ตอนที่ 344 อุดมการณ์
จางหยูมักจะลงมือทำทันที เขาไม่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง เมื่อมีแผนการ
ในใจแล้วเขาก็เข้าไปในป่ าหวงหยวนทันที เขาทำการเคลื่อนย้ายติดต่อ
กัน 6 ครั้ง ที่เขารอยต่อระหว่างเขตลึกกับเขตมืด จางหยูก็ได้พบกับกูเฉิน
ที่กำลังทำการสั่งสอนเหล่าสัตว์อสูรอยู่
เมื่อเห็นจางหยูกูเฉินก็ทำการหยุดสอนและคิ้วขมวดเล็กน้อย “เขามาได้
ยังไงกัน ?”
“ท่านเฉินกู” ไป่ หลิงสงสัยขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้นกัน ?”
ตั้งแต่ที่รู้ว่ากูเฉินนั้นคือเฉินกู ศิษย์สัตว์อสูรก็ไม่เคยเรียกเขาว่าอาจารย์
อีกเลย แต่กลับเรียกว่าท่านเฉินกูแทน
มังกรแดงและสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ต่างก็มองไปที่เฉินกูด้วยความสับสน
ก่อนที่เฉินกูจะได้ทำอะไร ร่างของจางหยูก็ได้โผล่มาในห้องโถงน้ำแข็ง
และยิ้มให้กับทุกคน
“เจ้าสำนัก !” ไป่ หลิง, มังกรแดงและสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ พากันลุกขึ้นยืน
และโค้งให้กับจางหยู
จางหยูโบกมือและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้าเองที่มารบกวน
การเรียนของพวกเจ้า”
กูเฉินหรี่ตาลงและถามออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด”เจ้าสำนักมีเรื่อง
อะไรกัน ?”
“มีเรื่องบางอย่างที่น่ากังวลอยู่บ้าง ถ้าข้าต้องเล่า ข้าไม่อยากให้คนอื่น ๆ
ได้ยินไปด้วย” จางหยูคิดมาก หลังจากที่มองไปที่เหล่าสัตว์อสูรจางหยูก็
พูดขึ้นมา “เปลี่ยนที่กันดีกว่า”
ร่างของจางหยูไปปรากฏที่ภูเขาสูงที่สุดในเขตลึกทันที
กูเฉินลังเลขึ้นมาและบอกกับเหล่าสัตว์อสูร “วันนี้พวกเจ้ากลับไปก่อน”
กูเฉินเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะบอกกับอินทรีย์หิมะ “อินทรีย์หิมะ เจ้าพา
พวกเขากลับไปก่อน”
แม้ว่าจะสงสัยกับการมาของจางหยู แต่เหล่าสัตว์อสูรก็ยังคงฟังคำสั่งของ
กูเฉิน และกลับไปยังสำนักคังเฉียง ไม่นานการรับรู้ของกูเฉินก็แผ่ออกมา
และรับรู้ได้ถึงตำแหน่งของจางหยู เขาได้ทำการเคลื่อนย้ายไปหาจางหยู
ทันที
“อาจารย์กู…” จางหยูพูดขึ้น
“จากนี้เจ้าสำนักควรเรียกข้าว่าเฉินกูจะดีกว่า” กูเฉินไม่สิเฉินกู แม้ว่าชื่อ
นี้จางหยูจะตั้งให้ แต่เขาก็ชอบมันอย่างมาก
“หากข้าเดาไม่ผิด ชื่อนี้เจ้าสำนักคงตั้งให้สินะ ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็หัวเราะออกมา”ท่านชอบรึไม่ ?”
“ขอบคุณเจ้าสำนัก !” เฉินกูเงียบไปและเริ่มแสดงท่าทีจริงจังออกมา
จางหยูเข้าใจได้ทันทีว่า ทำไมเฉินกูถึงต้องการจะขอบคุณเขา แม้ว่า
เป้าหมายของเขาคือการทำภารกิจให้สำเร็จ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขา
ได้ช่วยเฉินกูแก้ปมในใจที่ติดค้างมากว่าแปดพันปี
เฉินกูเผยรอยยิ้มออกมา “ยังไงซะ อาจารย์เฉินก็ฟังดูดีกว่าอาจารย์กู”
“อาจารย์เฉิน ข้ามาหาท่านที่นี่เพราะมีเรื่องต้องขอให้ท่านช่วย” จางหยู
เห็นว่าเฉินกูเปลี่ยนสีหน้าไปก็ต้องรีบพูดขึ้นมา “อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้
จะให้ท่านไปยังเขตหวงห้าม”
เฉินกูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาลังเลและถามขึ้นมา “เจ้า
สำนักต้องการให้ข้าทำอะไรกัน ?”
“สำนักคังเฉียงก่อตั้งมานานแล้ว และขนาดสำนักก็ไม่ได้พัฒนาไปตาม
ชื่อเสียง ดังนั้นข้าจึงวางแผนจะขยายสำนัก!” จางหยูพูดจาด้วยท่าทีมีเหตุผล
“หลังจากที่ขยายสำนักแล้ว ชั้นเรียนสัตว์อสูรจะแบ่งเป็นชั้นเรียนสัตว์
อสูรศักด์ิสิทธ์ิ กับชั้นเรียนสัตว์อสูรทั่วไป ชั้นเรียนของมนุษย์จะแบ่งเป็น
การปรุงยา, การหลอมและอื่น ๆ เมื่อทุกอย่างเข้าที่ ข้าจะเริ่มรับศิษย์เข้า
มาจำนวนมาก”
เฉินกูตั้งใจฟังโดยไม่ค้านออกมาแม้แต่น้อย
“ข้าคิดว่าสำนักคังเฉียงไม่ได้ขาดชื่อเสียงและทักษะบ่มเพาะ ตึกเรียนก็
สามารถสร้างขึ้นมาได้ สำหรับศิษย์แล้วไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ด้วย
ชื่อเสียงของสำนักในตอนนี้แล้ว มีคนมากมายต้องการจะขอเข้าร่วม”
จางหยูพูดขึ้น เมื่อพูดถึงจุดนี้เขาก็หยุดและมองไปที่เฉินกู
“แต่…สำนักคังเฉียงขาดอาจารย์ เมื่อไม่มีอาจารย์เพียงพอ สำนักคังเฉียง
ก็ไม่อาจจะพัฒนาขึ้นมาได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉินกูก็สงสัยขึ้นมา “แต่ข้าได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้
สำนักคังเฉียงเหมือนจะรับกลุ่มพวกขอบเขตหลี่ซวนเข้ามาไม่ใช่รึ ?”
ด้วยความสงสัยในตัวจางหยู เฉินกูจึงถามจากไป่หลิงและสัตว์อสูรตัว
อื่น ๆ แม้ว่าเขาจะเคยไปที่สำนักคังเฉียงเพียงครั้งเดียว แต่เขาก็รู้ข้อมูล
มากมาย
“ใช่ ข้าเพิ่งรับพวกนั้นเข้ามา” จางหยูพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “แต่พวกเขาเป็น
ได้แค่ผู้ช่วย…หากต้องการเป็นอาจารย์ของสำนักคังเฉียง แค่ขอบเขต
หลี่ซวนไม่เพียงพอ”
เขามองไปที่เฉินกูด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและพูดขึ้นมา “ที่นี่ไม่มีคนนอก
ข้าจะบอกความจริงกับท่าน อุดมการณ์ของข้าคือทำให้สำนักคังเฉียง คือ
สำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งในอดีตและปัจจุบัน ข้าต้องการกำจัดช่องว่าง
ระหว่างมนุษย์กับสัตว์อสูรและแม้แต่เผ่ามังกรก็ด้วย ข้าจะรับอาจารย์ที่
แข็งแกร่งที่สุด และศิษย์ที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะโดดเด่นที่สุด
ดังนั้นสำนักคังเฉียงจะกลายเป็นดินแดนศักด์ิสิทธ์ิของทุกเผ่าพันธุ์….”
“ข้าต้องการทำให้สำนักคังเฉียงมีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะผ่านไปอีก
สักหมื่นปี แต่มันก็จะเป็นดินแดนศักด์ิสิทธ์ิอยู่!”
“ข้าต้องการให้ศิษย์สำนักคังเฉียงเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นของทวีปป่ า เป็น
กลุ่มผู้แข็งแกร่ง !”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเฉินกูก็ต้องตะลึง เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจางหยูจะมี
ความคิดบ้า ๆ แบบนี้ได้ !
“ท่านไม่เชื่อรึ ?” จางหยูมองไปที่เฉินกู
เฉินกูส่ายหน้า “ข้าเชื่อ… แต่เจ้าสำนัก อุดมการณ์ของท่าน….มันไม่ใช่
ง่าย ๆ ท่านเคยคิดหรือไม่ว่า แม้ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะทำได้”
เขายอมรับว่าจางหยูแข็งแกร่งอย่างมาก แต่เรื่องแบบนี้ หากไม่แข็งแกร่ง
มากพอก็ไม่อาจจะทำสำเร็จ
เป้ยหลงเมื่อแปดพันปีก่อนไม่แข็งแกร่งหรือไง ?
สำนักที่เป้ยหลงสร้างขึ้นมาในอดีต ตอนนี้ตกต่ำลงแล้ว แม้ว่าจะเป็น
สำนัก 6 ดาว แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าสำนัก 6 ดาวอื่น ๆ เลย
“บางอย่างไม่ลองก็ไม่รู้ไม่ใช่รึ ?” จางหยูยิ้มออกมา
“ผู้คนมักจะมีความฝัน หากไม่มีฝันเราจะต่างอะไรไปจากปลากัน?” จางหยู
ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาติดนิสัยหว่านล้อมผู้คน “เรื่องนี้ข้ามั่นใจ”
“งั้นรึ?” เฉินกูมองไปที่จางหยูด้วยความสงสัย
“มันจะเชื่อได้หรือไม่นั้น อนาคตจะพิสูจน์ทุกอย่าง ข้าแค่ต้องการถาม
ท่านว่าท่านจะช่วยข้าได้หรือไม่?” จางหยูไม่มีทางเปิดเผยตัวตนของ
ระบบออกมา ด้วยความช่วยเหลือจากระบบ มันไม่มีอะไรในโลกที่
เป็นไปไม่ได้ แม้แต่การบ่มเพาะของบังสวรรค์ก็สามารถเกิดขึ้นมาได้
แล้วการสร้างสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จะไปยากอะไร ?
เฉินกูเงียบไปสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา”ท่านต้องการให้ข้าช่วยยังไง?”
จางหยูยิ้มออกมาและพูดขึ้นช้า ๆ “อาจารย์เฉิน! สำนักจะทำการขยายใน
เร็ว ๆ นี้ และตอนนี้ก็ยังขาดอาจารย์อยู่ ท่านคือราชาสัตว์อสูร ท่านคง
รู้จักพวกสัตว์อสูรอยู่จำนวนมาก หากท่านไม่รังเกียจ ข้าหวังว่าท่านจะ
ชวนสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนเข้ามาเป็นอาจารย์ของชั้นเรียนสัตว์อสูร
ในอนาคต”
“สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนรึ ?” เฉินกูคิ้วขมวด”ขอบเขตหลี่ซวนไม่ได้รึ?”
สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนทุกตัว คือพวกระดับสูงของเผ่าสัตว์อสูร พวก
นั้นมีอำนาจอย่างมากในหมู่สัตว์อสูร หากสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนทุก
ตัวเข้าร่วมกับสำนักคังเฉียง อนาคตของเผ่าสัตว์อสูรก็ต้องตัดขาดจาก
เฉินกู ผลลัพธ์นี้ไม่ใช่สิ่งที่เฉินกูต้องการจะเห็น
จางหยูพูดขึ้นอย่างใจเย็น “ข้าเพิ่งบอกไปเองว่า ขอบเขตหลี่ซวนเป็นได้
แค่ผู้ช่วย หากต้องการเป็นอาจารย์ของสำนักคังเฉียง พวกนั้นไม่มีสิทธิ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเฉินกูก็เงียบไปอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก