ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 362
ตอนที่ 362 การทดสอบ(IV)
“แม้แต่พวกขั้นที่ 9 ก็ไม่ได้ดีเท่ากับขั้นที่ 8 งั้นรึ !” เมื่อได้ยินสิ่งที่
เย่ลั้วพูดออกมา ผู้คนโดยรอบต่างก็พากันตะลึง
ทีม 30 คนทีมนี้มีคนผ่านแค่เพียงคนเดียว!
ผลลัพธ์แบบนี้ในกลุ่มคนกว่าหมื่นคน นี่ถือว่าย่ำแย่ที่สุด!
นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอายสาหรับเกอเอ๋อร์มู่และคนอื่น ๆ มันเป็นตรา
บาปที่ยากจะลบเลือนได้ !
หากพวกเขามีพวกขั้นที่ 8 อยู่ในทีมด้วย ต่อให้ผลลัพธ์ออกมาแย่
พวกเขาก็อาจจะโทษคนอื่นได้ แต่นี่มันมีแต่พวกขั้นที่ 9 ในทีม พวก
เขาไม่อาจจะหาข้อแก้ตัวได้เลย
เกอเอ๋อร์มูและคนอื่น ๆ หน้าซีดไป พวกเขาโกรธกับคำประเมินของ
เย่ลั้วเป็นอย่างมาก แต่เพราะฐานะที่ไม่ธรรมดาของเย่ลั้ว พวกเขาจึง
ไม่อาจจะทำอะไรได้ !
นี่ไม่ต้องพูดถึง การที่เย่ลั้วเป็นศิษย์สำนักคังเฉียง แม้ว่าเย่ลั้วจะไม่ใช่
คนของสำนักคังเฉียง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะไปหาเรื่องเย่ลั้ว เพราะ
ความแข็งแกร่งของเย่ลั้วนั้นสูงส่งเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน
แต่ก็ไม่อาจจะท่าอะไรเย่ลั้วได้ หากเย่ลั้วต้องการจะฆ่าพวกเขา มัน
คงง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
“ข้าต้องโทษเจ้าสองคนบัดซบนั่น !”
เกอเอ๋อร์มู่ไม่กล้าจะไปหาเรื่องเย่ลั้ว แต่กลับไประบายความโกรธใส่
ที่ฉีจ้วงและฉีเลี่ยแทน
เขาหันกลับไปมองสองพี่น้องด้วยสายตาอาฆาต “หากเจ้าสองตัวนี้
ไม่ทำให้ข้าจิตใจวอกแวก ข้าต้องผ่านการทดสอบนี้ได้แน่ !”
ไม่น่าแปลกใจ ที่เกอเอ๋อร์มู่จะโยนความผิดที่เขาไม่อาจจะผ่านการ
ทดสอบใส่สองพี่น้อง เขาเกลียดทั้งคู่ “หลังจากจบการทดสอบแล้ว
มันคือเวลาตายของเจ้า “ เกอเอ๋อร์มู่แสดงสายตาเย็นชาออกมา
ไม่ไกลออกไป ฉีเลี่ยรับรู้ได้ถึงสายตาที่เกอเอ๋อร์มู่มองมา เขาคิ้ว
ขมวดทันที “นี่เขาเป็นบ้ารึไงกัน ?”
ฉีจ้วงพอใจกับความโชคร้ายของอีกฝ่าย “ข้าเคยคิดว่าเขาจะแข็งแกร่ง
กว่านี้ แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า เขาจะโดนคัดตกรอบไป หึหึ พวกขั้น 9”
เขายังคงแสดงท่าที่ไม่พอใจออกมา
ตอนนี้ฉีจ้วงพอใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเกอเอ๋อร์มู่ย่ำแย่เท่าไหร่ เขาก็ยิ่ง
พอใจมากเท่านั้น
พวกขั้น 8 ที่อยู่ใกล้ ๆ เมื่อเห็นว่าเกอเอ๋อร์มู่ตกรอบ พวกเขาก็ดีใจ
เช่นกัน แต่เพราะระดับการบ่มเพาะของเกอเอ๋อร์มู่ พวกเขาจึงไม่กล้า
ที่จะแสดงความรู้สึกออกมา
“ทีมต่อไป”
เย่ลั้วไม่สนใจกลุ่มคนที่นอนอยู่นอกวงกลม แต่กลับประกาศเรียกฝูง
ชนที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อได้ยินแบบนั้น คนที่ขวางทางพวกขั้นที่ 8 เอาไว้ ก็เดินเข้าไปใน
วงกลม แต่ก็ยังมีคนกลุ่มอื่นที่เดินมาขวางทางพวกขั้น 8 เอาไว้อีก
“นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ?” ฉีเลี่ยคิ้วขมวดและมองไปยังกลุ่มคน
ที่ขวางทางพวกเขาเอาไว้
พวกกลุ่มขั้นที่ 8 ด้านหลังเองก็มองไปยังพวกที่ขวางทาง
พวกขั้น 9 ที่มาขวางทาง พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เฉยเมย “ขอโทษด้วย
กลุ่มขั้น 9 ไม่ต้อนรับพวกเจ้า”
หากเทียบกับเกอเอ๋อร์มู่แล้ว ท่าทีของชายคนนี้ดีกว่าเล็กน้อย แต่
ความคิดนั้นก็เหมือนกับเกอเอ๋อร์มู่ เขาไม่ยอมให้พวกขั้นที่ 8 เข้า
ร่วมทีมของตน
ฉีเลี่ยมองไปรอบ ๆ และพบว่าพวกขั้นที่ 9 คนอื่น ๆ ก็มองพวกเขา
ด้วยสายตาดูถูกเช่นเดียวกัน
เขามองไปที่กลุ่มคนที่ขวางทางเขาเอาไว้ และยิ้มออกมา “ดี เมื่อพวก
เจ้าไม่ต้อนรับเรางั้นเราก็จะไม่ร่วมทีมกับพวกเจ้า”
เขารู้แล้วว่าพวกขั้น 9 ไม่คิดจะรับพวกเขาเข้าร่วมทีม
แม้ว่าจะรีบแค่ไหน แต่พวกนั้นก็ต้องหาทางกันพวกเขาออกมา
แทนที่จะฝืนเข้าร่วม มันจะดีกว่าถ้าหากยอมแพ้
“ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการให้พวกเราเข้าร่วมงั้นพวกเราจะตั้งทีม
ด้วยตัวเอง พวกเราขั้นที่ 8 มาตั้งกลุ่มอยู่ด้วยกันดีไหม?” ฉีเลี่ยมอง
ไปรอบ ๆ และสอบถามพวกขั้นที่ 8
เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกขั้นที่ 8 ก็ไปรวมตัวกันรอบ ๆ สองคนพี่น้อง
และแสดงท่าทีของตนออกมา
“พวกเจ้าพอใจแล้วหรือไม่ ?” ฉีเลี่ยหันไปมองที่พวกขั้น 9
“ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะทำแบบนี้ให้ได้ตลอด” พวกขั้น 9 หันกลับไป
ในเวลาเดียวกัน พวกขั้น 9 ที่เหลือก็พากันโล่งอก แต่พวกเขาก็ใช่ว่า
จะเชื่อคำพูดของฉีเลี่ย และยังคงระวังตัวต่อไป
“ทีมต่อไป”
เมื่อเสียงของเย่ลั้วสิ้นสุดลง ผ่านไปไม่กี่อึดใจ การทดสอบอีกทีมก็
สิ้นสุดลง ครั้งนี้ดีกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย มีคนผ่านไปได้ถึง 3 คน
พวกขั้น 9 ที่อยู่ตรงหน้าพากันเดินเข้าไปในวงต่อทันที พวกขั้น 8
ยังคงถูกขวางไว้ตามเดิม
“ทีมต่อไป”
“ทีมต่อไป”
“ทีมต่อไป”
เย่ลั้วทำแบบเดิมซ้ำ ๆ และพูดประโยคเดิมออกมา คนส่วนมากพา
กันตกรอบ พวกคนที่สอบผ่านจะไปทำการลงทะเบียนต่อจากนั้นฉิน
เหลียนก็จะจัดพวกนั้นเข้าทีมต่าง ๆ และให้ไปยืนประจำตำแหน่ง
อีกด้านหนึ่ง เกอเอ๋อร์มู่ที่ตกรอบไปนั้น ก็ยังไม่ได้กลับไปทันที เขา
ไม่ได้สนใจสายตาคนอื่น ๆ ที่มองมาที่เขา เขามองไปที่สองพี่น้อง
ด้วยสายตาอาฆาต
เวลาผ่านไปช้า ๆ ผู้คนด้านหลังค่อย ๆ เดินหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ เพื่อรับ
การทดสอบ พวกขั้น 8 รอบตัวฉีจ้วงและฉีเลี่ยก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่นานพวกขั้น 8 ที่มารวมตัวรอบ ๆ สองพี่น้อง ก็มีมากถึง 20 คน
โดยไม่รู้ตัว
“ทีมต่อไป” เย่ลั้วยังคงพูดเหมือนเดิม ราวกับหุ่นยนต์ ไม่กี่อึดใจอีก
ทีมก็ทำการทดสอบเสร็จ
ที่ประตูของคฤหาสน์ ฉินเหลียนมองไปที่กองทัพที่เพิ่มขึ้นมาก่อน
จะพูดขึ้นมาอย่างพอใจ “70,000 คนแล้ว”
จำนวนทหารเพิ่มขึ้นมาถึง 70,000 คน ตอนนี้มันต่างจากเป้าหมายที่
เขาตั้งไว้แค่อีก 10,000 คนเท่านั้น
“70,000 คนนี้แทบทั้งหมดอยู่ขั้นที่ 9 และมีหลายคนที่เป็นยอดฝีมือ
อย่างหยานซานและจางเยี่ย !” หลัวซงพอใจเป็นอย่างมาก ผลลัพธ์นี้
มันดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เขาเคยคิดว่ามันคงจะดีถ้าหากได้พวกขั้นที่ 9
มาสักหมื่นสองหมื่นคน แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะได้มาเยอะแบบนี้
ไม่ใช่แค่หลัวซงที่คาดไม่ถึง แม้แต่ฉินเหลียนเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
ว่าการลงทะเบียนเข้าเมืองทะเลทราย กลับทำให้พวกขอบเขตฉีชวน
ขั้นที่ 9 สนใจได้ถึงเพียงนี้ !
เขาคิดว่ามันคงมีพวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 สักหมื่นคน ที่จะมาเป็น
ทหาร แต่ผลลัพธ์นี้มันมากกว่าที่เขาคิดไว้หลายเท่า !
เขาคิดว่าเขาคงรับพวกขั้นที่ 9 มาได้สักหมื่นสองหมื่นคน แต่ตอนนี้
เขากลับได้มาถึง 70,000 คน !
“มันยากที่จะคิดออกว่ามีพวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 มากมายแบบนี้
ในอาณาจักรโจว” ฉินเหลียนอดไม่ได้ที่จะทึ่ง “ตอนแรกข้าคิดว่าจะ
ได้แค่พวกขั้นที่ 9 ทั่วไปมา แต่พวกที่ผ่านการทดสอบกลับดีกว่าที่ข้า
คิดเอาไว้”
โชคชะตาไม่อาจจะคาดเดาได้จริง ๆ !
เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่า วันหนึ่งจะมีกองทัพที่แข็งแกร่งแบบนี้
ความแข็งแกร่งของกองทัพนี้อาจจะแข็งแกร่งกว่ากองทัพของ
อาณาจักรด้วยซ้ำ !
ถ้าหากชะตาชีวิตของเขาไม่เปลี่ยนแปลง อย่าว่าแต่จะได้เป็นท่านเจ้า
เมืองทะเลทรายเลย กระทั่งทหารยศน้อยก็คงจะเป็นไม่ได้
“ทีมต่อไป”
เสียงของเย่ลั้วดังขึ้นมาอีกครั้ง ขัดความคิดของฉินเหลียน
ในเวลาเดียวกันก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา ในหมู่ผู้คนที่เข้ารับการทดสอบ
ฉินเหลียนมองออกไปด้วยความสงสัยและพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลัง
เดินเข้าไปในวงทดสอบที่เย่ลั้วอยู่
ฉินเหลียนคิ้วขมวด “ขั้นที่ 8 รึ?”
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา!
ครั้งนี้ทีมที่เข้ารับการทดสอบก็คือพวกขั้นที่ 8 !
ไม่ใช่แค่ฉินเหลียน หยานซาน, จางเยี่ยและคนอื่น ๆ ที่ผ่านการทดสอบ
แล้ว ต่างก็มองไปที่ทีมนี้ด้วยความแปลกใจ จะมีคนผ่านการทดสอบ
ได้รึ ?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือทีมที่ฉีจ้วงและฉีเลี่ยอยู่ นี่คือทีมแรกที่ตั้ง
ขึ้นมาจากพวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8!
หลังจากที่รอประมาณ 15 นาที ในที่สุดทีมนี้ก็ครบ 30 คน !
เมื่อมีคนมากพอ พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรอ เมื่อเย่ลั้วประกาศ
เรียกทีมใหม่ พวกเขาก็เดินตรงเข้าไปในวง พวกขั้น 9 ที่เหลือต่างก็
พากันหลีกทางให้ราวกับพวกนี้เป็นเชื้อโรคร้าย
“พวกคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง !” พวกขั้น 9 นอกวงหลายคนมองไปที่ทีม
ในวง
พวกนั้นไม่คิดว่าทีมนี้จะผ่านการทดสอบไปได้ โดยเฉพาะเกอเอ๋อร์มู่
ที่เคยรับรู้ถึงพลังของเย่ลั้วมาแล้ว เขารู้ดีว่าเย่ลั้วนั้นน่ากลัวแค่ไหน
พวกขั้น 8 ไม่อาจรับการโจมตีของเย่ลั้วได้แน่
เมื่อเห็นทีมของฉีเลี่ยและคนอื่น ๆ เย่ลั้วก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
จากนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์และถามขึ้น “พวกท่านพร้อมยัง ?”
ขั้น 8 กับขั้น 9 สำหรับเขาแล้ว มันไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก เขาไม่
คิดสนใจพวกที่อยู่ขั้น 9 และไม่คิดจะสนใจพวกที่อยู่ขั้น 8 เช่นกัน
สำหรับเขาแล้วมดกับแมลงสาบนั้นแตกต่างกัน แต่ในสายตามนุษย์
แล้ว พวกมันต่างก็อ่อนแอ
“พร้อม ! “ ฉีเลี่ย ฉีจ้วงและคนอื่น ๆ ต่างก็กัดฟันแน่นแล้วตอบกลับ
พวกเขาทนกับการเยาะเย้ยจากพวกขั้น 9 มาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันถึงเวลา
ที่จะพิสูจน์ตัวเองแล้ว พวกเขาพากันสาบานในใจว่า แม้ว่าจะต้อง
แลกด้วยชีวิต แต่พวกเขาก็ต้องผ่านการทดสอบนี้ไปให้ได้!
“ความแข็งแกร่งของเราอาจจะเทียบกับพวกขั้นที่ 9 ไม่ได้ แต่จิตใจ
ของพวกเราแข็งแกร่งกว่า! “ พวกเขาพากันตะโกนในใจพร้อมกับ
ความโกรธที่ปะทุออกมา
เย่ลั้วค่อย ๆ ยื่นฝ่ามือออกไป ปราณโคจรไปตามเส้นชีพจร ต่อมานั้น
ฝ่ามือก็เกิดการระเบิดของอากาศขึ้นอย่างรุนแรง
ปัง !
ฝ่ามือของเขาราวกับภูเขาที่เกิดการระเบิดกระจายตัวออกมา อากาศ
ปั่นป่วนกระจายออกไปโดยรอบ
ตอนนั้นสายตาของทุกคนมองไปที่ฉีเลี่ยและคนอื่น ๆ หากเทียบกับ
พวกขั้นที่ 9 แล้ว ทีมนี้ไม่ต้องเดาเลยว่าต้องพิเศษกว่า ทุกคนต่างก็พา
กันสงสัยว่าผลลัพธ์สุดท้ายของทีมนี้จะออกมาเป็นยังไง?
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงของตกลงกับพื้น ดัง
ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่กี่อึดใจร่างของคนในทีม ก็พากันกระเด็นออกไป นอกจากฉีจ้วง,
ฉีเลี่ยแล้ว มันก็ยังมีพวกขั้น 8 อีกหลายคนที่ยังยืนอยู่ในวงได้
“1, 2, 3….6! ผ่านการทดสอบถึง 6 คน !”
ตอนนั้นสายตาของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างก็มองไปยังคนที่ยัง
อยู่ในวงด้วยความเหลือเชื่อ
เกอเอ๋อร์มู่ราวกับโดนฟ้าผ่าเข้า เขาตะลึงจนนิ่งอึ้ง “มันเป็นไปได้
ยังไงกัน !”
“แม้แต่พวกขั้นที่ 9 ก็ไม่ได้ดีเท่ากับขั้นที่ 8 งั้นรึ !” เมื่อได้ยินสิ่งที่
เย่ลั้วพูดออกมา ผู้คนโดยรอบต่างก็พากันตะลึง
ทีม 30 คนทีมนี้มีคนผ่านแค่เพียงคนเดียว!
ผลลัพธ์แบบนี้ในกลุ่มคนกว่าหมื่นคน นี่ถือว่าย่ำแย่ที่สุด!
นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอายสาหรับเกอเอ๋อร์มู่และคนอื่น ๆ มันเป็นตรา
บาปที่ยากจะลบเลือนได้ !
หากพวกเขามีพวกขั้นที่ 8 อยู่ในทีมด้วย ต่อให้ผลลัพธ์ออกมาแย่
พวกเขาก็อาจจะโทษคนอื่นได้ แต่นี่มันมีแต่พวกขั้นที่ 9 ในทีม พวก
เขาไม่อาจจะหาข้อแก้ตัวได้เลย
เกอเอ๋อร์มูและคนอื่น ๆ หน้าซีดไป พวกเขาโกรธกับคำประเมินของ
เย่ลั้วเป็นอย่างมาก แต่เพราะฐานะที่ไม่ธรรมดาของเย่ลั้ว พวกเขาจึง
ไม่อาจจะทำอะไรได้ !
นี่ไม่ต้องพูดถึง การที่เย่ลั้วเป็นศิษย์สำนักคังเฉียง แม้ว่าเย่ลั้วจะไม่ใช่
คนของสำนักคังเฉียง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะไปหาเรื่องเย่ลั้ว เพราะ
ความแข็งแกร่งของเย่ลั้วนั้นสูงส่งเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน
แต่ก็ไม่อาจจะท่าอะไรเย่ลั้วได้ หากเย่ลั้วต้องการจะฆ่าพวกเขา มัน
คงง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
“ข้าต้องโทษเจ้าสองคนบัดซบนั่น !”
เกอเอ๋อร์มู่ไม่กล้าจะไปหาเรื่องเย่ลั้ว แต่กลับไประบายความโกรธใส่
ที่ฉีจ้วงและฉีเลี่ยแทน
เขาหันกลับไปมองสองพี่น้องด้วยสายตาอาฆาต “หากเจ้าสองตัวนี้
ไม่ทำให้ข้าจิตใจวอกแวก ข้าต้องผ่านการทดสอบนี้ได้แน่ !”
ไม่น่าแปลกใจ ที่เกอเอ๋อร์มู่จะโยนความผิดที่เขาไม่อาจจะผ่านการ
ทดสอบใส่สองพี่น้อง เขาเกลียดทั้งคู่ “หลังจากจบการทดสอบแล้ว
มันคือเวลาตายของเจ้า “ เกอเอ๋อร์มู่แสดงสายตาเย็นชาออกมา
ไม่ไกลออกไป ฉีเลี่ยรับรู้ได้ถึงสายตาที่เกอเอ๋อร์มู่มองมา เขาคิ้ว
ขมวดทันที “นี่เขาเป็นบ้ารึไงกัน ?”
ฉีจ้วงพอใจกับความโชคร้ายของอีกฝ่าย “ข้าเคยคิดว่าเขาจะแข็งแกร่ง
กว่านี้ แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า เขาจะโดนคัดตกรอบไป หึหึ พวกขั้น 9”
เขายังคงแสดงท่าที่ไม่พอใจออกมา
ตอนนี้ฉีจ้วงพอใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเกอเอ๋อร์มู่ย่ำแย่เท่าไหร่ เขาก็ยิ่ง
พอใจมากเท่านั้น
พวกขั้น 8 ที่อยู่ใกล้ ๆ เมื่อเห็นว่าเกอเอ๋อร์มู่ตกรอบ พวกเขาก็ดีใจ
เช่นกัน แต่เพราะระดับการบ่มเพาะของเกอเอ๋อร์มู่ พวกเขาจึงไม่กล้า
ที่จะแสดงความรู้สึกออกมา
“ทีมต่อไป”
เย่ลั้วไม่สนใจกลุ่มคนที่นอนอยู่นอกวงกลม แต่กลับประกาศเรียกฝูง
ชนที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อได้ยินแบบนั้น คนที่ขวางทางพวกขั้นที่ 8 เอาไว้ ก็เดินเข้าไปใน
วงกลม แต่ก็ยังมีคนกลุ่มอื่นที่เดินมาขวางทางพวกขั้น 8 เอาไว้อีก
“นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ?” ฉีเลี่ยคิ้วขมวดและมองไปยังกลุ่มคน
ที่ขวางทางพวกเขาเอาไว้
พวกกลุ่มขั้นที่ 8 ด้านหลังเองก็มองไปยังพวกที่ขวางทาง
พวกขั้น 9 ที่มาขวางทาง พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เฉยเมย “ขอโทษด้วย
กลุ่มขั้น 9 ไม่ต้อนรับพวกเจ้า”
หากเทียบกับเกอเอ๋อร์มู่แล้ว ท่าทีของชายคนนี้ดีกว่าเล็กน้อย แต่
ความคิดนั้นก็เหมือนกับเกอเอ๋อร์มู่ เขาไม่ยอมให้พวกขั้นที่ 8 เข้า
ร่วมทีมของตน
ฉีเลี่ยมองไปรอบ ๆ และพบว่าพวกขั้นที่ 9 คนอื่น ๆ ก็มองพวกเขา
ด้วยสายตาดูถูกเช่นเดียวกัน
เขามองไปที่กลุ่มคนที่ขวางทางเขาเอาไว้ และยิ้มออกมา “ดี เมื่อพวก
เจ้าไม่ต้อนรับเรางั้นเราก็จะไม่ร่วมทีมกับพวกเจ้า”
เขารู้แล้วว่าพวกขั้น 9 ไม่คิดจะรับพวกเขาเข้าร่วมทีม
แม้ว่าจะรีบแค่ไหน แต่พวกนั้นก็ต้องหาทางกันพวกเขาออกมา
แทนที่จะฝืนเข้าร่วม มันจะดีกว่าถ้าหากยอมแพ้
“ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการให้พวกเราเข้าร่วมงั้นพวกเราจะตั้งทีม
ด้วยตัวเอง พวกเราขั้นที่ 8 มาตั้งกลุ่มอยู่ด้วยกันดีไหม?” ฉีเลี่ยมอง
ไปรอบ ๆ และสอบถามพวกขั้นที่ 8
เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกขั้นที่ 8 ก็ไปรวมตัวกันรอบ ๆ สองคนพี่น้อง
และแสดงท่าทีของตนออกมา
“พวกเจ้าพอใจแล้วหรือไม่ ?” ฉีเลี่ยหันไปมองที่พวกขั้น 9
“ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะทำแบบนี้ให้ได้ตลอด” พวกขั้น 9 หันกลับไป
ในเวลาเดียวกัน พวกขั้น 9 ที่เหลือก็พากันโล่งอก แต่พวกเขาก็ใช่ว่า
จะเชื่อคำพูดของฉีเลี่ย และยังคงระวังตัวต่อไป
“ทีมต่อไป”
เมื่อเสียงของเย่ลั้วสิ้นสุดลง ผ่านไปไม่กี่อึดใจ การทดสอบอีกทีมก็
สิ้นสุดลง ครั้งนี้ดีกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย มีคนผ่านไปได้ถึง 3 คน
พวกขั้น 9 ที่อยู่ตรงหน้าพากันเดินเข้าไปในวงต่อทันที พวกขั้น 8
ยังคงถูกขวางไว้ตามเดิม
“ทีมต่อไป”
“ทีมต่อไป”
“ทีมต่อไป”
เย่ลั้วทำแบบเดิมซ้ำ ๆ และพูดประโยคเดิมออกมา คนส่วนมากพา
กันตกรอบ พวกคนที่สอบผ่านจะไปทำการลงทะเบียนต่อจากนั้นฉิน
เหลียนก็จะจัดพวกนั้นเข้าทีมต่าง ๆ และให้ไปยืนประจำตำแหน่ง
อีกด้านหนึ่ง เกอเอ๋อร์มู่ที่ตกรอบไปนั้น ก็ยังไม่ได้กลับไปทันที เขา
ไม่ได้สนใจสายตาคนอื่น ๆ ที่มองมาที่เขา เขามองไปที่สองพี่น้อง
ด้วยสายตาอาฆาต
เวลาผ่านไปช้า ๆ ผู้คนด้านหลังค่อย ๆ เดินหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ เพื่อรับ
การทดสอบ พวกขั้น 8 รอบตัวฉีจ้วงและฉีเลี่ยก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่นานพวกขั้น 8 ที่มารวมตัวรอบ ๆ สองพี่น้อง ก็มีมากถึง 20 คน
โดยไม่รู้ตัว
“ทีมต่อไป” เย่ลั้วยังคงพูดเหมือนเดิม ราวกับหุ่นยนต์ ไม่กี่อึดใจอีก
ทีมก็ทำการทดสอบเสร็จ
ที่ประตูของคฤหาสน์ ฉินเหลียนมองไปที่กองทัพที่เพิ่มขึ้นมาก่อน
จะพูดขึ้นมาอย่างพอใจ “70,000 คนแล้ว”
จำนวนทหารเพิ่มขึ้นมาถึง 70,000 คน ตอนนี้มันต่างจากเป้าหมายที่
เขาตั้งไว้แค่อีก 10,000 คนเท่านั้น
“70,000 คนนี้แทบทั้งหมดอยู่ขั้นที่ 9 และมีหลายคนที่เป็นยอดฝีมือ
อย่างหยานซานและจางเยี่ย !” หลัวซงพอใจเป็นอย่างมาก ผลลัพธ์นี้
มันดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เขาเคยคิดว่ามันคงจะดีถ้าหากได้พวกขั้นที่ 9
มาสักหมื่นสองหมื่นคน แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะได้มาเยอะแบบนี้
ไม่ใช่แค่หลัวซงที่คาดไม่ถึง แม้แต่ฉินเหลียนเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
ว่าการลงทะเบียนเข้าเมืองทะเลทราย กลับทำให้พวกขอบเขตฉีชวน
ขั้นที่ 9 สนใจได้ถึงเพียงนี้ !
เขาคิดว่ามันคงมีพวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 สักหมื่นคน ที่จะมาเป็น
ทหาร แต่ผลลัพธ์นี้มันมากกว่าที่เขาคิดไว้หลายเท่า !
เขาคิดว่าเขาคงรับพวกขั้นที่ 9 มาได้สักหมื่นสองหมื่นคน แต่ตอนนี้
เขากลับได้มาถึง 70,000 คน !
“มันยากที่จะคิดออกว่ามีพวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 มากมายแบบนี้
ในอาณาจักรโจว” ฉินเหลียนอดไม่ได้ที่จะทึ่ง “ตอนแรกข้าคิดว่าจะ
ได้แค่พวกขั้นที่ 9 ทั่วไปมา แต่พวกที่ผ่านการทดสอบกลับดีกว่าที่ข้า
คิดเอาไว้”
โชคชะตาไม่อาจจะคาดเดาได้จริง ๆ !
เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่า วันหนึ่งจะมีกองทัพที่แข็งแกร่งแบบนี้
ความแข็งแกร่งของกองทัพนี้อาจจะแข็งแกร่งกว่ากองทัพของ
อาณาจักรด้วยซ้ำ !
ถ้าหากชะตาชีวิตของเขาไม่เปลี่ยนแปลง อย่าว่าแต่จะได้เป็นท่านเจ้า
เมืองทะเลทรายเลย กระทั่งทหารยศน้อยก็คงจะเป็นไม่ได้
“ทีมต่อไป”
เสียงของเย่ลั้วดังขึ้นมาอีกครั้ง ขัดความคิดของฉินเหลียน
ในเวลาเดียวกันก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา ในหมู่ผู้คนที่เข้ารับการทดสอบ
ฉินเหลียนมองออกไปด้วยความสงสัยและพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลัง
เดินเข้าไปในวงทดสอบที่เย่ลั้วอยู่
ฉินเหลียนคิ้วขมวด “ขั้นที่ 8 รึ?”
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา!
ครั้งนี้ทีมที่เข้ารับการทดสอบก็คือพวกขั้นที่ 8 !
ไม่ใช่แค่ฉินเหลียน หยานซาน, จางเยี่ยและคนอื่น ๆ ที่ผ่านการทดสอบ
แล้ว ต่างก็มองไปที่ทีมนี้ด้วยความแปลกใจ จะมีคนผ่านการทดสอบ
ได้รึ ?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือทีมที่ฉีจ้วงและฉีเลี่ยอยู่ นี่คือทีมแรกที่ตั้ง
ขึ้นมาจากพวกขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8!
หลังจากที่รอประมาณ 15 นาที ในที่สุดทีมนี้ก็ครบ 30 คน !
เมื่อมีคนมากพอ พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรอ เมื่อเย่ลั้วประกาศ
เรียกทีมใหม่ พวกเขาก็เดินตรงเข้าไปในวง พวกขั้น 9 ที่เหลือต่างก็
พากันหลีกทางให้ราวกับพวกนี้เป็นเชื้อโรคร้าย
“พวกคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง !” พวกขั้น 9 นอกวงหลายคนมองไปที่ทีม
ในวง
พวกนั้นไม่คิดว่าทีมนี้จะผ่านการทดสอบไปได้ โดยเฉพาะเกอเอ๋อร์มู่
ที่เคยรับรู้ถึงพลังของเย่ลั้วมาแล้ว เขารู้ดีว่าเย่ลั้วนั้นน่ากลัวแค่ไหน
พวกขั้น 8 ไม่อาจรับการโจมตีของเย่ลั้วได้แน่
เมื่อเห็นทีมของฉีเลี่ยและคนอื่น ๆ เย่ลั้วก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
จากนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์และถามขึ้น “พวกท่านพร้อมยัง ?”
ขั้น 8 กับขั้น 9 สำหรับเขาแล้ว มันไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก เขาไม่
คิดสนใจพวกที่อยู่ขั้น 9 และไม่คิดจะสนใจพวกที่อยู่ขั้น 8 เช่นกัน
สำหรับเขาแล้วมดกับแมลงสาบนั้นแตกต่างกัน แต่ในสายตามนุษย์
แล้ว พวกมันต่างก็อ่อนแอ
“พร้อม ! “ ฉีเลี่ย ฉีจ้วงและคนอื่น ๆ ต่างก็กัดฟันแน่นแล้วตอบกลับ
พวกเขาทนกับการเยาะเย้ยจากพวกขั้น 9 มาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันถึงเวลา
ที่จะพิสูจน์ตัวเองแล้ว พวกเขาพากันสาบานในใจว่า แม้ว่าจะต้อง
แลกด้วยชีวิต แต่พวกเขาก็ต้องผ่านการทดสอบนี้ไปให้ได้!
“ความแข็งแกร่งของเราอาจจะเทียบกับพวกขั้นที่ 9 ไม่ได้ แต่จิตใจ
ของพวกเราแข็งแกร่งกว่า! “ พวกเขาพากันตะโกนในใจพร้อมกับ
ความโกรธที่ปะทุออกมา
เย่ลั้วค่อย ๆ ยื่นฝ่ามือออกไป ปราณโคจรไปตามเส้นชีพจร ต่อมานั้น
ฝ่ามือก็เกิดการระเบิดของอากาศขึ้นอย่างรุนแรง
ปัง !
ฝ่ามือของเขาราวกับภูเขาที่เกิดการระเบิดกระจายตัวออกมา อากาศ
ปั่นป่วนกระจายออกไปโดยรอบ
ตอนนั้นสายตาของทุกคนมองไปที่ฉีเลี่ยและคนอื่น ๆ หากเทียบกับ
พวกขั้นที่ 9 แล้ว ทีมนี้ไม่ต้องเดาเลยว่าต้องพิเศษกว่า ทุกคนต่างก็พา
กันสงสัยว่าผลลัพธ์สุดท้ายของทีมนี้จะออกมาเป็นยังไง?
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงของตกลงกับพื้น ดัง
ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่กี่อึดใจร่างของคนในทีม ก็พากันกระเด็นออกไป นอกจากฉีจ้วง,
ฉีเลี่ยแล้ว มันก็ยังมีพวกขั้น 8 อีกหลายคนที่ยังยืนอยู่ในวงได้
“1, 2, 3….6! ผ่านการทดสอบถึง 6 คน !”
ตอนนั้นสายตาของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างก็มองไปยังคนที่ยัง
อยู่ในวงด้วยความเหลือเชื่อ
เกอเอ๋อร์มู่ราวกับโดนฟ้าผ่าเข้า เขาตะลึงจนนิ่งอึ้ง “มันเป็นไปได้
ยังไงกัน !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก