ตอนที่ 342 การกลับมาของอู่ฉิงฉวน
เขตหวงห้ามนี้เป็นที่ที่ลึกลับจริง ๆ จางหยูทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ไป
หมดแล้ว แต่จางหยูก็เชื่อว่าสักวันในอนาคต เขาจะสามารถเปิ ดเผยความ
ลึกลับของเขตหวงห้ามได้ !
วันนั้นคงอีกไม่นาน !
ฟู่
ในท้องฟ้านั้น ร่างของจางหยูได้เปลี่ยนตำแหน่งไปอย่างต่อเนื่อง ไม่
นานเขาก็กลับมาที่สำนักคังเฉียง เมื่อเข้าไปในห้องนอนและมองไปที่
เตียงเล็ก ๆ เขาก็ไม่พบกับร่างของอ้าวเสี่ยวหร่าน
“เช้าขนาดนี้นางไปไหนกัน ?” สีหน้าของจางหยูแสดงความสงสัยออก
มา และจางหยูก็ได้แผ่การรับรู้ออกไปทันที ต่อมาร่างของอ้าวเสี่ยวหร่าน
และอู่ซินซินก็ปรากฏขึ้นในหัวของจางหยูพร้อมกัน
ในห้องเรียนนั้น อ้าวเสี่ยวหร่านได้เกาะอยู่ที่ไหล่ของอู่ซินซิน นางฟัง
โอวเสินเฟิงที่สอนอยู่บนเวทีด้วยท่าทีสนใจราวกับเด็กน้อย อู่ซินซินนั่ง
แสดงสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ แต่บางครั้งนางก็จะชำเลืองมองอ้าวเสี่ยวหร่าน
ก่อนจะละสายตากลับไปด้วยความพอใจ
ไม่ใช่แค่อู่ซินซิน แม้แต่อู่เฉิน, อู่โม่, เซียวเหยียน, โจวซินเอ๋อร์, เติ้งชิว
ฉาน, หลินหมิงและคนอื่น ๆ ก็พากันหันมามองอ้าวเสี่ยวหร่านอยู่บ่อย ๆ
สายตาพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสงสัย
โอวเสินเฟิงเห็นท่าทีของเด็ก ๆ แต่อ้าวเสี่ยวหร่านเป็นสัตว์อสูรในพันธะ
สัญญาของเจ้าสำนัก แม้ว่าเขาจะกล้ากว่านี้ แต่เขาก็ไม่กล้าจะแสดงอาการ
เอาผิดกับนาง หากเขาทำให้นางไม่พอใจ ตำแหน่งอาจารย์ของเขาอาจจะ
สั่นคลอนก็ได้
นี่คือสิ่งที่ทำให้โอวเสินเฟิงรู้สึกเหนื่อยกับการสอนมากที่สุด ทั้งชั้นต่าง
ก็พากันกลัว กลัวว่าจะทำให้อ้าวเสี่ยวหร่านไม่พอใจ
จางหยูไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี “นี่แค่ครึ่งวัน แต่นางก็เข้ากันดีกับ
คนอื่น ๆ ได้”
เขาไม่ได้โทษนาง แต่ในใจเขากลับรู้สึกกระอักกระอ่วน ก่อนหน้านี้เขา
อ่อนแอ เขาไม่กล้าจะเอาตัวอ้าวเสี่ยวหร่านมาเปิดเผยให้คนนอกได้เห็น
บอกได้ว่าอ้าวเสี่ยวหร่านแทบจะไม่ได้ใกล้ชิดกับคนนอก นางได้แต่อยู่ที่
รังในบ้าน นางโดดเดี่ยวแค่ไหนนั้นจางหยูเข้าใจได้
“ตอนนี้ข้าไม่ได้อ่อนแอแล้ว ไม่จำเป็นต้องระวังตัวอีกต่อไป” จางหยูคิด
กับตัวเอง “เมื่อนางอยากจะสนุกกับพวกศิษย์ก็ปล่อยให้นางทำตามใจ”
ตราบใดที่นางมีความสุขก็ถือว่าดี !
จางหยูจับตาดูห้องเรียนอยู่สักพัก แล้วดึงการรับรู้กลับมา ก่อนที่จะ
เคลื่อนย้ายไปที่หน้าบ้าน ตอนที่จางหยูปรากฏตัวขึ้นมา อู่ฉิงฉวนก็รีบ
ตะโกนออกมาทันที “เจ้าสำนัก !”
“ท่านอู่ ท่านรอนานหรือไม่ ?” จางหยูถามด้วยรอยยิ้ม
อู่ฉิงฉวนตอบกลับด้วยความเคารพ “ข้าเพิ่งจะมาถึง ไม่ได้รออะไรเลย”
จางหยูพยักหน้าแล้วถามขึ้น “เพื่อนท่านล่ะ มาด้วยหรือไม่?”
“หากเจ้าสำนักไม่อนุญาต ข้าก็ไม่กล้าจะพาเขาเข้ามาในสำนัก” อู่ฉิงฉวน
โค้งให้ “ข้าให้เขาพักที่บ้านครอบครัวหนึ่ง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางหยูก็แผ่การรับรู้ออกไป ไม่กี่อึดใจเขาก็พบกับคน
ที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวน
ทั้งเมืองนี้มีคนที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือเพื่อนของอู่ฉิง
ฉวน นอกจากเขาแล้วจะเป็นใครไปได้?
“ไปดูกัน” เมื่อพูดจบร่างของจางหยูก็หายไป
เขาเคลื่อนย้ายมาถึงบ้านนั้น การที่คิดแล้วเดินทางมาถึงจุดหมายได้ทันที
ทำให้จางหยูชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่ประตูบ้านนั้น อู่ฉิงฉวนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “คนระดับสูงสุดหายไป
อย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ได้รึ ?”
อู่ฉิงฉวนถอนหายใจออกมา และรีบเดินทางออกไปด้านนอกสำนักทันที
….
“ใครกัน !” ทันใดนั้นรูม่านตาของชายที่นอนอยู่บนเตียงก็หดเล็กลง สายตา
ของเขามองไปที่ร่างหนึ่งที่เข้ามาในห้อง
จางหยูไม่ได้ตอบคำถาม แต่แผ่การรับรู้ออกไปเพื่อตรวจสอบอาการ
บาดเจ็บของชายคนนี้ หลังจากที่เห็นอาการบาดเจ็บของชายวัยกลางคน
จางหยูก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “บาดเจ็บขนาดนี้เลยรึ ?”
เส้นชีพจร, ตันเถียน, อวัยวะภายใน…..ร่างกายของชายคนนี้แทบไม่มีจุด
ดี แม้ว่าภายนอกจะดูไม่ผิดปกติอะไร แต่ภายในร่างกายนั้นเน่าเปื่อย การ
ที่มีชีวิตอยู่ตอนนี้ได้ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์
พลังชีวิตของพวกขอบเขตตุ้นซวนนี่ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !
หากเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป อาการบาดเจ็บแบบนี้คงทำให้ตายไปนานแล้ว
บางทีแม้แต่หญ้าบนหลุมศพอาจจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าจางหยูมองข้ามตน ชายวัยกลางคนก็ถามขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
“เจ้าเป็นใครกัน ?”
เขามองไปที่จางหยูด้วยสายตาอิจฉา แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ แต่สายตาของ
เขายังดีอยู่ จางหยูปรากฏตัวออกมาตอนไหนนั้น เขามองไม่ทันจริง ๆ
“ท่านไม่ต้องกังวลไป” จางหยูหันกลับไปมองอีกฝ่าย “ท่านคือ…เพื่อน
ของท่านอู่สินะ? เขาขอให้ข้ามารักษาอาการบาดเจ็บของท่าน ท่านเรียก
ข้าว่า….เจ้าสำนักก็ได้”
เจ้าสำนัก สุดท้ายก็กลายเป็นคำเรียกของเขา
ชายวัยกลางคนได้สติทันที และพูดขึ้น “ท่านเป็นเจ้าสำนักของสำนักคัง
เฉียงรึ ?”
ระหว่างที่เดินทางมา เขาได้ยินอู่ฉิงฉวนพูดเรื่องนี้หลายรอบ เจ้าสำนัก
คือตัวตนที่น่าเหลือเชื่อและแข็งแกร่ง เขาอาจจะเหนือกว่าขอบเขตตุ้น
ซวน แม้แต่ราชาสัตว์อสูรก็ยังไม่ใช่คู่มือของเขา
อู่ฉิงฉวนเคยย้ำกับเขาหลายครั้งว่า หากเจอกับเจ้าสำนัก ต้องเคารพและ
อย่าทำให้เจ้าสำนักไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่าจางหยูจะแข็งแกร่ง
เหนือว่าขอบเขตตุ้นซวน แต่แน่นอนว่าจางหยูแข็งแกร่งกว่าเขา
ยังไงซะอู่ฉิงฉวนก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกเขา ทำไมอู่ฉิงฉวนต้อง
โกหกเขาที่กำลังจะตายอยู่แล้วด้วย ?
จางหยูแปลกใจขึ้นมา”ท่านรู้จักข้าด้วยรึ ?”
ดูเหมือนว่าอู่ฉิงฉวนจะบอกเล่าข้อมูลต่าง ๆ ให้อีกฝ่ายฟังมาก่อน
“นั่น…คือการเคลื่อนย้ายในพริบตารึ ?” ชายวัยกลางคนกลืนน้ำลาย
นอกจากการเคลื่อนย้ายแล้วเขาไม่อาจจะคิดถึงอย่างอื่นได้
ตอนนี้เองเขาได้เชื่อคำพูดของอู่ฉิงฉวนแบบสนิทใจ เจ้าสำนักผู้นี้คือคน
ระดับสูงสุดในหมู่พวกระดับสูงสุด !
เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก การที่ได้พบกับจางหยูถือว่าเป็นโชคดีของเขา
ชีวิตนี้เขาคุ้มค่าแล้ว !
จางหยูยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่ต้องมากพิธีก็ได้”
จางหยูเงียบไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา “เอาล่ะ เลิกไร้สาระ เรามาเริ่ม
การรักษากัน”
ชายวัยกลางคนตะลึง และถามขึ้นมา “ผู้อาวุโส ผู้น้อยต้องเตรียมอะไร
หรือไม่ ?”
แม้ว่าจางหยูจะดูอายุแค่ 20 ปี แต่ผู้บ่มเพาะนั้นไม่อาจจะตัดสินกันจาก
ภายนอกได้ ด้วยความแข็งแกร่งและท่าทางภูมิฐาน ดังนั้นการเรียกจางหยู
ว่าผู้อาวุโส จึงเป็นเรื่องที่สมควร
“เตรียม? ท่านควรนอนลงก่อน” จางหยูพูดขึ้น
ชายวัยกลางคนนอนลงไปราวกับเด็กน้อยที่ว่าง่าย จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา
“จากนั้นล่ะ ?”
จางหยูพูดขึ้น “จากนั้นก็หลับตาลง”
ชายวัยกลางคนรีบทำตามทันที แต่ในใจเขาสับสนขึ้นมานิด ๆ นี่คือการ
เตรียมตัวรึ ?
แค่นอนลงแล้วหลับตาแค่นี้น่ะรึ ?
จางหยูปล่อยอาณาเขตของตนออกมา และหลิงชี่ธาตุไม้นับไม่ถ้วนใน
เมืองก็ถูกจางหยูควบคุมให้อัดแน่น กลายเป็นบอลธาตุ
อาณาเขตของจางหยูในตอนนี้ ขนาดเท่าไหร่กัน ?
มันมีหลิงชี่มากมายในอาณาเขตของเขา ด้วยอาณาเขตที่กว้างขวางขนาด
นี้ หลิงชี่ธาตุไม้จะมากขนาดไหน ?
แม้ว่าบอลธาตุไม้บนฝ่ามือเขาจะเล็กมาก แต่ปริมาณหลิงชี่ธาตุไม้ที่อยู่
ในนั้นก็มากกว่าที่อยู่ในบ้านเล็ก ๆ หลังนี้สักสิบหรือร้อยเท่า!
โอกาสมีชีวิตต่อ ราวกับว่าแค่สูดหายใจเข้าไป ก็สามารถผ่านพ้นความ
ตายไปได้ !
บอลธาตุไม้เหมือนจะเป็นแบบนั้น
“รักษา !” จางหยูควบคุมบอลธาตุไม้ให้เคลื่อนที่ไปยังตัวชายวัยกลางคน
นี่คือการรักษาของจางหยู เรียบง่ายตรง ๆ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน !
จากนั้นบอลธาตุไม้ก็ได้จมเข้าไปในตัวชายวัยกลางคน อาการบาดเจ็บ
ของเขานั้น…..
เดี๋ยวนะ เขาบาดเจ็บรึ ?
หน้าของชายวัยกลางคนแดงขึ้นมา จิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นไปจนถึง
ขีดสุด พลังในตัวเขาระเบิดออกมาจากนั้นก็แผ่ออกมารอบตัว อวัยวะ
ภายใน, เส้นชีพจรและตันเถียนต่างก็ได้รับการฟื้นฟู คนที่ไม่รู้ จะไม่มี
ทางคิดว่าเขาบาดเจ็บและอยู่ในสภาพปางตาย
บึ้มมม!
แค่ไม่กี่อึดใจพลังที่เกินกว่าจะควบคุมได้ก็ระเบิดออกมา ทั้งเมืองตก
ตะลึงกับการระเบิดพลังในครั้งนี้ ทุกคนต่างก็หันมามองยังทิศทางที่เกิด
การระเบิดขึ้น
ไม่นานมานี้เกิดอะไรขึ้นที่เมืองทะเลทรายกัน ?
ทำไมถึงมักจะมีพวกผู้แข็งแกร่งโผล่มาเสมอ ?
ตอนที่พลังของชายวัยกลางคนระเบิดออกมา ก็มีร่างหนึ่งโผล่ขึ้นมาที่
นอกบ้าน เมื่อเขาโดนพลังนี้ปะทะเข้า เขาก็กระเด็นออกไปชนกับกำแพง
จนทะลุออกไปเป็นรู
ปัง !
ร่างนั้นอัดกับพื้นอย่างแรง จนสร้างหลุมใหญ่ขึ้นมา
“แค่ก แค่ก แค่ก” ร่างนั้นถุยเอาดินที่อยู่ในปากออกมา จากนั้นก็บินไปที่
บ้านด้วยสีหน้าว่างเปล่า
ชายวัยกลางคนที่อยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมาด้วยความตะลึง “ข้า ข้าหายดี
แล้วรึ ?”
อาการบาดเจ็บที่ทรมานเขามานาน บาดแผลที่ทำให้เขาเกือบก้าวเข้าไปสู่
ความตายคืนแล้วคืนเล่า ในพริบตากลับหายดีแล้วรึ ?
ชายวัยกลางคนเบิกตากว้างไม่อาจจะเชื่อเรื่องนี้ได้ !
เขากำหมัดแน่น และรับรู้ถึงพลังที่ครั้งหนึ่งเคยมี กลับมาสู่ร่างกายเขา !
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตรวจสอบร่างกาย, เส้นชีพจร, อวัยวะภายในและ
ตันเถียน ทุกอย่างอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ชนิดที่ไม่อาจจะดีไปกว่านี้ได้
มันทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อ ราวกับว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ ต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่
ยาขั้นที่ 6 ก็ไม่อาจจะรักษาเขาได้ เขาต้องพักผ่อนอยู่นานกว่าจะดีขึ้นมา
เล็กน้อย แต่จางหยูไม่รู้ใช้วิธีไหน ถึงกับทำให้อาการบาดเจ็บเหล่านั้น
หายไปในทันที และผลของมันก็ดีกว่ายาขั้นที่ 6 เป็นร้อยเท่า
“ซู่เหยียน เจ้าทำบ้าอะไร !”
ด้านนอกบ้าน อู่ฉิงฉวนรีบวิ่งเข้ามา ใบหน้าของเขาหม่นราวกับก้นหม้อ
ไหม้ “ข้าใจดีพาเจ้ามาที่นี่ และขอให้เจ้าสำนักช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับ…”
ซู่เหยียนคือชื่อของชายวัยกลางคนที่อยู่บนเตียง
ซู่เหยียนได้สติกลับมาจากความตะลึง เขาไม่ได้สนใจอู่ฉิงฉวน เขาลุก
ขึ้นจากเตียงแล้วคำนับให้กับจางหยู “ผู้น้อยซู่เหยียน ขอบคุณเจ้าสำนัก!”
อู่ฉิงฉวนได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตะลึงออกมา “อาการบาดเจ็บของ
เจ้าล่ะ?”
จากบ้านพักในสำนักมาถึงที่นี่ เขาใช้เวลาแค่สิบอึดใจ เวลาที่น้อยนิด
แบบนี้ แต่ซู่เหยียนกลับหายดีแล้วรึ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า นี่เขาหายดี
จริง ๆ หรือแกล้งทำกันแน่ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก