ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 365

ตอนที่ 365 การต่อสู้ (I)
ในโลกนี้คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด คนที่แข็งแกร่งไม่ว่าจะ
ไปที่ไหนก็ตามก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้ ในทางกลับกันแล้วพวกที่
อ่อนแอก็ได้แต่เป็นเบี้ยล่าง
ฉีจ้วงและฉีเลี่ยต่างก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว แม้ว่าระดับการบ่มเพาะจะ
ไม่ได้สูงเท่ากับพวกทหารทั่วไป แต่อนาคตพวกเขาก็ต้องสดใสอย่าง
แน่นอน
“นี่คือความจริง !” ฉีเลี่ยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ใช่ นี่คือความจริง แม้ว่าจะไม่ชอบแต่ก็ต้องปรับตัวเข้ากับมันมีแค่
การปรับตัวให้เข้ากับมันให้ได้เท่านั้น ที่จะเอาตัวรอดในโลกนี้ได้
เขาจะไม่อยากมีชีวิตที่มีความสุขได้ยังไง ?
นี่คือชีวิตที่หรูหราสำหรับเขา !
หากเขาเป็นเหมือนกับฉีจ้วงที่มักจะเอาแต่สร้างปัญหาล่ะ ?
ใครกันที่จะมาคอยเก็บกวาดเรื่องต่าง ๆ ให้ ?
ดังนั้นเขาจึงต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ไม่งั้นแล้วใครกันจะเคารพพวกเขา?
มีความคิดนับไม่ถ้วนในหัวเขา แต่ภายนอกแล้ว ฉีเลี่ยก็ยังแสดงท่าที่
สุภาพออกมา คนที่ทำให้พวกขั้น 9 เคารพได้ ใครบ้างที่จะไม่ภูมิใจ ?
แม้ว่าที่นี่จะมีพวกขั้น 9 หลายแสนคน แต่พวกขั้น 9 กลับแสดงท่าที
ถ่อมตัวออกมาต่อหน้าเขา ถ้าเป็นในเมืองเล็ก ๆ คนพวกนี้มีตำแหน่ง
ทัดเทียมกับท่านเจ้าเมืองได้เลย หากทำตัวดี ๆ แล้วพวกเขาก็สามารถ
รับตำแหน่งเจ้าเมืองเลยก็ได้ ตอนแรกฉินเหลียนก็อยู่ขอบเขตฉีซวน
ขั้นที่ 9 ไม่ใช่หรือไง ? ในทางกลับกันแล้วมีหลายคนที่แข็งแกร่งกว่า
ฉินเหลียน!
ท่าที่สุภาพของฉีเลี่ย ทำให้หลายคนพอใจเป็นอย่างมาก สายตาที่
พวกเขามองมายังฉีเลี่ยดูเป็นมิตรขึ้น
หยานซาน, หม่าชางซู, จางเยี่ยและคนอื่น ๆ ต่างก็มองมาที่พี่น้องฉี
ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ชัดแล้วว่าการเข้ามาของพี่น้องนี้ทำให้พวกเขา
รู้สึกกดดัน บางทีในอนาคตพวกเขาอาจจะได้แย่งตำแหน่งกันโดยตรง
“ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8 แต่ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้แล้ว สองคนนี้
น่าจะเป็นนักผจญภัยระดับสูงไม่ใช่หรือไง?” หยานซานและคนอื่น ๆ
คาดเดา
หากอยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ความแข็งแกร่งของนักผจญภัยก็มักจะ
แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป พวกนักผจญภัยระดับสูงคือกลุ่มนักผจญภัย
ที่โดดเด่น มันคือตำแหน่งที่ผู้คนพูดถึงกัน แต่ไม่ได้เป็นตำแหน่ง
ทางการอะไร แต่พวกนักผจญภัยระดับสูงทุกคนต่างก็ได้รับความ
เคารพ เพราะคนพวกนี้แข็งแกร่งกว่านักผจญภัยทั่วไป และจัดการ
อันตรายได้ดีกว่าคนอื่น ๆ
โดยทั่วไปแล้วความแข็งแกร่งของนักผจญภัยระดับสูงนั้นเทียบได้
กับลูกหลานของตระกูลชั้นนำเลยก็ได้ !
ความแข็งแกร่งของสองพี่น้องนี้นั้น สมกับเป็นนักผจญภัยระดับสูง
คนที่อยู่ขอบเขตฉีชวนขั้นที่ 8 กลับแข็งแกร่งกว่าพวกขั้นที่ 9 หากทั้ง
สองร่วมมือกันแม้แต่หยานซานก็ยังไม่อาจที่จะเป็นคู่มือได้
“สองคนที่อาจจะเป็นนักผจญภัยระดับสูง อยู่ ๆ หยานซานก็รู้สึกว่า
กลุ่มทหารกลุ่มนี้มีแต่ยอดฝีมือ
“ทีมต่อไป”
แม้ว่าพระอาทิตย์จะตกดินไปแล้ว แต่เสียงของผู้คนก็ยังดังก้องอยู่
มันเหลือแค่ไม่กี่คนที่ยังเหลือในพื้นที่ทดสอบ พวกขั้น 9 แทบทุกคน
ได้ทำการทดสอบไปแล้ว และเหลือแค่พวกขั้น 8 ที่โชคดีที่ผ่านการ
ทดสอบมาได้ สำหรับพวกขั้น 7 แล้ว พวกนั้นหมดหวังกับการ
ทดสอบไปแล้ว และได้แต่หลบไปข้าง ๆ เพื่อรอดูสิ่งที่น่าสนใจ
หลังจากที่ทดสอบเสร็จ ฉินเหลียนก็พูดขึ้นมา “นายน้อยเย่หมดแล้ว”
เย่ลั้วมองไปที่ฉินเหลียน “พอแล้วรึ ?”
“มันเกือบจะครบ 80,000 คนแล้ว ไม่จำเป็นต้องรบกวนท่านแล้ว”
ฉินเหลียนส่ายหน้า
เมื่อครู่นี้มีทีมกว่า 10 ทีมที่ทำการทดสอบแต่ก็ไม่ผ่าน พวกที่เหลือก็
มีระดับใกล้เคียงกัน แม้ว่าจะให้โอกาสอีกรอบแต่ก็ไม่มีใครผ่านการ
ทดสอบไปได้ เมื่อผลลัพธ์ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ทำไมต้องเสียเวลา
ต่อด้วย?
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าทหารที่รับเข้ามาจะยังไม่ครบตามที่ฉินเหลียนคิด
เอาไว้ แต่เขาก็พอใจอย่างมากแล้ว ยังไงซะพวกคนที่ผ่านการทดสอบ
มาก็เป็นพวกระดับสูงในหมู่ขอบเขตฉีซวน แม้ว่าจำนวนจะน้อยกว่า
ที่คิดเอาไว้ แต่จะบอกว่าฉินเหลียนไม่พอใจกับพวกระดับสูงที่ได้มา
หรือไง ?
เย่ลั้วพยักหน้า “เมื่อเจ้าเมืองฉินพูดแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นการทดสอบ
ก็ให้จบลงแค่นี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นก็เกิดเสียงฮือฮาในหมู่ผู้คน พวกขั้น 8 หลายคนที่
ยังไม่ได้รับการทดสอบ ต่างก็มองไปที่เย่ลั้วด้วยสายตาไม่พอใจ แม้
พวกเขาจะรู้ว่าโอกาสที่จะผ่านการทดสอบได้นั้นจะน้อย แต่พวกเขา
ก็ไม่คิดจะยอมแพ้
“หากพวกเจ้าคิดว่ามีความสามารถที่จะผ่านการทดสอบไปได้ ก็เข้า
มาแสดงพลังของเจ้าซะ” ฉินเหลียนพูดขึ้นมา
“อย่าบอกว่าข้าไม่ให้โอกาสพวกเจ้าในการแสดงพลังออกมาตราบใด
ที่เจ้าทำให้ข้าพอใจได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะรับพวกเจ้ามาเป็นทหาร”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเหลียนพวกขั้น 8 หลายคนก็เริ่มลังเลขึ้นมา
พวกเขากระอักกระอ่วน พวกเขารู้ว่าตนด้อยกว่าพวกขั้นที่ 9 ที่ตกรอบ
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ฉินเหลียนสนใจได้ หากต้องการแสดงพลัง
ต่อหน้าฉินเหลียน มันคงเป็นเรื่องเพ้อฝัน
ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดอะไรอีกต่อไป
เย่ลั้วมองไปที่พวกนั้น ก่อนจะส่ายหน้าและบอกกับฉินเหลียน “เจ้า
เมืองฉิน การทดสอบเสร็จแล้ว งั้นข้าขอตัวกลับไปสำนักคังเฉียง”
“นายน้อยเย่ ขอบคุณที่ช่วยเหลือ “ฉินเหลียนตอบกลับด้วยความ
เคารพ
ในสายตาของฉินเหลียนนั้น ศิษย์สำนักคังเฉียงคือพวกระดับสูงที่
แท้จริง การจ้างคนแบบนี้มาอาจจะเสียเงินเป็นล้าน ๆ เหรียญ เผลอ ๆ
อาจจะไม่พอด้วยซ้ำ การได้คนแบบนี้มาช่วยงานทำให้เขาซาบซึ้ง
จริง ๆ
“ท่านไม่จำเป็นต้องสุภาพก็ได้ “เย่ลั้วโบกมือและเตรียมที่จะกลับ
อยู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “นายน้อยเย่ รอสักครู่”
เสียงที่ดังขึ้นมานี้ทำให้ทุกคนหันมาสนใจ
เย่ลั้วหยุดและหันไปมองชายวัยกลางคนที่พูดขึ้น
ฉินเหลียนมองไปที่ชายวัยกลางคนและคิ้วขมวดขึ้นมา “ฟางจู๋? ข้าจำ
ได้ว่าชายคนนี้อยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นกลางไม่ใช่หรือ ?”
แต่เขาไม่ได้พูดมันออกมา เขาคงไม่ยอมพูดอะไรออกมา จนกว่าจะรู้
ถึงเป้าหมายของอีกฝ่าย
“ท่านเป็นใครกัน ?” เย่ลั้วถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ข้าฟางจู๋มาจากเมืองหลวง อยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นกลาง” ฟางจู๋มอง
ไปที่เย่ลั้วและแนะนำตัว
เย่ลั้วถามขึ้นมา “ท่านมีธุระอะไร ?”
ฟางจู๋เงียบไปก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้น “ข้าอยู่ในเมือง
ทะเลทรายมานาน และได้ยินข่าวลือเรื่องศิษย์สำนักคังเฉียงมามากมาย
แต่เดิมข้าไม่เชื่อข่าวลือพวกนั้น แต่วันนี้ข้ารู้แล้วว่าข่าวลือที่ว่านั้น
ไม่ได้เกินไปเลย หากไม่ได้ประมือกับนายน้อยเย่นั้นถือว่าน่าเสียดาย
ข้าไม่รู้ว่านายน้อยจะให้โอกาสประมือกับข้าได้หรือไม่ อีกอย่างแล้ว
ก็เพื่อดูความต่างระหว่างคนทั่วไปกับศิษย์สำนักคังเฉียงด้วย…”
หลังจากนั้น ฟางจู๋ก็มองไปที่เย่ลั้วด้วยสีหน้ากังวล และกลัวว่าจะถูก
เย่ลั้วปฏิเสธ
“ประมือรึ?” เย่ลั้วแปลกใจขึ้นมา “ท่านคิดจะท้าสู้กับข้ารึ?”
ฟางจู๋พยักหน้า “ใช่ มันหมายถึงแบบนั้นจริง ๆ ข้าหวังว่า นายน้อยเย่
จะตอบรับ !”
เมื่อได้ยินที่ฟางจู๋พูด ทุกคนต่างก็พากันอึ้ง คนที่อยู่ขอบเขตว่อชวน
ขั้นกลาง กลับท้าสู้คนที่อยู่ขอบเขตฉีซวนขั้น 9 รึ?
แม้ว่าคนที่อยู่ขอบเขตฉีซวนขั้น 9 จะเป็นศิษย์สำนักคังเฉียง แต่ก็ไม่
น่าที่จะเป็นคู่มือของคนที่อยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นกลางไม่ใช่รึ?
เย่ลั้วนั้นแข็งแกร่ง ไม่มีใครกล้าปฏิเสธเรื่องนี้ แต่เขาจะเทียบกับพวก
ขอบเขตว่อซวนขั้นกลางได้จริง ๆ รึ ?
สำหรับฉินเหลียน, เซินถูเส้อ, เถิงกวงและคนอื่น ๆ แล้ว พวกเขาดูใจ
เย็น แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเย่ลั้วจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่พวกเขาก็
คิดว่าไม่น่าจะอ่อนแอกว่าฟางจู๋ยังไงซะพวกเขาก็บ่มเพาะทักษะจี๋อู่
แบบดัดแปลงมา ทักษะจี๋อู่นั้นแข็งแกร่ง ในฐานะศิษย์สำนักคังเฉียง
เย่ลั้วก็ต้องแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้แน่ ฟางจู๋อาจจะไม่ใช่
คู่มือของเย่ลั้วก็เป็นได้
ในลานแห่งนั้นทุกคนต่างก็มองไปที่เย่ลั้ว
พวกเขาอยากรู้ว่าเย่ลั้วจะปฏิเสธหรือไม่?
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะได้สู้กับคนที่อยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นกลาง” เย่ลั้ว
มองไปที่ฟางจู๋ด้วยท่าทีสนใจ “เอาจริง ๆ แล้วข้าเองก็ไม่รู้ว่าข้าแข็ง
แกร่งแค่ไหน เมื่อท่านเสนอตัว ข้าคงต้องทดสอบ ด้วยความแข็งแกร่ง
ของท่านแล้ว…มาลองดูกันเถอะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฟางจู๋ก็พูดขึ้นมาอย่างดีใจ “ท่านตกลงแล้วนะ!”
เย่ลั้วยิ้มออกมา “มันไม่ใช่การต่อสู้เอาเป็นเอาตาย มันแค่การประมือ
ข้าจะปฏิเสธได้ยังไง ?”
หากเป็นการต่อสู้เอาเป็นเอาตาย เย่ลั้วคงไม่ตกลง แต่หากเป็นการ
ประมือกันทั่วไป เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่คิดมากไม่ว่าเขาจะแพ้หรือ
ชนะก็ตาม ยังไงซะการแพ้ให้กับคนที่อยู่ขอบเขตว่อชวนขั้นกลางก็
ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
เมื่อได้ยินที่ทั้งคู่พูดคุยกัน คนในลานต่างก็พากันกลั้นหายใจและ
คาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น คนที่อยู่ขอบเขตฉีชวนขั้น 9 จากสำนักคัง
เฉียงกับคนที่อยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นกลางจากเมืองหลวง ใครกันที่จะ
ชนะ ?
ระหว่างสัตว์ประหลาดจากสำนักทั้งเฉียงกับผู้บ่มเพาะขอบเขตว่อซวน
ขั้นกลาง ใครมันจะแข็งแกร่งกว่ากัน?
นี่คือโชคชะตาที่ต้องได้รับการพิสูจน์ !
“ท่านฟางจู๋ ระดับการบ่มเพาะของท่านสูงกว่านายน้อยเย่ ท่านไม่คิด
ว่ามันเป็นการรังแกกันหรือไง ?” ข้าง ๆ ฟางจู๋มีชายที่อยู่ขอบเขตว่อ
ซวนขั้นต่ำ อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าระดับการบ่มเพาะ
ของนายน้อยเย่ อยู่ที่ขอบเขตฉีซวนขั้น 9 เขาจะเป็นคู่มือของท่านได้
ยังไง ?” เขาพูดขึ้นเพื่อถือโอกาสประจบเย่ลั้ว ด้วยคำพูดนี้แม้ว่าเย่ลั้ว
จะถอนตัว แต่เขาก็ไม่ได้ถูกดูถูก
แต่ฟางจู๋กลับส่ายหน้า “เจ้าคิดผิดไปแล้ว ความแข็งแกร่งของนายน้อย
เย่ ไม่ได้ธรรมดาแบบที่เจ้าคิด”
เขามองไปที่เย่ลั้วด้วยสีหน้าเครียด “นายน้อยเย่ ยังไม่ได้เผยความ
แข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา หากนายน้อยใช้พลังออกมาอย่างเต็มที่
แม้แต่ข้าก็อาจจะไม่ใช่คู่มือของนายน้อยเย”
เขาไม่รู้ว่าเย่ลั้วแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขารู้สึกได้ว่าเย่ลั้วยังไม่ได้
เปิดเผยพลังทั้งหมดออกมา ชัดแล้วว่าเย่ลั้วยังออมแรงเอาไว้ ไม่งั้น
แล้วคงไม่มีใครผ่านการทดสอบไปได้
“สายตาดีนี่ !” เย่ลั้วยักคิ้วและชมอีกฝ่าย
“สมกับเป็นผู้ที่อยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นกลาง ! “เย่ลั้วเงียบไปชั่วครู่
และพูดต่อ “ไปกันเถอะ เปลี่ยนที่กัน ที่นี่อาจจะรับไม่ไหว
การแสดงที่วิเศษแบบนี้ ฉินเหลียนไม่มีทางจะพลาดได้ เขารีบตะโกน
ออกมา “นายน้อยเย่ ไม่ต้องเปลี่ยนที่หรอก ข้าจะให้คนหาที่เปิดโล่ง
ให้กับท่าน”
จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกลู่ซง “เร็วเข้า ให้ทุกคนรีบกระจายตัวออกไป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก