ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 343

ตอนที่ 343 สวนสวรรค์
จางหยูไม่ได้แปลกใจกับผลอันน่าทึ่งของบอลธาตุ บอลธาตุนี้สามารถ
รักษาได้แม้กระทั่งวิญญาณที่บาดเจ็บของโอวเสินเฟิง นี่ไม่ต้องพูดถึงซู่
เหยียนเลย
จางหยูยิ้มให้กับซู่เหยียน “ข้าช่วยท่านเพราะท่านอู่ขอมา หากต้องการจะ
ขอบคุณ ท่านก็ควรขอบคุณท่านอู่”
“น้องอู่” ซู่เหยียนดูเด็กกว่าอู่ฉิงฉวนอย่างมาก แต่อายุที่แท้จริงของเขานั้น
มากกว่าอู่ฉิงฉวน เขาหันไปหาอู่ฉิงฉวนที่กำลังสับสนและพูดขึ้นมาด้วย
สีหน้าเคร่งขรึม
“บุญคุณที่เจ้าช่วยข้า ข้าจะจดจำไว้ให้ขึ้นใจ หากมีอะไรที่เจ้าต้องการใน
อนาคต พี่ชายคนนี้จะช่วยเจ้าหามาอย่างไม่มีข้อแม้เลยแม้แต่น้อย”
หลังจากที่ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ ซู่เหยียนก็รู้สึกว่าโลกนี้อบอุ่นมากแค่ไหน
เขารู้สึกหวงแหนความสัมพันธ์นี้ เขามีเพื่อนมากมาย และเขาก็ช่วยคน
มามากมาย แต่เมื่อคนเหล่านั้นรู้ว่าเขาบาดเจ็บหนัก ก็มีเพียงไม่กี่คนที่มา
เยี่ยมเขา ไม่มีใครต้องการช่วยเขาเลย มีแค่อู่ฉิงฉวนที่กล้าท้าความตาย
เผชิญหน้ากับอันตรายต่าง ๆ มายังเมืองทะเลทรายเพื่อตามหาหน่อไม้
โลหิต เพื่อทำอาหารเก้าชีวิตรักษาเขา
ใครที่เป็นมิตรแท้ ใครที่เป็นมิตรเทียม ซู่เหยียนเห็นได้อย่างชัดเจน
“ฮ่าฮ่า อย่าไปคิดมากเลย เจ้าพูดแบบนี้ข้าไม่ชินเท่าไหร่” อู่ฉิงฉวนทำลาย
บรรยากาศด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว เขามองไปที่ซู่เหยียนและพูด
ขึ้นมา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะหายดีแล้ว ฮ่าฮ่า ข้าบอกแล้ว หากเจ้าสำนักลง
มือด้วยตัวเอง มีอะไรบ้างที่ท่านทำไม่ได้ ?”
จางหยูส่ายหน้า “ข้าไม่ใช่เทพเซียน ข้าไม่ใช่พระเจ้า อย่างน้อยก็มีสิ่งหนึ่ง
ที่ข้าทำไม่ได้”
อู่ฉิงฉวนเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าสับสน “อะไรกัน ?”
“ให้กำเนิดเด็ก” จางหยูเตรียมคำนี้มานานแล้ว
อู่ฉิงฉวน “…..”
ซู่เหยียน “…..”
หลังจากที่เล่นมุขไปแล้ว จางหยูก็ยิ้มก่อนจะแสดงสีหน้าจริงจังออกมา
“ท่านอู่ ตอนนี้เพื่อนของท่านหายดีแล้ว ท่านจะทำอาหารให้กับสำนักคัง
เฉียงอีกหรือไม่ ?” โหวเทียนหมางเองก็เป็นปรมาจารย์กำหนดอาหาร 5
ดาว แต่อาหารที่เขาทำนั้นด้อยกว่าอู่ฉิงฉวน ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของ
จางหยู
แม้ว่าอู่ฉิงฉวนจะขอลาไปเพียงไม่กี่วัน แต่จางหยูก็เริ่มคิดถึงอาหารที่อู่
ฉิงฉวนทำ เมื่อไม่มีอาหารเผ็ดร้อน มันก็ไม่มีวิญญาณในอาหาร !
“เจ้าสำนักสบายใจได้ อีกไม่ช้าข้าจะกลับมาเพื่อทำอาหารอย่างจริงจัง !”
อู่ฉิงฉวนตอบกลับด้วยความเคารพ
จางหยูพยักหน้าและมองไปที่ซู่เหยียน
จางหยูยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ซู่เหยียนสินะ? ข้าสงสัยว่าท่านอยากจะเข้า
ร่วมสำนักคังเฉียงด้วยหรือไม่ ?”
การรับคนแข็งแกร่งเข้าร่วมสำนักคังเฉียง เหมือนจะเป็นงานอดิเรกของ
จางหยูไปแล้ว แม้ว่าระบบจะไม่ได้ส่งภารกิจมาให้ แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อเลย
เมื่อเทียบกับพวกระดับสูงแล้ว ซู่เหยียนอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ใน
สายตาของคนทั่วไปแล้ว พวกขอบเขตตุ้นซวนก็ถือว่าแข็งแกร่งอยู่ดี
ในทวีปป่ าแห่งนี้ จำนวนผู้บ่มเพาะมีมากมายเทียบเท่ากับดวงดาว แต่
พวกขอบเขตตุ้นซวนนั้นมีนับนิ้วได้ แต่ละคนมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ไปอยู่
ในสมาคมนักปรุงยา ก็ยังมีฐานะสูงส่งอยู่ดี
แม้ว่าซู่เหยียนจะอยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นต่ำ แต่ในสายตาของคนทั่วไปแล้ว
เขาคือเทพ มันน่าเสียดายที่จะไม่รับคนแบบนี้เข้าร่วมสำนักคังเฉียง !
“โฮสต์เปิดภารกิจรองที่ 7 : กลุ่มอาจารย์”
ระบบโผล่มาแบบที่คาดเอาไว้
***
ภารกิจรองที่ 7 : กลุ่มอาจารย์ (รับผู้ที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนหรือเหนือกว่า
10 คนเข้าร่วมสำนัก ความก้าวหน้า 1/10)
มีแค่สำนักที่แข็งแกร่งที่จะสามารถสั่งสอนศิษย์ให้ดีได้ และกระตุ้น
พรสวรรค์ของศิษย์ อาจารย์มีหน้าที่รับผิดชอบสั่งสอนศิษย์และพัฒนา
สำนัก ผู้ที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มผู้บ่มเพาะ
และถือว่าเป็นอาจารย์ได้ดีที่สุด มีแค่อาจารย์ขอบเขตตุ้นซวนเท่านั้น ที่
สามารถแสดงบทบาทของสำนักได้
รางวัล : สวนสวรรค์
เวลาจำกัด : 1 ปี
บทลงโทษ : ไม่มี
****
จางหยูเลิกคิ้วทันที “พวกขอบเขตตุ้นซวนหรือเหนือกว่า 10 คนงั้นรึ ?”
ทวีปป่ าแห่งนี้ มีพวกขอบเขตตุ้นซวนอยู่สักกี่คนกัน ?
ส่วนมากพวกเขาก็เข้าร่วมกับกองกำลังใหญ่ไปแล้ว และบางคนก็เป็นถึง
หัวหน้าของกองกำลังใหญ่ด้วย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมพวกขอบเขต
ตุ้นซวนถึง 10 คน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเวลาที่จำกัดแค่เพียง 1 ปี หากมัน
เกินเวลาก็เท่ากับล้มเหลว
“นอกซะจากว่าจะไปดึงคนจากสมาคม ไม่อย่างนั้นภารกิจนี้ก็ไม่อาจจะ
สำเร็จได้” จางหยูส่ายหน้า
“แต่หากข้าทำได้ อีกไม่ช้าก็ต้องเปิ ดเผยตัวเอง….” ตอนที่จางหยูครุ่นคิด
อยู่นั้น ซู่เหยียนก็ได้มองไปที่อู่ฉิงฉวน
แม้ว่าเขาจะได้ยินเรื่องสำนักคังเฉียงและเจ้าสำนักมาจากอู่ฉิงฉวนแล้ว
แต่มันก็ยังถือว่าน้อยนิด ด้วยความเชื่อใจที่มีให้กับอู่ฉิงฉวน เขาหวังว่าอู่
ฉิงฉวนจะตัดสินใจแทนเขาได้
เขาเชื่อว่าอู่ฉิงฉวนจะไม่คิดร้ายต่อเขา !
อู่ฉิงฉวนพยักหน้าให้เล็กน้อย บ่งบอกว่าให้ซู่เหยียนตกลงเข้าร่วมสำนัก
คังเฉียง แน่นอนว่ามันถือว่าเป็นโชคสำหรับซู่เหยียน แม้ว่าผู้คนมากมาย
จะต้องการเข้าร่วมสำนักคังเฉียง แต่จางหยูคงไม่ตกลง
เมื่อเห็นว่าอู่ฉิงฉวนพยักหน้า ซู่เหยียนก็ได้สติขึ้นมา “ขอบคุณมากสำหรับ
คำเชิญ ผู้น้อยเต็มใจจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียง !”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็ได้สติและยิ้มออกมา “ท่านฉลาดมาก”
ใช่ ทุกคนที่เข้าร่วมสำนักคังเฉียงถือว่าเป็นคนฉลาด อย่างน้อยก็ใน
ความเห็นของจางหยู พวกนี้ฉลาดจริง ๆ
“ลงชื่อของท่านซะ” จางหยูเอาสัญญานภาออกมาโดยไม่ได้อธิบายอะไร
ซู่เหยียนไม่ได้ถามอะไรมาก เขารีบลงชื่อลงไปทันที
ทันใดนั้นเองความก้าวหน้าของภารกิจก็เพิ่มขึ้นเป็น 2/10
ราชาสัตว์อสูร — กูเฉิน…ไม่สิตอนนี้เขาชื่อเฉินกูแล้ว เฉินกูกับซู่เหยียน
คือพวกระดับสูงในโลก ตอนนี้สำนักคังเฉียงมีอาจารย์ขอบเขตตุ้นซวนถึง
สองคน ซึ่งนั่นทำให้จางหยูมีหวังที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ บางทีหากหา
ทางอื่นได้ เขาอาจจะรวบรวมพวกขอบเขตตุ้นซวนได้ถึง 10 คนจริง ๆ ก็ได้
จางหยูเก็บสัญญาและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ท่านซู่ จากนี้ไปท่านถือว่า
เป็นอาจารย์ของสำนักคังเฉียงแล้ว”
“ผู้น้อยจะรับฟังคำสั่งจากผู้อาวุโส” ซู่เหยียนตอบกลับด้วยความเคารพ
เขาไม่ได้สนใจว่าเขาจะได้ตำแหน่งอะไร ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือภารโรง
ก็ตาม
อู่ฉิงฉวนคิ้วขมวด และมองไปที่จางหยูด้วยสายตาประหลาดใจ
“ท่านอู่ ท่านมีอะไรก็พูดมา”
“เจ้าสำนัก ไม่ใช่ว่ามีคนสอนในชั้นเรียนมนุษย์แล้วรึ? หากซู่เหยียนไป
สอน แล้วอาจารย์โอวล่ะ ?” อู่ฉิงฉวนถามขึ้นมาด้วยความกังวล
จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า สบายใจได้ ข้าคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว ท่าน
ซู่จะสอนวิชาทั่วไป และอาจารย์โอวจะสอนเรื่องการหลอม”
“การหลอม ?” อู่ฉิงฉวนสับสนขึ้นมานิด ๆ สำนักคังเฉียงมีชั้นเรียนการ
หลอมด้วยรึ ?
“ใช่ ในอนาคตไม่นานนี้ ชั้นเรียนสัตว์อสูรกับชั้นเรียนบ่มเพาะจะมีการ
แบ่งห้องกัน ชั้นเรียนสัตว์อสูรจะแบ่งเป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิกับสัตว์อสูร
ทั่วไป ชั้นเรียนสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิจะรับแค่สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ชั้นเรียน
สัตว์อสูรทั่วไปก็จะรับแค่สัตว์อสูรทั่วไป ชั้นเรียนสัตว์อสูรจะรับพวกที่
มีสายเลือดทั่วไปเข้ามาด้วย” จางหยูยิ้มและอธิบาย
“ส่วนชั้นเรียนมนุษย์จะแบ่งเป็นการบ่มเพาะ, ปรุงยา, นักหลอม, วางค่าย
กล, ภาพลวงตา,และอื่น ๆ ทุกชั้นเรียนจะมีอาจารย์อย่างน้อย 1 คนและ
ผู้ช่วยสอนอีก 1 คน แน่นอนว่านี่แค่ความคิดแรกเริ่ม หลังจากที่พัฒนา
ไปได้ระดับหนึ่งแล้วถึงจะทำการแบ่งชั้นเรียน ระหว่างนี้ ท่านซู่จะได้
พักชั่วคราว เขาสามารถปรึกษากับอาจารย์โอวได้ หลังจากที่แบ่งชั้น
เรียนแล้วเขาจะได้เริ่มสอนทันที”
ในอีกความหมายก็คือตอนนี้โอวเสินเฟิงก็ยังคงทำการสอนต่อไป
อู่ฉิงฉวนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาไม่ได้ต้องการแนะนำซู่
เหยียนเข้าร่วมสำนักคังเฉียง เพื่อแย่งตำแหน่งจากโอวเสินเฟิง
“ท่านมีคำถามอื่นหรือไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
อู่ฉิงฉวนส่ายหน้า ตราบใดที่โอวเสินเฟิงกับซู่เหยียนไม่ได้ขัดแย้งกัน
เขาก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ซู่เหยียนเพิ่งจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียง เลยได้แต่รับฟัง แม้ว่าจะมีข้อสงสัย
มากมายในใจ แต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อนถามออกมา
“งั้นก็ดี ท่านอู่ ท่านพาอาจารย์ซู่ไปยังสำนักด้วย” จางหยูบอกกับอู่ฉิงฉวน
“ได้” อู่ฉิงฉวนโค้งให้ด้วยความเคารพ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่า
จางหยูได้หายไปแล้ว
อู่ฉิงฉวนพูดขึ้นด้วยท่าทีหมดหนทาง “เจ้าสำนักยิ่งทำเกินไปเรื่อย ๆ”
เขาไม่รู้เลยว่าจางหยูกลับไปตอนไหน และไม่รู้ว่าจางหยูกลับไปได้ยังไง
แต่ยิ่งจางหยูดูลึกลับเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าจางหยูไร้เทียมทานมากเท่านั้น
และยิ่งทำให้จางหยูยิ่งใหญ่ขึ้นไปด้วย
อู่ฉิงฉวนหันกลับมามองที่ซู่เหยียน ซึ่งแสดงสีหน้าสับสนรวมถึงสายตา
อิจฉา เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “โอ้ซู่เหยียน อย่าคิดตรวจสอบขอบเขต
ของเจ้าสำนักเลย มันมีแต่จะทำให้เจ้าอิจฉาตาย” เขาตบไหล่ซู่เหยียน
“ไปกันเถอะ กลับไปที่สำนักคังเฉียง”
….
จางหยูกลับมานั่งที่เก้าอี้หินที่สวนหลังบ้าน
“ระบบ สวนสวรรค์คืออะไรกัน ?” จางหยูพยายามจะเรียกระบบ แต่เขา
ก็ไม่คิดว่าระบบจะตอบกลับมา เขาชินกับความเย็นชาของระบบแล้ว
อันที่จริง…ระบบน่ะเย็นชาอย่างมาก มันไม่เคยตอบรับเสียงเรียกของ
จางหยูเลย
จางหยูไม่ได้ผิดหวัง เขามองไปที่ภารกิจและครุ่นคิด “สวนสวรรค์ มัน
หมายความว่าอะไร ?”
หากมันมีความหมายตรงตัว มันก็พอเข้าใจได้ สิ่งที่เรียกว่าสวนสวรรค์
หมายถึงที่อยู่ของเทพ หรือสถานที่ที่สวยงาม รางวัลนี้ชัดแล้วว่าต้องไม่
ธรรมดา สวนสวรรค์ของระบบไม่อาจจะเป็นที่พักที่สวย แต่ต้องมี
ความหมายอย่างอื่นอยู่
“หรือว่าจะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยหลิงชี่งั้นรึ?” จางหยูคิด
“หรือจะให้ภูเขาเป็นรางวัลกับข้ารึ ? ที่ดิน ? รางวัลอะไรกัน ? บอกข้าที
ว่ามันอยู่ที่ไหน ? หรือว่าจะยกภูเขาทั้งลูกมาที่นี่ ?”
ยิ่งเขาคิดเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสับสนเท่านั้น “ช่างเถะ คิดไปก็รกสมอง !”
แทนที่จะเดาสุ่ม มันจะดีกว่าถ้าหาทางทำภารกิจให้สำเร็จ และเมื่อได้
รางวัลมา เขาก็จะรู้เองว่ามันคืออะไร มันไม่ยากที่จะรับอาจารย์ขอบเขต
ตุ้นซวนหรือเหนือกว่า 10 คน !
“ไม่อาจหมายตาแค่มนุษย์ ไม่งั้นแล้วภารกิจนี้ไม่มีทางเสร็จแน่” จางหยู
แผ่การรับรู้ไปมองเมืองทะเลทราย
“ดูเหมือนว่า…ต้องขอความช่วยเหลือจากเฉินกู! มันต้องมีพวกสัตว์อสูร
ขอบเขตตุ้นซวนอยู่ไม่ใช่รึไง ?”
เฉินกูที่กำลังทำการสอนอยู่ด้วยความเคร่งเครียดที่ป่ าหวงหยวน อยู่ ๆ ก็
จามออกมา “แปลก ข้าขึ้นมาถึงระดับสูงสุดมาหลายปี แต่ทำไมข้าถึงยัง
จามได้ ….”
เขาไม่รู้เลยว่าเจ้าสำนักกำลังคิดแผนอะไรกับเขาอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก