ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 347

ตอนที่ 347 การมาของเหล่าสัตว์อสูร
“เจ้าสำนักสบายใจได้ ข้าจะสร้างเมืองทะเลทรายขึ้นมาใหม่ด้วย
ความตั้งใจ และจะไม่ให้เจ้าสำนักต้องผิดหวัง !” ฉินเหลียนรับปาก
จางหยูพยักหน้าตอบรับ “เมื่อเจ้ารับปาก ข้าก็สบายใจ”
พูดไปแล้ว จางหยูก็นึกถึงบางอย่างและพูดขึ้นมา “จริงสิ หลังจากที่
สร้างเมืองใหม่เสร็จ ต้องเพิ่มมาตรการในการลงทะเบียน ชาวเมือง
ดั้งเดิมสามารถเข้าอยู่เมืองใหม่ได้ฟรี ส่วนคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน ก็
ให้ไปเสียเงินเช่าโรงเตี๊ยมหรือเช่าบ้านในเมืองเอา หลังจากนี้บ้านเช่า
จะอยู่ในความรับผิดชอบของเมือง นอกจากนี้แล้วจะต้องตั้งมาตรการ
ฉุกเฉินเอาไว้ด้วย หากมีใครกล้าเพิกเฉยต่อกฎเมือง ต่อให้อยู่ในเมือง
มานานแล้ว ก็ต้องถูกขับไล่ ถ้าเป็นคนที่ลงทะเบียนไปแล้ว ก็ให้ยกเลิก
ไปซะ หรือถ้าหากไม่มี ก็ยกเลิกสิทธ์ิในการยื่นสมัครลงทะเบียน”
นี่คือมาตรการฉุกเฉินที่จางหยูต้องใช้
มีคนมากมายอยู่ใกล้กับเมืองทะเลทราย แม้ว่าจะสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา
แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องมีคนอยู่มากนัก มิฉะนั้น การจราจรและการใช้
ชีวิตของผู้คนจะได้รับผลกระทบไปด้วย และมาตรการฉุกเฉินนี้ก็มี
ส่วนช่วยได้บ้าง มันจะช่วยลดความไม่เป็นระเบียบภายในเมือง
“ขอรับ” ฉินเหลียนโค้งให้
“พวกเจ้ามีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ?” จางหยูถาม
“ขอให้เจ้าสำนักบอกทีว่าต้องใช้เกณฑ์อะไร ในการลงทะเบียนเพื่อ
อยู่ในเมือง ?” เรื่องนี้คาใจฉินเหลียนมานานแล้ว
หากใครต้องการจะมาอยู่ในเมืองทะเลทราย ฉินเหลียนก็ดีใจที่จะ
เป็นแบบนั้น แต่เมื่อจำนวนคนเพิ่มขึ้นไปถึงขีดจำกัดแล้ว เขาก็ไม่รู้
ว่าต้องทำยังไง สำหรับใบลงทะเบียนทุกอัน ฉินเหลียนต้องระวังไม่
ตัดสินใจหุนหัน
หลังจากที่สร้างเมืองใหม่เสร็จ สถานการณ์นี้อาจจะดีขึ้น แต่การ
ลงทะเบียนในแต่ละครั้งจะมีค่ามากกว่าเดิม
จางหยูคิดสักพักและยิ้มออกมา “ก็ง่าย ๆ ไม่ใช่รึ ? หากต้องการ
ลงทะเบียนกับเมือง ตราบใดที่ระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตว่อ
ซวนก็เพียงพอแล้ว หากไม่ถึงก็ให้ใช้เงิน 10 ล้านเหรียญต่อหนึ่งที่ !”
10 ล้านเหรียญนั้น เทียบเท่ากับรายได้ของผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตว่อซวน
ถ้าหากมีคนใช้เงินมากแบบนี้เพื่อซื้อสิทธ์ิลงทะเบียน มันก็ไม่จำเป็น
ต้องปฏิเสธ
“แน่นอนว่า เงื่อนไขนี้สำหรับคนนอกเท่านั้น ถ้าหากทหารต้องการ
ลงทะเบียน พวกเขาจะต้องมีอายุรับราชการทหารอย่างน้อยสามปี
เต็ม ถึงจะมีสิทธิลงทะเบียนอย่างไม่มีเงื่อนไข ส่วนเจ้าหน้าที่เมือง
แผนกอื่น ๆ ก็สามารถลงทะเบียนที่เมืองอย่างไม่มีเงื่อนไข ถ้าหากมี
อายุงาน 5 ปีหรือ 10 ปีเต็ม และถ้าหากใครเคยสร้างผลงานที่โดดเด่น
ให้กับเมือง เจ้าก็สามารถมอบสิทธิพิเศษที่เหมาะสมให้กับเขาได้ นี่
คือเกณฑ์คร่าว ๆ เมื่อกลับไปแล้ว เจ้าต้องคิดให้ดี ๆ ข้าเชื่อว่าปัญหา
นี้เจ้าจะแก้ไขได้”
จางหยูไม่ได้เชี่ยวชาญด้านนี้ เขาได้แต่บอกภาพคร่าว ๆ ให้กับฉิน
เหลียน การจะคิดเกณฑ์ขึ้นมายังไงนั้นขึ้นอยู่กับฉินเหลียนเอง
ฉินเหลียนพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”
เขาอดคิดไม่ได้ พวกที่อยู่ในเมืองทะเลทรายก่อนหน้านี้ช่างโชคดี
จริง ๆ !
ตามเกณฑ์ที่จางหยูบอกมา คนที่ลงทะเบียนก่อนหน้านั้น ส่วนใหญ่
ไม่ผ่านเกณฑ์ หากใช้กฎเกณฑ์นี้ตั้งแต่ต้น เกรงว่าพวกเขาคงไม่มี
สิทธิลงทะเบียน
นอกเสียจากว่าจะต้องจ่ายเงินคนละ 10 ล้านเหรียญ
“ระดับการบ่มเพาะขึ้นมาถึงขอบเขตว่อซวนไม่ก็ต้องจ่าย 10 ล้าน
เหรียญ” ฉินเหลียนรู้สึกว่ามีปัญหาอยู่มากมาย
“ไม่นึกเลยว่าการลงทะเบียนเข้าอยู่เมืองทะเลทรายจะมีค่าแบบนี้ จะ
มีใครยอมจ่ายเงินมากแบบนี้จริง ๆ หรือ…” ฉินเหลียนรู้สึกว่าความ
เป็นไปได้นี้ไม่น่าจะมาก ยังไงซะเงิน 10 ล้านเหรียญก็ไม่ใช่น้อย ๆ
พวกขอบเขตฉีซวนหลายคน ตลอดชีวิตพวกเขาไม่มีทางได้เงินมาก
แบบนี้ และแม้แต่พวกขอบเขตว่อซวนก็ใช่ว่าจะมีเงินมากมายขนาด
นั้น ดังนั้นในมุมมองของฉินเหลียนแล้ว เงิน 10 ล้านที่ว่านั้น เป็นแค่
ตัวบังหน้า มันมีความหมายอื่นแอบแฝงมากกว่านี้อยู่
แต่สำหรับทหารของเมือง ตราบใดที่ทำงานมา 3 ปีก็จะได้รับสิทธิ
ในการเข้าอยู่เมืองทันที !
ฉินเหลียนคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ตราบใดที่ประกาศกฎนี้ออกมา
ทหารจะกลายเป็นหนึ่งในอาชีพที่โดดเด่นที่สุดของเมือง สำหรับ
พวกที่ระดับการบ่มเพาะไม่ถึงขอบเขตว่อซวน พวกเขาคงไม่มีเงิน
เพื่อซื้อสิทธิ ดังนั้นการสมัครเป็นทหารคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“เจ้าสำนักดีกับทหารจริง ๆ” ฉินเหลียนไม่กล้าจะบอกว่าจางหยูผิด
แต่เขารู้สึกว่าการดูแลที่จางหยูมีต่อทหารนั้นดีไปหน่อย
ตอนที่ฉินเหลียนรู้สึกซาบซึ้งอยู่นั้น จางหยูก็ยิ้มออกมา เขารีบบอก
กับฉินเหลียน “เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว ข้ามีเรื่องอื่นต้องจัดการ”
ฉินเหลียน, เซินถูเส้อและเถิงกวง กลับออกมาพร้อมกับกล่องที่พวก
เขาขนเข้าไป ไม่นานทั้งสามคนก็ออกมาจากสำนักคังเฉียง
เมื่อเดินออกมาจากประตูสำนัก ปราณสัตว์อสูรที่น่ากลัวก็เข้าปก
คลุมที่นั่น ตอนนั้นท้องฟ้าได้เปลี่ยนสีไป ความมืดได้เข้าครอบคลุม
ไปทั่วทั้งเมือง ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็หวาดกลัวกับปราณสัตว์อสูรจน
ไม่อาจจะหายใจได้
ภายใต้ปราณสัตว์อสูร ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงมดปลวก แต่ละ
คนต่างก็หวาดกลัวจนตัวสั่น หัวใจของพวกเขาหล่นวูบราวกับว่าจุด
จบของโลกกำลังจะมาถึง !
“สัตว์อสูร !” ในบ้านหลังหนึ่ง อยู่ ๆ โจวถิงก็เงยหน้าขึ้นมา ภายใต้
ปราณสัตว์อสูรนี้ แม้แต่ร่างกายเขาเองก็ยังต้องสั่น เขาไม่รู้ว่าปราณ
สัตว์อสูรแข็งแกร่งเพียงใด แม้แต่ด้วยพลังที่เขามี เขาก็ยังตัวสั่น เขา
ไม่อาจจะต้านทานได้เลย
“ขอบเขตตุ้นซวน ! สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวน !” โจวถิงอุทาน
ออกมาในใจ พร้อมกับเหงื่อที่ผุดไปทั่วตัว
ถ้าเป็นแค่สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนตัวเดียว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะ
สร้างความวุ่นวายแบบนี้ได้ ปัญหาคือปราณสัตว์อสูรนี่มีมากกว่า
หนึ่งตัว มันมีหลายอันทับซ้อนกัน มันแข็งแกร่งกว่าปราณของเฉินกู
เสียอีก การเคลื่อนไหวเช่นนี้ช่างน่ากลัว ยังไงซะ เฉินกูก็ยับยั้งพลัง
ของตัวเองเอาไว้ และไม่ได้ระเบิดปราณสัตว์อสูรออกมา ผิดกับ
ตอนนี้ สัตว์อสูรเหล่านั้นที่อาจจะอยู่ขอบเขตตุ้นซวนได้แผ่พลังของ
ตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ ทำให้ฉากนี้ดูน่ากลัวอย่างมาก
ทั้งเมืองทะเลทรายราวกับถูกสาปเป็นหิน ทุกคนตัวสั่นเพราะปราณ
สัตว์อสูรเหล่านี้ ความรู้สึกนี้ราวกับว่าพวกเขาได้เข้าไปในรังของ
สัตว์อสูรและโดนสัตว์อสูรนั้นจ้องมอง
จางหยูแผ่การรับรู้และพื้นที่ออกไป ต่อมาหลิงชี่บนยอดเขาก็ได้ถูก
ดึงออกไป
ร่างของจางหยูโผล่มาในอากาศและมองไปที่เฉินกูกับกลุ่มคน
ด้านหลัง “อาจารย์เฉิน ข้าหวังว่าจะได้คำอธิบายที่มีเหตุผลจากท่าน
ไม่งั้นแล้วข้าคิดว่าท่านคงมาเพื่อโจมตี !”
ด้านหลังเขามีบอลธาตุทั้งห้าอัดแน่นกัน และแผ่พลังอันน่าตกใจ
ออกมา บอลธาตุพวกนี้มีธาตุโลหะ, ไม้, น้ำ, ไฟและดิน หลิงชี่ที่อัด
แน่นในลูกบอลนั้นน่ากลัว หากระเบิดออกมามันต้องปลดปล่อย
พลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาแน่ !
แม้แต่บอลธาตุไม้ ซึ่งใช้สำหรับการรักษา เมื่อมันถูกใช้โจมตี มันก็
ไม่ใช่ยาที่ดีที่จะช่วยผู้คน แต่จะเป็นการคร่าชีวิตผู้คนแทน !
พลังของกฎนั้นไม่ใช่ธรรมดา !
ความแข็งแกร่งของจางหยูตอนนี้ แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าเฉินกู แต่ก็ไม่
มากนัก จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่อิจฉาเฉินกูอีกต่อไป
เฉินกูตะลึงไปกับวิธีอันวิเศษของจางหยู สายตาของเขาแสดงความ
อิจฉาออกมา แต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของจางหยู เขาก็กลัวขึ้นมา
และพูดขึ้น “เจ้าสำนัก ข้าไม่คิดว่าเด็กน้อยพวกนี้จะปล่อยพลัง
ออกไป การปล่อยปราณสัตว์อสูรตอนนี้สายเกินไปแล้วที่จะปกปิด
แต่ท่านสบายใจได้ เมื่อข้ากลับไป ข้าจะสั่งสอนพวกเขาเอง “
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับและพุ่งไปด้านหลัง ก่อนจะด่ากลุ่ม
สัตว์อสูร “หากไม่อยากตายก็รีบขอโทษเจ้าสำนักซะ อย่าคิดว่าใคร
จะช่วยพวกเจ้าได้ !”
กลุ่มสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนต่างก็กลัวสิ่งที่จางหยูแสดงออกมา
ความเย่อหยิ่งที่พวกเขามีนั้นต่างก็หยุดลง ตอนที่จางหยูปรากฏตัว
ขึ้นมาพร้อมกับบอลหลิงชี่ การดึงหลิงชี่จากอาณาเขตและอัดแน่น
เป็นลูกบอลธาตุได้นี้ ต้องใช้วิธีอะไรกัน ?
อย่าว่าแต่สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนเลย แม้แต่ราชาสัตว์อสูรหรือ
ราชามังกรก็ไม่อาจจะทำได้ !
ตอนแรกพวกเขายังคงสงสัยคำพูดของเฉินกู แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึก
ว่าคำพูดของเฉินกูยังน้อยไปด้วยซ้ำ แทนที่จะบอกว่าเป็นพวกระดับ
สูงสุด บอกว่าเป็นเซียนยังจะดีกว่า!
สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนต่างก็พากันกลัว และแสดงสีหน้าว่างเปล่า
ออกมา
“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ ? อยากตายหรือไง ?” เมื่อเห็นสัตว์อสูรพา
กันเงียบอยู่นาน สีหน้าของเฉินกูก็หม่นลงและได้ตะโกนออกมา
พวกนี้กำลังหาที่ตาย แถมยังลากเขาไปตายด้วย
การได้เห็นทักษะที่จางหยูแสดงออกมาและความลนลานของเฉินกู
มันคือเรื่องน่าทึ่งสำหรับพวกเขา !
บอลธาตุทั้งห้านี้ทำให้เฉินกูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่เพียง
พอที่จะเป็นภัยต่อชีวิตเขา แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาบาดเจ็บหนัก
ได้ ที่สำคัญที่สุดคือเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า อาณาเขตของจางหยู
สามารถขยายไปได้อีก หากจางหยูขยายอาณาเขตทั้งหมด และดึง
หลิงชี่ออกมาเป็นบอลธาตุ เขาก็คิดไม่ออกเลยว่าพลังของมันจะน่า
กลัวแค่ไหน
เฉินกูถึงกับสงสัยว่า บอลธาตุแบบนั้นแค่ลูกเดียวก็เพียงพอที่จะทำ
ให้เขาตายได้แล้ว !
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! หากเขาต้องการจะฆ่าข้า ข้าก็ไม่อาจจะ
ต้านทานได้เลย !” เฉินกูไม่รู้ว่าจางหยูได้ใช้อาณาเขตทั้งหมดแล้ว
แต่เขาคิดว่าจางหยูยั้งพลังเอาไว้ ยังไงซะสำหรับพวกระดับสูงแล้ว
อาณาเขตจะมีระยะแค่นี้ได้ยังไง ?
เฉินกูจำเรื่องที่ไป่หลิงพูดให้ฟังได้ เรื่องราวเกี่ยวกับเซียนกระบี่
พเนจร
เขากลืนน้ำลาย “ตอนนี้เรื่องนั้นมันคงจะเป็นเรื่องจริง ! เซียนกระบี่
พเนจร คือพวกระดับสูงสุดจริง ๆ แต่ต่อหน้าเจ้าสำนักแล้ว…เขาก็
ไม่อาจจะต้านทานได้เลย !”
มันยากที่จะคิดว่าเจ้าสำนักแข็งแกร่งเพียงใด !
ตอนนั้นสัตว์อสูรด้านหลังเฉินกูต่างก็ได้สติ แต่ละตัวพากันตัวสั่น
ด้วยความกลัวและรีบโค้งให้ทันที “พวกข้าต้องขอโทษด้วย”
สัตว์อสูรที่เย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ ต่างก็ทำตัวราวกับเด็กน้อยที่ตัวสั่น
ด้วยความกลัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก