ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 332

ตอนที่ 332 เฉินกูคือใคร?
“ในป่ าหวงหยวนมีใครบ้างที่กล้าทำร้ายศิษย์ของข้า?” สีหน้าของกูเฉิน
หม่นลงและมองไปที่ไป่หลิง มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้า “แต่ข้า
สงสัยว่าเฉินกูที่เจ้าพูดถึงนั้นเป็นใครกัน ?”
อินทรีย์หิมะถามขึ้นมา “เฉินกูชื่อแปลก ๆ แบบนี้ ข้าไม่เคยได้ยินมา
ก่อน”
เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสอง ไป่ หลิงก็อดสงสัยไม่ได้ “อาจารย์ไม่เคยได้
ยินชื่อท่านเฉินกูเลยรึ ?”
มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าต่างก็มองไปที่กูเฉินด้วยความสงสัย
กูเฉินหัวเราะออกมาด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน “ข้าไม่ได้รู้จักคนเยอะ
เฉินกูผู้นี้คงไม่ใช่คนเลวร้าย ทำไมข้าต้องรู้จักเขาด้วย ?”
ไป่ หลิงตกใจและพูดขึ้นมาด้วยท่าทีแปลก ๆ “ไม่ใช่เช่นนั้น !”
“ลองเล่ามาเฉินกูผู้นี้เป็นใคร ? ทำไมพวกเจ้าต้องตามหาเขา ?” กูเฉิน
สนใจเรื่องนี้อย่างมาก
ไป่ หลิงมองไปที่กูเฉินและถามยืนยันอีกรอบ “อาจารย์ ท่านมั่นใจรึ
ว่าไม่รู้จักท่านเฉินกูจริง ๆ ?”
นางจำได้ว่า เจ้าสำนักบอกว่าเฉินกูคือพวกระดับสูงสุดของเหล่าสัตว์
อสูร ในเมื่อกูเฉินเป็นพวกระดับสูงของสัตว์อสูรเขาก็ต้องรู้จัก แต่
การที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อเฉินกูมาก่อน มันจะเป็นไปได้ยังไง ?
“เจ้าคิดว่าข้าโกหกรึไง ?” กูเฉินมองไปที่ไป่หลิง
ไป่หลิงพูดอะไรไม่ออก ใช่ กูเฉินไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเขา หาก
พวกเขาทำตัวหยาบคาย แม้ว่าจะเป็นศิษย์สำนักคังเฉียง แต่กูเฉินก็คง
ไม่ไว้หน้า
ไป่ หลิงถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง แม้แต่ราชาสัตว์อสูรก็
ยังไม่รู้ว่าเฉินกูผู้นี้เป็นใคร
“บอกข้ามาว่าเฉินกูผู้นี้เป็นใครกัน ?” กูเฉินเริ่มสงสัย “มนุษย์หรือว่า
สัตว์อสูร ? ทำไมพวกเจ้าต้องไปตามหาเขา ?”
ไป่หลิง มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าต่างก็มองหน้ากัน ไป่หลิงหัน
ไปหามังกรแดงและพูดขึ้นมา “เจ้าหนอน เจ้าเล่าสิ”
ตอนนั้นสายตาของกูเฉินและอินทรีย์หิมะต่างก็มองไปที่มังกรแดง
เมื่อรู้สึกถึงสายตาของทั้งคู่ มังกรแดงก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และแสดง
ท่าทียกย่องออกมา “ท่านเฉินกู คือวีรบุรุษของสัตว์อสูร !”
“หือ ? วีรบุรุษ ?” กูเฉินยักคิ้วและสงสัยขึ้นมา “สัตว์อสูรไปมีวีรบุรุษ
ตอนไหนกัน ทำไมข้าถึงไม่รู้ ?”
ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมานิด ๆ ขนาดเขาที่เป็นถึงราชา
สัตว์อสูร ก็ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่าวีรบุรุษเลย แต่เฉินกูผู้นี้มีสิทธิที่
จะเป็นวีรบุรุษของสัตว์อสูรงั้นรึ ?
เขาครุ่นคิดแต่ก็ไม่อาจจะพบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเฉินกูเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นสีหน้าของไป่หลิง มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าที่แสดงสีหน้า
ยกย่องออกมา กูเฉินก็คิดในใจ “เจ้าพวกนี้ยังไม่เคารพข้าขนาดนั้น
….”
ไม่รู้ว่าทำไม กูเฉินถึงได้รู้สึกอับอายต่อเฉินกูที่เขาไม่เคยพบมาก่อน
“ลองพูดมาเฉินกูผู้นี้ เขาทำอะไรถึงได้ถือว่าเป็นวีรบุรุษของเหล่า
สัตว์อสูร ?” กูเฉินมองไปยังทั้งสามคน
เมื่อเป็นเรื่องเฉินกู มังกรแดงก็อาสาที่จะเล่าเรื่องด้วยท่าทีชื่นชม เขา
พูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “ท่านเฉินกูได้ทำหลายอย่างมากมาย คง
บอกไม่หมดแค่หนึ่งหรือสองประโยค เอาสั้น ๆ คือเขาคือเทพที่จุติ
ลงมา เป็นวีรบุรุษและเกียรติยศของเหล่าสัตว์อสูร อาจารย์ แม้ว่า
ท่านจะเป็นราชาสัตว์อสูร แต่ข้าคิดว่า ท่านเฉินกูผู้นี้น่าเคารพกว่า
ท่านและมีสิทธิที่จะเป็นราชา…”
เมื่อเห็นสีหน้าบิดเบี้ยวของกูเฉิน มังกรแดงก็เงียบและเริ่มมีเหงื่อผุด
ขึ้นมา
“เล่าต่อ !” กูเฉินมีสีหน้าหม่นลงและมองไปที่มังกรแดง “เจ้าจะบอก
ว่าเฉินกูผู้นี้มีสิทธิที่จะเป็นราชาสัตว์อสูรมากกว่าข้างั้นรึ ?”
มังกรแดงกลัวจนหน้าซีด “ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้หมายถึงเช่นนั้น”
เขาหมายถึงแบบนั้นจริง ๆ แต่ต่อหน้ากูเฉินแล้วเขาจะยอมรับได้
ยังไง ?
อินทรีย์หิมะมองไปที่มังกรแดงและพูดขึ้น “เจ้าหนอน ราชาสัตว์
อสูรสั่งสอนเจ้า เจ้าตอบแทนราชาสัตว์อสูรเช่นนี้รึ ?”
ไป่หลิงกับอินทรีย์ปีกฟ้าต่างก็อึ้ง พวกนั้นไม่คิดว่ามังกรแดงจะพูด
ความจริงแบบนี้ออกไป แม้ว่าจะเห็นด้วยกับมังกรแดง แต่พวกเขา
จะกล้าพูดแบบนั้นต่อหน้ากูเฉินได้ยังไง ?
กูเฉินมองไปที่มังกรแดงก่อนจะฮึดฮัดออกมา “ข้าสงสัยยิ่งกว่าเดิมว่า
เฉินกูผู้นี้เป็นใครกัน ! วันนี้พวกเจ้าต้องพูดมันออกมาให้ชัดเจนว่า
เฉินกูผู้นี้ทำอะไร พวกเจ้าควรภาวนาให้ข้าเชื่อไปด้วย ไม่งั้นแล้ว…
ข้าในฐานะอาจารย์ก็มีสิทธิที่จะลงโทษพวกเจ้า”
มังกรแดงกลืนน้ำลายและแอบมองไปที่ไป่ หลิงกับอินทรีย์ปีกฟ้า
อินทรีย์ปีกฟ้าหันหน้าหนีราวกับไม่เห็นสายตาขอความช่วยเหลือ
จากมังกรแดง
เขาไม่อยากทำให้กูเฉินที่เป็นราชาสัตว์อสูรโกรธ !
ไป่หลิงดูลังเลนิด ๆ
“หัวหน้า ขอร้องล่ะ ช่วยข้าเล่าที !” มังกรแดงอดไม่ได้ที่จะส่งข้อความ
ไปขอความช่วยเหลือ
ไป่ หลิงได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมา นางมองไปที่กูเฉินและรวบรวม
ความกล้าพูดขึ้นมา “อาจารย์ เจ้าหนอนแดงอาจจะเคารพท่านเฉินกู
เกินไป แต่ใช่ว่าจะไม่เคารพท่าน…”
กูเฉินโบกมือและพูดขึ้นมา “พวกเจ้าแค่ต้องบอกว่าเฉินกูผู้นี้เป็นใคร!”
ไป่ หลิงมองไปที่มังกรแดงและมองไปที่กูเฉินอีกครั้ง นางลังเลและ
พูดขึ้นมา “ท่านเฉินกูคือพวกระดับสูงของเหล่าสัตว์อสูร !”
“เฉินกูทำอะไร ? ข้าจำเป็นต้องรู้ทุกอย่างที่เฉินกูได้ทำลงไป !” กูเฉิน
เหมือนกับโกรธอย่างมาก เขาเหมือนกับโกรธแค้นแต่ไม่ใช่กับมังกร
แดงแต่เป็นเฉินกูต่างหาก
ในฐานะราชาสัตว์อสูรและตัวตนระดับสูงแล้ว เขาไม่อาจจะยอมให้
ใครก้าวข้ามเขาไปได้
แม้ว่าไป่ หลิงจะกลัวกูเฉิน แต่นางก็ยังคงแสดงท่าทีใจเย็นออกมา
นางพูดออกมาด้วยความเคารพ “เราไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับท่าน
เฉินกูมากนัก แต่เขาเกิดมาเป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ และมีสายเลือด
หมาป่าละโมบกับสายเลือดสัตว์อสูรกลืนสวรรค์…”
“ละโมบ…” กูเฉินอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ปิดปากและโบกมือ “ไม่
มีอะไร ว่ามาต่อ”
ในใจเขาเริ่มสงสัยขึ้นมาว่าในโลกนี้นอกจากตัวเขาเองแล้ว ยังมี
ลูกหลานของหมาป่าละโมบกับสัตว์อสูรกลืนสวรรค์อีกรึ ?
มันเป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ และยังเป็นลูกหลานของหมาป่ าละโมบ
กับสัตว์อสูรกลืนสวรรค์…นี่มันบังเอิญรึ ?
“นานมาแล้ว ป่ าหวงหยวนแห่งนี้ยังอยู่ในช่วงกลียุค…ตอนนั้นใน
ส่วนลึกของป่ า มีสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่มีพรสวรรค์กำเนิดขึ้นมา เขามี
สายเลือดสัตว์อสูรกลืนสวรรค์และหมาป่าละโมบ เขามีสายเลือด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่หายาก เขาคนนี้คือ ท่านเฉินกู”
“ท่านเฉินกูมีพรสวรรค์ที่สูงส่ง ตราบใดที่เขาทำการบ่มเพาะ อนาคต
เขาก็ต้องประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่วันหนึ่งโชคร้ายที่โชคชะตา
กลับเล่นตลกกับท่านเฉินกู …”
“ตอนที่ท่านเฉินกูทำการบ่มเพาะอยู่ กลับมีนักฝึกสัตว์อสูรมาพบตัว
ท่านเฉินกู…”
กูเฉินฟังอยู่เงียบ ๆ พร้อมกับสีหน้าแปลกใจ เรื่องนี้…เขาคุ้นเคยกับ
มัน !
“เฉินกู?” กูเฉินคิ้วขมวด “มันมีสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่มีประสบการณ์
เหมือนกันกับข้าด้วยรึ ?”
เขาไม่เชื่อว่ามันจะมีเรื่องบังเอิญแบบนั้นในโลก ลูกหลานของหมา
ป่าละโมบกับสัตว์อสูรกลืนกินสวรรค์ตกเป็นทาสของมนุษย์…กู
เฉินสงสัยว่านี่เป็นเรื่องของเขาเอง !
“เฉินกู…กูเฉิน” กูเฉินค่อย ๆ รู้ตัว “หากสลับคำดูแล้วเฉินกูก็คือกู
เฉินไม่ใช่รึ ?”
หนังตาของกูเฉินกระตุกขึ้นมา “เฉินกูที่พวกนี้พูดถึงคือข้า ! อดีตที่
น่าอายของข้า…รั่วไหลออกไปแล้ว !”
ตอนนั้นในใจกูเฉินเต็มไปด้วยความโกรธ แรงอาฆาตแผ่มารอบตัว
เขา
ไม่อาจจะยกโทษให้ได้ !
“บัดซบ !” สีหน้าของกูเฉินบิดเบี้ยวไปเพราะความโกรธ
ไป่ หลิงตกตะลึงกับท่าทีของกูเฉิน ทั้ง ๆ ที่ยังเล่าเรื่องไม่จบ
มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าต่างก็ไม่รู้ว่ากูเฉินโมโหอะไร พวกเขา
กลัวจนตัวสั่น
“ราชาสัตว์อสูร” อินทรีย์หิมะตัวสั่นไปด้วยความกลัว แม้ว่าเขาจะอยู่
ขอบเขตหลิงซวนขั้นสูง แต่ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากมดปลวก
สัตว์อสูรที่เหลือเองก็กลัวจนไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา
กูเฉินมองไปที่ไป่หลิงและคนอื่น ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ใจเย็นลง “ไม่ ดู
จากท่าทีพวกนี้แล้ว พวกนี้ไม่รู้ว่าเฉินกูคือข้า ไม่งั้นแล้วจะบอกได้
ยังไงว่าเฉินกูมีสิทธิเป็นราชาสัตว์อสูรมากกว่าข้า ?”
ความโกรธที่เขามีลดลงไป “เฉินกู เฉินกู..ฮี่ฮี่ น่าสนใจ”
“ว่ามาต่อ” กูเฉินมองไปที่ไป่ หลิงและพูดขึ้นมา
ไป่หลิงไม่รู้ว่ากูเฉินคิดอะไร นางได้รวบรวมความกล้าและพูดต่อ
“ท่านเฉินกูเคยคิดจะฆ่าตัวตาย แต่…พลังของสัญญาแข็งแกร่งเกินไป
และแม้ว่าท่านเฉินกูต้องการที่จะฆ่าตัวตาย เขาก็ไม่อาจจะทำได้ …”
“โชคร้ายกว่านั้นคือ มนุษย์ที่จับเขามากลับมีจิตใจบิดเบี้ยว..”
สีหน้าของกูเฉินดูเคร่งเครียดขึ้นมา เขาโกรธยิ่งกว่าเดิม ตอนแรกเขา
คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว เรื่องนี้คือเรื่องของ
เขา เฉินกูคือตัวเขาเอง !
ตอนที่ไป่หลิงกำลังพูดถึงการที่เฉินกูวางแผนตลบหลังมนุษย์ และ
ได้รับอิสระกลับมากูเฉินก็ฮึดฮัดออกมา “นี่คือเฉินกูที่พวกเจ้าชื่นชม
รึ ? ตลกสิ้นดี ! สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิแต่กลับเป็นทาสของมนุษย์ พวก
เจ้าไม่รู้สึกละอายเลยหรือไง ? สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่น่าละอายเช่นนี้
พวกเจ้าไปชื่นชมได้ยังไง ?”
“ท่านอย่าดูถูกท่านเฉินกู !” เมื่อได้ยินที่กูเฉินถากถาง มังกรแดงก็ไม่
รู้เอาความกล้ามาจากไหน เขามองไปที่กูเฉินด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“ท่านเฉินกูคือวีรบุรุษของสัตว์อสูร ใครก็ตามห้ามดูถูกเขา !” เขาไม่
ยอมให้ใครมาดูถูกเฉินกูได้ แม้แต่ราชาสัตว์อสูรก็ด้วย
ไป่ หลิงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “อาจารย์ เราเคารพท่านอย่าง
มาก แต่ข้าหวังว่าท่านจะไม่ดูหมิ่นท่านเฉินกู !”
อินทรีย์ปีกฟ้าพูดขึ้นมา “ท่านเฉินกูทนทุกข์กับโชคร้ายแต่ไม่คิดที่จะ
ยอมแพ้ เขาแบกรับการดูหมิ่นเอาไว้ และสุดท้ายก็ได้รับอิสระกลับมา
ด้วยความฉลาดของตัวเอง พวกเราชื่นชมและเคารพท่านเฉินกู ความ
อดทน ความฉลาดและจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ของท่านเฉินกู ไม่มีใครจะ
เทียบได้ !”
ตอนนั้นเองท่าทีของทั้งสามกลับดูเด็ดขาดขึ้นมา
อินทรีย์หิมะมองไปที่พวกมังกรแดงและพูดขึ้นมาด้วยท่าทีลำบากใจ
“พวกเจ้าบ้าไปแล้วรึ ?”
เพื่อคนที่ชื่อเฉินกูแล้ว พวกเขาถึงกับกล้าหาเรื่องราชาสัตว์อสูร !
หากไม่ใช่เพราะไว้หน้ากูเฉิน เขาคงฆ่าพวกมังกรแดงไปแล้ว !
เขาตะโกนออกมา “พวกเจ้ายังไม่รีบขอโทษราชาสัตว์อสูรอีก !”
เขาโกรธจนตัวสั่น และแน่นอนที่สั่นเพราะความกลัวเช่นกัน การที่
มังกรแดงพูดแบบนี้ออกมา คงทำให้กูเฉินโกรธอย่างมาก
เขาแอบมองไปที่กูเฉิน และพบว่ากูเฉินกำลังมองไปที่ไป่หลิง
อินทรีย์หิมะ มังกรแดง จึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายและหน้าซีดไป
“ราชาสัตว์อสูร…”
เขาคิดว่ากูเฉินคงโกรธจัด ในใจเขามีแต่ความสิ้นหวัง “จบสิ้นแล้ว !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก