ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 307

ตอนที่ 307 หมดทางเลือก
“แม้ว่าข้าจะแข็งแกร่งเหนือมันมาหลายร้อยปี ก้าวถึงขอบเขตตุ้นซวน
และกลายเป็นตัวตนระดับสูงสุดของทวีป แต่สัญญาสัตว์เลี้ยงบัดซบ
นั่นมันน่ากลัวเกินไป แม้ว่าข้าจะขึ้นถึงขอบเขตตุ้นซวน แต่ก็ไม่อาจจะ
ต้านทานได้ ข้าไม่กล้าเปิดเผยความแข็งแกร่งของตัวเองต่อหน้ามัน”
“มันชอบสัตว์เลี้ยงและบังคับให้ข้าเป็นหมา แต่ข้าคือลูกหลานของ
หมาป่าและสัตว์อสูรกลืนสวรรค์!”
“ข้าคือตัวตนที่สูงส่งในโลกนี้ คือสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ !”
“แม้แต่เผ่ามังกรก็ไม่กล้าจะบอกว่ามีสายเลือดสูงส่งกว่าข้า !”
“แต่มันกลับให้ข้าเป็นหมา มันใช้มือสกปรกนั่นแตะต้องข้าทุกวัน !”
“บังอาจนัก !”
“ข้าฝันอยากจะฆ่ามัน แต่พลังของสัญญาสัตว์เลี้ยงนั้นรุนแรงมาก
แม้ว่าข้าจะแข็งแกร่งกว่ามัน และสามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย แต่
สำหรับมัน แค่คิดก็สามารถปลิดวิญญาณของข้าได้แล้ว !”
สีหน้าของกูเฉินบิดเบี้ยว แสดงให้เห็นว่าเขาโกรธแค้นแค่ไหน
เขาพยายามที่จะลืมช่วงเวลาที่เลวร้ายนั่น แต่ยิ่งอยากที่จะลืมเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งจดจำมันได้ดีเท่านั้น และสุดท้ายมันก็ได้กลายเป็นเงาที่ตาม
หลอกหลอนเขา
สักพักกูเฉินก็ใจเย็นขึ้นมาเล็กน้อย เขาฮึดฮัดออกมา “ข้าหวังเสมอว่า
มันจะตาย แต่แม้ว่าความแข็งแกร่งของมันจะไม่ได้สูงนัก แต่มันก็
ระวังตัวอย่างมาก มันไม่กล้าหาเรื่องคนที่แข็งแกร่งกว่า สุดท้ายวัน
หนึ่งมันก็พบกับสัตว์อสูรที่งดงามและต้องการให้สัตว์อสูรตัวนั้น
เป็นทาส แต่มันไม่คิดว่าจะไปหาเรื่องสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนเข้า
ฮ่าฮ่า มันคงคิดไม่ถึงว่าสัตว์อสูรที่งดงามนั่น กลับเป็นลูกหลานของ
สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวน และที่สำคัญที่สุดคือสัตว์อสูรที่งดงามนั่น
คือสัตว์อสูรที่ข้าหามาเอง”
“ทุกอย่างเป็นตามที่คาดเอาไว้ มันอ่อนแอจนแค่โดนสัตว์อสูรขอบเขต
ตุ้นซวนตบก็ตายแล้ว”
“หลายร้อยปี ฮ่าฮ่า ข้าต้องโดนดูถูกมาหลายร้อยปี และสุดท้ายข้าก็
หลุดมันมาได้ !”
“อิสระ !”
กูเฉินหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ดวงตาเขากลับมีน้ำตาไหล
ออกมา มันคือน้ำตาแห่งความเจ็บปวดจากการที่โดนเหยียดหยาม
จางหยูได้ยินเรื่องเล่าที่เศร้าแบบนั้น ก็รู้ว่ากูเฉินนั้นเกลียดเสินเซียว
แต่ไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องที่หนักหนาแบบนี้เกิดขึ้น ไม่แปลกใจเลยว่า
ทำไมตอนที่กูเฉินได้ยินชื่อของเสินเซียว เขาถึงได้โกรธแบบนี้
“หากเสินเซียวรู้ว่าหมาที่เขาเคยใช้เป็นสัตว์เลี้ยง ได้กลายเป็นราชา
สัตว์อสูร ข้าไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง ?” จางหยูคิดในใจ
กูเฉินเหมือนไม่ได้สนใจจางหยู และจมอยู่กับความทรงจำแล้วพูดกับ
ตัวเอง “เมื่อได้อิสระกลับมา ข้าสาบานว่าชีวิตนี้ต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง
ที่สุดในโลก และทุกคนจะต้องเทิดทูนข้า ! จะต้องไม่มีใครในโลกนี้
ที่กล้าทำให้ข้าเป็นทาสอีก !”
“ใช้เวลาถึง 800 ปีที่ยากลำบาก กว่าข้าจะก้าวมาถึงขอบเขตตุ้นซวน
ขั้นสมบูรณ์ได้ !”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่า สิ่งแรกที่ข้าก้าวขึ้นมาถึงขอบเขตนี้นั้น ข้าทำอะไร?”
กูเฉินมองไปที่จางหยู
จางหยูเงียบไปไม่เปิดปากพูดออกมา
กูเฉินแสดงรอยยิ้มโหดร้ายออกมา และพูดด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง
“หลังจากที่ก้าวขึ้นมาถึงขอบเขตตุ้นซวนได้ ข้าได้บุกเข้ามายังโลก
มนุษย์ และฆ่านักฝึกสัตว์อสูร ! นักฝึกสัตว์อสูรในเขตเหนือและที่
อื่น ๆ ต่างก็ถูกข้าฆ่า ใครก็ตามที่ทำให้ข้ารู้สึกกลัว แม้แต่พวกที่อยู่
ในสมาคมที่เขตกลางก็โดนข้าสังหารจนแทบไม่เหลือใครที่จะสืบ
ทอดความรู้จากมันได้ !”
พลังของตัวตนระดับสูงนี่น่ากลัวจริง ๆ แค่คน ๆ เดียวกลับมีพลังน่า
กลัวยิ่งกว่ากองกำลังใหญ่ ๆ !
“แค่ปีเดียว ข้าได้ออกไปฆ่าถึง 3 ครั้งจนทำให้จำนวนนักฝึกสัตว์อสูร
ลดลงไปถึง 90% ! พวกที่เหลือได้แต่ซ่อนตัวไม่กล้าโผล่หัวออกมา….”
แค่ปีเดียว ชื่อเสียงของกูเฉินในฐานะราชาสัตว์อสูรในหมู่สัตว์อสูร
ก็ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วทวีป
โชคร้ายก่อนที่เขาจะได้ฆ่านักฝึกสัตว์อสูรทั้งหมด พฤติกรรมของ
เขาก็ทำให้พวกระดับสูงของมนุษย์โกรธเอา
“ตอนที่ข้ากำลังจะไปที่สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรที่สุดท้าย เพื่อฆ่านัก
ฝึกสัตว์อสูร พวกระดับสูงของมนุษย์อย่างเป้ยหลง ก็ได้ปรากฏตัว
ขึ้นมาและสู้กับข้า” กูเฉินพูดขึ้น
“การต่อสู้นั่นเราทั้งสองต่างก็บาดเจ็บ แน่นอนว่าข้าบาดเจ็บหนักกว่า
เขา” ตอนนั้นกูเฉินเพิ่งจะก้าวเข้าสู่โลกระดับสูงสุด แต่เป้ยหลงก้าว
ไปถึงระดับนั้นมานานแล้ว เป็นธรรมดาที่มันจะมีความต่างกันอยู่
เรื่องนี้กูเฉินไม่ได้โกหก “แม้ว่าข้าจะบาดเจ็บหนักกว่าเขา แต่การที่
เขาจะฆ่าข้าได้นั้นก็เป็นไปไม่ได้ ในตอนที่สิ้นหวัง เขาขู่ข้าด้วยเผ่า
สัตว์อสูรทั้งหมดว่า หากข้าไม่หยุดฆ่าพวกนักฝึกสัตว์อสูร เขาจะ
เริ่มทำการฆ่าสัตว์อสูร ! ข้ารู้ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าข้า หากเขาต้องการ
จะทำแบบนั้นจริง ๆ ข้าก็ไม่อาจจะหยุดเขาได้ !”
กูเฉินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “สุดท้ายข้าก็
รับปากเขาว่า จะปล่อยพวกนักฝึกสัตว์อสูรที่เหลือไป เพื่อให้เขาไม่
ต้องมายุ่งกับพวกสัตว์อสูร !”
การที่ทั้งสองได้ตกลงกันได้ลงตัวนี้ ทำให้ทวีปกลับคืนสู่ความสงบ
อีกครั้ง
แต่กูเฉินเองก็โด่งดังเพราะได้สู้กับเป้ยหลง
บอกได้ว่าการต่อสู้กับเป้ยหลงนี้ คือการต่อสู้ที่โด่งดังของกูเฉิน มัน
ทำให้เขามีชื่อเสียงและเป็นรากฐานของราชาสัตว์อสูร ทำให้ผู้คนใน
โลกรู้จักเขา ตัวตนที่แข็งแกร่งของเผ่าสัตว์อสูร และยังเป็นจุดกอบกู้
เผ่าสัตว์อสูรให้ฟื้นฟูกลับมาทัดเทียมกับมนุษย์ได้
“เอาจริง ๆ แล้วในด้านความแข็งแกร่งนั้น เผ่ามังกรแข็งแกร่งที่สุด
พวกเจ้าเป็นที่สอง ส่วนพวกเราสัตว์อสูรอ่อนแอที่สุด” กูเฉินพูดขึ้น
ด้วยรอยยิ้ม “หากพวกเจ้าเริ่มสู้ เผ่าสัตว์อสูรของเราคงไม่ใช่คู่มือ นี่
ไม่รวมกับพวกระดับสูงที่พวกเจ้ามีอยู่ถึง 4 คน หากพวกเขาร่วมมือ
กัน ข้าก็อาจจะหนีไม่ได้ โชคร้ายที่ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะเก่งแค่เรื่อง
การสู้ แต่ไม่รู้เรื่องการร่วมมือกันเลย….”
เพราะผู้แข็งแกร่งทั้งสี่คนของมนุษย์ไม่คิดจะร่วมมือกัน ถึงเปิดพื้นที่
ให้สัตว์อสูรได้พักหายใจ จนฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้
“ไม่สิ นับเจ้าแล้วคนระดับสูงของมนุษย์ก็ควรจะมี 5 คน !” กูเฉิน
หัวเราะออกมา “5 คน หึหึหึ !”
ทั้งเผ่าสัตว์อสูรนั้นมีแค่เขา ที่เป็นพวกระดับสูง ส่วนเผ่ามนุษย์นั้น
แม้ว่าเป้ยหลงจะตายไปแล้ว เพราะชีวิตหมดอายุขัย แต่ถึงอย่างนั้นก็
มีพวกระดับสูงถึง 5 คน แต่ 5 คนนี้กลับปล่อยให้กูเฉินและเผ่าสัตว์
อสูรใช้ชีวิตตามสบายราวกับคนนอก
จางหยูคิ้วขมวดก่อนจะมีดวงตาเป็นประกายขึ้นมา “ท่านมาเตือนข้า
ให้รีบลงมือตอนที่เผ่าสัตว์อสูรยังฟื้นฟูไม่เต็มที่งั้นรึ ?”
“เจ้ากล้ารึ !” กูเฉินใจสั่น และมองไปที่จางหยูด้วยสายตาที่โกรธเคือง
“ท่านคิดว่าข้าไม่มีความสามารถแบบนั้นรึ ?” เหงื่อของจางหยูผุด
ออกมา แต่เขาก็ยังไม่เปลี่ยนสีหน้า “หรือท่านคิดว่าท่านจะหยุดข้า
ได้ ? ท่านบอกไม่ใช่รึว่ารังเกียจนักฝึกสัตว์อสูร และคิดจะกำจัดนัก
ฝึกสัตว์อสูรทั้งหมดในโลก ? เอาสิ ตอนนี้มีนักฝึกสัตว์อสูรยืนอยู่ต่อ
หน้าท่านแล้ว ท่านยังไม่เลิกคิดว่าข้าจะทำให้ท่านเป็นทาสไม่ใช่รึไง?
เอาสิ ฆ่าข้าเลย ไม่มีใครขู่ท่านแล้ว ! ท่านจะยังลังเลอะไร ?”
อารมณ์ของกูเฉินปั่นป่ วนขึ้นมาอีกรอบ ดวงตาของเขาแดงก่ำพร้อม
หมัดที่กำแน่น เขาถึงกับตัวสั่นเล็กน้อยด้วย ไม่มีใครกล้าพูดกับเขา
แบบนี้ แม้แต่พวกระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่ก็ไม่กล้า !
เขาอยากจะจัดการกับจางหยู และระบายความโกรธออกมา !
แต่เขาไม่กล้า !
เขามองจางหยูไม่ออกเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นยิ่งจางหยูดูแข็งแกร่ง
เท่าไหร่ เขาก็ยิ่งยำเกรงเท่านั้น รวมไปถึงหวาดกลัว!
เขากลัวว่านี่จะเป็นกับดัก เมื่อหลงกล มันคงไม่สำคัญหากเขาจะตาย
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเขาได้กลายเป็นทาส ได้กลับไปเป็นสัตว์เลี้ยง
ดังเดิม…
“อ๊า !” กูเฉินคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด
ผ่านมากว่า 8,000 ปีเขาถึงได้ขึ้นเป็นพวกระดับสูงสุดของทวีป เขา
คิดว่าการก้าวมาถึงระดับนี้แล้วจะไม่โดนนักฝึกสัตว์อสูรขู่อีก แม้แต่
ปรมาจารย์ฝึกสัตว์อสูร 6 ดาวในโลก เมื่อเขาเห็นอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็
ต้องเลือกที่จะหนี ไม่กล้าดูหมิ่นเขา แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกถึงภัย
แบบเดิมอีกครั้ง
ตอนนี้เหมือนกับได้ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 8,000 ปีก่อน เขารู้สึกได้ถึง
ความสิ้นหวังและความเจ็บปวด
ตอนนั้น ตอนที่เผชิญหน้ากับเสินเซียว เขาโดนบังคับให้ทำสัญญา
ทาส เขาใช้ชีวิตไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น สถานการณ์ตอนนี้มัน
เหมือนกับในอดีตงั้นรึ ?
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่สัตว์อสูรขอบเขตว่อซวนอีกต่อไป แต่เมื่ออยู่ต่อ
หน้าจางหยู เขากลับรู้สึกแบบเดียวกับในอดีต
“หนี !”
แม้ว่ากูเฉินจะโกรธ แต่สิ่งแรกที่โผล่มาในหัวเขาคือต้องหนี
ประสบการณ์ในอดีตได้กลายเป็นเงาที่หลอกหลอนเขา !
ร่างของเขาหายไป ก่อนจะไปปรากฏในจุดที่ห่างจากเดิมหลายร้อย
ฟุต เขาไม่คิดจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป
“ไม่ลงมือแต่คิดหนีรึ ?” จางหยูตะลึง ราชาสัตว์อสูรกลับไม่ลงมือแต่
คิดจะหนีแทน
เป็นแบบนี้ได้ยังไง !
ร่างของจางหยูเองก็หายไป ในเสี้ยวพริบตาร่างของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น
ตรงหน้ากูเฉิน ขวางทางกูเฉินเอาไว้อีกรอบ ในด้านความแข็งแกร่ง
แล้วเขาไม่อาจจะเทียบกับกูเฉินได้ ความต่างนี้ไม่ใช่น้อย ๆ แต่หาก
พูดถึงเรื่องความเร็วแล้ว กูเฉินถึงจะเร็ว แต่จะเร็วกว่าเคลื่อนย้าย
พริบตาของเขาได้ยังไง?
แม้ว่ากูเฉินจะใช้เคลื่อนย้ายพริบตา แต่ทักษะครึ่ง ๆ กลาง ๆ นั่น ก็
เป็นไปไม่ได้ที่จะเทียบกับทักษะที่สมบูรณ์แบบของจางหยู
“เรื่องยังไม่จบทำไมถึงจะกลับล่ะ ?” จางหยูยิ้มออกมาและมองไปที่
กูเฉิน
ตอนนั้นราชาสัตว์อสูรสีหน้าเปลี่ยนไป เขาแทบจะหมดหนทาง เขา
มองไปที่จางหยูและตะโกนออกมา “มนุษย์ เจ้าต้องการอะไร !”
หากโจมตีก็มีแต่แพ้
หากจะหนีกก็หนีไม่ได้
กูเฉินรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ที่ขึ้นมาเป็นราชาสัตว์อสูร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก