ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 363
ตอนที่ 363 การทดสอบ (V)
ในวงนั้นพวกขั้น 8 หลายคนแทบจะหมดสติ แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะ
ยอมแพ้ พวกเขาพากันได้รับบาดเจ็บหนัก หลายคนทรวงอกยุบลง
ไป บางคนถึงกับมีเลือดไหลออกมาจากปาก หากทำการรักษาไม่ทัน
พวกนี้อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
“บ้า พวกนี้บ้าไปแล้ว !”
“เพื่อที่จะเป็นทหาร พวกนี้กลับยอมรับบาดเจ็บเช่นนี้ มันคุ้มค่าแล้วรึ?”
เมื่อเห็นแบบนั้น ทุกคนก็พากันเบิกตากว้างด้วยความตะลึง หากต้อง
ได้รับบาดเจ็บหนักแบบนี้ งั้นพวกขั้น 9 หลายคนก็สามารถผ่านการ
ทดสอบไปได้ แต่ไม่มีใครเต็มใจจะยอมบาดเจ็บเช่นนี้ พวกเขาคิดว่า
แม้ไม่ได้ก็รอทะลวงขอบเขตว่อซวนในอนาคตแทน ดังนั้นจึงเป็น
ธรรมดาที่จะไม่เต็มใจต้องมารับบาดเจ็บ และไม่ผ่านการทดสอบ
พวกเขารอการทดสอบครั้งหน้าก็ได้ แต่หากต้องบาดเจ็บหนักแบบนี้
มันอาจจะส่งผลเสีย แม้ว่าจะผ่านการทดสอบไปได้ แต่ก็อาจจะไม่มี
หวังทะลวงผ่านขึ้นไปยังขอบเขตว่อซวน
ชายที่อยู่ชั้น 8 ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยการที่มี
จางเยี่ยคอยช่วย เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บหนักนัก
ตอนนั้นทีมที่ประกอบไปด้วยผู้ที่อยู่ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 กลับผ่าน
การทดสอบไปได้หลายคน ยกเว้นแค่ฉีจ้วงและฉีเลี่ย คนอื่น ๆ ต่างก็
ได้รับบาดเจ็บหนัก และหนึ่งในนั้นก็เกือบตาย
ทุกคนมองไปที่พวกนั้นและรู้สึกที่งขึ้นมา “เพื่อที่จะเป็นทหารพวก
เจ้าถึงกับไม่กลัวตายกันเลย ?”
แต่ทุกคนไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกนี้ถึงได้พยายามนัก นี่ไม่ใช่แค่เพื่อ
เป็นทหาร แต่เป็นการพิสูจน์ตัวเอง ให้พวกคนที่ดูถูกพวกเขานั้น
เข้าใจว่า ถึงจะไม่มีพวกขั้นที่ 9 คอยช่วย แต่พวกเขาก็สามารถพึ่ง
พลังของตัวเองในการผ่านการทดสอบไปได้
พวกเขาแค่อยากทวงคืนเกียรติและศักด์ิศรีของตน !
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ พวกขั้น 8 ในวงหลายคนก็พากันได้สติพวก
เขาก้มหน้ามองตำแหน่งของตัวเอง เมื่อเห็นว่าตนเองยังอยู่ในวงกลม
พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “สุดท้ายเราก็ผ่านการทดสอบ ! ฮา
ฮา…”
พวกเขาแสดงความรู้สึกดีใจออกมา และระบายความรู้สึกที่อัดอั้น
ออกมาผ่านเสียงหัวเราะ
ที่ด้านนอกคฤหาสน์นั้น ผู้คนพากันปิดปากเงียบ มองไปที่พวกนั้น
ด้วยความตะลึง พวกเขาเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีแค่เสียง
หัวเราะของพวกขั้น 8 ที่ดังก้องอยู่
ฉีจ้วงและฉีเลี่ยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าทั้งสองคนจะมั่นใจใน
ความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่พวกเขาก็โล่งอกได้จริง ๆ ก็ตอนที่ผ่าน
การทดสอบ
“เห็นหรือไม่ ? เราไม่ได้แย่ไปกว่าพวกเจ้าเลย !” พวกขั้น 8 ที่บาดเจ็บ
ได้เวลาเอาคืน พวกเขามองไปที่พวกขั้น 9 ที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก และ
ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนเลือด “ข้าเยว่ซงซาน ผ่านการทดสอบได้”
เสียงของเขาเบาลงและอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็
หมดสติไป
“ท่านพี่ !” ฉีเลี่ยสีหน้าเปลี่ยนไป เขารีบตะโกนบอกฉีจ้วงที่อยู่ใกล้
เยว่ชงซานมากที่สุด
ฉีจ้วงรีบพุ่งเข้าไปประคองตัวเยว่ซงซานเอาไว้ทันที
ฉีเลี่ยรีบตามเข้าไป แล้วเอายาฟื้นฟูออกมาจากเสื้อ ก่อนที่จะป้อนใส่
ปากเยว่ซงซาน ก่อนจะพูดขึ้น “ตื่น อย่าหลับ! หากเจ้าไม่อยากให้คน
อื่นดูถูกเจ้า ถ้าเจ้าไม่ต้องการโดนดูถูกหลังจากที่ตายไปก็จงตื่น ไม่งั้น
แล้วคนอื่นจะดูถูกเจ้าต่อไป แม้แต่เราก็จะดูถูกเจ้าไปด้วย!”
ไม่รู้ว่ายาฟื้นฟูมันได้ผล หรือเพราะคำพูดของฉีเลี่ย เยว่ชงซานที่
เหมือนจะสลบไปนั้น กลับตื่นขึ้นมา “ใครกันที่กล้าดูถูกข้า !”
เขาโกรธจนตัวสั่น มีแค่เกียรติและศักด์ิศรีที่ทำให้เขายังครองสติได้
อยู่ น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บหนัก หากเขาตัวคนเดียวเขาคงไม่
อาจจะหลีกหนีความตายไปได้
ยาฟื้นฟูที่ฉีเลี่ยให้กินนั้น คือยาฟื้นฟูขั้นที่ 1 แต่ผลของมันมีจำกัด ใน
ฐานะนักผจญภัยแล้ว ฉีเลี่ยและฉีจ้วงมักจะพกยาฟื้นฟูติดตัวเสมอ
พวกเขาหาซื้อได้แค่ยาขั้นที่ 1 หากเป็นยาที่ดีกว่านี้ พวกเขาคงไม่
อาจจะซื้อมันได้ และไม่มีช่องทางให้ซื้อด้วย
ยาฟื้นฟูขั้นที่ 1 อาจจะยื้อชีวิตของเยวชงซานได้ แต่มันก็แค่ยื้อได้สัก
พัก พลังชีวิตของเขาค่อย ๆ ลดลงไปช้า ๆ เมื่อพลังของยาหมดลงเยว่
ซงซานคงพบกับจุดจบ
ตอนนั้นเองบรรยากาศรอบ ๆ ก็ดูหนักอึ้งขึ้นมา พวกคนที่เคยผ่าน
ความเป็นความตายมา ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างมาก
พวกเขาก็แค่รู้สึกซาบซึ้ง พวกคนที่เห็นสถานการณ์เป็นตายครั้งแรก
ต่างพากันใจเต้นรัว
พวกเขาตระหนักได้ว่าชีวิตนั้นช่างเปราะบาง คนเรามีชีวิตและตาย
ไปในพริบตา
ฉีเลี่ยกำหมัดแน่น แม้ว่าเขาจะเคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มาก่อน แต่
การที่จะปล่อยให้คนที่ทดสอบร่วมกันกับเขาตายไปตรงหน้าก็ไม่ใช่
เรื่องที่เขาจะรับได้
ทุกคนต่างก็พากันเงียบ พวกขั้น 9 ที่เคยเยาะเย้ยคนอื่นก่อนหน้านี้
ต่างก็พากันปิดปากเงียบ
“กลืนลงไปซะ” เย่ลั้วพุ่งเข้ามาและเอายาฟื้นฟูยัดใส่ปากเยว่ซงซาน
ทันที “จะรอดหรืออยู่ต่อก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
แค่ไม่กี่อึดใจ พลังชีวิตของเยว่ซงซานก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หัวใจ
ที่เกือบจะหยุดเต้น ตอนนี้เริ่มเต้นเป็นจังหวะมากกว่าเดิม อวัยวะ
ภายในที่เสียหายฟื้นฟูขึ้นมาด้วยความเร็วอันน่าทิ้ง ภายใต้การ
ช่วยเหลือจากยาฟื้นฟู
ฉีเลี่ยเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเยวชงซาน ก็อดไม่ได้ที่จะทึ่ง
ไม่ได้ “นี่มันยาอะไรกัน ?”
แค่ยาเม็ดเดียว ก็สามารถทำให้เยวชงซานกลับมามีชีวิตรอดได้ แค่
สิบลมหายใจเขาก็เกือบจะฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บได้ ผลที่น่ากลัว
ของการรักษานี้ ฉีเลี่ยไม่อาจจะเชื่อสายตาตัวเอง
“ยาฟื้นฟูขั้น 3” เย่ลั้วตอบกลับด้วยท่าทีเฉยเมย “ดูเหมือนว่าผลของ
ยาจะทำได้ดี”
เมื่อได้ยินที่เย่ลั้วพูดมา ฉีเลี่ยและคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ก็ต่างพากัน
ตะลึง ยาฟื้นฟูขั้น 3 สำหรับพวกเขาแล้วมันคือสมบัติ นี่ไม่ต้องนับ
พวกขอบเขตฉีชวนเลย แม้แต่พวกขอบเขตว่อซวน หรือตันชวนก็ถือ
ว่ามันเป็นยาที่มีค่า
แต่เย่ลั้วกลับเอายานั่นให้เยว่ซงซานกิน
“น่าเสียดาย ! “ แม้ว่ายานี้จะไม่ใช่ของพวกเขา แต่พวกขั้น 9 หลาย
คนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสลด “ยาที่ล้ำค่าแบบนี้กลับเอาให้คนขอบเขต
ฉีซวนขั้นที่ 8 กิน…”
ในมุมมองของพวกเขาแล้ว พวกขั้น 8 เป็นหมื่นคนก็ยังมีค่าน้อยกว่า
ยาขั้น 3!
การเอายาขั้น 3 ให้กับคนที่อยู่ขอบเขตฉีชวนขั้นที่ 8 กินนั้นเท่ากับทำ
ให้ยาเสียคุณค่าไปเปล่า ๆ !
“นายน้อย ท่านไม่รู้ค่าของมันรึ?” ตอนแรกคนทั่วไปต่างก็พากันสงสาร
เยว่ซงซาน แต่ตอนนี้พวกเขามองเยวชงซานต่างจากเดิม สายตาพวก
เขาเต็มไปด้วยความอคติ
“ชายคนนี้โชคดีชะมัด !” การได้กินยาฟื้นฟูนั้น ไม่ใช่แค่ทำให้เยว่ซง
ซานฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้หมด แต่ยังไม่ส่งผลกระทบใด ๆ รวมไป
ถึงทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นด้วย
แม้ว่าบทบาทของยาฟื้นฟูจะช่วยรักษาบาดแผล แต่ยาขั้น 3 ก็ยังถือ
ว่าเป็นยาขั้น 3 ยานี้มีพลังมหาศาล สำหรับพวกขอบเขตฉีซวนแล้ว
มันช่วยยกระดับพลังของพวกเขาขึ้นมาได้ มันไม่ได้ด้อยกว่ายาฉีซวน
ที่ช่วยยกระดับการบ่มเพาะเลย
เยว่ซงซานที่เพิ่งจะได้สติมองไปที่เย่ลั้วด้วยความตะลึง
“ยาฟื้นฟูขั้นที่ 3 รึ” เยว่ซงซานกลืนน้ำลาย ตอนนี้ในหัวเขาเต็มไป
ด้วยความสับสน “พระเจ้า ข้าเพิ่งกินยาฟื้นฟูขั้นที่ 3 เข้าไป?”
สักพักเขาถึงได้สติ และโค้งให้กับเยลั้ว “ขอบคุณ ขอบคุณมากนาย
น้อยเย่…”
เย่ลั้วโบกมือ “มันก็แค่ยาฟื้นฟู ไม่ต้องใส่ใจมากหรอก”
สำหรับคนอื่นแล้ว ยาฟื้นฟูขั้น 3 คือสมบัติอันล้ำค่า แม้แต่พวกขอบเขต
ตันซวนก็อยากจะได้มันมา แต่สำหรับเย่ลั้วแล้ว มันก็เป็นแค่ยาธรรมดา
หากเขาต้องการมันเพิ่ม เขาแค่ต้องบอกกับอู่โม่ ให้อูโม่ปรุงมันให้กับ
เขา แม้ว่าเขาจะไม่บอกแต่อูโม่ก็มักจะปรุงยาให้คนอื่นอยู่บ่อย ๆ ยังไง
ซะอูโม่ก็ฝึกฝนเรื่องการปรุงยาอยู่แล้ว พวกเขาได้ยาพวกนี้มาเยอะมาก
จนบางครั้งก็ใช้ไม่หมด
“ท่านโชคดี ที่ข้าลงมาจากเขาและบังเอิญว่าพกยาขั้นที่ 3 มาด้วย” เย่ลั้ว
มองไปที่เยว่ชงซาน และหันไปมองผู้คนที่ยังไม่ได้รับการทดสอบ
“จากนี้ไปพวกท่านควรระวังตัว ข้าไม่ได้มียาฟื้นฟูติดตัวอีก”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้คนที่คิดอยากจะกินยาฟื้นฟู ต่างก็พากันผิดหวัง
และรีบเปลี่ยนความคิด
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังเยวชงซานที่กินยาฟื้นฟูเข้าไป! ชาย
คนนั้นกลับได้มันไป!
เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาประหลาดของผู้คนที่มองมา เยว่ซงซานก็ถึงกับ
กลืนน้ำลาย
“ข้าชื่นชมความกล้าของท่าน แต่ข้าหวังว่าในอนาคต ท่านจะไม่หุนหัน
เช่นนี้” เย่ลั้วพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ทุกคนมีแค่ชีวิตเดียวและหากตายไป มันก็จะไม่มีโอกาสที่สอง หาก
เมื่อครู่ข้าไม่มียาฟื้นฟูขั้นที่ 3 ท่านคงตายไปแล้วจริง ๆ”
เยว่ซงซานก้มหน้าและพูดขึ้นมา “นายน้อยเย่พูดถูก มันเป็นความผิด
ของข้าเอง”
เมื่อเห็นว่าเยว่ชงชานยอมรับผิด เย่ลั้วก็ไม่คิดเอาเรื่อง เขาหันไปมอง
สองพี่น้องฉีและพูดขึ้นมา “พวกท่านสองคนชื่ออะไรกัน ?”
ทั้งสองมองหน้ากันและตอบกลับ “ฉีจ้วง ฉีเลี่ย !”
“พวกเจ้าสองคนแข็งแกร่งดี” เยลิ้วไม่ได้ประเมินดีเกินไป “หากข้า
เดาไม่ผิด พวกท่านคงแข็งแกร่งกว่าพวกขั้นที่ 9 ทั่วไปสินะ? เมื่อ
พวกท่านรับมือกับการโจมตีเมื่อครู่นี้ ข้าก็มองออก หากพวกท่าน
ร่วมมือกัน พวกท่านก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหยานซานเลย คนที่อยู่
ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 ไม่ง่ายที่จะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ “
ฉีเลี่ยรีบตอบกลับ “นายน้อยเย่ พูดเกินไป”
คนที่เหลือต่างก็มองไปที่ฉีเลี่ยด้วยความแปลกใจ หากเทียบกับพวก
ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 คนอื่น ๆ ที่ผ่านการทดสอบอย่างยากลำบาก
ฉีจ้วงและฉีเลี่ยดูเหมือนจะผ่อนคลายมากกว่า และไม่ได้รับบาดเจ็บ
ใด ๆ เหมือนคนอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครคิดว่า เย่ลั่วจะประเมิน
พวกเขาสูงขนาดนี้
หากร่วมมือกัน พวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหยานซานเลยรึ?
นั่นมันหมายความว่า หากมีพวกเขาอยู่ในทีมด้วย โอกาสที่จะผ่าน
การทดสอบก็ยิ่งมากขึ้นไม่ใช่รึ ?
“ดูพวกเราสิ” พวกขั้น 9 หลายคนพากันยิ้มขมขื่นออกมาและรู้สึก
ซับซ้อน “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทีมขั้น 8 ถึงได้ผ่านถึง 6 คน ที่แท้
สองคนนั่นกลับแข็งแกร่งเช่นนี้นี่เอง”
ระหว่างนั้นพวกขั้น 9 ด้านนอกก็แสดงสายตาเสียใจออกมา ชัดแล้ว
ว่าพวกเขามีโอกาสได้ร่วมทีมกับฉีเลี่ย แต่พวกเขาเป็นฝ่ายกีดกันฉี
เลี่ยและคนอื่น ๆ ออกไป
นี่คือกรรมตามสนองหรือเปล่า ?
ในวงนั้นพวกขั้น 8 หลายคนแทบจะหมดสติ แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะ
ยอมแพ้ พวกเขาพากันได้รับบาดเจ็บหนัก หลายคนทรวงอกยุบลง
ไป บางคนถึงกับมีเลือดไหลออกมาจากปาก หากทำการรักษาไม่ทัน
พวกนี้อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
“บ้า พวกนี้บ้าไปแล้ว !”
“เพื่อที่จะเป็นทหาร พวกนี้กลับยอมรับบาดเจ็บเช่นนี้ มันคุ้มค่าแล้วรึ?”
เมื่อเห็นแบบนั้น ทุกคนก็พากันเบิกตากว้างด้วยความตะลึง หากต้อง
ได้รับบาดเจ็บหนักแบบนี้ งั้นพวกขั้น 9 หลายคนก็สามารถผ่านการ
ทดสอบไปได้ แต่ไม่มีใครเต็มใจจะยอมบาดเจ็บเช่นนี้ พวกเขาคิดว่า
แม้ไม่ได้ก็รอทะลวงขอบเขตว่อซวนในอนาคตแทน ดังนั้นจึงเป็น
ธรรมดาที่จะไม่เต็มใจต้องมารับบาดเจ็บ และไม่ผ่านการทดสอบ
พวกเขารอการทดสอบครั้งหน้าก็ได้ แต่หากต้องบาดเจ็บหนักแบบนี้
มันอาจจะส่งผลเสีย แม้ว่าจะผ่านการทดสอบไปได้ แต่ก็อาจจะไม่มี
หวังทะลวงผ่านขึ้นไปยังขอบเขตว่อซวน
ชายที่อยู่ชั้น 8 ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยการที่มี
จางเยี่ยคอยช่วย เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บหนักนัก
ตอนนั้นทีมที่ประกอบไปด้วยผู้ที่อยู่ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 กลับผ่าน
การทดสอบไปได้หลายคน ยกเว้นแค่ฉีจ้วงและฉีเลี่ย คนอื่น ๆ ต่างก็
ได้รับบาดเจ็บหนัก และหนึ่งในนั้นก็เกือบตาย
ทุกคนมองไปที่พวกนั้นและรู้สึกที่งขึ้นมา “เพื่อที่จะเป็นทหารพวก
เจ้าถึงกับไม่กลัวตายกันเลย ?”
แต่ทุกคนไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกนี้ถึงได้พยายามนัก นี่ไม่ใช่แค่เพื่อ
เป็นทหาร แต่เป็นการพิสูจน์ตัวเอง ให้พวกคนที่ดูถูกพวกเขานั้น
เข้าใจว่า ถึงจะไม่มีพวกขั้นที่ 9 คอยช่วย แต่พวกเขาก็สามารถพึ่ง
พลังของตัวเองในการผ่านการทดสอบไปได้
พวกเขาแค่อยากทวงคืนเกียรติและศักด์ิศรีของตน !
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ พวกขั้น 8 ในวงหลายคนก็พากันได้สติพวก
เขาก้มหน้ามองตำแหน่งของตัวเอง เมื่อเห็นว่าตนเองยังอยู่ในวงกลม
พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “สุดท้ายเราก็ผ่านการทดสอบ ! ฮา
ฮา…”
พวกเขาแสดงความรู้สึกดีใจออกมา และระบายความรู้สึกที่อัดอั้น
ออกมาผ่านเสียงหัวเราะ
ที่ด้านนอกคฤหาสน์นั้น ผู้คนพากันปิดปากเงียบ มองไปที่พวกนั้น
ด้วยความตะลึง พวกเขาเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีแค่เสียง
หัวเราะของพวกขั้น 8 ที่ดังก้องอยู่
ฉีจ้วงและฉีเลี่ยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าทั้งสองคนจะมั่นใจใน
ความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่พวกเขาก็โล่งอกได้จริง ๆ ก็ตอนที่ผ่าน
การทดสอบ
“เห็นหรือไม่ ? เราไม่ได้แย่ไปกว่าพวกเจ้าเลย !” พวกขั้น 8 ที่บาดเจ็บ
ได้เวลาเอาคืน พวกเขามองไปที่พวกขั้น 9 ที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก และ
ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนเลือด “ข้าเยว่ซงซาน ผ่านการทดสอบได้”
เสียงของเขาเบาลงและอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็
หมดสติไป
“ท่านพี่ !” ฉีเลี่ยสีหน้าเปลี่ยนไป เขารีบตะโกนบอกฉีจ้วงที่อยู่ใกล้
เยว่ชงซานมากที่สุด
ฉีจ้วงรีบพุ่งเข้าไปประคองตัวเยว่ซงซานเอาไว้ทันที
ฉีเลี่ยรีบตามเข้าไป แล้วเอายาฟื้นฟูออกมาจากเสื้อ ก่อนที่จะป้อนใส่
ปากเยว่ซงซาน ก่อนจะพูดขึ้น “ตื่น อย่าหลับ! หากเจ้าไม่อยากให้คน
อื่นดูถูกเจ้า ถ้าเจ้าไม่ต้องการโดนดูถูกหลังจากที่ตายไปก็จงตื่น ไม่งั้น
แล้วคนอื่นจะดูถูกเจ้าต่อไป แม้แต่เราก็จะดูถูกเจ้าไปด้วย!”
ไม่รู้ว่ายาฟื้นฟูมันได้ผล หรือเพราะคำพูดของฉีเลี่ย เยว่ชงซานที่
เหมือนจะสลบไปนั้น กลับตื่นขึ้นมา “ใครกันที่กล้าดูถูกข้า !”
เขาโกรธจนตัวสั่น มีแค่เกียรติและศักด์ิศรีที่ทำให้เขายังครองสติได้
อยู่ น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บหนัก หากเขาตัวคนเดียวเขาคงไม่
อาจจะหลีกหนีความตายไปได้
ยาฟื้นฟูที่ฉีเลี่ยให้กินนั้น คือยาฟื้นฟูขั้นที่ 1 แต่ผลของมันมีจำกัด ใน
ฐานะนักผจญภัยแล้ว ฉีเลี่ยและฉีจ้วงมักจะพกยาฟื้นฟูติดตัวเสมอ
พวกเขาหาซื้อได้แค่ยาขั้นที่ 1 หากเป็นยาที่ดีกว่านี้ พวกเขาคงไม่
อาจจะซื้อมันได้ และไม่มีช่องทางให้ซื้อด้วย
ยาฟื้นฟูขั้นที่ 1 อาจจะยื้อชีวิตของเยวชงซานได้ แต่มันก็แค่ยื้อได้สัก
พัก พลังชีวิตของเขาค่อย ๆ ลดลงไปช้า ๆ เมื่อพลังของยาหมดลงเยว่
ซงซานคงพบกับจุดจบ
ตอนนั้นเองบรรยากาศรอบ ๆ ก็ดูหนักอึ้งขึ้นมา พวกคนที่เคยผ่าน
ความเป็นความตายมา ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างมาก
พวกเขาก็แค่รู้สึกซาบซึ้ง พวกคนที่เห็นสถานการณ์เป็นตายครั้งแรก
ต่างพากันใจเต้นรัว
พวกเขาตระหนักได้ว่าชีวิตนั้นช่างเปราะบาง คนเรามีชีวิตและตาย
ไปในพริบตา
ฉีเลี่ยกำหมัดแน่น แม้ว่าเขาจะเคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มาก่อน แต่
การที่จะปล่อยให้คนที่ทดสอบร่วมกันกับเขาตายไปตรงหน้าก็ไม่ใช่
เรื่องที่เขาจะรับได้
ทุกคนต่างก็พากันเงียบ พวกขั้น 9 ที่เคยเยาะเย้ยคนอื่นก่อนหน้านี้
ต่างก็พากันปิดปากเงียบ
“กลืนลงไปซะ” เย่ลั้วพุ่งเข้ามาและเอายาฟื้นฟูยัดใส่ปากเยว่ซงซาน
ทันที “จะรอดหรืออยู่ต่อก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
แค่ไม่กี่อึดใจ พลังชีวิตของเยว่ซงซานก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หัวใจ
ที่เกือบจะหยุดเต้น ตอนนี้เริ่มเต้นเป็นจังหวะมากกว่าเดิม อวัยวะ
ภายในที่เสียหายฟื้นฟูขึ้นมาด้วยความเร็วอันน่าทิ้ง ภายใต้การ
ช่วยเหลือจากยาฟื้นฟู
ฉีเลี่ยเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเยวชงซาน ก็อดไม่ได้ที่จะทึ่ง
ไม่ได้ “นี่มันยาอะไรกัน ?”
แค่ยาเม็ดเดียว ก็สามารถทำให้เยวชงซานกลับมามีชีวิตรอดได้ แค่
สิบลมหายใจเขาก็เกือบจะฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บได้ ผลที่น่ากลัว
ของการรักษานี้ ฉีเลี่ยไม่อาจจะเชื่อสายตาตัวเอง
“ยาฟื้นฟูขั้น 3” เย่ลั้วตอบกลับด้วยท่าทีเฉยเมย “ดูเหมือนว่าผลของ
ยาจะทำได้ดี”
เมื่อได้ยินที่เย่ลั้วพูดมา ฉีเลี่ยและคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ก็ต่างพากัน
ตะลึง ยาฟื้นฟูขั้น 3 สำหรับพวกเขาแล้วมันคือสมบัติ นี่ไม่ต้องนับ
พวกขอบเขตฉีชวนเลย แม้แต่พวกขอบเขตว่อซวน หรือตันชวนก็ถือ
ว่ามันเป็นยาที่มีค่า
แต่เย่ลั้วกลับเอายานั่นให้เยว่ซงซานกิน
“น่าเสียดาย ! “ แม้ว่ายานี้จะไม่ใช่ของพวกเขา แต่พวกขั้น 9 หลาย
คนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสลด “ยาที่ล้ำค่าแบบนี้กลับเอาให้คนขอบเขต
ฉีซวนขั้นที่ 8 กิน…”
ในมุมมองของพวกเขาแล้ว พวกขั้น 8 เป็นหมื่นคนก็ยังมีค่าน้อยกว่า
ยาขั้น 3!
การเอายาขั้น 3 ให้กับคนที่อยู่ขอบเขตฉีชวนขั้นที่ 8 กินนั้นเท่ากับทำ
ให้ยาเสียคุณค่าไปเปล่า ๆ !
“นายน้อย ท่านไม่รู้ค่าของมันรึ?” ตอนแรกคนทั่วไปต่างก็พากันสงสาร
เยว่ซงซาน แต่ตอนนี้พวกเขามองเยวชงซานต่างจากเดิม สายตาพวก
เขาเต็มไปด้วยความอคติ
“ชายคนนี้โชคดีชะมัด !” การได้กินยาฟื้นฟูนั้น ไม่ใช่แค่ทำให้เยว่ซง
ซานฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้หมด แต่ยังไม่ส่งผลกระทบใด ๆ รวมไป
ถึงทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นด้วย
แม้ว่าบทบาทของยาฟื้นฟูจะช่วยรักษาบาดแผล แต่ยาขั้น 3 ก็ยังถือ
ว่าเป็นยาขั้น 3 ยานี้มีพลังมหาศาล สำหรับพวกขอบเขตฉีซวนแล้ว
มันช่วยยกระดับพลังของพวกเขาขึ้นมาได้ มันไม่ได้ด้อยกว่ายาฉีซวน
ที่ช่วยยกระดับการบ่มเพาะเลย
เยว่ซงซานที่เพิ่งจะได้สติมองไปที่เย่ลั้วด้วยความตะลึง
“ยาฟื้นฟูขั้นที่ 3 รึ” เยว่ซงซานกลืนน้ำลาย ตอนนี้ในหัวเขาเต็มไป
ด้วยความสับสน “พระเจ้า ข้าเพิ่งกินยาฟื้นฟูขั้นที่ 3 เข้าไป?”
สักพักเขาถึงได้สติ และโค้งให้กับเยลั้ว “ขอบคุณ ขอบคุณมากนาย
น้อยเย่…”
เย่ลั้วโบกมือ “มันก็แค่ยาฟื้นฟู ไม่ต้องใส่ใจมากหรอก”
สำหรับคนอื่นแล้ว ยาฟื้นฟูขั้น 3 คือสมบัติอันล้ำค่า แม้แต่พวกขอบเขต
ตันซวนก็อยากจะได้มันมา แต่สำหรับเย่ลั้วแล้ว มันก็เป็นแค่ยาธรรมดา
หากเขาต้องการมันเพิ่ม เขาแค่ต้องบอกกับอู่โม่ ให้อูโม่ปรุงมันให้กับ
เขา แม้ว่าเขาจะไม่บอกแต่อูโม่ก็มักจะปรุงยาให้คนอื่นอยู่บ่อย ๆ ยังไง
ซะอูโม่ก็ฝึกฝนเรื่องการปรุงยาอยู่แล้ว พวกเขาได้ยาพวกนี้มาเยอะมาก
จนบางครั้งก็ใช้ไม่หมด
“ท่านโชคดี ที่ข้าลงมาจากเขาและบังเอิญว่าพกยาขั้นที่ 3 มาด้วย” เย่ลั้ว
มองไปที่เยว่ชงซาน และหันไปมองผู้คนที่ยังไม่ได้รับการทดสอบ
“จากนี้ไปพวกท่านควรระวังตัว ข้าไม่ได้มียาฟื้นฟูติดตัวอีก”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้คนที่คิดอยากจะกินยาฟื้นฟู ต่างก็พากันผิดหวัง
และรีบเปลี่ยนความคิด
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังเยวชงซานที่กินยาฟื้นฟูเข้าไป! ชาย
คนนั้นกลับได้มันไป!
เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาประหลาดของผู้คนที่มองมา เยว่ซงซานก็ถึงกับ
กลืนน้ำลาย
“ข้าชื่นชมความกล้าของท่าน แต่ข้าหวังว่าในอนาคต ท่านจะไม่หุนหัน
เช่นนี้” เย่ลั้วพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ทุกคนมีแค่ชีวิตเดียวและหากตายไป มันก็จะไม่มีโอกาสที่สอง หาก
เมื่อครู่ข้าไม่มียาฟื้นฟูขั้นที่ 3 ท่านคงตายไปแล้วจริง ๆ”
เยว่ซงซานก้มหน้าและพูดขึ้นมา “นายน้อยเย่พูดถูก มันเป็นความผิด
ของข้าเอง”
เมื่อเห็นว่าเยว่ชงชานยอมรับผิด เย่ลั้วก็ไม่คิดเอาเรื่อง เขาหันไปมอง
สองพี่น้องฉีและพูดขึ้นมา “พวกท่านสองคนชื่ออะไรกัน ?”
ทั้งสองมองหน้ากันและตอบกลับ “ฉีจ้วง ฉีเลี่ย !”
“พวกเจ้าสองคนแข็งแกร่งดี” เยลิ้วไม่ได้ประเมินดีเกินไป “หากข้า
เดาไม่ผิด พวกท่านคงแข็งแกร่งกว่าพวกขั้นที่ 9 ทั่วไปสินะ? เมื่อ
พวกท่านรับมือกับการโจมตีเมื่อครู่นี้ ข้าก็มองออก หากพวกท่าน
ร่วมมือกัน พวกท่านก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหยานซานเลย คนที่อยู่
ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 ไม่ง่ายที่จะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ “
ฉีเลี่ยรีบตอบกลับ “นายน้อยเย่ พูดเกินไป”
คนที่เหลือต่างก็มองไปที่ฉีเลี่ยด้วยความแปลกใจ หากเทียบกับพวก
ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 คนอื่น ๆ ที่ผ่านการทดสอบอย่างยากลำบาก
ฉีจ้วงและฉีเลี่ยดูเหมือนจะผ่อนคลายมากกว่า และไม่ได้รับบาดเจ็บ
ใด ๆ เหมือนคนอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครคิดว่า เย่ลั่วจะประเมิน
พวกเขาสูงขนาดนี้
หากร่วมมือกัน พวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหยานซานเลยรึ?
นั่นมันหมายความว่า หากมีพวกเขาอยู่ในทีมด้วย โอกาสที่จะผ่าน
การทดสอบก็ยิ่งมากขึ้นไม่ใช่รึ ?
“ดูพวกเราสิ” พวกขั้น 9 หลายคนพากันยิ้มขมขื่นออกมาและรู้สึก
ซับซ้อน “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทีมขั้น 8 ถึงได้ผ่านถึง 6 คน ที่แท้
สองคนนั่นกลับแข็งแกร่งเช่นนี้นี่เอง”
ระหว่างนั้นพวกขั้น 9 ด้านนอกก็แสดงสายตาเสียใจออกมา ชัดแล้ว
ว่าพวกเขามีโอกาสได้ร่วมทีมกับฉีเลี่ย แต่พวกเขาเป็นฝ่ายกีดกันฉี
เลี่ยและคนอื่น ๆ ออกไป
นี่คือกรรมตามสนองหรือเปล่า ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก