ตอนที่ 351 ของขวัญจากอาจารย์
โอวเสินเฟิงมีส่วนร่วมในการพัฒนาสำนักคังเฉียงในช่วงแรก ๆ
จางหยูตัดสินใจว่าจะหาทางกู้ร่างของโอวเสินเฟิงคืนมา แม้ว่าจะ
สร้างร่างให้กับโอวเสินเฟิงไม่ได้ แต่เขาต้องหาทางสร้างทักษะบ่ม
เพาะเพื่อตอบแทนผลงานให้กับโอวเสินเฟิง
จางหยูเป็นคนหัวโบราณ แม้ว่าความแข็งแกร่งของโอวเสินเพิง ไม่
อาจจะตามความเร็วในการพัฒนาของสำนักทั้งเฉียงได้ทัน และจะมี
อาจารย์ที่แข็งแกร่งกว่าโอวเสินเฟิงมาเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต แต่จางหยู
ไม่มีทางลืมโอวเสินเพิง สำหรับผลงานที่มีให้กับสำนักคังเฉียงแล้ว
ตราบใดที่โอวเสินเฟิงไม่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เขาก็จะมีที่ยืนในสำนัก
คังเฉียงเสมอ
หลังจากนั้นสักพัก จางหยูก็นั่งลงและทำการบ่มเพาะต่อ เวลาผ่านไป
อย่างช้า ๆ เมื่อพระอาทิตย์ตกดินและท้องฟ้าเหลือเพียงสีแดง ไป่หลิง
ก็ได้ขอลาเจ้าสำนักและกลับไปยังหอพักของนาง
วันต่อมา
ไป่หลิง, มังกรแดง, อินทรีย์ปีกฟ้าและสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ต่างก็พากัน
ออกเดินทางบินออกไปจากยอดเขา จากนั้นก็มีอินทรีย์หิมะมารับ
ก่อนจะไปถึงเขตมืดในป่ าหวงหยวน และเข้าไปที่ห้องโถงน้ำแข็ง
เพื่อรอเฉินกู
หลังจากที่เรียนเสร็จ เงินกูก็พูดบางอย่างเช่นเคย ก่อนที่เตรียมพร้อม
จะกลับ
อยู่ ๆ ไป่ หลิงก็ตะโกนขึ้นมา “ท่านเฉินกู ช้าก่อน”
เฉินกูหยุดและหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม “ยัยหนู มีอะไร ?”
“ท่านเฉินกู ข้าได้ขอลาหยุดกับเจ้าสำนักมาแล้วเมื่อวานนี้ และอาจ
จะต้องหายไปหลายเดือน ไป่หลิงกัดปากและแสดงสีหน้าเศร้าออก
มา “อีกหลายเดือนต่อจากนี้ข้าอาจจะไม่ได้มาเรียน ดังนั้นวันนี้ข้าจึง
มาลากับท่านเฉินกูโดยเฉพาะ”
“อะไรนะ เจ้าจะลารึ?” ราชาสัตว์อสูรอึ้ง “เจ้าจะไปไหนกัน?”
อินทรีย์ปีกฟ้าเองก็สงสัย “ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนั้น?”
เฉินกูเองก็สงสัย “เจ้าบอกข้าทีได้หรือไม่ว่าทำไมต้องลา? หากเจ้ามี
ปัญหาอะไร เจ้าบอกข้าได้เผื่อว่าข้าจะช่วยเจ้าแก้ไขปัญหานี้ได้”
ด้วยชื่อเสียงในเผ่าสัตว์อสูรและความแข็งแกร่งที่เขามี มีไม่กี่เรื่องที่
เขายากจะทำได้
ไป่ หลิงซาบซึ้งใจอย่างมาก แต่นางก็ส่ายหน้า “ขอบคุณท่านเฉินกูที่
เป็นห่วง ไป่หลิงไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“งั้นทำไมเจ้าต้องลา ?” เฉินกูแปลกใจ
“ข้า…ข้าต้องการจะกลับบ้าน” ไป่ หลิงสังเลขึ้นมาและพึมพำ “ตอนที่
ข้าออกจากบ้านมา ท่านพ่อข้าได้บอกว่าเมื่อระดับการบ่มเพาะขึ้น
มาถึงขอบเขตหลิงชวนแล้วข้าต้องกลับไปที่บ้านทันที เพื่อสืบทอด
มรดกของตระกูล ครึ่งเดือนก่อนข้าได้ขอลากับเจ้าสำนัก และเตรียม
ที่จะกลับไป แต่เจ้าสานักบอกให้ข้าบ่มเพาะทักษะภาพลวงตาให้ถึง
ขั้นที่ 4 ก่อน ถึงจะกลับไปได้ เมื่อวานนี้ในที่สุดข้าก็ขึ้นไปถึงขั้นที่ 4
ได้ ดังนั้นข้าจึงต้องกลับไป”
ทั้งมังกรแดงและอินทรีย์ฝึกฟ้าต่างก็แปลกใจ “ทักษะภาพลวงตาชั้น
4 รึ?”
พวกเขารู้ว่าพรสวรรค์เรื่องภาพลวงตาของไป่หลิงไม่ใช่น้อย ๆ แต่ก็
ไม่คิดว่าจะขึ้นมาถึงขั้น 4 ได้ !
ต้องรู้ก่อนว่าภาพลวงตาขั้นที่ 4 นั้น เทียบเท่ากับขอบเขตหลิงซวน
แม้ว่าจะมีแค่ความสามารถนี้ หากเชี่ยวชาญก็สามารถเป็นภัยต่อพวก
ขอบเขตหลิงซวนได้ หากไป่หลิงอยู่ขอบเขตหลิงซวน เมื่อนางใช้
ทักษะภาพลวงตาชั้น 4 พลังของมันจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม และแม้แต่
พวกขอบเขตหลิงซวนก็ไม่อาจจะหาเรื่องนางได้ง่าย ๆ
“ข้าคิดว่าหลังจากที่ระดับการบ่มเพาะของข้าขึ้นไปถึงขอบเขตหลิง
ชวนแล้วความแข็งแกร่งของข้าจะไม่อ่อนแอกว่าเจ้า แต่ตอนนี้ดู
เหมือนว่า…” มังกรแดงมองไปที่ไป่หลิง “ข้าเกรงว่าข้าคงเอาชนะเจ้า
ไม่ได้”
อินทรีย์ปีกฟ้าก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขายังคงตะลึงกับการพัฒนา
ของไป่หลิง!
“เจ้าสองคนเป็นลูกน้องข้า มันก็เป็นเรื่องธรรมดา” ไป่หลิงมองไปที่
มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าที่สลด และอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“ตำแหน่งหัวหน้านะข้าจองแล้ว! พวกเจ้าไม่มีทางแยงมันไปจากข้า
ได้ !”
มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้ามองหน้ากัน ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะถอน
หายใจ
“มีหนึ่งอย่างที่ข้าจะบอกพวกเจ้า แต่หากเจ้าจะไป ข้าจะบอกมันก่อน”
เสียงเบา ๆ ของเฉินกู ทำให้ทุกคนหันไปมองที่เขา เฉินกูมองไปที่
ไป่หลิง มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้า ก่อนจะยิ้มออกมาช่วยรอยยิ้ม
อ่อนโยน “ข้าต้องการรับพวกเจ้าเป็นศิษย์สายตรงแต่ไม่รู้ว่าพวกเจ้า
จะคิดยังไง ?”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ทุกคนในห้องโถงต่างก็พากันตกตะลึง
ด้านนอกห้องโถง อินทรีย์หิมะมองไปที่เฉินกูด้วยความตะลึง
แม้ว่าเขาจะได้ยินเฉินกูพูดเรื่องนี้มาแล้ว และรู้ว่าเฉินกูมีความคิด
แบบนั้น แต่เมื่อเฉินกูประกาศมันออกมา เขาก็ยังคงตะลึงอยู่ดี
ต้องรู้ก่อนว่านี่คือราชาสัตว์อสูร !
ตัวตนสูงสุดของเผ่าสัตว์อสูร !
พวกไป่หลิงมีความสามารถอะไร ถึงกับข้ามกำแพงที่ทุกคนใฝ่ฝัน
อยากจะปีนข้ามไปได้ และเป็นศิษย์ของเฉินกูได้?
“นี่ นี่…” มังกรแดงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น เขาอึ้งไป
“ข้า ข้าไม่ได้ฝันไปใช่รึไม่ ?
อินทรีย์ปีกฟ้าที่มักจะสุขมอยู่เสมอ กลับไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้
เขามองไปที่เฉินกูด้วยสายตาตื่นเต้นและตะลึง สมองเขาตอนนี้ว่าง
เปล่า
สำหรับไป่หลิงแล้ว นางค่อนข้างใจเย็น แต่สายตาของนางกลับเต็ม
ไปด้วยความแปลกใจ ตอนนั้นพวกเขาดูเหมือนว่าจะได้รับพรจาก
เทพธิดา และไม่เชื่อว่าฉากนี้จะเป็นความจริง
“ทำไม ไม่อยากเป็นรึ?” เฉินกูยิ้มให้กับทั้งสาม
“ข้าเต็มใจ เราเต็มใจ !” มังกรแดงรีบตอบทันที และรีบเดินไปหาเฉิน
กูเสียงเขายังคงสั่น “ข้านับถือท่านเฉินกู ข้ามังกรแดงใช้ชีวิตคุ้มค่า
แล้ว ข้าไม่รู้สึกผิด ท่านเฉินกูโปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วย !”
ไป่หลิงและอินทรีย์ปีกฟ้า รีบเดินไปหาเงินกูและคำนับให้อย่าง
เคารพ
เฉินกูโบกมือแล้วใช้พลังประคองทั้งสามขึ้นมา ก่อนจะพูดขึ้นมา
ด้วยรอยยิ้ม “อืม ข้ายอมรับพวกเจ้า จากนี้เจ้าคือศิษย์ของเฉินกู อย่า
เรียกข้าว่าท่านเฉินกูอีก ต่อไปให้เรียกข้าว่าอาจารย์เข้าใจรึไม่ ?
ทั้งสามต่างก็ตะลึงไปกับความอ่อนโยนในครั้งนี้
“อาจารย์!” ทั้งสามมองหน้ากันและตะโกนออกมา
หลังจากที่คำนับเฉินกูแล้ว ไม่ว่าที่ไหนในป่ าหวงหยวน พวกเขาก็จะ
สามารถไปได้ตามใจชอบ ต่อให้เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรขอบเขตตุ้น
ชวน แต่พวกนั้นก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเขา
“ดี !” เฉินกูหัวเราะออกมาอย่างพอใจ เขาอารมณ์ดีอย่างมาก
“หากไม่มีของขวัญจากอาจารย์ก็คงไม่เหมาะ สมบัติพวกนี้ข้าเก็บมา
หลายปี ข้าต้องการให้มันมีส่วนช่วยพวกเจ้า” เฉินกูโบกมือ ทันใด
นั้นด้านหน้าของไป่ หลิง มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าก็ปรากฏกอง
สมบัติมากมายที่แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามอย่างหนาแน่นขึ้นมา สมบัติ
เหล่านั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ทั้งสามตอบกลับ “ขอบคุนอาจารย์ !”
ตอนนั้นก็มีเสียงร้องด้วยความแปลกใจดังขึ้นมาจากนอกห้องโถง
“ผลโลหิต !”
ที่ประตูห้องโถง อินทรีย์หิมะมองไปที่กองสมบัติ ด้วยสายตาที่
เหลือเชื่อ
“ผลโลหิต?” ไปหลิงมองไปที่อินทรีย์หิมะ ก่อนจะมองไปยังผล
โลหิตตรงหน้านางด้วยความสงสัย
เฉินกูมองไปที่อินทรีย์หิมะด้วยความแปลกใจ “เจ้าเองก็รอบรู้เยอะ
เหมือนกันนี่นะ”
อินทรีย์หิมะได้สติ และเห็นว่าทุกคนกำลังมองเขาอยู่ ทันใดนั้นเขาก็
รู้สึกกลัวและตัวสั่นขึ้นมา “ขอโทษด้วยราชาสัตว์อสูร ข้า ข้า…”
“โอ้ ไม่ต้องกังวลไปข้าไม่ถือโทษเจ้าหรอก” เฉินกูมองไปที่อินทรีย์
หิมะ และละสายตากลับมาบอกกับศิษย์ทั้งสามคน
“ของพวกนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ล้ำค่า แต่สำหรับสัตว์อสูรแล้ว มันมี
ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา แม้แต่พวกขอบเขตตุ้นชวนก็ยังอยากได้มัน
พวกเจ้ากินมันซะ จะไม่โดนคนอื่นแย่งไป”
ทั้งสามได้ท้าตามคำสั่งของอาจารย์ทันที
ผลโลหิตจะกระตุ้นสายเลือดให้ใกล้เคียงกับบรรพบุรุษ !
ผลไร้กระดูกช่วยเพิ่มพรสวรรค์ทางกายภาพ !
บัวสวรรค์ช่วยยกระตับพละกำลังขึ้นมา
หากดูทั้งทวีปป่ าแล้ว นี่คือสมบัติล้ำค่า ที่สามารถทำให้เกิดการนอง
เลือดเพื่อแย่งชิงมันมา แม้แต่พวกระดับสูงสุดก็ยังต้องหมายตามัน
เฉินกูได้ยกมันให้กับศิษย์ทั้งสามด้วยทำที่สบาย ๆ ราวกับว่ามันเป็น
ของธรรมดา ๆ เท่านั้น
เขาคือราชาสัตว์อสูร ทั้งเผ่าสัตว์อสูรไม่มีใครร่ำรวยไปกว่าเขาได้ แต่
ผลโลหิตนั้นมันกินเวลาหลายพันปี กว่าที่เขาจะได้มา ซึ่งแสดงให้
เห็นว่า ผลโลหิตนั้นล้ำค่าแค่ไหน
ในห้องโถงน้ำแข็ง ทั้งสามต่างก็มองไปที่ผลโลหิตด้วยความตื่นเต้น
จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่า สายเลือดในร่างกายร้อนขึ้นมา และยังรู้สึก
เหมือนกับว่ากำลังโดนแผดเผา ร่างกายพวกเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง
ไปอย่างน่าทึ่ง และทำให้เข้ากับปราณธาตุได้ดียิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้
ร่างกายก็พัฒนาขึ้นไปอย่างมาก
“ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ของมันจะไม่แย่” เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของ
ทั้งสาม เฉินกูก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ดีจริง ๆ !
เมื่อกินผลโลหิตเข้าไป สายเลือดในตัวของทั้งสามก็ตื่นขึ้นมาอย่าง
เต็มที่ และยกระดับขึ้นไปเทียบเท่ากับเหล่าบรรพบุรุษ พวกเขาจะ
กลายเป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่แท้จริงได้ในเวลาไม่กี่ปี !
ผู้ที่มีสายเลือดศักด์ิสิทธ์ิ กับพวกที่เป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่แท้จริง
อันไหนอ่อนแออันไหนแข็งแกร่ง คงมองภาพกันออก!
พรสวรรค์ทางกายภาพของทั้งสามคนพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ราวกับ
ว่าเกิดการสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ ตอนนี้ร่างกายของพวกเขายกระดับ
ขึ้นไปถึง 6 ดาวแล้วค่อยหยุดลง พรสวรรค์ของพวกนี้สูงกว่าเซียว
เหยียนเล็กน้อย มีแค่หนิวซิงไห่และเซี่ยเฟิงที่ทัดเทียมได้
บัวสวรรค์มีความสามารถในการเพิ่มพละกำลังและการฟื้นฟูตัวเอง
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผลโลหิต, ผลไร้กระดูกหรือบัวสวรรค์ มันก็
ไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทั้งสามทันที การเปลี่ยนแปลงนี้จะ
ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมา บางทีพวกเขาอาจจะรู้ตัว ก็ตอนที่การพัฒนา
เสร็จสิ้น และพวกเขาก็ขึ้นเป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิแล้ว
หลังจากนั้นสักพัก ทั้งสามก็ได้ลืมตาขึ้นมา เฉินกูได้พูดขึ้นด้วย
รอยยิ้ม “พวกเจ้ารู้สึกยังไง ?”
“น่าทึ่งมาก” ไป่ หลิงอุทานออกมา “ข้ารู้สึกได้ว่าความเข้มข้นของ
สายเลือดเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ร่างกายข้าก็พัฒนาขึ้นไปด้วย ข้าไม่รู้ว่า
ข้าคิดไปเองหรือไม่…”
มังกรแดงมองไปที่ไป่หลิงด้วยความแปลกใจ “หัวหน้า เจ้ารู้สึก
เช่นนั้นรึ? ข้าก็นึกว่าข้าคิดไปเองซะอีก!”
อินทรีย์ปีกฟ้ามองไปยังเฉินกู และถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “อาจารย์
ท่านให้อะไรกับพวกเรารึ”
“พวกเจ้าไม่ต้องรู้ว่ามันคืออะไร เอาสั้น ๆ ว่ามันดีต่อพวกเจ้า นี่แค่
เริ่มต้น หลังจากนี้ไม่กี่ปี พวกเจ้าจะเข้าใจเองว่ามันจะช่วยพวกเจ้าได้
มากแค่ไหน” เฉินกูยิ้มออกมา
“รีบบ่มเพาะให้ถึงขอบเขตตันซวนให้เร็วที่สุด ไม่งั้นแล้วหากเจ้ามี
ระดับการบ่มเพาะที่ต่ำเกินไป มันจะทำให้อาจารย์ของเจ้าเสียชื่อ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก