ตอนที่ 387 เต๋าสวรรค์
ลำแสงสีทองนี้จางหยูคุ้นกับมันดี
จางหยูรู้จักมัน
“พลังบุญกุศล !”
จางหยูแปลกใจนิด ๆ พลังบุญกุศลตอนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าตอนที่เขา
พูดถึงเรื่องบังสวรรค์ครั้งที่แล้วเลย
“ดูเหมือนว่าด้วยอำนาจที่เพิ่มขึ้นของข้า และผลงานที่เพิ่มขึ้นส่งผล
ให้พลังบุญกุศลมากขึ้นไปด้วย” จางหยูเริ่มเข้าใจเรื่องพลังบุญกุศล
มากขึ้นเรื่อย ๆ
การช่วยคนเป็นสิบล้านคนทะลวงผ่านไปได้ และเผยแพร่ความรู้ที่
ถูกต้องเกี่ยวกับการบ่มเพาะนั้น ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าผลจากเรื่อง
บังสวรรค์ที่มีต่อโลกนี้
จางหยูถูกห้อมล้อมด้วยลำแสงสีทองไม่รู้จบ ราวกับเทพที่แสดงพลัง
ของตัวเองออกมา
พลังบุญกุศลรอบตัวจางหยูนี้ ให้ความรู้สึกสงบ และเป็นมิตรแบบที่
อธิบายออกมาไม่ถูก…
แสงสีทองนี้มีแค่จางหยูเท่านั้นที่เห็นมันได้ เมื่อแสงสีทองมารวมตัว
กัน มันก็เกิดบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป
ตอนนั้นจางหยูรู้สึกได้ว่าโลกนี้ดูใกล้ชิดกับตัวเอง เขารู้สึกว่าการที่
เป็นตัวตนแยกตัวออกมาจากโลกนั้นดูน้อยลงไป
ทะเลหลิงชี่ด้านล่างยังไม่สลายไป ผู้คนยังคงเพ่งสมาธิไปกับการบ่ม
เพาะ และไม่มีใครพบว่าเหนือหัวพวกเขาไปกว่าหมื่นลี้นั้น ร่างทองคำ
ของจางหยูกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งอยู่
จางหยูที่อาบไปด้วยแสงสีทองนี้ ดูสมกับเป็นเซียนจริง ๆ
ตู้มมม!
ตอนที่ลำแสงสีทองถูกร่างทองคำดูดซับเข้าไป สุดท้ายมันก็เกิดเสียง
ระเบิดดังขึ้นมา
จากนั้นชั้นสีทองบนตัวจางหยูก็หายไปราวกับว่ามันไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเห็นแบบนั้น จางหยูก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาอยากจะพูด
บางอย่างออกมา แต่สุดท้ายเขาก็หยุด
เขาหลับตาลงตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าชั้นสีทองที่คอยปกป้องเขามา
โดยตลอดนั้นกลับหายไป แต่การเชื่อมต่อกับโลกกลับลึกซึ้งกว่าเดิม
ดูเหมือนว่าแค่เพียงคิดโลกนี้ก็สามารถให้พลัง เพื่อปกป้องเขาจาก
อันตรายได้
ความรู้สึกนี้มันช่างแข็งแกร่งจริง ๆ !
“ร่างทองคำ !” จางหยูใจเต้นรัว
ต่อมาจางหยูก็รู้สึกได้ถึงพลังที่คุ้นเคยรอบตัวเขา พลังที่มองไม่เห็นนี้
ราวกับไม่มีตัวตน แต่เขารู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน ว่ามันมีจำนวน
ไม่รู้จบ ตราบใดที่โลกนี้ยังคงอยู่ หากโลกนี้ยังไม่ตาย พลังนี้ก็ไม่มี
ทางหายไป
ในพริบตาจางหยูก็คิดอีกรอบ พลังที่มองไม่เห็นรอบตัวเขาได้สลาย
ไปทันที
จางหูแปลกใจและพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย “นี่มันพลังอะไรกัน ?”
“เจ้าคิดว่ามันคือ…เต๋าสวรรค์ก็ได้” เสียงของระบบพูดขึ้นมาช้า ๆ
“เต๋าสวรรค์ไม่อาจจะยึดครองได้ แต่มันเสมอภาคกับทุกคน ผลงาน
ที่เจ้าสร้างให้กับโลกนี้ขึ้นถึงจุดสูงสุด เจ้าถือว่าเป็นผู้พิทักษ์แห่ง
เส้นทางสู่สวรรค์ ดังนั้นเจ้าจึงได้รับพลังเต๋าสวรรค์กลับมา นอกซะ
จากว่าอายุขัยของเจ้าจะหมดลง เจ้าก็ไม่อาจจะตายได้… “
เต๋าสวรรค์ ?
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากระบบจางหยูก็ต้องตะลึง
เขาได้รับการปกป้องจากสวรรค์รึ ?
“เจ้าจะบอกว่าข้าไปที่ไหนก็ได้ในโลกนี้สินะ?” สายตาของจางหยูดู
แปลกใจ “แม้ว่าข้าจะยืนอยู่เฉย ๆ ก็ไม่อาจจะมีใครทำร้ายข้าได้สินะ?
แม้แต่ราชามังกรก็ไม่อาจจะทำร้ายข้าได้สินะ ?”
ระบบเงียบไปชั่วครู่และพูดขึ้นมา “ต่ำกว่าชั้น 7 ไม่อาจจะมีใครทำ
ร้ายเจ้าได้”
จางหยูตะลึงและคิ้วที่ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย “ต่ำกว่าขั้น 7 รึ? มัน
หมายความว่ายังไง ?”
“ความหมายตรงตัว” เสียงของระบบยังเฉยชาเช่นเคย “ขีดจำกัดของ
พลังที่โลกทนได้คือขั้น 7 เผ่ามังกร, สัตว์อสูร, และมนุษย์ พวกระดับ
สูงสุดทั้งหมดต่างอยู่ชั้น 7 เทียม และนี่คือขีดจำกัดที่พวกเขาจะขึ้นไป
ถึงได้ การจะเป็นขั้น 7 ที่แท้จริงได้นั้นคือการได้รับพลังเต๋าสวรรค์”
“เจ้าได้รับการปกป้องจากเต๋าสวรรค์ และสามารถต้านทานการโจมตี
ขั้น 7 ได้ หากความแข็งแกร่งของศัตรูสูงกว่าขั้น 7 แม้แต่เต๋าสวรรค์
ของโลกนี้ก็ไม่อาจจะต้านทานได้ จากนั้นเจ้าก็จะบาดเจ็บ…หรือ
อาจจะตาย”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็รู้สึกหนักใจขึ้นมา
“เจ้าหมายถึง…เขตหวงห้ามทั้งสามรึ?” จางหยูแสดงสีหน้า
เคร่งเครียดออกมา “หือ ?”
สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวนั้น แม้แต่พลังเต๋าสวรรค์ก็ไม่อาจจะรับมือ
ได้รึ ?
โชคร้ายที่คำถามนี้ไม่ได้รับคำตอบกลับมา ราวกับว่าระบบได้
หายไป ไม่ว่าจางหยูจะเรียกแค่ไหน มันก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาชัด
แล้วว่า นี่คือปัญหาร้ายแรง และดูเหมือนว่าระบบไม่คิดจะพูดถึงมัน
“ระบบ อย่าทำท่าว่าไม่ได้อยู่ที่นี่ !” จางหยูสลด “ข้าคิดว่าเจ้าได้ยิน
สิ่งที่ข้าพูด! บอกข้ามาว่ามันเป็นตัวตนแบบไหนกัน ? และทำไมข้า
ถึงได้ข้ามมายังโลกใบนี้ ? เจ้าพาข้ามารึ ? เจ้ามีเป้าหมายอะไรกัน ?”
จางหยูมีคำถามมากมายในใจ บางคำถามนั้นเขาอยากจะถามระบบ
มานานแล้ว แต่เขามีความกังวลในใจ จนทำให้เขาไม่กล้าถามมัน
ออกมา ตอนนี้เขาอดไม่ไหวที่จะถามคำถามทั้งหมดที่มีในใจออกมา
แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมามีแค่ความเงียบงัน
“หากเจ้ายังไม่ได้ยินอีก ข้าจะฆ่าตัวตาย เจ้าจะเชื่อหรือไม่ !” สีหน้า
ของจางหยูบิดเบี้ยวไป “ระบบ อย่าบังคับข้า !”
คำขู่ของจางหยูเหมือนจะได้ผล เสียงของระบบดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการจะบอกโฮสต์ แต่เจ้านายที่สร้างข้ามานั้น ให้
สิทธิกับข้าจำกัด หากมันเกินกว่าสิทธิที่ข้ามี ข้าก็ไม่อาจจะตอบได้
ข้าไม่กล้าที่จะตอบหากมันฝ่าฝืนกฎ ไม่งั้นแล้วระบบจะถูกทำลาย
ตอนที่ความแข็งแกร่งของโฮสต์ผ่านเกณฑ์ ข้าถึงสามารถเปิดเผย
ข้อมูลที่บันทึกไว้ในฐานข้อมูลให้โฮสต์ได้ ตอนนี้ข้าบอกโฮสต์ได้
แค่ว่า โฮสต์มีภารกิจที่ยิ่งใหญ่…”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ดวงตาของจางหยูก็กระตุกขึ้นมา
เจ้านาย ?
นี่เป็นครั้งแรกที่จางหยูได้ยินเรื่องนี้จากระบบ !
ใครกันที่เป็นเจ้าของคนเก่าของระบบ ?
นอกจากตัวเขาแล้ว มีเจ้าของระบบกี่คนกัน ?
ผลลัพธ์สุดท้ายของคนเหล่านั้นเป็นยังไง?
เป้าหมายและความหมายของการมีระบบคืออะไร ?
ทำไมเขาถึงได้มายังโลกนี้ได้ ?
ภารกิจที่ระบบพูดถึงคืออะไร ?
ตอนนั้นหัวของจางหยูเต็มไปด้วยคำถามมากมาย โดยเฉพาะคำว่า
ภารกิจที่ทำให้เขารู้สึกหนักใจ
“หากโฮสต์ไม่คิดจะแบกรับภารกิจ โฮสต์สามารถทำการยกเลิก
ระบบ เพื่อให้ระบบไปหาโฮสต์คนใหม่ก็ได้” ตอนที่จางหยูคิดอยู่
นั้น เสียงของระบบก็ดังขึ้นมาช้า ๆ “ระบบจะทำการยกเลิกการติดตั้ง
สิ่งที่โฮสต์มีตอนนี้ทุกอย่างจะไม่เปลี่ยนไป โฮสต์แค่ใช้การทำงาน
ของระบบไม่ได้อีก และโฮสต์ก็จะใช้ชีวิตที่เหลือในโลกใบนี้…”
ตอนนั้นจางหยูอยากที่จะทำการยกเลิกการติดตั้งระบบจริง ๆ
แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดชั่ววูบ จางหยูไม่ได้ต้องการทำแบบนั้น
จริง ๆ
เขาได้ทุกอย่างมาก็เพราะระบบ เขาไม่อาจจะลบมันได้ เขาไม่คิดว่า
เขาเป็นคนดี แต่เขาไม่ได้ชั่วร้ายจนถึงกับฆ่าใครได้ลงคอ ที่สำคัญ
กว่านั้นเขาถือว่าระบบเป็นเพื่อน เขาไม่อยากที่จะเสียเพื่อนที่พิเศษ
แบบนี้ไป
“ไม่ว่าจะเป็นภารกิจอะไรก็ตาม ข้าจางหยูก็จะรับมัน” จางหยูพูดขึ้น
“ระบบ บอกข้ามาว่าต้องทำอะไรเพื่อจะทำภารกิจนั้นให้สำเร็จ”
ระบบพูดขึ้น “โฮสต์แค่ต้องทำภารกิจที่ระบบส่งให้ ให้เสร็จสิ้น ไม่
จำเป็นต้องทำอะไรพิเศษ”
จางหยูยักคิ้ว “ง่ายแบบนั้นเลยรึ ?”
“ใช่ “เสียงของระบบดังขึ้นมาเช่นเคย มันไม่ได้ดีใจเพราะจางหยู
ยอมรับภารกิจ มันไม่ได้เศร้ากับการที่จางหยูพยายามจะลบการติดตั้ง
ของมัน อารมณ์ของมันก็ยังคงไม่สั่นไหวเช่นเคย มันคือโปรแกรม
ไร้ชีวิตที่ฉลาดกว่าโปรแกรมทั่วไป
หลังจากที่คิดดูดี ๆ แล้ว จางหยูก็ถามขึ้นมา “ระบบ ข้าถามเจ้าที โลก
นี้ โลกที่ทวีปป่ าอยู่นี้มีพวกสูงกว่าขั้น 7 หรือไม่ ?”
ระบบตอบกลับ “ตอนนี้ยังไม่มี”
จางหยูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตราบใดที่ไม่มีพวกขั้น 7
อยู่ในโลกนี้ ชีวิตของเขาก็ไม่เป็นภัย
การปกป้องจากเต๋าสวรรค์ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น !
หากต้องการจะเป็นภัยต่อเขา อย่างน้อยก็ต้องอยู่ขั้นที่ 8 เพื่อที่จะ
ทำลายการป้องกันของเต๋าสวรรค์ได้ !
“ข้าไม่คิดว่าพวกระดับสูงสุดจะเป็นแค่ชั้น 7 เทียม….” เมื่อคิดถึงสิ่ง
ที่ระบบพูดมาเมื่อตะกี้ จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะคิด “ข้าคิดว่าพวกนั้น
อยู่แค่ขั้น 6 ส่วนสูงสุด !”
นี่แสดงให้เห็นว่าพวกระดับสูงสุด ที่ถือว่าอยู่ขอบเขตตุ้นชวนขั้น
สมบูรณ์นั้น แม้จะสามารถก้าวข้ามขอบเขตตุ้นซวนได้ แต่เพราะเหตุผล
บางอย่าง จึงไม่อาจจะก้าวขึ้นไปถึงขั้น 7 จริง ๆ ได้ และไม่อาจจะใช้
พลังของขั้น 7 ได้ มันจึงเป็นได้แค่ขั้น 7 เทียม
จางหยูเดาว่าหมาป่ าละโมบ และพวกในตำนานที่ตายไปเพราะตัวตน
ลึกลับนั้นอาจจะอยู่ชั้น 7 จริง ๆ และบางทีอาจจะขึ้นไปถึงขั้น 8 ได้ !
“ยังไงซะด้วยการปกป้องจากเต๋าสวรรค์ ในโลกนี้ข้าไม่อาจจะแพ้ให้
กับคนอื่นได้ ไม่มีใครทำร้ายข้าได้” จางหยูคิดในใจ ราชามังกรและ
พวกระดับสูงสุดของมนุษย์ไม่ได้น่ากลัวแบบที่เขาคิด “ร่างทองคำ
ทรงพลังกว่าที่ข้าคิดเอาไว้!”
เมื่อไม่อาจจะทำลายเต๋าสวรรค์ได้ งั้นก็ไม่มีใครทำร้ายเขาได้ หากเต๋า
สวรรค์ถูกทำลาย โลกนี้ก็จะถูกทำลายลงไปด้วย !
ในโลกนี้จางหยูมีฐานะเทียบเท่ากับสวรรค์ เขาคือตัวแทนของสวรรค์
มีใครบ้างที่กล้าทำร้ายเขา ?
แน่นอนจางหยูตื่นเต้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงมันออกมา ไม่มีใครใน
โลกนี้ทำร้ายเขาได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนในโลกอื่นจะทำ
ไม่ได้ และนี่ยังไม่ต้องพูดถึงตัวตนลึกลับเลย แค่หมาป่ าละโมบและ
ตัวตนในตำนานอื่น ๆ จางหยูก็ไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับการโจมตี
ของพวกนั้นได้หรือไม่ ยังไงซะพวกนั้นก็อาจจะมีพลังอยู่ถึงขั้น 8 !
“ต้องพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองต่อ ข้าไม่อาจจะประมาทได้ !”
จางหยูสงบสติอารมณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก