ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 328

ตอนที่ 328 เสี่ยวหร่านตื่นแล้ว
ภายในป่ า จางหยูเริ่มทำการดูดซับหลิงชี่ธาตุเข้าไปในตันเถียน แม้ว่า
การดูดซับหลิงชี่นั้นจะรวดเร็ว และมีหลิงชี่ธาตุนับไม่ถ้วนในอาณาเขต
แต่เขาก็ดูดซับมันหมดในเวลาเพียงชั่วครู่ จากนั้นหลิงชี่ธาตุในส่วน
อื่น ๆ ก็กลับมาเติมเต็มอาณาเขตของเขาอีกครั้ง
“1 ฟุต, 2 ฟุต….” จางหยูรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าอาณาเขตของเขาพัฒนา
ขึ้นไปทีละนิด ๆ จนความรู้สึกยินดีก่อนหน้านี้พลันดับวูบ
เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของเซียวเหยียนแล้ว ที่ไม่ว่าจะพยายาม
เท่าไหร่แต่กลับพัฒนาได้เพียงนิดเดียว ตอนที่เจอกับเรื่องแบบนี้ มัน
ให้ความรู้สึกสิ้นหวังที่คนอื่นไม่อาจจะเข้าใจได้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ถึงแม้ว่าเซียวเหยียนจะมีพรสวรรค์ในการบ่ม
เพาะที่สูงส่ง แต่กลับขยันบ่มเพาะอย่างหนักเช่นนี้!
สำหรับจางหยูแล้ว เขารับรู้ได้ว่าอาณาเขตกำลังพัฒนาขึ้นตลอดเวลา
และนี่ก็ถือว่าเป็นความสุขเล็ก ๆ สำหรับเขา !
บางอย่างเมื่อคนสูญเสียมันไป พวกเขาจะรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน !
จนดึกดื่น จางหยูก็ยังไม่หยุดบ่มเพาะ เขาถึงกับลืมกินข้าวเย็น หลาย
ชั่วโมงผ่านไป อาณาเขตของเขาก็เพิ่มขึ้นมากว่า 10 ฟุต !
จาก 30 ฟุตเป็น 40 ฟุตใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ด้วยความเร็วระดับนี้ หาก
ใช้เวลาสามวันเขาก็สามารถเพิ่มอาณาเขตของเขาเป็น 100 ฟุตได้ ใน
เวลา 1 เดือนเขาสามารถเพิ่มให้มันเป็น 1,000 ฟุตได้ ภายใน 1 ปีเขา
จะมีอาณาเขตครอบคลุมทั้งหุบเขา ตอนนั้นบางทีแค่คิด เขาก็สามารถ
ทำลายเมืองได้แล้ว และแค่การสะบัดมือก็สามารถเปลี่ยนสีทุกอย่าง
ได้ตามใจ !
“เดาว่าพวกระดับสูงสุด ก็น่าจะมีความแข็งแกร่งระดับนี้ไม่ใช่รึ ?”
จางหยูเดา
เขาไม่เคยเห็นพวกระดับสูงสุดมาก่อน แต่เขารู้สึกได้ว่าตราบใดที่
อาณาเขตเพิ่มเป็น 1,000 ฟุต เขาก็สามารถทัดเทียมกับพวกระดับ
สูงสุดได้
“นอกจากอาณาเขตแล้ว ระยะการรับรู้ก็เพิ่มขึ้นมาด้วย” จางหยูแผ่
การรับรู้ออกไป พร้อมกับภาพเมืองทะเลทรายทั้งเมืองที่โผล่มาใน
หัวของเขา
ตอนแรกการรับรู้ของเขายากจะครอบคลุมทั้งเมืองได้ แต่ตอนนี้เขา
ยังรับรู้ได้ถึงนอกเมืองได้ด้วย ระยะการรับรู้ตอนนี้เพิ่มจากสามพัน
ฟุตมาเป็นสี่พันฟุต !
ประโยชน์ครั้งใหญ่ !
จางหยูกลับไปยังบ้านพักของตัวเองด้วยความพอใจ หลังจากที่ยุ่งมา
ทั้งวัน ตอนนี้เขารู้สึกอ่อนล้าเป็นอย่างมาก เขาง่วงและหลับไปทันที
ไม่ใช่แค่หลับลึกเท่านั้น แต่ยังหลับฝันดีอีกด้วย ในฝันนั้นเขาคือเทพ
สูงสุด เขาสามารถทำให้พวกระดับสูงสุดทั้ง 6 คุกเข่าต่อหน้าเขาได้
วันต่อมาจางหยูก็ลุกขึ้นจากเตียงและไปที่ป่ าด้านหลังเพื่อทำการบ่ม
เพาะอีก หลิงชี่ธาตุไม่รู้จบจากทั่วทุกสารทิศแห่กันมาเติมเต็มอาณา
เขตของจางหยู ซึ่งถูกจางหยูดูดซับไปแทบจะทันที มีแค่ส่วนน้อยที่
สลายไปในอากาศ
ตอนบ่ายจางหยูได้ชี้แนะไป่ หลิงเรื่องภาพลวงตา รวมถึงสั่งสอนศิษย์
คนอื่น ๆ ตามภารกิจ
ในวันที่สาม หลินจื้อเป่ ย หวงฟู่เชิงจื้อและคนอื่น ๆ ก็กลับมา
จางหยูเรียกพวกนั้นเข้าพบและมอบหมายงานให้ชี้แนะไป่ หลิงและ
คนอื่น ๆ เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไป 3 วันจางหยูก็
รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของเขาก้าวหน้าขึ้นมาอย่างมาก
ที่ป่าด้านหลังสำนัก
“6 วัน”
จางหยูจบการฝึกในตอนเช้าด้วยรอยยิ้มที่สดใส “ในที่สุดอาณาเขต
ของข้าก็เพิ่มขึ้นเป็น 280 ฟุต !”
อีกแค่ 20 ฟุตก็จะเป็น 300 ฟุตแล้ว !
จาก 30 ฟุตเป็น 300 ฟุต มันเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อใช้
การมองทะลุขั้นสูงมองข้อมูลของตัวเอง จางหยูก็เห็นได้อย่างชัดเจน
ว่า ตอนนี้เขาอยู่ขอบเขตหลิงซวนขั้นสูงแล้ว
6 วันจากขอบเขตหลิงซวนขั้นต่ำ ข้ามตัดผ่านขั้นกลางมาเป็นขั้นสูง
ได้ ด้วยความเร็วระดับนี้ หากมองทั้งทวีปจะมีใครเทียบได้บ้าง?
ไม่ใช่แค่ระยะอาณาเขตที่เพิ่มขึ้นมา แต่การรับรู้ก็เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า
รอบเนินแม้แต่หมู่บ้านด้านล่าง เขาก็รับรู้ได้อย่างชัดเจน ไม่มีใคร
หลบพ้นการรับรู้ของเขาได้ แม้แต่อู่ฉิงฉวน, โอวเสินเฟิง, หลินจื้อเป่ ย
และคนอื่น ๆ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“ขอบเขตหลิงซวนขั้นสูง !” จางหยูรู้ได้อย่างชัดเจนว่า พลังของเขา
น่ากลัวเพียงใด “หากไม่นับเรื่องอื่น ๆ อย่างร่างทองคำ ด้วยขอบเขต
หลิงซวนขั้นสูงนี้ ต่ำกว่าพวกขอบเขตตุ้นซวนข้าก็ไม่กลัวใครทั้งนั้น!”
หากไม่ได้พึ่งทักษะอื่น ๆ แค่พึ่งขอบเขตบ่มเพาะของตัวเอง เขาก็
สามารถสู้ทัดเทียมกับพวกขอบเขตหลี่ซวนขั้นสมบูรณ์ได้ !
นี่คือความก้าวหน้าครั้งใหญ่ !
“6 วันกลับแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ หากบ่มเพาะไปอีกเดือน…”
จางหยูอดคิดภาพไม่ได้ว่า เขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนหากทำการบ่ม
เพาะไปอีกเดือน
“ตอนนั้นแม้แต่พวกขอบเขตตุ้นซวนขั้นต่ำก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของ
ข้าได้ !” ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วนี้ แม้แต่ตัว
จางหยูเองก็ต้องตะลึง
จางหยูพอใจกับเรื่องนี้อย่างมาก
ต้นไม้รอบ ๆ เขียวชอุ่มยิ่งกว่าเดิม เพราะได้รับหลิงชี่ธาตุมาหลายวัน
ต้นไม้แก่ ๆ ก็เริ่มมีกิ่งไหม่งอกออกมา แค่ไม่กี่วันนี้ต้นไม้ที่แห้งเหี่ยว
กับดูแข็งแรง และดูเหมือนจะอยู่ต่อไปได้อีกหลายปี
ทันใดนั้นเอง
ปัง !
พลังอันลึกลับ แต่ไม่ได้แข็งแกร่งนัก ก็ได้อาบไปทั่วสำนักคังเฉียง
จากนั้นมีเสียงคำรามดังขึ้นมา ตอนนั้นเองทุกคนต่างก็ตื่นตระหนก
กับเสียงคำรามนี้
โอวเสินเฟิงและศิษย์คนอื่น ๆ ในห้องเรียน รวมถึงอู่ฉิงฉวน โหว
เทียนหมางและคนอื่น ๆ ที่อยู่โรงอาหาร ต่างก็พากันสีหน้าเปลี่ยนไป
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังนี้ พวกเขาก็ลังเลกันขึ้นมา
“ไม่ต้องกังวลไปเสี่ยวหร่านตื่นแล้ว” จางหยูเองก็แปลกใจเล็กน้อย
แต่สุดท้ายเขาก็พุ่งไปที่บ้านพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา แล้วเขาก็ส่ง
เสียงไปบอกกับทุกคน
จากนั้นจางหยูก็เคลื่อนย้ายเข้าไปในห้องนอน
เสี่ยวหร่านบินออกมาจากห้องนอนโผล่มาที่สวน ร่างของนางสูงขึ้น
ไปเรื่อย ๆ จนสูงถึง 10 ฟุตถึงได้หยุด นางบินอยู่ในสวนม้วนตัวไป
มา พลังแผ่ออกมาจากตัวนางอย่างต่อเนื่อง
“กรร !” ร่างของนางสั่นไหว พร้อมกับเสียงมังกรที่ร้องออกมาด้วย
ความยินดี
จางหยูยืนอยู่ที่พื้น เงยหน้าขึ้นมองฟ้าด้วยความตื่นเต้น เขาที่เหมือนกับ
กวาง หัวที่เหมือนกับอูฐ ตาเหมือนกับกระต่าย หางที่เหมือนกับงู…
แม้ว่าจะไม่มีปีกแต่นางสามารถบินอยู่ในท้องฟ้าได้ราวกับเดินอยู่บน
พื้น
ตอนนั้นภาพลักษณ์ของเสี่ยวหร่าน เหมือนกับมังกรศักด์ิสิทธ์ิใน
ความทรงจำของจางหยู !
นางคือตัวตนที่ลึกลับและสูงส่ง สิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก นาง
เหมือนมังกรทั่วไปแต่กลับดูโดดเด่น นางแหวกว่ายในท้องฟ้าราว
กับปลาที่อยู่ในน้ำ
ทุกคนได้มารวมตัวกันที่บ้านพักของจางหยู พวกเขามองไปยังร่าง
ลึกลับที่อยู่บนท้องฟ้าด้วยความตะลึง
สักพักหลินจื้อเป่ ยและหวงฟู่เชิงจื้อก็ได้สติ หลินจื้อเป่ ยพูดขึ้นมา
ด้วยความตะลึง “มังกร ! พระเจ้า มนุษย์มีมังกรศักด์ิสิทธ์ิ !”
“มังกรศักด์ิสิทธ์ิ สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิในตำนาน ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะ
โชคดีได้เห็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิในตำนาน!” หนิงไท่ชูตื่นเต้น
“มีข่าวลือว่า มังกรศักด์ิสิทธ์ิแบ่งออกเป็นหลายแบบ พวกที่แข็งแกร่ง
ที่สุดคือมังกรสมมุติเทพ แต่มังกรศักด์ิสิทธ์ิที่เหมือนกับโลหิตนี้ ข้า
ไม่เคยได้ยินมาก่อน” หวงฟู่เชิงจื้อพึมพำ
อู่ฉิงฉวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และพูดขึ้นมาช้า ๆ “นั่นมันมังกร
โลหิต !”
“มังกรโลหิต ?” หลินจื้อเป่ ยและคนอื่น ๆ พากันสับสน
“มังกรโลหิต คือมังกรศักด์ิสิทธ์ิที่หายากยิ่งกว่ามังกรสมมุติเทพ การ
ที่เจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อนก็เป็นเรื่องธรรมดา” โอวเสินเฟิงมองไปที่
พวกนั้นและอธิบายออกมา “แม้แต่ที่เขตกลางก็มีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง
มังกรโลหิต มังกรตนนี้คือสัตว์อสูรที่ทำพันธสัญญากับเจ้าสำนัก ซึ่ง
เจ้าสำนักได้ทำพันธสัญญาเท่าเทียมกับเสี่ยวหร่านเมื่อไม่กี่เดือนก่อน”
“พันธสัญญาเท่าเทียม ?” อู่ซูหยางตะลึง “ด้วยพลังที่เจ้าสำนักมีแล้ว
เขาไม่กล้าจะสร้างความไม่พอใจกับเผ่ามังกรด้วยรึ ?”
โดยทั่วไปแล้วมีนักฝึกสัตว์อสูรไม่กี่คน ที่จะเลือกทำพันธสัญญาเท่า
เทียมกับสัตว์อสูร เพราะนั่นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่มังกรศักด์ิสิทธ์ิ
นั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าจะต้องการจะเลี้ยงดู แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำ
ให้มังกรศักด์ิสิทธ์ิเป็นทาส หากทำให้มังกรศักด์ิสิทธ์ิเป็นทาส งั้นก็
ต้องรอรับความโกรธจากเผ่ามังกรทั้งเผ่า แม้แต่พวกระดับสูงสุดก็ไม่
มีความกล้าเช่นนั้น
แน่นอน แม้ว่าจะกล้าพอแต่พวกเขาก็ไม่มีโชค ยังไงซะเผ่ามังกรก็อยู่
ที่เกาะด้านนอกทวีป ซึ่งจะปรากฏตัวสักครั้งในรอบหมื่นปี ต้องอาศัย
โชคอย่างมากถึงจะได้ นี่ยิ่งไม่ต้องนับการที่สามารถทำให้มังกร
ศักด์ิสิทธ์ิเป็นทาสเลย
“เจ้าสำนักไม่ได้กลัวว่าจะทำให้เผ่ามังกรไม่พอใจ แต่เจ้าสำนักคิดว่า
มนุษย์ สัตว์อสูรและมังกรนั้นเท่าเทียมกัน เขาจึงไม่ได้ทำให้มังกร
ศักด์ิสิทธ์ิเป็นทาส” โอวเสินเฟิงส่ายหน้า “เจ้าสำนักใจกว้าง พวกเจ้า
ไม่เข้าใจรึ ?”
เซียวเหยียนและศิษย์คนอื่น ๆ เคยเห็นเสี่ยวหร่านมานานแล้ว นอกจาก
ความงดงามของนางแล้วก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ตอนนี้ผ่านไปแค่
สองเดือน มันกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างมาก ร่างขนาดใหญ่
บนท้องฟ้านั้นดูสง่างาม ลึกลับและแข็งแกร่ง
นี่คือมังกรศักด์ิสิทธ์ิ นี่คือมังกรศักด์ิสิทธ์ิที่แท้จริง !
หนิวซิงไห่รู้สึกสลดขึ้นมา ราวกับว่าสายเลือดของเขาถูกสยบ มันทำ
ให้เขารู้สึกอึดอัด
“ตอนที่ราชาสัตว์อสูรโผล่มา ข้ายังไม่ได้อึดอัดแบบนี้เลย แต่มังกร
โลหิตนี่…กลับทำให้ข้ารู้สึกเช่นนั้นได้” หนิวซิงไห่มั่นใจในสายเลือด
ของตัวเอง แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกกลัวขึ้นมานิด ๆ “สายเลือดของ
มังกรโลหิตนี่ แข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาสัตว์อสูรรึ ?”
บนท้องฟ้านั้น
เสี่ยวหร่านบินไปมาอยู่สักพัก จากนั้นนางก็ดิ่งลงมา ในพริบตานางก็
กลายร่างเป็นมังกรขนาดเล็กมานอนอยู่บนไหล่ของจางหยู และจูบที่
แก้มจางหยูก่อนจะพูดขึ้น “ท่านพี่ ข้าหิวแล้ว ข้าอยากกิน”
ภาพลักษณ์สง่างาม ยิ่งใหญ่และลึกลับที่ผู้คนเห็นเมื่อครู่นี้ ได้พังทลาย
ลงไปในพริบตา
หลินจื้อเป่ ย โหวเทียนหมาง หวงฟู่เชิงจื้อและคนอื่น ๆ ต่างก็ตะลึง
นี่คือมังกรศักด์ิสิทธ์ิตัวปลอมงั้นรึ ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก