ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 341

ตอนที่ 341 หุบเขาเทพอสูร
การปรากฏตัวของระดับสูงคนใหม่นี้ ส่งผลต่อทวีปเป็นอย่างมาก นี่ไม่
ต้องพูดถึงพวกระดับสูงสุดคนเก่าเลย
ถ้าหากหาผู้ลึกลับคนนั้นไม่พบ เซียนอักษรและคนอื่น ๆ คงนั่งไม่ติด
เป็นแน่
เซียนโอสถพยักหน้า “เจ้าพูดถูก สิ่งที่สำคัญตอนนี้ก็คือหาตัวผู้ลึกลับคน
นั้นให้เจอ!”
ไม่มีใครมองข้ามระดับสูงสุดได้ หากไม่สนใจบางทีมันอาจจะเป็นภัยต่อ
พวกเขาในอนาคต หลังจากที่ทุกคนได้ข้อตกลงกันแล้ว พวกเขาก็กลับไป
ยังที่ของตน
ที่สมาคมนักปรุงยา
เซียนโอสถได้โผล่มาในห้องโถงของสมาคม และบอกกับประธานสมาคม
ว่า “สั่งการลงไป ให้สมาคมหาตัวคน ๆ หนึ่งมา….”
เซียนหลอม, เซียนอักษรและเซียนค่ายกลเองก็จัดการแบบเดียวกัน พวก
เขาสั่งให้คนของตัวเองไปตามหาตัวคนลึกลับคนนั้น
เขตกลางที่เงียบสงบมานาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยข่าวที่ทำให้ทุกที่ต้อง
ปั่นป่วน
คนระดับสูงสุด !
มนุษย์มีพวกระดับสูงสุดเพิ่มขึ้นมาอีกคน !
นี่ถือว่าเป็นข่าวที่ทำให้เกิดความวุ่นวายที่สุดสำหรับทวีปป่ า !
นอกจากสมาคมทั้งสามแล้ว สมาคมอื่น ๆ ก็เริ่มลงมือเช่นกัน ตอนนี้
ทวีปป่ าดูวุ่นวายขึ้นมาทันที
ในห้องโถงของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร ประธานสมาคมได้ตะโกนออกมา
“หาตัวเขาให้เจอไม่ว่าจะเสียอะไรไปก็ตาม ! ”
สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเคยรุ่งเรืองจนเทียบกับอีกสามสมาคมชั้นนำได้
ในวันนี้สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรยังไม่ล่มสลาย และพวกเขาก็ยังเชื่อว่าสัก
วันพวกเขาจะก้าวขึ้นไปยังจุดเดิมได้อีกครั้ง และคนลึกลับที่ปรากฏตัว
ขึ้นมาก็คือโอกาส !
“ตราบใดที่เราหาตัวเขาเจอ สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรของพวกเราก็จะฟื้นฟู
ความรุ่งเรืองเหมือนในอดีตขึ้นมาได้ !” ประธานสมาคมกำหมัดแน่น
พร้อมสายตาที่ดูตื่นเต้น
“สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรของพวกเราตกต่ำมานาน นี่คือช่วงเวลาแห่งการ
กอบกู้ !”
สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรอยากจะดึงคนลึกลับเข้าเป็นพวก สมาคมอื่น ๆ ก็
ไม่ใช่ข้อยกเว้น ในสายอาชีพพิเศษทั้งเก้า การปรุงยา, หลอม, ค่ายกลถือ
ว่าเป็นสายอาชีพที่พิเศษกว่าใคร และนั่นไม่ใช่เพราะความสามารถที่
โดดเด่น แต่เป็นเพราะสมาคมนักปรุงยา, นักหลอมและค่ายกล มีพวก
ระดับสูงสุดอยู่ ในสายตาของสายอาชีพพิเศษอื่น ๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้
แย่ไปกว่าสามสมาคมเหล่านี้เลย แต่สิ่งที่ทำให้สามสมาคมถือว่าสูงส่ง
กว่าสายอาชีพอื่น นั่นก็คือพวกระดับสูงสุดทั้งสามคน
ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็เห็นโอกาส โอกาสที่จะขึ้นไปทัดเทียมกับสมาคม
ทั้งสามได้ !
พวกเขาเชื่อว่าหากได้ตัวคนลึกลับมา สมาคมของพวกเขาจะพัฒนาขึ้น
มาอย่างมาก และพวกเขาก็จะทัดเทียมกับสามสมาคมชั้นนำได้ !
ทุกคนต่างก็พากันบ้าคลั่ง !
เขตกลางนี้ปั่นป่ วนขึ้นมา !
พวกเขาส่งคนไปทั่วทุกที่
ในที่ที่คนลึกลับนั้นอาจจะปรากฏตัวขึ้นมา !
อาชีพพิเศษที่ปกติยากจะโผล่ออกมา กลับเริ่มแห่กันออกมาจากสมาคม
ของตน!
อาณาจักรในเขตกลางได้ส่งทหารม้านับไม่ถ้วนออกมา เพื่อค้นหาคน
ระดับสูงสุดที่ว่า
ต้องรู้ก่อนว่าหากอาณาจักรใดได้คนแบบนี้มาสนับสนุน พวกเขาก็สามารถ
ขับไล่อาณาจักรระดับสูงอื่น ๆ ออกจากเขตกลาง และอาจจะมีสิทธิรวม
เขตกลางได้ !
สำหรับอาณาจักรพวกนั้นแล้ว จะมีอะไรที่น่าสนใจไปกว่าเขตกลางกัน?
การรวมเขตกลางได้ก็คือการรวมทั้งทวีปเลยก็ว่าได้ เรื่องนี้ ไม่ว่าจะ
อาณาจักรไหนก็ไม่อาจทนความยั่วยวนนี่ได้ !
….
จางหยูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรลงไป เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกระดับสูงสุด
ทั้งสี่ของมนุษย์ได้ไล่ตามเขามา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้เพราะตามไม่ทัน
เขาเคลื่อนย้ายไปทางทิศใต้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่หยุดพัก ไม่นานเขาก็มาถึง
ชายฝั่งทิศใต้ของทวีปป่ า ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่และมหาสมุทรที่กว้างขวาง
สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นภาพวาดของจิตรกรชั้นสูงที่รังสรรค์ขึ้นมา ทำให้
อารมณ์ของผู้คนที่มองมา ยากที่จะสงบลงได้
เมื่อมาถึงชายฝั่งทางตอนใต้ของทวีป จางหยูก็ได้หยุดลง และไม่กล้าที่จะ
เคลื่อนย้ายต่อ ยังไงซะ เขาก็เคยได้ยินมาว่าอีกด้านหนึ่งของมหาสมุทร มี
เกาะขนาดใหญ่ที่แยกตัวออกมาจากโลก ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เท่าครึ่งหนึ่งของ
ทวีปป่ า แทนที่จะเรียกว่าเกาะยักษ์ ไม่สู้เรียกมันว่าอีกทวีปหนึ่งก็ได้
เกาะยักษ์นี้คือเกาะมังกรในตำนาน !
จางหยูไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับเผ่ามังกรได้หรือไม่ จึงเป็นธรรมดาที่เขา
จะไม่กล้าไปยังเกาะมังกรแห่งนั้น
“เฮ้อ ” จางหยูยืนอยู่ที่หน้าผา และสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อดื่มด่ำกับ
บรรยากาศ
ทะเล ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็น แต่มหาสมุทรของทวีปป่ านั้น กลับกว้างขวาง
กว่ามหาสมุทรที่เขาเคยเห็นในชาติที่แล้ว เขาไม่อาจจะมองเห็นอีกด้าน
หนึ่งได้ เขาเห็นแต่เกาะเล็ก ๆ ที่ลอยอยู่เหนือมหาสมุทรไกล ๆ เขารู้ว่า
มันไม่ใช่เกาะ แต่เป็นอีกทวีป ทวีปที่รู้จักกันในชื่อว่าเกาะมังกร แต่หาก
เทียบกับทั้งมหาสมุทรแล้ว เกาะมังกรนี้ดูเล็กไปเลย มันราวกับแค่เกาะ
หนึ่งที่ลอยอยู่ในผืนมหาสมุทร
จางหยูอดไม่ได้ที่จะคิดว่า บางทีหากมองจากเกาะมังกร ทวีปป่ าแห่งนี้ก็
อาจจะเป็นแค่เกาะเล็ก ๆ มันยากที่จะคิดได้ว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่แค่
ไหน มันกลมหรือมันแบน ?
และยังมีทวีปอื่นนอกจากทวีปป่ ากับเกาะมังกรหรือไม่?
เมื่อรู้สึกได้ว่าพวกชาวประมงกำลังรวมตัวกันเพื่อขึ้นมาที่นี่ จางหยูก็ละ
สายตากลับมา และทำการเคลื่อนย้ายหนี
ไม่กี่สิบอึดใจ จางหยูก็ทำการเคลื่อนย้ายต่อและไปปรากฏตัวที่หุบเขา
แห่งหนึ่ง ที่นี่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปเช่นกัน หุบเขานี้ล้อมรอบไป
ด้วยป่ า และมีสัตว์อสูรมากมายอยู่ในป่ าแห่งนี้
ในป่ านั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อันตราย ป่ าแห่งนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้น
หวัง
จางหยูยืนอยู่บนท้องฟ้าสูงขึ้นไปหลายพันฟุต ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ที่นี่น่าจะเป็นหุบเขาเทพอสูรในตำนานสินะ ? ”
เขาได้ยินเรื่องเขตหวงห้ามมาจากราชาสัตว์อสูร จางหยูได้รวบรวมข้อมูล
เกี่ยวกับเขตหวงห้ามเอาไว้ และหุบเขาเทพอสูรก็คือหนึ่งในสามเขตหวง
ห้ามบนทวีป !
ตำนานได้บอกว่าเขตหวงห้ามนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก ผู้บ่มเพาะที่เข้า
ไปที่นี่ มีแต่จะพบกับความตาย แม้แต่พวกระดับสูงสุดก็ยังไม่กล้าที่จะ
เข้าไป ตอนนี้หุบเขาที่มืดสนิทใต้เท้าของจางหยูมีแค่ความเงียบงัน
แม้แต่เสียงของสัตว์อสูรก็ยังไม่มีให้ได้ยิน
“ตอนที่ข้าผ่านที่นี่ไป ข้ารู้สึกได้ว่าที่นี่ไม่ปกติ การรับรู้ของข้าไม่อาจจะ
รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ด้านในได้ มันเหมือนจะไม่ธรรมดา!” จางหยูมอง
ไปที่หุบเขาด้านล่าง มันมืดราวกับหลุมดำที่พร้อมกลืนกินทุกอย่างในโลก
“ไม่ใช่แค่การรับรู้ที่เข้าไปสำรวจไม่ได้ แต่แค่มองเข้าไปก็ไม่อาจจะเห็น
อะไรได้นอกจากความมืดมิด แม้แต่แสงสว่างก็ส่องเข้าไปด้านในไม่ได้
หุบเขาเทพอสูร สมกับชื่อมันจริง ๆ ! ”
จางหยูสงสัยอย่างมากว่ามีอะไรอยู่ในหุบเขาเทพอสูรแห่งนี้ ?
ทันทีที่การรับรู้ของเขาเดินหน้าไปที่นั่น ก็ต้องพบกับพลังลึกลับที่กีดกัน
การรับรู้ของเขา ไม่ให้สำรวจด้านในต่อได้
“นี่คือสิ่งที่สร้างขึ้นมา หรือว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติกัน?” จางหยู
สงสัยขึ้นมา
นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จางหยูเพียงคนเดียวสงสัย แต่พวกผู้บ่มเพาะในทวีปป่ า
เองก็สงสัยเช่นกัน
สำหรับเขตหวงห้ามทั้งสามแล้ว ไม่มีใครไม่สงสัย แต่พวกเขาแค่กลัว
เกินกว่าที่จะสงสัย ยกเว้นแค่ผู้บ่มเพาะบางคนที่อายุขัยกำลังจะหมดลง
แล้ว มันก็ไม่มีใครกล้ามาที่นี่ พวกเขาไม่อยากตายเพราะความสงสัยของ
ตน
จางหยูลองเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อจะได้ตรวจสอบดูให้ชัดเจนกว่านี้ ตอนที่
บินลงมาเหลือประมาณพันฟุต เขาก็รู้สึกได้ว่ามีพลังอันน่ากลัวเข้ามาปก
คลุมเขาเอาไว้
แรงดึงนี้มาจากความมืดด้านล่าง มันเหมือนกับจะดึงเขาเข้าไปในความ
มืดมิด
แทบจะทันทีที่แรงดึงนั้นปรากฏขึ้นมา จางหยูก็ได้ทำการเคลื่อนย้าย
ทันที และเว้นระยะห่างออกมาหลายพันเมตรพร้อมกับแรงดึงที่หายไป
สีหน้าของจางหยูซีดลงไปเล็กน้อย เขามองไปที่หุบเขาด้านล่างและรู้สึก
แย่ขึ้นมา “แปลกจริง ๆ ! ”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขามีเคลื่อนย้ายพริบตา เขาคงโดนดึงเข้าไปในหุบเขา
แล้ว มันยากที่จะต้านทานได้ !
“ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกระดับสูงสุด แต่
แค่แรงดึงนี้ข้าก็ไม่อาจจะต้านทานได้เลย” ฝ่ามือของจางหยูชุ่มไปด้วย
เหงื่อ
“หากมันเป็นของที่สร้างขึ้นมา งั้นความแข็งแกร่งของคนที่สร้างมันขึ้นมา
จะน่ากลัวขนาดไหน?” เขาคิดย้อนกลับไป
“ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับ…แรงโน้มถ่วง พลังของกฎดิน! หลิงชี่ในหุบ
เขาแห่งนี้มากกว่าด้านนอกหลายเท่าหรืออาจจะหลายสิบเท่า ! ”
เขตหวงห้ามทั้งสามนั้นลึกลับ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานราวกับว่าคง
อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครเปิดเผยความลึกลับ
ของมันได้
หากไม่คิดเข้าไปใกล้ มันก็ไม่มีอันตราย แต่ทันทีที่เข้าไปใกล้ แม้แต่
พวกระดับสูงสุดก็ไม่อาจจะออกมาได้ !
ลึกลับ แปลกและอันตราย !
นี่คือสิ่งที่จางหยูคิดต่อหุบเขาแห่งนี้ !
“บางที…ข้าอาจจะทดสอบด้วยร่างเทียม!” ทันใดนั้นจางหยูก็คิดวิธีหนึ่ง
ได้ขึ้นมา เพิ่งได้ทักษะสร้างร่างเทียมมาไม่นาน แต่มันกลับใช้ประโยชน์
ได้มากมาย
จางหยูได้ทำการปล่อยอาณาเขตและทำการดูดซับหลิงชี่มา ก่อนจะเริ่ม
สร้างร่างเทียม ไม่นานร่างเทียมขั้นแรกก็ถูกสร้างขึ้นมา
“ไปตรวจสอบสถานการณ์ด้านในดู” จางหยูพึมพำ
ร่างเทียมพยักหน้าไม่ขัดแย้งอะไร เขาเข้าใจที่จางหยูจะบอก หลังจากที่
ร่างเทียมพร้อมแล้ว ร่างเทียมนั้นก็ได้พุ่งเข้าไปยังปากหุบเขาทันที
จางหยูหลับตาลง เพื่อตรวจสอบทุกอย่างผ่านการเชื่อมต่อระหว่างเขากับ
ร่างเทียม หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ร่างเทียมก็อยู่เหนือหุบเขาไม่กี่พันเมตร
และโดนดึงด้วยแรงสูบที่น่ากลัว !
ซูมมมม!
อยู่ ๆ ร่างเทียมก็เหลือแค่เพียงเงา และถูกถึงหายไปในหุบเขา
“อ๊ากกก…” จางหยูรู้สึกเจ็บที่วิญญาณขึ้นมา ความเจ็บนี้รุนแรงยิ่งกว่า
กายเนื้อถูกทำร้ายซะอีก มันเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะรับไหว เขามึนหัว
จนต้องสูดหายใจเข้าลึก ๆ อยู่นาน
ในเวลาเดียวกัน การเชื่อมต่อระหว่างเขากับร่างเทียม ก็หายไปราวกับว่า
ถูกตัดขาดโดยพลังที่มองไม่เห็น
สักพักจางหยูก็ค่อย ๆ หน้าซีดลง เพราะความตกตะลึง
“ข้าไม่อาจจะรับรู้ถึงร่างเทียมได้!” จางหยูมองไปที่หุบเขา และเริ่มรู้สึก
แย่ขึ้นมา
มีแค่สองเหตุผลที่ไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของร่างเทียมได้ หนึ่งคือร่าง
เทียมโดนทำลาย สองคือหุบเขาแห่งนี้ตัดการเชื่อมต่อของเขากับร่าง
เทียมไป !
จางหยูพยายามวิเคราะห์เหตุผลกับการหายไปของร่างเทียมนี้ สีหน้าของ
จางหยูหม่นลง เขามองไปที่หุบเขาสักพัก จนสุดท้ายก็ยอมแพ้ในการ
สำรวจหุบเขาแห่งนี้ต่อ
“หุบเขาเทพอสูร สักวันข้าจะกลับมาอีกครั้ง ! ” เสียงของจางหยูดังก้อง
ไปทั่วทั้งป่ า แต่ร่างของเขากลับหายไปในพริบตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก