ตอนที่ 359 การทดสอบ (I)
การจับกลุ่มของผู้คนทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมา หลายคนหันไป
มองชายที่อยู่ขั้น 9 และชายที่อยู่ขั้น 8 ซึ่งตัวสั่นด้วยความกลัว
“ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 แต่คิดจะเข้ารับการทดสอบงั้นรึ ตลกสิ้นดี!”
ชายขั้นที่ 9 แสดงสีหน้าเย็นชาออกมา “3 ลมหายใจ เจ้าคงตกรอบ
ในทันที !”
ชายที่อยู่ขึ้น 8 ชัดแล้วว่ากลัวอีกฝ่าย แต่เขาก็ต้องเดินตามออกไป
ด้วยการที่ถูกคนมากมายมองมา ชายที่อยู่ขั้นที่ 8 ก็หน้าซีดราวกับว่า
ตัวเองเสียหน้า
เขากัดฟันแน่นและรวบรวมความกล้าเถียงออกไป “เจ้าเมืองไม่ได้
ไล่เรากลับไป เช่นนั้นเราเองก็มีสิทธิเข้ารับการทดสอบ ทำไมข้าต้อง
กลับไปด้วย !”
แม้ว่าเขาจะกลัวอีกฝ่ายจะมาหาเรื่องเขาหลังจากนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่
อาจจะถอยกลับได้ แม้ว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจก็ตาม เขาต้องอยู่เข้า
รับการทดสอบ แม้ว่าความหวังนั้นจะน้อยนิดแต่มันก็ยังมีหวังอยู่
“เข้าร่วมการทดสอบรึ?” ชายขั้นที่ 9 ฮึดฮัดออกมา “เจ้าไม่ดูสารรูป
ตัวเองเลย เจ้าอยากจะผ่านการทดสอบงั้นรึ ?”
ด้วยการที่ถูกดูหมิ่นเช่นนี้ ชายขั้น 8 ก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวไป เขากัดฟัน
แน่นและตะโกนออกมา “จะผ่านไม่ผ่านมันก็เรื่องของข้า เจ้าจะมา
ยุ่งอะไรด้วย !”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายขั้นที่ 9 ก็สีหน้าหม่นลงไปยิ่งกว่าเดิม เขาพูด
ด้วยน้ำเสียงเฉยชา “เจ้าจะผ่านหรือไม่นั้น ข้าไม่ได้สนใจ แต่นี่คือ
รอบของขอบเขตขั้นที่ 9 ไม่ใช่ที่ของพวกขั้นที่ 8 อย่างเจ้า เราไม่
อยากมีคนอย่างเจ้ามาเป็นตัวถ่วง”
ทีมที่แข็งแกร่งย่อมมีโอกาสที่จะผ่านการทดสอบที่สูงกว่า หากทีม
พวกเขามีพวกขั้นที่ 8 อยู่ด้วย โอกาสที่จะผ่านก็จะลดลงเป็นอย่าง
มาก ตอนนั้นพวกขั้นที่ 9 ทุกคนต่างก็เข้าใจกันแบบนั้น คนอื่น ๆ
เองก็เช่นกัน !
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ พวกขั้นที่ 8 คงไม่ถูกดูหมิ่นเช่นนี้ เขาต้องการ
ผ่านการทดสอบ และต้องการเข้าร่วมการทดสอบกับพวกขั้นที่ 9
ด้วยกัน ไม่งั้นแล้วหากต้องพึ่งตัวเอง เขาก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะผ่านการ
ทดสอบไปได้
“ข้าไม่ใช่ตัวถ่วง !” ชายชั้น 8 ตะโกนเถียงกลับมา
“ความแข็งแกร่งที่ข้ามีไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกขั้น 9 ทั่วไปมากนัก !”
การที่ระดับของเขาต้อยกว่านั้น เขาต้องยอมรับเรื่องนี้ แต่ความ
แข็งแกร่งที่เขามีนั้น แข็งแกร่งกว่าพวกขั้นที่ 8 ทั่วไป หากเทียบกับ
พวกที่อยู่ขั้นที่ 9 แล้ว ยังถือว่าแย่กว่าเล็กน้อย หากต้องสู้กันจริง ๆ
เขาคงทนได้สัก 15 นาที หากผ่านไปนานกว่านี้เขาอาจจะแพ้ได้
“ข้าไม่สนใจจะมาทำความเข้าใจความแข็งแกร่งที่เจ้ามี ข้าจะพูดอีก
ครั้ง ไปให้พ้น” ชายขอบเขตฉีซวนขั้น 9 เริ่มหมดความอดทน
พวกขั้นที่ 9 รอบ ๆ เองก็มองไปที่ชายขั้นที่ 8 ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ไม่มีใครอยากจะรับขั้นที่ 8 เข้าร่วมทีม แค่นี้พวกเขาก็ยากจะปกป้อง
ตัวเองได้แล้ว การที่มีคนที่อยู่ขั้นที่ 8 มาคอยถ่วง ความเป็นไปได้ที่
จะผ่านการทดสอบก็จะยิ่งต่ำลงไปอีก
ชายที่อยู่ขั้นที่ 8 เองก็กลัวแต่ก็ยังแสดงท่าทีเด็ดเดี่ยวออกมา “ข้าไม่
ไป !”
เขายืนกรานแล้ว หากใครต้องการจะไล่เขาไป เขาจะไม่ไป แม้ว่าจะ
โดนเอาคืนหลังจากนี้ แต่เขาก็ไม่คิดจะทิ้งโอกาสที่หายากแบบนี้ไปแน่
ชายตัวใหญ่มองไปที่ชายสองคนที่เถียงกัน “เขาทำแบบนั้นได้ยังไง
กัน !”
ชายกำยำที่เป็นน้องชายพูดขึ้นมา “เจ้าพูดถึงคนไหนกัน ?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นชายที่อยู่ขั้นที่ 9 !” ชายตัวใหญ่พูดขึ้นมา “เขา
ตัดสินได้ยังไงว่าใครจะอยู่ได้ไม่ได้ ? ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมออก แล้ว
ทำไมเขาไม่ไปหาทีมอื่นเข้าแทนล่ะ ? การที่มีพวกขั้นที่ 8 สักคนก็
ไม่ได้ส่งผลอะไรไม่ใช่หรือไง ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายกำยำก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ข้าคิดว่าเขาไม่
ผิด”
“น้องสอง เจ้า…” ชายตัวใหญ่ไม่พอใจนัก “ เจ้าดูถูกคนที่อยู่ขั้นที่ 8
แบบเราหรือไง ?”
“ข้าไม่ได้ดูถูก แต่มันคือความจริง” ชายกำยำรู้ตัวเองดี เขายังคงแสดง
ท่าทีใจเย็นออกมา “มันเป็นเรื่องธรรมดาจากมุมมองของคนทั่วไป ที่
ไม่ต้องการจะมีตัวถ่วง เขาไม่ได้ผิด แน่นอนว่าชายขั้นที่ 8 เองก็หวัง
จะผ่านการทดสอบ และอยากเข้าร่วมกับคนกลุ่มนั้นเพื่อที่จะมีหวัง
ผ่านการทดสอบได้สูงกว่าเดิม เขาก็ไม่ผิดเช่นกัน”
ไม่มีใครผิดหรือถูกในเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำเพื่อการทดสอบ
ฉินเหลียนไม่ได้กำหนดระดับการปมเพาะเอาไว้ เขาไม่ได้บอกว่ามี
แต่พวกขั้นที่ 9 เท่านั้นที่เข้ารับการทดสอบได้ ดังนั้นนี่คือการตัดสินใจ
ของทั้งคู่เอง
เมื่อได้ยินที่น้องชายพูด พี่ชายก็เงียบไป เขามองไปรอบ ๆ และรู้สึก
ได้ถึงสายตาแย่ ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักใจขึ้นมา อย่าลืมว่าพวก
เขาทั้งสองคนก็อยู่ขั้นที่ 8 เช่นกัน !
ที่นี่เต็มไปด้วยผู้ที่อยู่ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 หรือจะพูดให้แม่นยำก็
คือ ที่นี่เหมือนค่ายทหารขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9
ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้ปมเพาะขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 ขอบเขตฉีซวน
ขั้นที่ 8 สองคน ก็เหมือนกับโคมไฟดวงเล็ก ๆ สองดวงท่ามกลาง
ความมืด ซึ่งดูสะดุดตามาก โชคดีที่คนส่วนมาก สนใจสองคนที่
ถกเถียงกันอยู่ ไม่ได้มีใครสนใจสองพี่น้องเลย
ตอนนั้นเอง
“เจ้าแน่ใจนะว่าจะไม่ไป ?” ชายขั้นที่ 9 แสดงสายตาเย็นชาออกมายิ่ง
กว่าเดิม น้ำเสียงเขาเองก็แฝงไปด้วยความเย็นชาด้วย
“ไม่ไป !” ชายขั้นที่ 8 ยืนกราน
ชายขั้นที่ 9 มองไปที่อีกฝ่ายและฮึดฮัดออกมา “ดี! ข้าจะจำเจ้าไว้ !”
ต่อหน้าท่านเจ้าเมืองแล้ว เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรกับอีกฝ่าย ถึงเขาจะ
ไม่พอใจ แต่เขาก็ได้แต่เก็บมันไว้ เมื่อเขาออกจากที่นี่ไปแล้ว….
ไม่มีใครสงสัยเลยว่า หากชายที่อยู่ขั้นที่ 8 ไม่อาจจะผ่านการทดสอบ
ได้ แน่นอนว่าเขาจะต้องถูกชายที่อยู่ขั้น 9 แก้แค้นอย่างแน่นอน!
ตอนนั้นผู้คนมากมายต่างก็มองไปที่ชายที่อยู่ขั้น 8 และราวกับว่าได้
เห็นผลลัพธ์ที่น่าอนาถที่จะเกิดในอนาคต ความยากในการทดสอบนี้
แม้แต่พวกขั้นที่ 9 ส่วนมาก ก็ยังไม่อาจจะผ่านได้แล้วขั้นที่ 8 จะมี
หวัง ? แม้ว่าจะอยู่ร่วมกับกลุ่มขั้นที่ 9 แต่ความหวังที่จะผ่านการ
ทดสอบไปได้ ก็ยังถือว่าน้อยนิดจนเกือบจะไม่มี
“พอได้แล้ว !” อยู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “เงียบได้แล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น ทุกคนต่างก็หันไปมองคนพูด
ในหมู่พวกขั้นที่ 9 มียอดฝีมือหลายคนอยู่ในนั้น และเป็นยอดฝีมือที่
แข็งแกร่งทัดเทียมกับหยานซานอยู่หลายคน แต่พวกนี้มาจากที่อื่น ๆ
และอาจจะมาจากประเทศอื่นก็มี ดังนั้นจึงมีคนไม่มากที่รู้จักพวกเขา
แต่ไม่ว่าคนอื่น ๆ จะรู้จักพวกเขาหรือไม่นั้น มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความ
จริงที่ว่า พวกเขาแข็งแกร่งหรืออาจจะไม่ได้อ่อนแอกว่าหยานซานเลย
คนที่พูดนี้ชื่อว่าจางเยี่ย
จางเยี่ยอยู่ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 และทัดเทียมกับหยานซานได้ ที่นี่มี
คนไม่มากที่รู้จักเขา แต่ทุกคนรู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน หากหยานซาน
เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ขอบเขตฉีซวนที่ตงโจว ถ้าอย่างงั้น
จางเยี่ย ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ขอบเขตฉีซวนที่เขตจ้านเจียง
ทั้งสองคนไม่เคยปะมือกันมาก่อน จึงไม่มีใครรู้ว่าใครแข็งแกร่งกว่า
กัน แต่แน่นอนว่า จางเยี่ยนั้นแข็งแกร่ง เขาแข็งแกร่งกว่าพวกขั้นที่ 9
ทั่วไป
พวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 ที่ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในขอบเขตฉี
ซวนของแต่ละเขต นี่แหละคือยอดฝีมือจริง ๆ !
คนที่ไม่รู้จักเขา เมื่อเห็นเขาเปิดปากออกมา ก็พากันคาดเดาไปว่าชาย
ผู้นี้อาจจะเป็นอีกคนที่น่าเหลือเชื่อ!
เมื่อพวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 ที่มาจากเขตจ้านเจียงเห็นจางเยี่ยเข้า
พวกนั้นก็พากันปิดปากเงียบไม่พูดอะไรออกมา
“เขาจะไปกับข้า ใครเห็นแย้งก็ไปทีมอื่นซะ” จางเยี่ยพูดขึ้นมา
เขาไม่รู้จักชายที่อยู่ขั้นที่ 8 แต่แค่อยากช่วยอีกฝ่าย เขามั่นใจว่าเขาจะ
ผ่านการทดสอบ และมั่นใจว่าจะช่วยคนอื่น ๆ ได้ สิ่งที่ทำให้เขาสนใจ
อีกฝ่ายก็คือ ชายที่อยู่ขั้นที่ 8 ไม่ได้กลัวคำขู่ใด ๆ และยังยืนกรานดังเดิม
คนแบบนี้แหละที่เขาชื่นชม ยังไงซะเขาก็ต้องเข้ารับการทดสอบอยู่
แล้วด้วย
ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้คนมากมายก็พากันเปลี่ยนสีหน้าไป
พวกขั้นที่ 9 พากันมองไปชายขั้นที่ 8 ตรงหน้าด้วยสีหน้าอิจฉา ด้วย
การที่มีจางเยี่ยคอยช่วย พวกเขาถึงกับอยากจะประจบชายขั้นที่ 8 คน
นี้ขึ้นมา
“ไอ้บ้านี่โชคดีชะมัดที่มีจางเยี่ยช่วย!”
“ข้าล่ะอิจฉาจริง ๆ ! การที่มีจางเยี่ยคอยช่วย เขาก็มีโอกาสอย่างน้อย
80% ที่จะผ่านการทดสอบ…”
“ทำไม ทำไมไม่เป็นข้า !”
ผู้คนรอบ ๆ ต่างก็พากันรู้สึกเสียดายและอิจฉา แต่ไม่มีใครกล้าไล่
ชายขั้นที่ 8 ไป พวกที่อยู่รอบ ๆ จางเยี่ยเอง ก็ไม่ได้เดินหนีไปไหน
แม้ว่าจะไม่พอใจกับการที่มีคนขั้นที่ 8 มาร่วมทีม แต่ตราบใดที่มี
จางเยี่ยอยู่ด้วย โอกาสที่พวกเขาจะผ่านการทดสอบก็สูงกว่าทีมอื่น
อย่าประมาทกับฉายาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของขอบเขตฉีซวนไป !
ชายขั้นที่ 8 ไม่ได้รู้จักจางเยี่ย แต่เขาเห็นว่าคนอื่น ๆ พากันตะลึงกับ
การแสดงออกของจางเยี่ย เขาก็รู้ว่าจางเยี่ยต้องไม่ธรรมดา ดังนั้นเขา
จึงรีบหันไปหาจางเยี่ย และพูดขึ้นมา “ขอบคุณผู้อาวุโส !”
แม้ว่าจางเยี่ยจะดูเด็กกว่าเขา แต่คำเรียกว่าผู้อาวุโสคือความจริงใจ
และคำขอบคุณที่เขามีมาจากใจ
จางเยี่ยมองไปที่อีกฝ่ายและส่ายหน้า “เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก”
การช่วยชายที่อยู่ขั้นที่ 8 นี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เขาแค่ให้โอกาสอีกฝ่าย
แต่การที่อีกฝ่ายจะคว้าโอกาสนี้ไว้ได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง
“น้องสอง หากเราเข้าร่วมกับทีมนั้นล่ะ!” ชายตัวใหญ่พึมพำออกมา
เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งจางเยี่ย เขาเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของเขากับ
น้องก็สามารถผ่านการทดสอบไปได้ แต่เขากังวลว่าเขากับน้องจะ
ไม่มีทีม ยังไงซะชื่อเสียงของพวกเขาก็ไม่ได้โด่งดังนัก
ในตอนนี้แม้ว่าจะไม่มีใครคิดหาเรื่องชายที่อยู่ขั้นที่ 8 เมื่ออยู่ต่อหน้า
จางเยี่ย แต่ในใจของพวกเขากลับไม่พอใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก