ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 361

ตอนที่ 361 การทดสอบ(III)
ที่ด้านนอกคฤหาสน์ เย่ลั้วได้ทำแบบเดิมซ้ำ ๆ จนรู้สึกชินกับมันไป
แล้ว แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการทำแบบเดิมซ้ำ ๆ จะทำให้เขาควบคุม
แรง และความแม่นยำได้เพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง แทบทุกครั้งเขาจะ
ควบคุมแรงให้อยู่ในระดับเดิมได้ แม้แต่ประสบการณ์ในการต่อสู้
ของเขาก็เพิ่มขึ้นมาด้วย คนอื่น ๆ ไม่กล้าบอกว่าเหนือกว่าเขาในด้าน
นี้ได้
“ดูเหมือนว่าการลงเขามาครั้งนี้จะไม่เสียเวลาเปล่า” เย่ลั้วเข้าใจการ
ควบคุมพลังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา
ในตอนนี้ ฝูงชนที่อยู่นอกคฤหาสน์อย่างคับคั่งในตอนแรก ได้หายไป
มากกว่าครึ่งแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่ 9 ส่วนใหญ่ที่ผ่านการประเมิน ก็ถูก
นำไปอยู่อีกด้านหนึ่ง ด้วยคำสั่งของฉินเหลียน ผู้ที่ผ่านการประเมินก็
พากันยืนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 1,000 คน ซึ่งมีกลุ่มเช่นนี้ทั้งหมดหกสิบ
กว่ากลุ่ม รวมไปก็ประมาณหกหมื่นกว่าคน
แม้ว่าอัตราในการผ่านการประเมินจะต่ำจนน่าตกใจ แต่ด้วยจำนวน
คนที่มากมายเช่นนี้ คนที่ผ่านการประเมินก็มีถึงหกหมื่นคน
พวกหกหมื่นกว่าคนนี้ คือพวกระดับสูงของขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9
แค่ฝึกอีกเล็กน้อย กองทัพนี้ก็สามารถกวาดล้างขอบเขตว่อซวนขั้นต่ำ
ได้ และสามารถเทียบกับกองทัพระดับสูงของอาณาจักรโจวได้เลย
หรืออาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ ต่อให้เป็นพวกขอบเขตว่อชวนขั้นสูง
แต่ถ้าหากมีจำนวนคนไม่มากนัก ก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของกองทัพนี้
แน่นอนคนพวกนี้ไม่ได้อ่อนแอ ส่วนมากแค่ยังไม่ได้รับการฝึกฝน
หากต้องการฝึกพวกนี้ให้เป็นทหาร งั้นก็ต้องใช้ความคิดอย่างมาก
กับการฝึกพวกนี้
“แค่ 60,000 คนยังไม่พอ มันต้องมีอย่างน้อย 80,000 คน” ฉินเหลียน
มองไปที่พวกขั้นที่ 9 ที่เหลือ “ข้าหวังว่าคนที่เหลือจะทำให้ข้าแปลก
ใจได้ หากมีคนแบบหยานซานและหม่าชางซูอีกก็คงจะดี”
หยานซาน หม่าชางซูและคนอื่น ๆ แม้ว่าจะมีนิสัยเสียเป็นของตัวเอง
แต่ก็มีคุณค่าต่อฉินเหลียนอย่างมาก ตราบใดที่ทำให้พวกนี้เชื่อฟัง
คำสั่งได้ ฉินเหลียนก็มีแผนในอนาคตที่จะฝึกคนพวกนี้ หากผ่านการ
ฝึกไปได้ด้วยดีพวกนี้ก็จะได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญต่าง ๆ
ตอนนั้นเองเย่ลั้วก็แสดงท่าที่เหนื่อยล้าออกมาเล็กน้อย เขามองไปยัง
พวกขั้น 9 ที่เหลือและโบกมือบอกทีมทดสอบต่อไป “รอสักหน่อย
ข้าจะฟื้นฟูพลังก่อน”
หลังจากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิลงกับพื้น และใช้ทักษะปราณหมุนวน
รอบตัวเขาและถูกสูบเข้าไปในร่างกายอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่คิดว่าเย่ลั้วจะทนได้นานขนาดนี้!” เมื่อเห็นว่าเย่ลั้วนั่งฟื้นฟูพลัง
ของตัวเอง ผู้คนโดยรอบต่างก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความ
โล่งอก ความอึดของเย่ลั้วนั้นน่ากลัว นี่ไม่ต้องพูดถึงพวกขอบเขต
ฉีซวนเลย แม้แต่พวกขอบเขตว่อซวนอย่างเซินถูเส้อ ก็ยังต้องหวั่น
เกรง
ตอนที่พวกเขาคิดอยู่นั้น เย่ลั้วก็ลุกขึ้นยืน และเรียกทีมต่อไปเข้ามา
ทดสอบ “เข้ามาได้”
ผู้คนต่างก็เบิกตากว้าง “เสร็จแล้วรึ ?”
เมื่อรู้สึกได้ถึงพลังที่เย่ลั้วแผ่ออกมา ทุกคนต่างก็พากันกลืนน้ำลาย
มันผ่านไปนานแค่ไหนกัน ? ไม่ถึง 30 นาทีเลยแต่เย่ลั้วกลับฟื้นฟู
พลังปราณเสร็จแล้ว พลังของเขาถึงกับแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขามา
ตอนแรกด้วยซ้ำ !
“ข้ามีความคิดแล้ว” ในกลุ่มของพวกขอบเขตว่อซวน ชายวัยกลางคน
มองไปที่เย่ลั้วและพึมพำออกมา “ข้าอยากประมือกับเขา !”
แม้ว่าเย่ลั้วจะอยู่แค่ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 แต่เขาก็รู้สึกว่าเย่ลั้วนั้น
แข็งแกร่งกว่าเขา เขาสงสัยว่าเย่ลั้วจะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงใด ได้สู้กับ
คนแบบนี้จะถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีต่อเขาอย่างมาก
ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ คนที่พูดก็ส่ายหน้า “ลืมมันไปซะเถอะ
เจ้าจะเป็นคู่มือของเขาได้ยังไง ?”
พวกขอบเขตว่อซวนส่วนมาก มาเพื่อลงทะเบียน ส่วนใหญ่คือขอบเขต
ว่อชวนขั้นต่ำ มีขั้นกลางแค่ไม่กี่คนและมีขั้นสูงแค่เพียงคนเดียว
เพราะก่อนหน้านี้พวกขอบเขตว่อซวนขั้นสูง ได้ทำการลงทะเบียน
ผ่านไปแล้ว ยอดฝีมือแบบนั้นถึงจะไม่ได้รับอนุญาตจากจางหยู แต่
ฉินเหลียนก็คงหาทางให้เอง
ดังนั้นชายวัยกลางคนทั้งสองที่พูดคุยกันนี้ ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นพวก
ขอบเขตว่อซวนขั้นต่ำ หรือไม่ก็ขั้นกลาง
“แน่นอน ข้ารู้ว่าไม่อาจจะเป็นคู่มือของเขาได้ แต่ข้าก็อยากรู้ความ
แตกต่างระหว่างข้ากับเขา” ชายวัยกลางคนคนแรกพึมพำออกมา “ข้า
อยากรู้ว่าคนที่มาจากสำนักคังเฉียง จะแข็งแกร่งเพียงใด!”
ชายวัยกลางคนมองไปที่เย่ลั้ว เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูอ่อนวัยของอีกฝ่าย
เขาก็สงสัยขึ้นมา “อันที่จริงข้าสงสัยว่าเขาแข็งแกร่งได้เพียงใด ดูจาก
หน้าแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา
มันยากที่จะคิดภาพออกได้ว่าเมื่อเขาใช้พลังทั้งหมดออกมาแล้ว มัน
จะเป็นเช่นใด…”
ไม่มีใครรู้ว่าเย่ลั้วแข็งแกร่งแค่ไหน มีพวกขอบเขตว่อซวนหลายคน
ที่รู้สึกว่าไม่อาจจะเป็นคู่มือของเย่ลั้วได้ แม้แต่พวกขั้นกลางเองก็ยัง
รู้สึกได้ถึงอันตราย
“มา !”
เมื่อเห็นว่าทีมก่อนหน้าทดสอบเสร็จแล้ว จางเยี่ยที่รออยู่นานก็บอก
กับชายขั้น 8 ที่อยู่ข้างกาย ก่อนจะเดินหน้าไปอย่างใจเย็น
ชายขั้น 8 รีบเดินตามจางเยี่ยเข้าไปในวงกลมทันที
พวกขั้น 9 ที่อยู่รอบ ๆ รีบแห่กันเข้าไปในวงกลม แม้พวกเขาจะรู้ว่ามี
พวกขั้น 8 อยู่ในทีมด้วย แต่พวกเขาก็ยังอยากที่จะเข้าร่วมทีมนี้
ในพริบตาเดียว ทีม 30 คนก็เต็มจำนวน คนที่เข้าร่วมทีมนี้ได้ต่างก็พา
กันตื่นเต้น ส่วนคนที่ไม่อาจจะเข้าทีมได้ทันนั้น ต่างก็พากันผิดหวัง
และหงุดหงิด
ด้านนอกวงนั้น พวกขั้น 9 หลายคนต่างก็มองไปยังกลุ่มคนที่อยู่
รอบตัวจางเยี่ย ด้วยการที่มีจางเยี่ยคอยช่วย โอกาสที่คนพวกนี้จะ
ผ่านการทดสอบก็มากกว่าพวกเขา
“ผ่านมาสักพักแล้ว ในที่สุดก็มีคนน่าสนใจโผล่มาอีกคน”
เย่ลั้วเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขามองไปรอบ ๆ
และพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พวกท่านพร้อมกันรึยัง ?”
จางเยี่ยและคนอื่น ๆ ปรับปราณตัวเองให้อยู่สภาพพร้อมที่สุดก่อน
จะพยักหน้าตอบรับเย่ลั้ว ต่อมาเยวกลับยืนนิ่งไม่ลงมือ แต่ทุกคนที่
อยู่ในวงต่างก็พากันตกตะลึง ราวกับว่าพวกเขาวิ่งอัดกำแพงเข้าอย่าง
แรง พร้อมกับอากาศอันปั่นป่ วนที่พัดอัดมาใส่พวกเขา
หลังจากนั้นสามอึดใจ อากาศที่ปั่นป่ วนก็สงบลง มีคนมากกว่า 20 คน
ที่นอนอยู่ในวง และ 7 คนที่ออกนอกวงไป ไม่สิ มันควรจะบอกว่า
เป็น 8 คน เพราะชายที่อยู่ขั้น 8 นั้น ใช้เท้าข้างหนึ่งแตะเข้ามาที่ปลา
ยวงได้ ขาของเขามีเลือดไหลออกมา ตัวเขาเหมือนจะหมดสติ ตาเขา
แดงก่ำราวกับจะมีเลือดไหลออกมา
“ไม่เลวเลย ข้าแทบไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าเลย” เมื่อเห็นสภาพของชาย
ขั้นที่ 8 จางเยี่ยก็แสดงสายตาแปลกใจออกมา
คนที่เหลือต่างก็มองไปที่ชายขั้น 8 ด้วยสีหน้าอันซับซ้อนแม้ว่าหลาย
คนจะไม่เข้าใจอีกฝ่าย แต่พวกเขาก็ยังพากันชื่นชม “ชายคนนี้น่าทึ่ง
จริง ๆ !”
เพื่อที่จะอยู่ในวงกลมต่อ เขาถึงกับยื่นเท้าเข้ามาและทนรับการโจมตี
เอาไว้ ถ้าหากไม่ใช่จางเยี่ยช่วยลดทอนพลังโจมตีไปเล็กน้อย เกรงว่า
อีกฝ่ายคงไม่ใช่แค่บาดเจ็บ ผลลัพธ์สุดท้ายอีกฝ่ายอาจจะหลุดออก
จากวงกลมไป และขาขาดด้วยซ้ำ
หลายคนพากันตะลึงไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าชายคนนี้ผ่านการ
ทดสอบไปได้ !
“ยินดีกับพวกท่านด้วยที่ผ่านการทดสอบ !” เย่ลั้วมองไปที่จางเยี่ย
ด้วยความชื่นชม “พวกท่านคือทีมที่มีคนผ่านมากที่สุด ใช่ พวกท่าน
แข็งแกร่งกว่าทีมอื่น ๆ”
แม้ว่าทีมนี้จะมีคนที่อยู่ขั้นที่ 8 อยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นทีมนี้ก็น่าชื่นชม
“ขอบคุณนายน้อยที่ชม ! “จางเยี่ยขอบคุณออกมา
“พวกท่านไปลงทะเบียนกันเถอะ”
“เจ้าขยับได้หรือไม่ ?” จางเยี่ยถามชายขั้น 8 “เจ้าอยากให้ข้าช่วยไหม?”
“ขอบคุณผู้อาวุโส แต่ไม่ต้องหรอก ผู้น้อยจะเดินเอง ! “ชายขั้นที่ 8
พยายามจะลุกขึ้นจากพื้น ความเจ็บปวดทำให้เขาต้องกัดฟันแน่น
และค่อย ๆ เดินไปทางหลัวซง
ตอนนั้นไม่มีใครดูถูกชายคนนี้อีกต่อไป แม้ว่าก่อนหน้านี้จะดูถูกชาย
คนนี้เอาไว้ แต่ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม ในด้านความแข็งแกร่ง
แล้วพวกเขาดีกว่า แต่ในด้านจิตใจแล้ว ไม่มีใครกล้าบอกว่าตัวเอง
ดีกว่า
ถึงจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อการทดสอบ หลังจากที่
เห็นทีมนั้นออกไปแล้ว เย่ลั้วก็ละสายตาก่อนจะพูดขึ้นมา “ทีมต่อไป”
ตอนนั้นฉีจ้วงและฉีเลี่ยเตรียมจะเดินออกไป แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็
โดนเกอเอ๋อร์มู่ถลึงตาใส่แล้วตวาดว่า “ไสหัวไป!”
จางเยี่ยไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เกอเอ่อร์มู่จึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีก
ต่อไป เขาไม่ได้ปกปิดความไม่พอใจของตัวเอง “ที่นี่คือที่ของขั้น 9
มันไม่ใช่ที่สำหรับขยะอย่างพวกเจ้า กลับไปซะ มันไม่ใช่ที่ที่เจ้าควร
จะอยู่ !”
“เจ้า !” ฉีจ้วงหงุดหงิดจนสีหน้าหม่น
“ท่านพี่” ฉีเลี่ยห้ามฉีจ้วงเอาไว้ และพูดขึ้นอย่างใจเย็น “อย่าหลงกล
เขา เขาแค่ยั่วยุท่าน เมื่อท่านลงมือ เจ้าเมืองก็จะเห็น เราอาจจะโดน
ตัดสิทธ์ิการทดสอบไป อย่าลืมสิ เมืองแห่งนี้ห้ามไม่ให้ก่อเรื่อง และ
เจ้าเมืองก็ไม่ชอบพวกที่สร้างปัญหา”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉีจ้วงก็ตกใจจนเหงื่อตก
เกอเอ่อร์มู่ยึดฮัดออกมาและหันหลังกลับไป
ฉีเลี่ยตาเป็นประกายขึ้นมา หากเกอเอ่อร์มู่ลงมือกับพวกเขา
สถานการณ์จะเปลี่ยนไป
ฉีเลี่ยรู้ดีว่าพวกขั้น 9 แทบทุกคนนั้นรังเกียจพวกเขา แม้ว่าจะไม่มี
ใครพูดอะไรออกมา แต่พวกขั้น 9 ก็มองมาที่พวกเขาด้วยสายตา
รังเกียจและระวังตัว ตอนที่พวกเขาเดินออกไปนั้น มันต้องมีพวกขั้น
9 สัก 1 – 2 คนมาขวางทางพวกเขาเอาไว้ จนทำให้พวกเขาต้องหยุด
พวกขั้น 9 ทุกคนกำลังจะบอกพวกเขาว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขา
จะไปรวมกลุ่มกับพวกขั้น 9 ได้ หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ทีม 30 คนก็
ครบเต็มจำนวน !
พวกขั้น 9 พอใจกับการที่มีพวกระดับเดียวกันอยู่ แทนที่จะมีพวกขั้น
8 มาปะปนอยู่ด้วย
ฉีจ้วงและฉีเลี่ยยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองไปยังพวกขั้น 9 รอบ ๆ พวก
นั้นยืนเรียงกันเป็นกำแพงขวางทางพวกขั้น 8 เอาไว้ พวกขั้น 8 ต่างก็
ถูกกำแพงพวกนี้ขวางทางเอาไว้
ปัง ปัง ปัง ปัง !
อยู่ ๆ ก็มีเสียงของหนักกระแทกกับพื้นดังขึ้น
ทุกคนต่างก็พากันคาดไม่ถึง จากทีม 30 คนที่เข้าไปทดสอบเหลือแค่
คนเดียวที่ยังอยู่ในวงกลม !
เกอเอ่อร์มู่ที่หยิ่งทะนงก่อนหน้านี้ ก็นอนอยู่ด้านนอกวง
“กลุ่มของพวกท่านแย่ที่สุดจากที่ทดสอบมา ขั้น 9 กว่า 30 คนมีแค่
คนเดียวที่ผ่านการทดสอบได้!” เย่ลั้วคิ้วขมวดด้วยความผิดหวัง
“พวกท่านส่วนมากไม่ได้ดีเท่ากับพวกขั้นที่ 8 เลยด้วยซ้ำ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก