ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 308

ตอนที่ 308 โอกาสขึ้นไปเหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน
เมื่อเห็นว่ากูเฉินโกรธ จางหยูก็พูดขึ้นอย่างใจเย็น “ท่านเพิ่งบอกเอง
ไม่ใช่รึ ? ข้ายังไม่ทันพูดอะไรเลย อย่าเพิ่งเร่งรีบ”
“บอกว่าอะไร ? ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย !” กูเฉินพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียง
เย็นชา
“กูเฉิน ท่านคิดว่าด้วยความเร็วของท่านแล้ว หากข้ายืนกรานว่าจะ
ตามท่านไป ท่านคิดว่าท่านจะหนีได้รึ ?” จางหยูมองไปที่กูเฉิน
ไม่นานกูเฉินก็ไม่อาจจะคัดค้านอะไรจางหยูได้ ผลลัพธ์นี้ยากที่จะ
ปฏิเสธได้
ยังไงซะ ท่าเคลื่อนย้ายพริบตาก็ใช้พลังจิตอย่างมาก จางหยูก็ใช่ว่าจะ
สามารถใช้ท่านี้ได้ไม่จำกัด หากกูเฉินยืนกรานว่าจะหนี จางหยูเองก็
อาจจะตามไม่ทัน
กูเฉินไม่รู้เรื่องนี้ ในสายตาของเขาแล้ว จางหยูนั้นเหมือนกับตัวเขา
เองที่เป็นพวกระดับสูง !
ที่น่ากลัวกว่านี้คือ การรับรู้กฎมิติของจางหยูนั้นสูงกว่าเขา !
สีหน้าของกูเฉินหม่นลง สายตาเขาแสดงความอาฆาตออกมา ความ
อดทนของเขามีขีดจำกัด หากจางหยูบังคับเขาอีก เขาก็อาจจะทนไม่
ไหว
จางหยูตรวจสอบท่าทีกูเฉิน เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็รู้สึกอิจฉาในใจ
เขาพูดเน้นอีกรอบ “กูเฉินข้ารู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร แต่ข้าไม่ได้คิด
จะทำให้ท่านกลายเป็นทาส ไม่งั้นแล้วข้าคงลงมือไปแล้ว ทำไมต้อง
รอจนถึงตอนนี้ด้วย ?”
กูเฉินเงียบไป พร้อมกับสายตาที่หวั่นไหว
“ท่านบอกว่าท่านไม่เต็มใจจะเข้าไปในเขตหวงห้าม ได้ ข้าจะไม่
บังคับท่าน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าหวังว่าท่านจะคิดทบทวน” จางหยูพูด
ด้วยท่าทีจริงใจ
เมื่อได้ยินแบบนั้น กูเฉินก็มองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าสงสัย
จางหยูสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าเชิญท่านเข้า
ร่วมสำนักคังเฉียงในฐานะอาจารย์ประจำชั้นเรียนสัตว์อสูร….”
“เป็นไปไม่ได้ !” กูเฉินปฏิเสธทันที โดยไม่รอให้จางหยูพูดจบ
“อย่าเพิ่งวู่วามไป ให้ข้าพูดให้จบก่อน” จางหยูยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ในสำนักคังเฉียง ท่านก็เห็นว่าคนที่แข็งแกร่งนอกจากข้าแล้วก็มีแค่
คนขอบเขตหลี่ซวนขั้นสูง แม้ว่ามันจะดูดีแต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่
อาจจะจัดการได้ และข้าเองก็ไม่ได้มีเวลามาดูแลสำนักคังเฉียงตลอด
หากไม่มีข้า สำนักคังเฉียงก็แทบจะเป็นเหมือนสำนัก 5 ดาว มันยังมี
ช่องว่างระหว่างสำนัก 5 ดาวกับ 6 ดาว” สำนัก 6 ดาวทุกแห่งควรมี
คนขอบเขตตุ้นซวนอย่างน้อย 1 คน ดังนั้นข้าจึงต้องการให้ท่านช่วย”
จางหยูมองไปที่กูเฉินและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านเป็นถึงราชา
สัตว์อสูรที่โด่งดัง หากท่านเข้าร่วมสำนักคังเฉียงในฐานะอาจารย์ชั้น
เรียนสัตว์อสูร ด้วยชื่อเสียงของท่านแล้ว สำนักคังเฉียงจะพัฒนาขึ้น
มาในเวลาอันสั้น มันจะเป็นสำนัก 6 ดาวอันดับหนึ่งในทวีป”
“สำนักคังเฉียงจะเป็นยังไง เกี่ยวอะไรกับข้า ?” กูเฉินฮึดฮัดออกมา
“นอกจากนี้ เจ้าเองก็แข็งแกร่งกว่าข้า หากเจ้าอยู่ที่นี่ ทำไมสำนักคัง
เฉียงถึงไม่พัฒนา ?”
จางหยูส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา “ข้าไม่อยากจะพูดถึงความ
แข็งแกร่งของข้าเอง ข้ารู้ว่าชื่อเสียงของราชาสัตว์อสูรนั้นยิ่งใหญ่กว่า
ข้า อำนาจนี้ข้าไม่อาจจะเทียบได้ ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้บอกไปแล้ว
ข้ามีหลายอย่างต้องไปจัดการและไม่ได้มีเวลามากนักที่จะดูแลสำนัก
คังเฉียง”
ตอนที่ได้ยินคำพูดของจางหยู กูเฉินก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมา
ตามที่จางหยูบอกมา ในด้านความแข็งแกร่ง กูเฉินคงไม่ใช่คู่มือของ
จางหยู แต่ในด้านอำนาจและชื่อเสียงนั้น เขามีมากกว่าพวกระดับสูง
ของมนุษย์ !
พวกระดับสูงของมนุษย์ เป็นคนของกองกำลังใหญ่ ที่คอยปกครอง
ดินแดน แต่เผ่าสัตว์อสูรนั้นต่างออกไป เผ่าสัตว์อสูรมีราชาสัตว์อสูร
เพียงคนเดียว เขาคือคนที่ครองตำแหน่งนั้น ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง
ของเขา และการต่อสู้เมื่อ 8,000 ปีก่อนก็ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดัง
ในหมู่มนุษย์ วันนี้คนระดับสูงทั้งสี่ของมนุษย์ก็ไม่กล้ามาเรื่องเขา
ง่าย ๆ
เขานึกย้อนถึงอดีตที่เคยผ่านมาที่ทำให้เขามีชื่อเสียงในวันนี้ได้ !
หากเป็นคนทั่วไปที่พูด เขาคงไม่สนใจที่จะฟัง
แต่คนที่พูดแบบนี้ออกมาคือจางหยู ซึ่งเป็นตัวตนระดับสูงที่แม้กูเฉิน
ยังต้องหวาดกลัว เมื่อคนแบบนี้ออกปากชม กูเฉินก็รู้สึกภูมิใจอย่าง
มาก
แต่มันก็แค่ความภูมิใจ เขายังคงได้สติไม่ลืมตัวเพราะคำชมของจาง
หยู
เขามองไปที่จางหยูและพูดออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย “ข้าจะบอกอีก
ครั้ง ข้าไม่คิดเข้าร่วมสำนักคังเฉียง !”
จางหยูทำให้เขารู้สึกถึงอันตราย เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับจางหยู
นานนัก ไม่งั้นแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะตกเป็นทาสอีกฝ่ายตอนไหน เขา
เป็นพวกระดับสูงไม่ใช่พระเจ้า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะระวังตัวจาก
จางหยูตลอดเวลา ยังไงซะมันก็ต้องมีตอนที่เผลอบ้าง
เขามั่นใจว่าเขาจะเผชิญหน้ากับอันตราย ด้วยการตกเป็นทาสหากเขา
ไม่เผลอตัว !
นี่คือสิ่งที่เขาไม่อาจจะรับได้ !
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียง !
“ชายคนนี้ดื้อด้านเกินไป !” จางหยูอยากตบหัวอีกฝ่าย ความดื้อด้าน
ของกูเฉินมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างที่สุด แต่ก็
ไม่อาจจะเปลี่ยนความคิดของกูเฉินได้ “ข้ารับคนมามากมาย ไม่ว่า
จะเป็นคนแบบไหนข้าก็หลอกด้วยคำพูดไม่กี่คำก็สำเร็จ แม้แต่อู่ฉิง
ฉวนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่ครั้งนี้ข้าพูดไปมากขนาดนี้ แต่กลับทำให้กู
เฉินตกลงไม่ได้”
จางหยูเพิ่งเจอกับสถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เขารู้สึก
หมดหนทาง
แต่มันก็ทำให้จางหยูโล่งอก
เขาเข้าใจว่ากูเฉินเป็นถึงราชาสัตว์อสูร เป็นหนึ่งในพวกระดับสูงสุด
ในโลก !
คนแบบนี้ต้องมีความหยิ่งทะนงในตัวเอง นี่ยังไม่รวมกับประสบการณ์
ในอดีตของกูเฉินอีก หากราชาสัตว์อสูรโดนหลอกง่าย ๆ งั้นเขาก็
ไม่ควรเป็นราชาสัตว์อสูร !
“ข้าต้องกำจัดความกังวล ก่อนที่จะกล่อมให้เขาเข้าร่วมสำนักคังเฉียง”
จางหยูรู้ว่ากูเฉินกังวลเรื่องอะไร หากเขาไม่กำจัดความกังวลที่กูเฉิน
มี งั้นก็ไม่มีทางที่กูเฉินจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียง “แต่ยังไง ? ทำยังไง
ถึงจะกำจัดความกังวลของเขาได้ ?”
สาบานกับท้องฟ้า ?
ชัดแล้วว่ากูเฉินไม่เชื่อ
รับรองด้วยคำพูด ?
กูเฉินไม่ได้สนิทกับเขา และเขาก็ไม่รู้จักอีกฝ่าย ฉะนั้นทำไมอีกฝ่าย
ต้องเชื่อในตัวเขาด้วย ?
ยิ่งกว่านั้นนิสัยเขาก็ใช่ว่าจะดี
เมื่อเห็นว่าจางหยูเงียบไปนาน กูเฉินก็กังวลขึ้นมานิด ๆ เขามองไปที่
จางหยูด้วยสายตาระแวดระวัง
“ข้ามีเงื่อนไข บางทีเจ้ากับข้าอาจจะรับได้” จางหยูพูดขึ้นมา
กูเฉินมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เงื่อนไขอะไร”
จางหยูมองไปที่กูเฉินและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าต้องการยืมชื่อเสียง
ของท่าน รวมถึงให้ท่านสอนสัตว์อสูร ท่านไม่ต้องอยู่ที่สำนักคังเฉียง
ก็ได้ ตราบใดที่ท่านรับปากว่าจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียงในฐานะ
อาจารย์ ท่านก็ไม่ต้องอยู่ในสำนัก…ท่านส่งคนมาเรียกเหล่าสัตว์
อสูรไปที่อื่นที่ที่ท่านคิดว่าปลอดภัยก็ได้ เพื่อสั่งสอนพวกเขา เพื่อที่
สถานการณ์ที่ท่านกังวลจะได้ไม่เกิดขึ้น”
นี่เป็นทางเดียวที่จางหยูคิดออก
อีกอย่างแล้วเขาคิดหาทางกำจัดความกังวลของกูเฉินไม่ได้
หากเป็นแบบที่จางหยูบอกมาจริง ๆ งั้นเรื่องนี้ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่
จะเอามาคิดทบทวน
“แต่…หากเป็นเช่นนั้น หากข้าไม่เข้าร่วมสำนักคังเฉียง มันจะต่าง
อะไร ? มันจะมีอะไรดีสำหรับเขา ?” กูเฉินสับสน “เป้าหมายของเขา
คือการยืมชื่อเสียง และการสั่งสอนจากข้า เพื่อพัฒนาสำนักคังเฉียง
จริง ๆ รึ ?”
กูเฉินรู้สึกเสมอว่ามันต้องไม่ธรรมดา จางหยูพูดออกมามากมาย เพื่อ
กล่อมให้เขาเข้าร่วมสำนักคังเฉียง
มันก็เหมือนกับปรมาจารย์ปรุงยา 6 ดาว ซึ่งใช้เวลากว่าร้อยปีในการ
รวบรวมวัตถุดิบ สุดท้ายเพียงเพื่อปรุงยาเพียงแค่เม็ดเดียว !
กูเฉินขมวดคิ้วและพึมพำออกมา “หากข้าปฏิเสธล่ะ ?”
“ปฏิเสธ ?” จางหยูตาสั่นไหวและพูดขึ้นมา
“ท่านลองดูก็ได้ !” เขาไม่ได้พูดถึงผลที่ตามมา เพราะเขารู้ดีว่าหากกู
เฉินปฏิเสธ เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดมันออกมา
เพราะเมื่อกูเฉินปฏิเสธจริง ๆ งั้นอีกฝ่ายคงไม่คิดมากอะไร หากเขา
ไม่พูดมันออกมา มันก็มีแต่ความสับสนกับสิ่งที่จะตามมา ในเวลา
เดียวกันมันก็ถือว่าเป็นคำขู่ได้
กูเฉินตะลึงและอ้าปากค้าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของจางหยู เขาก็
ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เมื่อเจอกับคำขู่ของจางหยู แน่นอนว่าเขาต้องโกรธ แต่เขาก็ได้แต่
เก็บมันไว้
กูเฉินกำหมัดแน่นกดความโกรธในใจเอาไว้ เขามองไปที่จางหยู
และพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง “ข้าเข้าร่วมสำนักคังเฉียงก็ได้
แต่ข้าจะได้ประโยชน์อะไร ? หากไม่มีผลประโยชน์ ทำไมข้าต้อง
ช่วย ?” เขาได้แต่ใช้วิธีนี้เพื่อแสดงความไม่พอใจออกมา และเพื่อ
รักษาหน้าของตัวเอง
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็โล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย
ท่าทีของอีกฝ่ายเหมือนจะใจอ่อนลงแล้ว !
“ฟังไปแล้วเรื่องนี้ก็พอพูดคุยถึงผลลัพธ์กันได้” จางหยูโชคดีอย่าง
มากที่เขาดื้อด้านตามตื๊อต่อ แทนที่จะยอมแพ้ “แต่ต้องรับปากด้วย
ผลประโยชน์อะไรกัน ?”
มันต้องมีประโยชน์แบบไหน เพื่อทำให้กูเฉินสนใจขึ้นมา ?
ในฐานะราชาสัตว์อสูรที่ไม่ใช่คนทั่วไป สมบัติในสายตาคนทั่วไป
ไม่ต่างอะไรกับกองขยะในสายตาของกูเฉิน อาวุธหรือยาขั้นที่ 6
อาจจะพอทำให้กูเฉินสนใจได้บ้าง ซึ่งของแบบนั้นแม้แต่จางหยูก็ไม่
อาจจะหามาได้ นี่ไม่ต้องนับสมบัติที่ล้ำค่ามากกว่าอาวุธและยาขั้นที่
6 เลย !
จางหยูคิดสักพักและแสดงสีหน้าเด็ดขาดออกมา “อาวุธและยาขั้นที่
6 ข้าคงไม่ต้องพูดถึง ข้าเดาว่าท่านคงไม่สนใจ”
กูเฉินแสดงสีหน้าเฉยเมยออกมา ของแบบนี้คือสมบัติล้ำค่าสำหรับ
คนอื่น แต่มันไม่ได้มีค่าสำหรับคนระดับสูงสุดแบบเขา
“งั้นข้ารับปากว่าจะให้โอกาสท่าน” จางหยูมองไปที่กูเฉิน
“โอกาสอะไรกัน ?” กูเฉินตะลึงกับคำพูดนี้
“โอกาสที่จะขึ้นไปเหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน !” จางหยูรู้สึกว่าสำหรับ
พวกตัวตนระดับสูงสุด บางทีคงมีแค่เรื่องแบบนี้ที่จะทำให้พวกเขา
สนใจได้ “ข้าจะให้โอกาสนี้กับท่าน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ มันเป็นอนาคต
อันใกล้ ข้ารับรองได้ว่าคงไม่เกิน 100 ปี ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่
กับตัวท่านเอง !”
จางหยูคิดถึงความเร็วในการพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเอง นี่ไม่
ต้องนับร้อยปีเลย แค่ 10 ปีเขาก็อาจจะขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุดของทวีป
ได้ ตอนนั้นหากกูเฉินต้องการจะก้าวข้ามให้เหนือเขาได้นั้นมันคง
สายเกินไป
สำหรับสิ่งที่เรียกว่าโอกาสในการขึ้นไปเหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน
เป็นธรรมดาที่มันคือคำพูดที่จางหยูใช้หลอกกูเฉิน เขายังไม่ขึ้นไปถึง
ขอบเขตตุ้นซวนด้วยซ้ำ เขาจะรู้ได้ยังไงกับการขึ้นไปเหนือกว่า
ขอบเขตตุ้นซวน ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก