ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 385

ตอนที่ 385 ใบหน้าบนท้องฟ้า
จางหยุไม่ได้สนใจจุดประสงค์ของทุกคนที่มาที่นี่ ว่าพวกนั้นมาฟัง
การเปิดสอนหรือหวังที่จะได้พบกับทะเลหลิงชี่ !
มาแล้วอย่าคิดว่าจะได้กลับไปง่าย ๆ !
“ช่างเถอะ” จางหยูไม่ได้รำคาญ แต่กลับพอใจเป็นอย่างมาก “ครั้งนี้
ภารกิจเส้นทางสู่เซียน ก็น่าจะเสร็จ”
เขาเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ และทักษะหลอกหลวง คงมี
ไม่กี่คนที่ยังรับมือไหว
ผู้บ่มเพาะมากกว่า 100 ล้านคน จะกลายเป็นสาวกของเขาและเป็น
รากฐานที่สำคัญให้กับเขตเหนือของเขา !
หลังจากที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้านล่างแล้ว จางหยูก็นั่งลงกับเก้าอี้
ศิลา ร่างกายเขาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย แต่อาณาเขตขนาดใหญ่ของ
เขากลับแผ่ออกไปปกคลุมทั้งภูเขา
ปัง !
อยู่ ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังก้องขึ้นไปทั่วภูเขา
ตอนนั้นผู้บ่มเพาะนับไม่ถ้วน ทั้งในและนอกเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ กับ
ภูเขา ต่างก็มองไปที่ยอดเขา
แค่เพียงมอง ทุกคนก็ต้องตะลึงกับฉากอันน่าตกใจ
มีใบหน้าขนาดใหญ่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมาที่ยอดเขา
ใบหน้านี้อัดแน่นขึ้นมาจากหลิงชี่ธาตุ ครอบคลุมไปเกือบครึ่งภูเขา
มองจากไกล ๆ ก็ทำให้ใจของพวกเขาเต้นรัว !
ใบหน้าขนาดใหญ่แบบนี้ มีหลิงชี่ธาตุมหาศาล หากมันระเบิดออกมา
มันต้องปลดปล่อยพลังอันน่าหวั่นกลัวออกมาแน่ ๆ !
“พระเจ้า นี่มันอะไรกัน !”
“เซียน นี่คือท่านเซียน !!”
“ช่างเป็นทักษะที่น่ากลัวจริง ๆ !”
“น่าเหลือเชื่อที่ท่านเซียนสามารถควบคุมหลิงชี่ได้ !”
ตอนนี้ไม่ต้องนับผู้บ่มเพาะที่อ่อนแออย่างหลินจื้อเป่ ยและพวก
ขอบเขตหลี่ซวนคนอื่น ๆ แม้แต่ซู่เหยียนที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนก็ยัง
ต้องตะลึง
ต้องบอกก่อนว่าหลิงชี่ธาตุนี้ก็เหมือนกับกฎของโลก
ควบคุมหลิงชี่ธาตุได้ ?
พวกขอบเขตตุ้นซวนที่อยู่ขอบเขตสูงสุด ก็ไม่อาจจะทำแบบนี้ได้ !
แม้ว่าจะเคยได้ยินจากอู่ฉิงฉวนและคนอื่น ๆ มาว่า เจ้าสำนักมีวิธีใน
การควบคุมหลิงชี่ธาตุและควบคุมกฎ แต่เมื่อเห็นฉากนี้ตรงหน้าหลิน
จือเป่ ยและคนอื่น ๆ ก็ไม่อาจจะใจเย็นอยู่ได้ แม้แต่ซู่เหยียนที่อยู่
ขอบเขตตันซวน ซึ่งเคยเห็นจางหยใช้ทักษะนี้ออกมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็
ยังต้องตะลึง
“โอ้…” ด้านนอกหอพักซู่เหยียนได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า และสูด
หายใจเข้าลึก ๆ “ควบคุมหลิงชี่ธาตุของโลกได้มากมายเช่นนี้ มัน
ยากที่จะจินตนาการได้..”
ตอนที่จางหยูช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขา จางหยูก็ได้ใช้วิธีแบบ
นี้ แต่หากเทียบกับใบหน้าขนาดใหญ่ ที่ก่อตัวขึ้นมาบนท้องฟ้า
ในตอนนี้แล้ว ครั้งแรกนั้นเทียบไม่ติดเลย
ไม่ไกลออกไปด้านหลังซู่เหยียน เซี่ยเฟิงเองก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ใช่
ใบหน้าแบบนี้แหละ !”
เขาดูตื่นเต้นขึ้นมา “ตอนที่ข้าเจอเจ้าสำนักครั้งแรก เจ้าสำนักได้มายัง
จ้านเจียงด้วยวิธีนี้ !”
เขาจำได้ดีว่าเจ้าสำนักในตอนนั้น ได้สร้างใบหน้าขนาดใหญ่แบบนี้
ขึ้น และแค่การมองก็สามารถเอาชนะเซียนกระบี่พเนจรได้ จนตอนนี้
แหตุการณ์นั้นก็ยังฝังลึกอยู่ในใจเขา เขาไม่อาจจะลืมมันได้
“เห็นหรือไม่? ทุกคนเห็นหรือไม่ !” เซี่ยเฟิงแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมา
และมองไปยังผู้คนรอบ ๆ “เห็นหรือไม่ว่าข้าไม่ได้โกหก!”
โอวเสินเฟิง, อู่ฉิงฉวน เซียวเหยียน และคนอื่น ๆ ต่างก็พากันตะลึง
และอึ้งไป
พวกเขาเคยได้ยินเซี่ยเฟิงอธิบายถึงความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักมา
หลายครั้ง แต่เนื่องจากพวกเขาไม่เคยเห็นมันด้วยตาของตัวเอง จึงทำ
ให้พวกเขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ แต่ตอนนี้พวกเขายอมรับแล้วว่า เซี่ยเฟิง
ไม่ได้โกหก ความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักนั้น….อาจจะเหนือกว่า
พวกระดับสูงสุดมากนัก
หลังจากที่เห็นเหตุการณ์อันน่าตกใจนี้ ทุกคนรอบ ๆ ภูเขาต่างก็พา
กันคึกคักขึ้นมา
การเปิดสอนยังไม่ทันได้เริ่ม แต่บรรยากาศของเมืองทะเลทรายกลับ
คึกคักขึ้นมา สายตาอันเร่าร้อนของทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ใบหน้า
ขนาดใหญ่บนท้องฟ้า
ใบหน้าของจางหยูเองก็แสดงความยินดีออกมา
“ตอนที่ข้าอยู่ในจ้านเจียง ข้าใช้ได้แค่ทักษะภาพลวงตาเพื่อหลอกผู้คน
และทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าข้าแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ข้าสามารถ
สร้างมันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย!” จางหยูไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของ
ตัวเองจะเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ แค่ไม่กี่เดือนเขาก็ก้าวขึ้นมา
ในระดับที่สูงแบบนี้ได้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ จะ
น้อยกว่าภาพลวงตาที่เขาเคยสร้างขึ้นมา แต่ดูจากภายนอกแล้วมัน
ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก
สุดท้ายแล้วภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นมานั้น ก็กลายเป็นความจริงขึ้นมา!
จางหยูสงบสติอารมณ์และทบทวน เขาเทียบภาพลวงตากับใบหน้า
บนท้องฟ้าของเขาในตอนนี้
ปากของใบหน้านั้นยังคงปิดสนิท แต่กลับมีเสียงราวกับเสียงสวรรค์
ดังขึ้นไปทั่วทุกทิศทาง จนทำให้อากาศนั้นสั่นไหว “ยินดีต้อนรับสู่
สำนักคังเฉียง !”
ตอนที่เสียงนั้นดังขึ้น ผู้คนรอบ ๆ ภูเขาต่างก็พากันเงียบ
ทุกคนมองไปที่ใบหน้าบนท้องฟ้า แม้ว่าจะเป็นแค่ใบหน้าที่สร้าง
ขึ้นมาจากหลิงชี่ธาตุ แต่ฐานะในใจของทุกคนต่างก็ยกย่องเขาไม่ต่าง
อะไรจากเทพ
ไม่มีใครส่งเสียงใด ๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็นคนที่มายังเมืองทะเลทราย
มานานแล้ว หรือคนที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ตอนนั้นทุกคนต่างก็อึ้งไป
กับสิ่งที่จางหูแสดงออกมาจนตัวสั่น
“ข้าจะไม่พูดไร้สาระ ข้าประกาศว่าการเปิดสอนครั้งที่สามจะเริ่มนับ
จากนี้!” เสียงของจางหยูดูสูงส่ง ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้
แล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงแค่เมืองทะเลทราย เขาสามารถส่งเสียงของเขา
ดังไกลไปทั่วเขตตงโจว ทำให้ทุกคนได้ยินมันอย่างชัดเจนได้ “ข้าได้
พูดถึงความรู้เรื่องการบ่มเพาะในขอบเขตฉีซวนและว่อชวนไปแล้ว
การสอนครั้งนี้จะไม่พูดเรื่องเดิมอีก ตอนนี้เราจะเริ่มจากส่วนที่สาม
ซึ่งก็คือวิธีที่ถูกต้องในการปมเพาะขอบเขตตันซวน”
สำหรับคนทั่วไปแล้ว ขอบเขตตันซวนถือว่าเป็นขอบเขตที่สูงและมี
ความรู้ที่ลึกซึ้ง
ทั้งในและนอกเมืองทะเลทราย จำนวนของผู้ที่อยู่ขอบเขตตันซวน
ในหมู่ผู้บ่มเพาะนับพันล้านคนนั้น มีแค่ไม่กี่พันคนซึ่งแสดงให้เห็น
แล้วว่ามันหายากและแข็งแกร่งแค่ไหน
ด้านล่างภูเขา ใบหน้าของผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็แสดงความคาดหวัง,
เคารพและจริงจังออกมา สำหรับพวกที่อยู่ขอบเขตฉีซวนและว่อซวน
แม้ความรู้ที่ได้จากตอนนี้จะยังไม่ได้ใช้งาน แต่อีกไม่นานพวกเขา
อาจจะได้ใช้มัน พวกขอบเขตตันซวนและแม้แต่พวกระดับสูงกว่านั้น
ต่างก็พากันตั้งใจฟัง เพราะกลัวว่าจะพลาดรายละเอียดสำคัญต่าง ๆ ไป
จางหยูเริ่มพูดถึงความรู้ในการบ่มเพาะขอบเขตตันซวนทันที เขาพูด
ถึงข้อผิดพลาดและช่องโหว่ของทักษะต่าง ๆ ตอนที่พูดนั้นจางหยูก็
ไม่ลืมที่จะใช้ทักษะหลอกลวง ซึ่งทำให้คำพูดทุกคำนั้นราวกับคำพูด
ของพระเจ้า ที่ทุกคนถือว่าเป็นความจริง
พวกขอบเขตตันซวนและสูงกว่านั้นหลายพันคน รวมถึงคนอื่น ๆ
กว่า 1 ใน 10 ถึงกับทะลวงผ่านได้
ปัง ปัง !
ในสำนักดังเฉียง หวงฟู่เชิงจื้อและเฟิงซวน ต่างก็คำรามออกมา เสียง
จากร่างกายของทั้งสองดังก้องพร้อมกับหลิงชี่จำนวนมากจากทุก
ทิศทาง ที่ไหลมารวมตัวกันที่ร่างกายของทั้งสองคน
การทะลวงผ่านของทั้งสองนี้เหมือนกับตัวจุดระเบิด ไม่นานที่ด้าน
นอกหอพักก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหลายที่
หวงฟู่เชิงจื้อและคนอื่น ๆ ที่เกือบจะทะลวงผ่านได้ เมื่อฟังความรู้
เกี่ยวกับการบ่มเพาะขอบเขตตันซวนรวมถึงข้อผิดพลาดในการบ่ม
เพาะในอดีต ที่ถูกแก้ไขให้ถูกต้องจากจางหยู ไม่นานพวกเขาก็ทะลวง
ผ่านไปได้
ขอบเขตหลี่ซวนขั้นกลาง !
แค่ไม่กี่อึดใจ ผู้ช่วยทั้งหมดที่เข้าร่วมสำนักทั้งเฉียง ก็ได้ยกระดับขึ้น
มาถึงขอบเขตหลี่ซวนขั้นกลางกันหมด !
หลินจื้อเป่ ย, โหวเทียนหมาง, หวงฟู่เชิงจื้อ, หนิงไท่ซู, เฟิงซวน, อู่ซู
หยาง, เฉินโม่และโหยวฉวน ต่างก็ยกระดับขึ้นไปยังขอบเขตหลี่ซวน
ขั้นกลาง ซึ่งทำให้ความแข็งแกร่งของสำนักคังเฉียงเพิ่มขึ้นมาอีก
“หือ ?” จางหยูรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ด้านล่าง และอดไม่ได้ที่จะคิ้ว
ขมวด “ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะมีไม่กี่คนที่ทะลวงผ่านไปได้ !”
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ ชัดแล้วว่าเขาไม่พอใจ
แต่ครั้งนี้เขาพูดถึงการบ่มเพาะขอบเขตตันซวน ซึ่งแทบไม่ได้ส่งผล
อะไรต่อพวกขอบเขตฉีซวนและว่อซวนที่จำนวนมากที่สุดเลยอย่าง
น้อยมันก็ไม่อาจจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาระดับการบ่มเพาะได้ทันที
หากจางหยูทำการควบคุมหลิงชี่และกำหนดขอบเขตให้มันอยู่แค่ใน
ระยะของเมืองทะเลทราย มันก็จะสามารถทำให้หลายคนทะลวงผ่าน
ไปได้ จางหยูคิดเรื่องนี้แต่ไม่ได้ทำมัน ยังไงซะผู้บ่มเพาะส่วนมากก็
มีพรสวรรค์ที่ดี โดยทั่วไปแล้วหากจางหยูทำแบบนั้นจริง ๆ มันก็
เท่ากับเป็นการลดแรงกระตุ้นของแต่ละคน สำหรับพวกนี้แล้วมัน
อาจจะไม่ใช่เรื่องดี
หลังจากที่เงียบไปอึดใจหนึ่ง ในที่สุดจางหยูก็ตัดสินใจพูดถึงแก่น
การบ่มเพาะ หากเรื่องนี้ยังไม่ได้ผล งั้นเขาจะพูดเรื่องการบ่มเพาะ
ขอบเขตฉีซวนและว่อซวนซ้ำอีก
จางหยูทบทวนเรื่องนี้พร้อมกับตรวจสอบสถานการณ์ด้านล่างภูเขา
ในบรรยากาศที่น่าเคารพนี้ สายตาอันเร่าร้อนของผู้คนนับไม่ถ้วน
ต่างก็จับจ้องไปที่ใบหน้าบนท้องฟ้า พวกขอบเขตฉีซวน, ว่อซวน,
ตันชวน, หลิงซวน ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน, อายุเท่าไหร่ พวกเขาต่างก็
ตะลึงกับใบหน้าที่จางหยูแสดงออกมา
ตอนนั้นจางหูราวกับเซียน แม้ว่าเขาจะสั่งให้พวกนี้ไปตาย แต่พวกนี้
ก็อาจจะไม่ลังเลและลงมือฆ่าตัวตาย
จางหยูหัวเราะออกมาอย่างพอใจ เขาไม่ลังเลอีกต่อไปและพูดขึ้น
“ข้าได้เน้นย้ำเรื่องแก่นการบ่มเพาะไปแล้วหลายครั้ง แต่วันนี้มีผู้มา
ใหม่มากมาย ข้าคงต้องพูดมันซ้ำอีก…”
ปากของใบหน้าบนท้องฟ้าค่อย ๆ ปิดลง มันทำให้เขาดูสูงส่งราวกับ
เทพจากสวรรค์
เสียงที่ฟังดูสับสนราวกับฝนที่โปรยลงมาเข้าไปในหูของผู้คน ยิ่ง
จางหยูพูดมากเท่าไหร่ ผู้คนยิ่งหลงใหลมากเท่านั้นและที่สำคัญกว่า
นั้นคือเสียงของจางหยูนั้น ราวกับมีพลังวิเศษที่สามารถชะล้างจิตใจ
ของผู้คนได้ และทำให้ความคิดของทุกคนกระจ่างขึ้น ความสับสนที่
เหมือนกับม่านหมอกบดบังในใจของพวกเขาค่อย ๆ จางตัวลงไป
ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม….
หลังจากที่จางหยูพูดเรื่องแก่นการบ่มเพาะจบ มันก็เกิดเสียงระเบิด
ดังก้องราวกับเกิดพลุไฟดังขึ้นทั่วทุกที่ ทั้งในและนอกเมือง
ตอนนั้นเอง หลิงชี่ภายในเมืองก็ปั่นป่ วนขึ้นมาอีกครั้ง