ตอนที่ 393 มาเยือนครั้งแรก
“ดี งั้นงานนี้คงต้องให้เจ้าดูแล เจ้าต้องใช้เงินแค่ไหนก็ไปบอกฉิน
เหลียนได้เลย ข้าจะบอกเขาไว้ล่วงหน้า” จางหยูยิ้มออกมา
มังกรแดงตอบกลับด้วยความเคารพ “ได้”
หลังจากที่มอบหมายงานให้กับเหล่าสัตว์อสูรแล้ว จางหยูก็แทบจะ
โล่งอก ปัญหาต่าง ๆ แทบจะหมดไปแทบจะพร้อมกัน
ไม่นานเหล่าสัตว์อสูรก็แยกย้ายกันกลับ
จางหยูได้แผ่การรับรู้ออกไปค้นหาร่างของฉินเหลียน หลังจากที่พบ
เขาก็ได้ส่งข้อความไปหาอีกฝ่ายทันที “ฉินเหลียน!”
“เจ้าสำนัก! “
เมื่อได้ยินเสียงของจางหยู ฉินเหลียนก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ไม้ใน
คฤหาสน์ และโค้งให้ด้วยความเคารพ
จางหยูได้บอกรายละเอียดการก่อสร้างบนภูเขาให้ฉินเหลียนฟัง และ
บอกให้ฉินเหลียนร่วมงานกับเหล่าสัตว์อสูร
ฉินเหลียนตอบกลับด้วยความเคารพ “เจ้าสำนักสบายใจได้ ข้าจะ
ร่วมมือกับพวกเขา”
หลังจากนั้นเมื่อไม่ได้ยินเสียงของจางหยู สักพักฉินเหลียนก็รู้สึก
ผ่อนคลายขึ้นมา จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกทหารที่อยู่นอกห้อง “เข้า
มา !”
ไม่นานฉินเหลียนก็ได้สั่งการตามที่จางหยูได้มอบหมายมา
…
สูงขึ้นไปกว่าหมื่นลี้ จางหยูได้ปรากฏตัวขึ้นในมิติส่วนแยกอีกครั้ง
เขามองไปที่อ้าวเสี่ยวหร่าน ก่อนจะแสดงสีหน้าอ่อนโยนที่หายาก
ออกมา
“เรื่องสำนักจัดการแทบจะหมดแล้ว จากนี้ข้าจะได้พักบ้าง”
จางหยูบิดตัวไปมา
แต่ไม่นานเขาก็จะเรื่องหนึ่งได้ “ไม่สิ ยังมีอีกอย่างที่ต้องทำคือการ
รับอาจารย์เข้ามา”
เขาจำได้ว่าภารกิจย่อยของเขายังต้องให้เขารับอาจารย์อีก 2 คน
“มันมีหลายเรื่องจนข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไป” จางหยูส่ายหน้า “ดูเหมือน
ว่าจะยังไม่ถึงเวลาพัก”
การรับอาจารย์ขอบเขตตุ้นซวนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่อง
ง่ายเช่นกัน
ยังไงซะคนที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนในโลกนี้ก็มีไม่มาก ส่วนมากนั้น
ต่างก็มีกองกำลังของตัวเอง และยังอยู่กระจัดกระจายจนนับนิ้วได้
การหาพวกนั้นให้เจอได้ถือว่าเป็นเรื่องยาก
“ตามหาก่อน หากไม่มีทางก็ต้องดึงพวกนั้นออกมา” จางหยูคิด
จากความแข็งแกร่งที่เขามี และทักษะหลอกลวง เขาไม่เชื่อว่าเขาไม่
อาจจะหาอาจารย์อีกสองคนได้
เมื่อคิดสักพัก จางหยูก็ส่งข้อความไปหาเจ้าสำนัก “ เรื่องของสำนัก
คงต้องฝากให้เจ้าจัดการ เจ้าสอนทักษะขั้นสูงสุดให้กับโอวเสินเฟิง
ได้เลย”
เจ้าสำนักไม่ได้อยู่ห่างจากสำนักคังเฉียงมากนัก เมื่อได้รับข้อความ
จากจางหยูเขาก็ตอบกลับทันที “ได้”
“ข้าขอตัวก่อน หากมีเรื่องอะไรก็ส่งข้อความมาหาข้าได้โดยตรง”
จากนั้นจางหยูก็จบบทสนทนา
ก่อนที่จะไป จางหยูได้ตรวจสอบอ้าวเสี่ยวหร่านอีกครั้ง และเมื่อเห็น
ว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาก็ออกจากที่นั่นไปอย่างสบายใจ
ที่ด้านนอกมิติส่วนแยก ร่างของจางหยูโผล่ออกมาและแค่อึดใจเดียว
เขาก็ปรากฏขึ้นในจุดที่ห่างไปหลายพันไมล์
เฉินกูได้ไปเชิญพวกระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่คนมา และคงไม่
กลับมาอีกสักพัก เป็นธรรมดาที่จางหยูจะไม่อยู่เฉย ดังนั้นเขาจึงลอง
ออกไปเสี่ยงโชค เพื่อตามหาอาจารย์สองคนที่เหลือเข้าสำนัก
จางหยูเดินทางออกจากอาณาจักรโจวและเขตเหนืออย่างรวดเร็ว
เมื่อยืนอยู่ในระดับที่สูงขึ้นไปถึงจะมองเห็นทั้งทวีปได้ หากเทียบกับ
ท้องฟ้าที่กว้างขวางนี้ และโลกขนาดใหญ่แล้ว ทวีปป่ าเป็นเพียงแค่
เกาะ มันจะมีอีกหลายแห่งที่เหมือนกับทวีปป่าหรือไม่ ?
เมืองจูอัน เมืองหลวงของจักรวรรดิหมิง 1ใน3จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่
ของทางใต้
หากเทียบกันทั้งทวีปป่ าแล้ว เมืองจูอันแห่งนี้ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่
อย่างมาก มันมีพื้นที่ขนาดใหญ่และจุคนได้ถึง 80 ล้านคนโดยที่ไม่
แออัดอะไร มันสามารถจุคนได้กว่า 100 ล้านคนด้วยซ้ำ มันใหญ่กว่า
เมืองทะเลทรายหลายเท่า เศรษฐกิจที่นี่พัฒนาเป็นอย่างดี ถนนทุก
เส้นต่างก็คึกคัก ผู้บ่มเพาะที่นี่ก็มีระดับสูงกว่าโดยที่อยู่ขอบเขตตัน
ซวน, หลิงซวนและถึงกับมีพวกขอบเขตหลี่ซวนให้เห็นบ้าง
บอกได้ว่าเมืองจูอันแห่งนี้คือศูนย์กลางของทางใต้เลยก็ว่าได้ มันมี
ฐานะสูงส่งกว่าเมืองทะเลทรายด้วยซ้ำ
ตอนนั้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองจูอัน มีเด็กหนุ่มผมเงิน
ในชุดสีม่วงนั่งกินอาหารอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง เด็กหนุ่มผู้นี้ดูสูงส่ง
แม้ว่าจะยังไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความ
สูงส่งที่เขามี ผู้คนต่างก็พากันจับจ้องมาที่เขาและไม่กล้าจะส่งเสียง
ดังออกมา
“ชายผู้นี้ไม่ธรรมดา”
“กินเยอะจริง ๆ เขากินไปกว่า 30 จานแล้ว กินข้าวไปหลายสิบถ้วย
ด้วย ท้องเขายังไม่เต็มอีกรึ !”
“ชายผู้นี้ดูสูงส่ง คนส่วนมากแทบจะเทียบไม่ติดเลย !”
“เขาเป็นจักรพรรดิรึ ?”
เสียงพูดคุยและกระซิบกระซาบดังขึ้นไปทั่วร้านอาหารแห่งนั้น
หลายคนมองไปที่ชายหนุ่มและพากันสงสัยว่าชายหนุ่มผู้นี้คือองค์
ชาย
“องค์ชายรึ ?” แม้ว่าเสียงที่ผู้คนพูดคุยกันนั้นจะเบา แต่ชายหนุ่มก็ยัง
ได้ยินมันอย่างชัดเจน เขายิ้มออกมาแสดงความไม่พอใจ
แต่เขาไม่ได้สนใจคนรอบตัว แม้ว่าเขาจะคิดว่าทุกคนคิดว่าเขาเป็น
องค์ชาย แต่เขาก็ไม่ได้เถียงอะไร เขายังยับยั้งความไม่พอใจที่มีและ
พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้
เมื่อมองไปยังอาหารที่อยู่บนโต๊ะ ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำ
ออกมา “ท่านพ่อพูดถูก มนุษย์มีบางอย่างที่ดี อย่างน้อยทักษะการ
ทำอาหารที่ไม่อาจจะเอาเผ่ามังกรมาเทียบได้”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายหนุ่มผู้นี้คือองค์ชายแห่งเผ่ามังกรอ้าวอู่เหยียน
ที่แรกที่เขามาคือเมืองใหญ่ที่อยู่ทางใต้ เมืองจูอัน
เดินวนไปมาสักพักเขาก็ได้กลิ่นอาหารจากร้านนี้และอดไม่ได้ที่จะ
เดินเข้ามา
เพราะเขาไม่เข้าใจมนุษย์ ตอนที่สั่งอาหารจึงคิดว่ามันคงเป็นของไร้ค่า
แต่เมื่อเห็นอาหารแล้วอ้าวอู่เหยียน กลับรู้สึกได้ว่ามันมีค่ามากแค่ไหน!
แม้ว่าจะหาสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิไม่พบ แต่เขาก็พอใจกับอาหาร
พวกนี้ มันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า !
“กินพอแล้ว ได้เวลาที่จะไปแล้ว” อ้าวอู่เหยียน ลุกขึ้นและคิดที่จะ
ออกจากร้านไป
ก่อนที่เขาจะได้เดินออกไป เสี่ยวเอ้อของร้านก็รีบเดินเข้ามาด้วย
รอยยิ้ม “นายน้อย ท่านต้องการอาหารเพิ่มหรือไม่ ?”
อ้าวอู่เหยียนลังเลอยู่สักพัก แต่หลังจากที่คิดทบทวนดูแล้วเขาก็ส่าย
หน้า “ ช่างเถอะ แม้ว่ามันจะอร่อยแต่ก็พอเถอะ
เสี่ยวเอ้อตอบกลับด้วยความเคารพ “นายน้อย ท่านกินไปทั้งหมด
360,000 เหรียญ หากท่านต้องการจะเก็บเงิน โปรดมากับข้า…”
“เก็บเงินรึ ?” อ้าวอู่เหยียนคิ้วขมวด “เจ้าหมายถึงอะไร ?”
เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของอ้าวอู่เหยียน เสี่ยวเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
ออกมา “นายน้อย อย่าแกล้งทำเป็นล้อเล่นสิ”
อ้าวอู่เหยียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด” ข้าไม่ได้แกล้ง ข้าไม่เข้าใจ
จริง ๆ ว่าเจ้าหมายถึงอะไร”
“ท่านอยากจะกินฟรีรึ ?” เสี่ยวเอ้อสีหน้าเปลี่ยนไป “ดูจากชุดท่าน
แล้วท่าคงต้องเป็นคนรวยแน่ ๆ ท่านจะไม่มีเงินได้ยังไง ? นายน้อย
อย่ามัวโยกโย้อยู่เลย จ่ายเงินมา!”
อ้าวอู่เหยียนเงียบไป ธรรมเนียมของมนุษย์กับมังกรต่างกันดังนั้นเขา
จึงไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่าย
หากเขาเคยอยู่ในโลกมนุษย์มาก่อน มันคงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามายังโลกมนุษย์ มันเป็นครั้งแรกที่เขาออก
จากเกาะมังกรด้วยซ้ำ นอกจากคนในเผ่าแล้ว เขาไม่เคยติดต่อกับคน
นอกเลย เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่รู้จักธรรมเนียมของมนุษย์
เก็บเงินรึ?
เหรียญรึ ?
เงินรึ ?
มันคืออะไรกัน ?
ดูไปแล้วหากกินอาหารที่นี่ เราก็ควรจะให้เงินกับพวกเขา…
แต่เงินคืออะไร ? จะหามันมาได้ยังไง ?
“ขอโทษด้วย ข้าไม่มีเงิน” อ้าวอู่เหยียนที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอด แต่สิ่ง
นี้กลับทำให้เขาไปไม่ถูก เขายอมรับว่าตัวเองผิดไป “เงินนี่เจ้าจำไว้
ก่อน ข้าจะหาทางหาเงินและเอามาให้กับเจ้า เจ้าสบายใจได้ ข้านั้น
แข็งแกร่งและข้าคิดว่าข้าจะได้เงินมาในไม่ช้า”
เงินคืออะไร ? หากเป็นสมบัติแล้วอ้าวอู่เหยียน มั่นใจว่าจะหามันมา
ได้ง่ายกว่าเงิน
ในเวลาเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นถึงท่านพ่อตัวเอง นี่เป็นเรื่อง
สำคัญ ท่านพ่อไม่ได้บอกเขาเลยสักนิดจนทำให้เขาทำตัวประหลาด
ต่อหน้ามนุษย์เช่นนี้
“จริงรึ ?” เสี่ยวเอ้อมองไปที่อ้าวอู่เหยียนด้วยความสงสัย
การที่เขาใส่ชุดโดดเด่นเช่นนี้แต่กลับไม่มีเงินได้ยังไง ?
ไม่ใช่แค่เสี่ยวเอ้อ แม้แต่คนในร้านก็มองมาที่อ้าวอู่เหยียนด้วยสีหน้า
แปลก ๆ
ชายคนนี้คิดจะกินแล้วหนีรึ ?
เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของคนโดยรอบที่มองมาอ้าวอู่เหยียน ก็คิ้ว
ขมวดและรู้สึกอึดอัด, กดดันรวมถึงไม่พอใจสายตาของคนอื่น ๆ
อ้าวอู่เหยียนสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะตอบกลับ
“ไม่มี !”
ทันทีที่พูดจบ อ้าวอู่เหยียนก็รู้สึกได้ว่าสายตาของคนโดยรอบนั้นดู
ประหลาดกว่าเดิม พวกนั้นเหมือนกับมองเขาเป็นตัวตลกและเยาะ
เย้ยเขา มันคือสีหน้าที่พวกนี้ไม่คิดจะปกปิดเลย
“แม้ว่าข้าจะไม่มีเงินแต่ข้าเอาสิ่งนี้แลกได้” อ้าวอู่เหยียนพลิกฝ่ามือ
พร้อมกับมีดอกไม้สีขาวปรากฏขึ้นมา “นี่คือดอกกล้วยไม้ขาวมันคือ
สมบัติล้ำค่าที่เพียงพอจะจ่ายค่าอาหารได้” เมื่อเป็นเรื่องดอกกล้วยไม้
นี่ อ้าวอู่เหยียนรู้ถึงค่าของมันดี มันคือสมบัติที่หายากในเผ่ามังกร
แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกเสียดายมัน
แต่ไม่ว่าจะเสียดายแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะแลกมันเพื่อจ่าย
ค่าอาหาร
องค์ชายของเผ่ามังกรที่สูงส่งไม่คิดจะติดหนี้ใคร เขาไม่คิดจะทำให้
เผ่ามังกรต้องเสียหน้า !
เมื่อเห็นดอกไม้ในมืออ้าวอู่เหยียน ทุกคนต่างก็หัวเราะกันออกมา
“ดอกไม้ ?”
“ฮาฮา ชายคนนี้กลับจะเอาดอกไม้มาจ่ายแทนรึ?”
“สมบัติงั้นรึ? สมบัติแบบไหนกันที่จะมีสภาพเช่นนี้ได้ ? ทำไมข้าถึง
ไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“ดูจากชุดที่เขาใส่แล้ว ข้าไม่คิดว่าเขาจะไม่มีเงินติดตัว…”
“ตลกดีจริง ๆ !”
เสียงเยาะเย้ยรอบ ๆ ทำให้อ้าวอู่เหยียนโกรธจนตัวสั่น
“หาที่ตาย!” พลังของอ่าวอู่เหยียนแผ่ออกมา แม้ว่าเขาจะยับยั้งพลังไว้
แต่ผู้คนโดยรอบก็ยังรับรู้ได้ถึงพลังของเขา มีหลายคนถึงกับกระเด็น
ไปอัดกำแพง หนึ่งในนั้นถึงกับทะลุออกจากร้านไปและบาดเจ็บหนัก
เงียบสนิท
ทั้งร้านเงียบสนิทลงในพริบตา
ทุกคนต่างก็มองมาที่อ้าวอู่เหยียนด้วยสีหน้าว่างเปล่า
ตอนนั้นอ้าวอู่เหยียนอยากจะฆ่าทุกคนในร้าน แต่เมื่อเขาคิดจะทำ
แบบนั้น อยู่ ๆ เขาก็นึกถึงสิ่งที่ตกลงกับท่านพ่อตัวเองไว้ ตอนนั้นเอง
จิตสังหารที่เขามีก็หายไปในพริบตา
“ฮึ่ม…” อ้าวอู่เหยียนยึดฮัดออกมาและมองไปโดยรอบ ก่อนจะสะบัด
มือส่งดอกกล้วยไม้ขาวไปใส่มือของเสี่ยวเอ้อ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น
และเดินออกไป แค่ไม่กี่ก้าวร่างของเขาก็หายไปจากร้านทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก