ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 367

ตอนที่ 367 การต่อสู้ (III)
“เยี่ยม การต่อสู้ยังไม่เริ่ม !” ด้านหลังพวกกลุ่มขอบเขตว่อซวนนั้น
พวกขอบเขตฉีซวนเพิ่งจะมาถึง เมื่อเห็นสองร่างภายในคฤหาสน์
พวกขอบเขตฉีซวนต่างก็พากันโล่งอก
ไม่นานหลังจากนั้น คฤหาสน์แห่งนั้นก็รายล้อมไปด้วยผู้บ่มเพาะ
หากมองไปรอบ ๆ คฤหาสน์แห่งนี้จะไม่เห็นที่ว่างเลยแม้แต่น้อย
ทุกคนยังไม่ทันได้สงบสติอารมณ์ อยู่ ๆ เย่ลั้วก็เคลื่อนไหวขึ้นมา เท้า
ข้างหนึ่งก้าวออกไปพร้อมกับบ้านที่ถล่มลงในพริบตา กำแพงแตก
ออกจากกัน พร้อมกับเศษไม้ที่กระจายไปทั่ว
ฟิ้ว
เย่ลั้วราวกับนักฆ่าและเตะเข้าใส่ฟางจู๋
ตอนนั้นเย่ลั้วพุ่งลงมาโดยไม่ออมแรงเลยแม้แต่น้อย พลังทั้งหมดที่
เขาใช้ออกมานี้ ทำให้เขามีความเร็วที่น่าทึ่ง
พวกที่ดูอยู่รอบ ๆ แทบจะไม่มีใครมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขา
ได้เลย มีแค่พวกขอบเขตว่อซวนขั้นกลางที่มองการเคลื่อนไหวของ
เขาออก
บนพื้น ฟางจู๋เองก็ก้าวออกไป อยู่ ๆ เขาก็ต่อยออกไปพร้อมกับ
ตะโกนขึ้น “ฮ่ะ !”
ตอนนั้นเย่ลั้วได้พุ่งเข้าชนกับฟางจู๋ หมัดกับเท้าได้เข้าปะทะกันจน
เกิดแรงระเบิดอันน่ากลัวออกมา
ปัง !
พลังระเบิดอันรุนแรงจากทั้งคู่ กระจายออกมาทั่วทุกทิศทาง ไม่นาน
หลังจากนั้น พลังก็กระจายไปโดยรอบเข้าปะทะกับผู้คนที่รายล้อม
คฤหาสน์แห่งนั้น
“แข็งแกร่งจริง ๆ !” พวกขอบเขตฉีซวนต่างก็ตะลึงไปกับฉากนี้ บาง
คนถึงกับล้มลงไปกองกับพื้น
แค่แรงดันจากการระเบิดนี้ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาอยู่ห่างออกมากว่า 10 ฟุต
แต่พวกเขาก็ยังล้มลงไปกองกับพื้นได้น่ากลัวจริง ๆ !
นี่ไม่ใช่คนที่อยู่ขอบเขตฉีซานขั้นที่ 9 สู้กับคนที่อยู่ขอบเขตว่อซวน
แล้ว แต่เหมือนเป็นการต่อสู้ระหว่างขอบเขตว่อซวนด้วยกันมากกว่า!
ไม่ว่าเย่ลั้วหรือฟางจู๋ ใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน แต่ทั้งคู่ก็ถือว่าเป็น
พวกที่อยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นกลาง !
พวกขอบเขตว่อซวนขั้นกลางหลายคนเห็นแบบนั้นก็รู้สึกคึกคัก
ขึ้นมา
“พระเจ้า นี่คือการต่อสู้ที่แท้จริง ! หากเทียบกับพวกเราแล้ว พวกเรา
ดูเป็นเด็กน้อยไปเลย !”
“เขาคือคนจากสำนักคังเฉียง เขาได้รับการสั่งสอนโดยท่านเซียน
และอาจารย์ที่มีชื่อเสียง !”
ทุกคนทั้งทึ่งและตื่นเต้น พวกเขาขยี้ตาตัวเองเพื่อดูการต่อสู้นี้ให้ชัดเจน
ขึ้น การต่อสู้ที่วิเศษเช่นนี้ยากที่จะพบได้ พวกเขาจะปล่อยให้มันเสีย
เปล่าได้ยังไง ?
“เฮ้อ”
ท่ามกลางฝุ่นที่ตลบอบอวล เย่ลั้วกระเด็นออกไปเพราะแรงกระแทก
ก่อนจะถีบตัวกับพื้นเพื่อประคองตัวเอง ตอนที่ฝุ่นจางลง ก็ปรากฏ
ร่างของฟางจู๋ ที่ยืนอยู่บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยรอยแตกที่พื้น
พลังระเบิดช่างรุนแรงจริง ๆ !
ทั้งสองยังไม่ได้ใช้ทักษะต่อสู้ออกมา แค่พลังกายล้วน ๆ ก็ยังมีพลังที่
รุนแรงเช่นนี้ได้ !
อึก
ที่ด้านนอกคฤหาสน์ ต่างก็มีเสียงกลืนน้ำลายของผู้คน
ฟางจู๋กำหมัดและมองไปที่เย่ลั้วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ดูเหมือนว่า
การที่ข้าท้าสู้กับท่าน จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”
หากไม่ได้ต่อสู้กับเย่ลั้ว เขาคงคิดไม่ถึงว่า คนที่อยู่ขอบเขตฉีซวนขั้น
ที่ 9 จะเทียบกับเขาได้ “หากข้าไม่ท้าท่านสู้ ข้าอาจจะเป็นแค่กบใน
กะลา”
หมัดคือส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายเขา เพราะเขาฝึกหมัดมา
ตั้งแต่เด็ก ที่เขาแข็งแกร่งขึ้นมาได้ก็เพราะหมัด
แต่แค่ประมือกับเย่ลั้วครั้งเดียว หมัดที่เขาภูมิใจกลับรู้สึกเจ็บปวด
ขึ้นมา ความเจ็บปวดคือความรู้สึกที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว!
ในอีกความหมายก็คือ ในการปะทะเมื่อครู่ เขากลับเสียเปรียบเล็กน้อย
แต่คนทั่วไปมองไม่ออก แม้แต่คนที่เคยสู้กับเขาก็อาจจะมองไม่ออก
ทุกอย่างมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้
“ท่านเองก็ทำได้ดี” เมื่อถูกฟางจู๋ชม เย่ล้วก็ไม่ได้หลงตัวเองแต่อย่างใด
เขาต่อสู้กับฟางจู๋เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง ไม่ได้มีความคิดอื่น ใน
มุมมองของเขาแล้ว คู่ต่อสู้จริง ๆ ของเขาไม่ใช่ฟางจู๋ ไม่ใช่พวก
ขอบเขตว่อซวนด้านนอก แต่เป็นจางเหิงหยาง, เหยามู่หว่าน, เหมา
ฉางเฟิง และคนอื่น ๆ มีแค่เอาชนะพวกนั้นได้เขาถึงรู้สึกว่าตัวเอง
ประสบความสำเร็จ
สำหรับฟางจู๋แล้ว เย่ลั้วไม่ได้รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับการเอาชนะอีกฝ่าย
หากเขาต้องการเอาชนะจริง ๆ เขาจะใช้ทักษะต่อสู้ตั้งแต่ต้น
เขาไม่คิดว่าฟางจู๋จะหยุดเคล็ดวิชาที่เจ้าสำนักสอนเขาได้ แม้ว่าเคล็ด
วิชานี้จะเป็นแค่เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลาง แต่ฟางจู๋อาจจะไม่
เคยเห็นเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งแบบนี้ !
เมื่อได้ยินคำตอบของเย่ลั้ว ฟางจู๋ก็ยิ้มออกมา เขาไม่ได้ถือสาอะไรกับ
คำพูดของเย่ลั้ว จากการโจมตีของเขา มันไม่คู่ควรกับคำประเมินนี้
“ต่อไปท่านต้องระวังเอาไว้ด้วย ข้าจะใช้เคล็ดวิชาต่อสู้ออกมา!” ฟาง
จู๋พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
ตอนที่พูดนั้น พลังในตัวเขาก็ปะทุออกมา ปราณในตัวเริ่มโคจร แผ่
แรงกดดันออกมาครอบคลุมไปทั่วคฤหาสน์
เย่ลั้วพยักหน้า “เข้ามา !”
เขาคาดหวังกับเคล็ดวิชาที่ฟางจู๋จะใช้ มีแค่ตอนที่ฟางจู๋ทุ่มสุดตัวเท่านั้น
ที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเขาเองได้และรู้ถึงขีดจำกัดของ
ตัวเอง การโจมตีของฟางจู๋ยังไม่หนักหน่วงพอ ฟางจู๋ไม่อาจจะทำให้
เขารู้สึกกดดันได้เลยแม้แต่น้อย เขาคาดหวังกับเคล็ดวิชาที่ฟางจู๋จะ
ใช้ว่าจะทำให้เขารู้สึกกดดันได้หรือไม่
ฟางจู๋สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาจากทั้งปอด
หนังตาเขากระตุกเล็กน้อย พร้อมกับปราณในตัวที่โคจรไปตามเส้น
ชีพจรด้วยความเร็วสูง
ในคฤหาสน์นั้นเกิดลมพัดแรงขึ้นมา โดยที่มีฟางจู๋เป็นจุดศูนย์กลาง
หึ่ง หึ่ง หึ่ง…
ลมพัดเสื้อผ้าและเส้นผมของฟางจู๋สะบัดไปมา สายตาของฟางจู๋
ยังคงจับจ้องไปที่เย่ลั้ว ในสายตาของเขาแล้วมันเหมือนกับว่ามีแค่
เย่ลั้วเท่านั้นที่มีตัวตน
ภายใต้สายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน ฟางจู๋อยู่ ๆ กลับเหมือนแยกร่างได้
จากหนึ่งเป็นสอง, สาม สี่ ร่างของเขาแยกเป็นเส้นตรง และพุ่งไปยัง
ตำแหน่งที่เยลั้วยืนอยู่ ไม่ มันไม่ใช่การแยกร่าง แต่เป็นความเร็วที่
รวดเร็วมาก จนยากที่คนจะมองได้ทัน และเห็นได้เพียงภาพติดตาที่
ทับซ้อนกัน จนคิดว่าเป็นร่างแยก
ตอนที่ผู้คนได้สติ ฟางจู๋ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเย่ลั้วแล้ว ไม่ต้องเดา
เลยว่าการระเบิดพลังของฟางจู๋นี้ มันทำให้เขารวดเร็วกว่าแต่ก่อน
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเคล็ดวิชาต่อสู้หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผล
อื่น แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร แต่เอาสั้น ๆ คือเขารวดเร็วกว่าเดิม
เป็นธรรมดาที่การโจมตีก็ต้องทรงพลังเพิ่มขึ้นด้วย
“ฮ่ะ !” เสียงตะโกนราวกับสัตว์อสูรคำรามดังขึ้นมาจากฟางจู๋
หมัดซ่อนมรณะ คือเคล็ดวิชาหมัดที่มีมาตั้งแต่โบราณ และเป็นหมัด
ที่ส่งต่อกันมา เคล็ดวิชานี้แทบไม่มีข้อกำหนดเรื่องพรสวรรค์ ตราบ
ใดที่เป็นผู้บ่มเพาะก็สามารถฝึกฝนมันได้ เคล็ดวิชานี้คือเคล็ดวิชาที่
ส่งต่อกันมาตั้งแต่โบราณ แทบทุกนิกาย, สมาคมและอาณาจักรต่างก็
มีผู้ปมเพาะนับไม่ถ้วนที่ฝึกฝนมัน
บางทีอาจจะเป็นเพราะมันคือพื้นฐานของการต่อสู้ และไม่ได้มี
ข้อกำหนดเรื่องพรสวรรค์ ดังนั้นมันจึงอยู่มาได้หลายปี
เคล็ดวิชาหมัดนี้ ฟางจู๋ฝึกฝนมันมาหลายสิบปี และเข้าใจมันอย่าง
ลึกซึ้ง ถึงแม้ว่ามันจะอยู่แค่ระดับธรรมดา แต่เมื่อฟางจู๋ใช้มันออกมา
มันก็เหมือนมีความวิเศษและมีพลังอันรุนแรงที่แม้แต่พวกคนระดับ
เดียวกัน ก็ไม่อาจจะเอามาเทียบกับเขาได้ !
ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่ฟางจู๋ใช้เคล็ดวิชาออกมาโจมตี เย่ลั้วกลับรู้สึกแย่
ขึ้นมา
ตอนที่เขาได้สติ หมัดของฟางจู๋ก็เกือบมาถึงตัวเขาแล้ว
ปัง!
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นไปทั่ว พร้อมกับแรงระเบิดที่น่ากลัว เย่ลั้ว
กระเด็นออกไป การปะทะนี้ทำให้เกิดหลุมที่กว้างกว่า 1 ฟุตขึ้นมา
คฤหาสน์ที่ไม่ได้รับการดูแลมาหลายปีถึงกับสั่นไหวอย่างรุนแรง
ฟางจู๋หยุดและรอให้ฝุ่นจางลง เขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความตะลึง
ออกมา “ไม่บาดเจ็บเลยรึ !”
ต้องรู้ก่อนว่า เขาเอาชนะพวกขอบเขตว่อซวนขั้นกลางมานับไม่ถ้วน
ด้วยหมัดนี้ แต่มันกลับทำอะไรเย่ลั้วไม่ได้เลย !
พลังของเย่ลั้วไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ชัดแล้วว่าการโจมตีนี้ไม่ได้
ทำให้เขาบาดเจ็บ ในอีกความหมายคือ หมัดที่ฟางจู๋ใช้ออกมา ถูก
เย่ลั้วป้องกันเอาไว้ได้ นอกจากจะทำให้เลือดเดินช้าลงและแขนชา
แล้ว ก็แทบไม่ส่งผลอะไรเลย
“นี่คือเคล็ดวิชาของท่าน ?” เย่ลั้วถามขึ้น เขาแสดงสีหน้าเคร่งเครียด
ออกมาเป็นครั้งแรก มันดูราวกับว่าฟางจู๋ทำให้เขาอึ้ง
“หมัดซ่อนมรณะ ท่านน่าจะเคยได้ยินมัน” ฟางจู๋เป็นคนใจกว้าง เขา
ไม่ได้ปิดบังเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่ลั้วก็คิ้วขมวด “หมัดซ่อนมรณะ? นี่ใช่หมัดซ่อน
มรณะจริง ๆ รึ ?”
หมัดซ่อนมรณะ ตอนที่เขาบ่มเพาะพลังได้ใหม่ ๆ ตัวเขาเองก็เคยฝึก
เคล็ดวิชานี้เช่นกัน แต่ฝึกไปได้พักหนึ่ง เขาก็เปลี่ยนไปฝึกเคล็ดวิชา
หมัดที่ระดับสูงกว่านี้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเคยได้ยินชื่อ
เคล็ดวิชานี้มาก่อน แต่หมัดซ่อนมรณะที่ฟางจู๋แสดงออกมาต่างจาก
หมัดซ่อนมรณะที่เขาจำได้ เขารู้สึกว่าหมัดซ่อนมรณะนี้น่ากลัวกว่า
ที่เคยเห็น ด้วยเหตุนี้ความคิดของเขาจึงหยุดนิ่งไป
“สามารถทำให้เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นต่ำ มีพลังที่น่ากลัวแบบนี้
ได้ ฟางจู๋ผู้นี้น่าทึ่งจริง ๆ !” เย่ลั้วอดไม่ได้ที่จะทึ่ง
“แน่นอนว่าการที่เขาบ่มเพาะขึ้นมาจนถึงขอบเขตว่อซวนขั้นกลาง
ได้นั้น เขาต้องไม่ธรรมดา!”
การได้รับการโจมตีนี้ ทำให้เขารู้ข้อมูลมากมาย สำหรับการประมือ
กับฟางจู๋แล้ว เขาไม่ได้ประมาทเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ต้องการแพ้
ให้กับฟางจู๋เพราะความประมาทของตัวเอง ยังไงซะเขาก็ถือว่าเป็น
ตัวแทนของสำนักคังเฉียง หากเขาเสียหายคงไม่เป็นไร แต่ไม่อาจที่
จะปล่อยให้สำนักคังเฉียงต้องเสียหายไปด้วย!
“ขอโทษด้วย ข้ารู้จักแค่เคล็ดวิชานี้!” ฟางจู๋ส่ายหน้า
“นอกจากหมัดซ่อนมรณะแล้ว ข้าไม่เคยฝึกเคล็ดวิชาอื่นเลย”
เย่ลั้วตกใจ มีคนแบบนี้ในโลกนี้ด้วยรึ?
หากหมัดซ่อนมรณะเป็นเคล็ดวิชาระดับสูง และฟางจี้ใช้เวลาทั้งชีวิต
เพื่อฝึกฝนมัน มันก็พอมีเหตุผล แต่หมัดซ่อนมรณะเป็นแค่เคล็ดวิชา
ระดับธรรมดาขั้นต่ำ!
มองจากทั้งทวีปป่ าแล้ว หมัดซ่อนมรณะถือว่าเป็นเคล็ดวิชาหมัด
ระดับต่ำที่สุด!
การใช้ทั้งชีวิต เพื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นต่ำมันคุ้มค่าแล้ว
รึ?
ไม่รู้ว่าฟางจู๋บ่มเพาะมาจนถึงขอบเขตว่อซวนขั้นกลางได้ยังไง หาก
ฟางจู๋เสียเวลาเป็นร้อยปีกับขอบเขตว่อซวนให้กับหมัดซ่อนมรณะ
เขาอาจจะใช้เคล็ดวิชานี้เอาชนะพวกขอบเขตว่อชวนขั้นสูงได้ แต่
มันอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อฝึกฝนมัน สำหรับคนอื่นแล้วบางที
มันอาจจะไม่คุ้มค่า แต่สำหรับฟางจู๋ผู้นี้ เขาคิดว่ามันคุ้มค่า
ถ้าไม่ใช่หมัดซ่อนมรณะแล้ว ฟางจู๋จะประสบความสำเร็จจนน่าทึ่ง
แบบนี้ได้ยังไง ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก