏ…ปรมาจารย์ทั้งสองเผยสีหน้าแปลกออกไปเล็กน้อย
“นี่คืออะไร?”
แม้ตอนนี้จะเป็นกลางดึกสงัด แต่ถึงระดับขั้นของพวกเขาแล้ว ราตรีมืดมิดแค่ไหน พวกเขาก็สามารถเห็นสิ่งที่ปรากฏกลางอากาศนั้นได้อยู่ดี
ทั้งไม่เหมือนคนทั่วไปด้วยเช่นกัน ปรากฏอาวุธ สัตว์ปีศาจหรือพืชปีศาจทั่วไป
กลางอากาศราวกับปรากฏพื้นที่รกร้างผุผังแห่งหนึ่งขึ้นมา
ไม่ได้สมจริงขนาดนั้น แต่กลางพื้นที่รกร้างปรากฏเงาคนนับไม่ถ้วนอย่างช้าๆ
เงาพวกนี้มองไม่เห็นใบหน้า แยกไม่ชัดว่าหญิงหรือชาย
แต่ในความเลือนรางนั้น สามารถมองออกว่าทั้งสองฝ่ายทำสงครามกัน เข่นฆ่าซึ่งกันและกัน!
แม้จะเป็นแค่ภาพมายา สิ่งที่เหยาเฉิงจวินปรากฏออกมา ปรมาจารย์สองคนยังคงรับรู้ได้ถึงความน่าสังเวชและความยิ่งใหญ่!

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน