ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 309

ตอนที่ 309 การเข้าร่วมของราชาสัตว์อสูร
“เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน? มันมีเส้นทางที่ก้าวไปเหนือกว่าขอบเขต
ตุ้นซวนจริง ๆ รึ ?” กูเฉินสับสนขึ้นมา
ในฐานะตัวตนระดับสูงสุด เขารู้ความลับต่าง ๆ มากกว่าคนทั่วไป
เขารับรู้ได้ว่าขอบเขตตุ้นซวนไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการบ่มเพาะเหนือกว่า
ขอบเขตตุ้นซวนขึ้นไปนั้น มันยังมีโลกที่กว้างขวางรออยู่ แค่กฎมิติก็
อาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตในการศึกษา แต่เขารู้ดีกว่าใครว่าไม่มีใครขึ้น
ไปเหนือขอบเขตตุ้นซวนได้ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ไม่ว่าจะมี
พรสวรรค์สูงส่งเพียงใด แต่สุดท้ายก็ไม่อาจจะก้าวข้ามภูเขาลูกนั้น
ได้เลย และยังต้องตกตายไปก่อนด้วยซ้ำ
ขอบเขตที่ไม่มีใครเคยขึ้นไปถึงได้นั้นมันมีอยู่จริงรึ ?
กูเฉินเชื่อและหวังว่าจะมีระดับที่เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน แต่เขา
ไม่เชื่อว่ามันจะฟังดูมีเหตุผลนัก มันขัดกับจิตใจของเขา
อันที่จริงไม่ใช่แค่กูเฉิน แม้แต่พวกระดับสูงของทวีป ก็ยังมีความ
สับสนแบบเดียวกัน
จางหยูยิ้มออกมาและพูดขึ้น “แน่นอน !”
กูเฉินมองไปที่จางหยูด้วยความแปลกใจ
“ตอนนี้ข้าคงไม่อาจจะบอกท่านได้ ตอนนี้ท่านแค่ต้องรู้ว่ากุญแจเพื่อ
ก้าวขึ้นไปเหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวนนั้นคือเขตหวงห้าม” จางหยูพูด
ขึ้นมาด้วยสีหน้ามั่นใจ “เขตหวงห้ามมีความลับอันใหญ่หลวงซ่อน
อยู่” เมื่อพูดถึงเขตต้องห้ามแล้ว สีหน้าของจางหยูกลับดูลึกลับ ราว
กับว่าเขารู้ความลับของเขตต้องห้าม
อันที่จริง จางหยูไม่ได้รู้อะไรเลย ความลับของเขตหวงห้ามยังไม่มี
ใครรู้แน่ชัด และเพราะไม่มีใครรู้ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะแต่งเรื่อง
ขึ้นมาก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครเปิดโปงคำโกหกของเขาได้
แม้ว่าจางหยูจะบอกกูเฉินว่า มันมีทางที่จะทะลวงผ่านเหนือขอบเขต
ตุ้นซวนได้ ซึ่งอยู่ในเขตต้องห้าม แต่กูเฉินจะกล้าเข้าไปรึ ?
“เจ้ารู้ความลับในเขตต้องห้ามรึ?”กูเฉินถึงกับกลั้นลมหายใจด้วย
ความตื่นเต้น “บอกข้ามา มันมีอะไรอยู่ในเขตต้องห้ามทั้งสามแห่ง
นั่น ความลับที่ซ่อนอยู่นั้นคืออะไร !”
จางหยูมองไปที่กูเฉิน และพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “หากท่านรับปากว่า
จะเข้าไปและเอาบางอย่างให้กับข้า ข้าก็จะบอกท่าน”
กูเฉินตะลึง เลือดในกายเขาถึงกับเย็นเฉียบทันที
เข้าไปในเขตหวงห้าม ?
เขายังไม่อยากตาย!
ตั้งแต่โบราณแล้ว ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ได้พิสูจน์แล้วว่าเขตต้องห้าม
นั้นอันตรายเพียงใด
กูเฉินที่แม้จะเชื่อว่าตัวเองมีดี ซึ่งนับนิ้วได้เลยว่ามีคนที่ทัดเทียมเขา
ได้สักกี่คน แต่เขาก็ไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าพวกระดับสูงใน
ประวัติศาสตร์ ต้องรู้ก่อนว่าในแต่ละยุคนั้นมีผู้แข็งแกร่งแบบเขาอยู่
ในหมู่พวกนั้นไม่ได้มีใครแข็งแกร่งกว่ากูเฉิน แต่ไม่ว่าพวกนั้นจะ
แข็งแกร่งยังไงก็ตาม เมื่อเข้าไปในเขตต้องห้ามแล้ว พวกนั้นก็หาย
สาบสูญไป มันแสดงให้เห็นแล้วว่าเขตต้องห้ามนั้นน่ากลัวแค่ไหน
นี่ไม่ต้องพูดถึงอดีต ตอนนี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่ดีกว่ากูเฉิน อย่างน้อย
กูเฉินก็มั่นใจว่าเจ้าสำนักลึกลับผู้นี้แข็งแกร่งกว่าเขา !
อีกอย่างแล้ว กูเฉินก็คิดว่าราชามังกรของเผ่ามังกรนั้นแข็งแกร่งกว่า
เขา !
กูเฉินสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำใจเย็นและส่ายหน้า “ที่ที่แม้แต่เจ้าก็
ยังไม่กล้าเข้าไปนั้น ข้าจะกล้าเข้าไปรึ ?”
ต้องยอมรับว่าเขาไม่ใช่คู่มือของจางหยู “ต้องบอกอีกครั้ง หากข้าเข้า
ไปด้านในจริง ๆ ข้าคงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เขาฮึดฮัดออกมา
อย่างเย็นชา “อย่าคิดหลอกล่อข้าเข้าไปด้านในเลย !”
ตอนนั้นเขาไม่ได้สงสัยในคำพูดของจางหยูเลย
เขตหวงห้ามนี่อาจจะมีความลับในการก้าวขึ้นไปเหนือกว่าขอบเขต
ตุ้นซวนก็ได้ !
ในฐานะคนที่อยู่ระดับสูง เขาเข้าใจว่าเรื่องทั่วไปนั้นยากจะทำให้
พวกระดับสูงสนใจได้ สิ่งเดียวที่ทำให้พวกระดับสูงสนใจได้ก็คือ
ข้อมูลของการทะลวงผ่านขึ้นไปยังระดับที่สูงกว่า เขตหวงห้ามนั้น
อันตรายขนาดไหน เขาไม่เชื่อว่าจางหยูจะไม่รู้ ขนาดจางหยูยังจน
ปัญญา และจะให้เขาเข้าไปในเขตหวงห้ามเพื่อไปเอาของให้แทน…
ของนั่นมันคืออะไรกัน ที่ทำให้จางหยูกังวลและอยากจะเข้าไป ?
“อย่าคิดเรื่องนี้อีกเลย !” กูเฉินหยุดคิดและสลัดความสับสนในหัวทิ้ง
ไป เพราะเขารู้ว่ายิ่งคิดเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากเข้าไปในเขตต้องห้าม
มากเท่านั้น “ตอนที่อายุขัยข้ากำลังจะหมดลง บางทีข้าอาจจะไปยัง
เขตหวงห้ามเพื่อลองเสี่ยงโชค แต่ตอนนี้…”
เขายังเหลืออายุขัยอีกประมาณพันปีและไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยง
ไม่ มันไม่ใช่การเดินทาง แต่คงเป็นการเดินทางเที่ยวเดียว!
เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปในเขตหวงห้ามนั้น ก็ไม่เคยได้กลับ
ออกมา ไม่มีข้อยกเว้น !
“เมื่อท่านไม่อยากเข้าไปเขตหวงห้าม ข้าจะไม่บังคับท่าน แต่ท่าน
ลองคิดทบทวนเรื่องเข้าร่วมสำนักคังเฉียงใหม่ได้หรือไม่?” จางหยู
แสดงสีหน้าเสียดายออกมา ดูเหมือนว่าการที่กูเฉินปฏิเสธจะเข้าไป
ในเขตหวงห้ามนั้น จะทำให้เขาผิดหวัง “หากท่านเข้าร่วมกับสำนัก
คังเฉียงในฐานะอาจารย์ ข้าจะให้โอกาสกับท่านในการก้าวขึ้นไป
เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้วว่าจะคว้า
โอกาสนั้นไว้หรือไม่”
กูเฉินไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาลังเลและตกอยู่ในห้วงความคิด
ตามเงื่อนไขที่จางหยูบอกมา เขาแทบจะไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ
ตราบใดที่เขาระวังตัวพอ เขาก็มั่นใจว่าไม่มีทางเปิดโอกาสให้จางหยู
ทำให้เขาเป็นทาสได้ !
ข้อเสนอที่จะช่วยให้ก้าวขึ้นไปเหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวนได้นั้น ทำ
ให้เขาสนใจเป็นอย่างมาก แค่เป็นอาจารย์ของชั้นเรียนสัตว์อสูร ก็ได้
ผลตอบแทนแบบนั้นกลับมา แน่นอนว่ามันแทบไม่ได้เสียหายใด ๆ!
เพราะการทะลวงขอบเขตนี้ส่งผลดีต่อเขา แต่เขาก็รู้สึกแปลกใจและ
ไม่เข้าใจเป้าหมายของจางหยู
“เขามีเป้าหมายอะไร ? ข้าพลาดอะไรไป ?” กูเฉินคิ้วขมวด
จางหยูมองไปที่กูเฉิน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แม้ว่าจางหยูจะกังวลว่ากูเฉินจะปฏิเสธ แต่ภายนอกนั้นเขายังแสดง
ท่าทีใจเย็นและมั่นใจออกมา
เวลาผ่านไปช้า ๆ มันมีแต่ความมืด ยกเว้นแค่ลมที่พัดผ่านเข้ามา
สำหรับจางหยูแล้ว เวลานี้ช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ละอึดใจยาวนาน
เป็นร้อยปีจนหัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
กูเฉินที่ลังเลกลับแสดงสายตาที่เด็ดเดี่ยวออกมา เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ
และพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ ข้ารับปากเจ้า !”
เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน โอกาสนี้ช่างยิ่งใหญ่และเย้ายวนใจมาก
แม้เขาจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด อีกทั้งยังมีอันตราย
ที่น่ากลัวซุกซ่อนอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า การก้าวขึ้นไป
เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวนนั้น คือความต้องการของทุกคน !
คนจะตายเพราะความร่ำรวย นกจะตายเพราะความตะกละ!
สำหรับผู้บ่มเพาะแล้ว เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นและทะลวงผ่านไปใน
ระดับที่สูงกว่าเดิม ย่อมต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเป็นเรื่องธรรมดา
กูเฉินระวังตัวอย่างมาก พวกที่อายุขัยยังไม่หมด แต่เลือกเข้าไปใน
เขตหวงห้ามนั้นเท่ากับคนบ้าชัด ๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางหยูก็หัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า ! ท่านฉลาดจริง ๆ!”
เขามองไปที่กูเฉินด้วยสีหน้าคาดหวัง “เชื่อข้าเถอะ นี่คือการตัดสินใจ
ที่ดีที่สุดในชีวิตของท่าน ! ในอนาคตท่านจะดีใจและภูมิใจกับการ
ตัดสินใจครั้งนี้ !”
กูเฉินส่ายหน้าและพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “ข้าก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”
หลังจากที่ตัดสินใจแล้วเขาก็ใจเย็นขึ้นมาอย่างมาก
“มาลงชื่อสิ” จางหยูโบกมือพร้อมกับม้วนคัมภีร์และพู่กันสีทอง
ปรากฏขึ้นมาจากอากาศบินตรงเข้าไปหากูเฉิน “ลงชื่อของท่าน
เพื่อที่ท่านจะได้เป็นคนของสำนักคังเฉียง !”
กูเฉินรับคัมภีร์และพู่กันนั้นมา เขามองลงไปในคัมภีร์และมองไปที่
จางหยูด้วยความสับสน “นี่อะไร ?” เขารู้สึกว่าคัมภีร์นี่ไม่ธรรมดา
จางหยูยิ้มออกมา “ท่านคิดซะว่าเป็นใบรับรองก็ได้ เมื่อลงชื่อไปแล้ว
ท่านถึงจะได้เป็นอาจารย์ของสำนักคังเฉียงจริง ๆ” เขาไม่ได้พูดถึง
สัญญานภา เพราะเขากังวลว่าคำว่าสัญญานั้นจะทำให้กูเฉินกังวล
ตอนนั้นเขาไม่อยากทำให้ทุกอย่างพังลงเพราะความผิดพลาดเล็ก ๆ
น้อย ๆ “ไม่ต้องกังวลว่ามันจะเป็นกับดัก ทุกคนที่เข้าร่วมสำนักคัง
เฉียงไม่ว่าจะเป็นอาจารย์รึศิษย์ต่างก็ลงชื่อ หากท่านไม่เชื่อก็ลองไป
ถามพวกเขาดู”
กูเฉินสงสัยว่านี่จะเป็นกับดัก แต่เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็โล่งใจขึ้นมา
“มันไม่ได้มีพลังของการควบคุมสัตว์อสูร มันไม่ใช่กับดัก” กูเฉิน
มองไปที่คัมภีร์ หลังจากที่ลองตรวจสอบดี ๆ แล้วเขาก็ได้คำตอบ
“ด้วยความรู้เกี่ยวกับการควบคุมสัตว์ของข้า คงยากที่จะมีใคร
เชี่ยวชาญเรื่องนี้ได้เหนือข้า !”
ตลอดเวลา 8,000 ปีมานี้ นอกจากการบ่มเพาะแล้ว เขายังใช้เวลาว่าง
ในการศึกษาเรื่องการควบคุมสัตว์
หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นสัตว์อสูร และไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านการ
ควบคุมสัตว์ ความรู้ในด้านการควบคุมสัตว์ของเขาคงถือว่าเทียบเท่า
กับปรมาจารย์ฝึกสัตว์อสูร 6 ดาวไปแล้ว
ต่อมากูเฉินก็ได้ใช้พู่กันเขียนชื่อของตัวเองลงบนคัมภีร์ —กูเฉิน!
ชื่อสีทองซีดส่องประกายออกมาอยู่สักพักก่อนจะหายไป ในเสี้ยว
พริบตาหน้ากระดาษนั้นก็ว่างเปล่า ราวกับว่ากูเฉินไม่เคยลงชื่อลง
บนคัมภีร์มาก่อน ต่อมาภารกิจในการรับตัวกูเฉินก็เสร็จสิ้น จางหยู
ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก รอยยิ้มบนใบหน้าเขาดูสดใส
ยิ่งกว่าเดิม
การเข้าร่วมของกูเฉิน ไม่ใช่แค่ทำให้ภารกิจของเขาเสร็จสิ้น แต่สำนัก
คังเฉียงก็ยังมีผู้แข็งแกร่งเพิ่มเข้ามาด้วย และจางหยูก็ไม่ต้องกังวล
เรื่องความปลอดภัยของสำนักคังเฉียงอีกต่อไป เขาไม่ต้องกังวลเรื่อง
ความปลอดภัยของเขาอีก
จากนี้เขาก็รู้สึกสบายใจและปลอดภัยได้แล้ว
“ปีที่แล้วข้าอยู่ด้วยความกลัว ข้ากลัวว่าจะมีคนโผล่มาปลิดชีวิตข้า”
จางหยูรู้สึกขมขื่นในใจ คนนอกอาจจะมองว่าเขาดูสบาย ๆ แต่พวก
นั้นไม่อาจจะรู้ความคิดเขาได้ว่าเขารู้สึกกลัวและเครียดมากแค่ไหน
“มันจบสิ้นแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ในอนาคตข้าก็ไม่ต้องกลัวอีก
ต่อไป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก