เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 63

ตอนที่ 63 เหล่าปรมาจารย์ที่จิตใจดี

ต่อจากนั้นไม่กี่วัน ฟางผิงยังคงฝึกวิชาเพิ่มปราณของตัวเองรอการสอบปฏิบัติที่กำลังจะมาถึง ทั้งเริ่มตั้งใจอ่านหนังสือสำหรับวิชาเฉพาะไปพลาง

ระหว่างนั้นเขาโทรหาเหล่าหวังหลายครั้ง แต่ยังคงติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้

ตระหนักได้ว่าบางทีเหล่าหวังอาจออกไปรับงาน เหมือนครั้งก่อนที่ตามจับหวงปิน ฟางผิงจึงไม่ติดต่ออีก

ตอนนี้ปราณของเขายังเพิ่มขึ้นได้เรื่องๆ ไม่มีปัญหาอะไร เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อน

พริบตาเดียว ก็มาถึงวันที่ 7 แล้ว

วันที่ 7 เดือนพฤษภาคม

เริ่มการสอบปฏิบัติ

เมื่อเทียบจำนวนคนกับช่วงตรวจร่างกาย ถือว่าภาคปฏิบัติมีคนน้อยกว่า

มีนักเรียนสมัครสอบศิลปะการต่อสู้ที่รุ่ยหยางกว่าหมื่นคน แต่ผ่านด่านตรวจประวัติ ตรวจสอบร่างกาย เข้าสู่การสอบภาคปฏิบัติแค่ประมาณหนึ่งพันคนเท่านั้น

สนามกีฬากลาง

แม้อู๋จื้อหาวจะกังวลอยู่เล็กน้อย แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายกว่าก่อนช่วงตรวจร่างกาย

ระหว่างที่รอสอบ อู๋จื้อหาวยังเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อันที่จริงแค่ปราณไม่ต่ำมาก กินยาบำรุงร่างกาย ออกกำลังกายเป็นปกติ ภาคปฏิบัติคงไม่ยากหรอก”

หยางเจี้ยนค่อนข้างมั่นใจเหมือนกัน เอ่ยด้วยหน้าบาน “ด่านนี้ฉันน่าจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะให้ผ่าน ก็ควรผ่านด้วยคะแนนสอบที่ดีที่สุด ถึงจะมีโอกาสสอบติดมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้”

ปราณของเขาไม่สูงเท่าไหร่ ทำได้แค่อาศัยคะแนนสอบวิชาอื่นช่วยเท่านั้น

การรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ไม่ได้ดูที่ค่าปราณอย่างเดียว

แน่นอนว่า ใช้ปราณเป็นเกณฑ์ตัดสินค่อนข้างสูง จากสัดส่วนของเมื่อก่อน ปราณอยู่ที่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ วิชาวัฒนธรรมยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ วิชาเฉพาะสิบห้าเปอร์เซ็นต์ และภาคปฏิบัติอีกสิบเปอร์เซ็นต์

แต่มีหลักเกณฑ์กำหนดเหมือนกัน อย่างเช่นปราณต้องถึงค่ามาตรฐาน วิชาเฉพาะก็เช่นเดียวกัน

เวลานี้ยิ่งสอบวิชาอื่นได้คะแนนดีเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

เห็นพวกเขามีความมั่นใจ ฟางผิงไม่คิดกลัวอะไรเหมือนกัน

สอบปฏิบัติไม่ใช่การประลองจริง นักเรียนมอปลายไม่มีการสอบแบบนี้อยู่แล้ว

หลักๆ ยังคงเป็นการสอบด้านสมรรถภาพทางร่างกาย ฟางผิงที่มีปราณเกินหนึ่งร้อยห้าสิบแคล ฝึกท่าจวงกงระดับหนึ่ง สมรรถภาพทางร่างกายต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

เขาเลยไม่ใส่ใจกับการสอบปฏิบัติครั้งนี้เท่าไหร่

ในพวกนักเรียนห้องสี่ มีแค่หลิวรั่วฉีเป็นผู้หญิงคนเดียว ตอนสอบปฏิบัติจึงได้เปรียบกว่าผู้ชายอยู่บ้าง แต่ยังคงมีข้อจำกัดเช่นกัน

ตอนนี้หลิวรั่วฉีไม่อยากคุยอะไรนัก ปราณของเธอต่ำที่สุด ทั้งต่ำกว่าหยางเจี้ยนอีกหนึ่งแคล

การสอบที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอต้องสอบให้ได้คะแนนสูงถึงจะมีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้

แต่เธอเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ทุกคนเลยไม่ได้สนใจอะไร

ไม่นานการสอบจึงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

รายการแรกคือการสอบวิ่งกรีฑาสามพันเมตร

เกณฑ์อย่างต่ำ ผู้ชายต้องใช้เวลาไม่เกินสิบนาที หากเกินกว่ากำหนดต้องถูกคัดออก

ส่วนผู้หญิงอนุโลมให้ไม่เกินสิบสองนาที

ยิ่งใช้เวลาน้อยเท่าไหร่ คะแนนจะยิ่งสูงเท่านั้น คะแนนนี้จะถูกคำนวณในคะแนนรวมการสอบศิลปะต่อสู้

เกณฑ์นี้ถือว่าสูงพอสมควร

นักกีฬาระดับสามทั่วไปใช้มาตรฐานนี้เช่นเดียวกัน

แต่การสอบปฏิบัติ ต้องมีปราณอย่างน้อยหนึ่งร้อยสิบสองแคล นับว่ามากกว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง

ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าปกติออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้คะแนนสูงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

พวกฟางผิงไม่ใช่กลุ่มแรกที่สอบภาคปฏิบัติ พวกเขาเป็นผู้ชมรออยู่ข้างสนาม

พวกไก่อ่อนไม่ได้มีเยอะ…

แน่นอนว่า มีอยู่เหมือนกัน

การทดสอบดำเนินไปหลายครั้ง ผู้เข้าสอบสามร้อยกว่าคน ถูกคัดออกไปประมาณยี่สิบกว่าคน เปรียบเทียบกันแล้ว ไม่ใช่จำนวนน้อยเสียทีเดียว

ไก่อ่อนพวกนี้ มีคนเห็นใจแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

ปราณสูงขนาดนี้ ทั้งผ่านการตรวจร่างกายมาแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่มีปัญหาด้านร่างกาย

ถ้าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร ออกกำลัยกายสม่ำเสมอ การผ่านด่านคงไม่ใช่เรื่องยากร

ถูกคัดออก หากไม่ใช่ว่าทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ก็คงกินยาบำรุงเข้าไปอย่างเดียว ในความเห็นของทุกคน แม้ใจจะคิดอิจฉาริษยาที่คนพวกนี้ผ่านด่านได้โดยการกินยา แต่ปากกลับไม่พูดอะไร ตอนนี้พวกเขาถูกคัดออก ทุกคนจึงรู้สึกดีไม่น้อย ถึงขั้นอยากให้ถูกคัดออกมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เป็นแบบนี้แล้ว นักเรียนที่มีปราณต่ำ จะได้มีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้มากขึ้น

ไม่นานก็มาถึงตาพวกฟางผิง

หยางเจี้ยนเป็นคนเปิดฉาก แม้หมอนี้เหมือนจะสมองกลวง แต่กลับไม่ใช่คนเงอะงะ

คะแนนออกมา หยางเจี้ยนวิ่งได้เก้านาทีแปดวิ ถึงมาตรฐานของนักกีฬาระดับสองด้วยซ้ำ

คนที่สองคือฟางผิง ฟางผิงใช้เวลาในการวิ่งทางไกลน้อยกว่าพวกหยางเจี้ยน บางทีจะมองว่าเขาอัดยาได้เหมือนกัน

แต่ปราณของเขาสูงเกินไป ทั้งยังหลอมกระดูกแล้วครั้งหนึ่ง จวงกงยังอยู่ที่ระดับหนึ่งอีก

การพัฒนาที่เพิ่มขึ้นทุกด้าน แม้ว่าเขาจะออกกำลังกายน้อยกว่าคนอื่น แต่ท้ายที่สุดคะแนนวิ่งยังออกมาที่แปดนาทียี่สิบห้าวิ

พวกอู๋จื้อหาวเรียกได้ว่า มองเขาด้วยแววตาอิจฉาตาร้อน!

ฟางผิงไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เขาถอนหายใจ หากการบันทึกสถิติโลกในชาติก่อนมาอยู่ในชาตินี้ ส่วนมากคงจะถูกผู้ฝึกยุทธ์ทำลายสถิติไปเสียหมดแล้ว

ตอนที่ 63 เหล่าปรมาจารย์ที่จิตใจดี 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน