ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 396

ตอนที่ 396 เงินก้อนโต
อ้าวอู่เหยียนถือว่าเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ
ทวีปป่า
ยอดฝีมือระดับสูงสุด ที่ไม่มีเงินแม้แต่จะกินข้าว หรือซื้อเสื้อผ้า ยอด
ฝีมือแบบนี้ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของทวีปป่ ามาก่อน มันไม่
เกินไปที่จะบอกว่า ต่อให้สุ่มผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตว่อซวนตามท้องถนน
มาสักคน พวกนั้นก็มีเงินมากกว่าอ้าวอู่เหยียน
ชายหนุ่มคนนี้ยากจนมาก จนทำให้คนแทบจะทนมองไม่ไหว
อ้าวอู่เหยียนจนงั้นรึ?
แน่นอนว่าไม่ !
ทั้งทวีปป่ าแล้ว ไม่มีใครรวยกว่าเขาได้ สมบัติที่เขามีในแหวนมิติ ก็มี
ค่าเท่ากับเงินจำนวนมาก ซึ่งเป็นหลายเท่าของเซียนโอสถ, เซียนหลอม
และผู้บ่มเพาะคนอื่น ๆ มี พวกระดับสูงสุดของมนุษย์ก็ยังไม่รวยเท่า
เขาเลย
มันก็แค่ว่าของที่เขานำติดตัวมานั้น มีระดับสูงเกินไป และคนที่นี่ก็
ไม่รู้จักมันและไม่เข้าใจคุณค่าของมัน
มียอดฝีมือระดับสูงสุดแบบนี้คนไหนบ้างที่หาเงินไม่ได้ อ้าวอู่เหยียน
นี่แหละที่จะกลายเป็นคนแรก !
กฎเกณฑ์ที่ต่างกันนี้ ทำให้เขาไม่อาจจะปรับตัวให้เข้ากับโลกมนุษย์
ได้ และมันเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเขา…
หากเขารู้เกี่ยวกับโลกมนุษย์ เขาคงหาเงินได้นับไม่ถ้วน นี่ไม่ต้องใช้
สมบัติที่เขามีเลย แค่แหวนมิติก็มีค่าเกินกว่าจะวัดได้แล้ว ตราบใดที่
เขายอมสร้างแหวนมิติขึ้นมา เขาก็สามารถใช้มันแลกกับเงินมาได้
นับไม่ถ้วน แต่เขาไม่รู้เรื่องนี้และไม่เข้าใจคุณค่าของแหวนมิติใน
โลกมนุษย์
ยังไงซะพวกระดับสูงของเผ่ามังกรก็ไม่ใช่น้อย ๆ มังกรทุกรุ่นที่ขึ้นไป
ยังระดับสูงสุดได้นั้น สามารถสร้างแหวนมิติขึ้นมาได้ ดังนั้นมังกร
ทุกตัวในเผ่าจึงมีแหวนมิติ ของแบบนี้มันไม่ได้มีค่าใด ๆ ในเผ่ามังกร
เลย
โชคดีที่โชคของอ้าวอู่เหยียนไม่ได้แย่นัก ตอนที่เขาไปยังร้านแลก
เปลี่ยนสุดท้ายของเมืองกวนหยาง เขาก็พบกับเจ้าของร้านใจดีเข้า
เจ้าของร้านไม่รู้จักหินอุกกาบาต แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าหินหมึก
นี่น่าจะเป็นของดี แค่น้ำหนักก็น่าทึ่งแล้ว มันพิสูจน์ได้ว่าของสิ่งนี้ไม่
ธรรมดา ดังนั้นเจ้าของร้านจึงเสนอราคาที่ 300,000 เหรียญและไม่
คิดที่จะเพิ่มราคาให้เด็ดขาด
“ตกลง !” อ้าวอู่เหยียนดีใจแทบบ้าที่ได้เงินกลับมามากมายแบบนี้
ในที่สุดก็มีคนเต็มใจรับหินหมึกนี้ไป เขาตื่นเต้นอย่างมาก เขาจะไป
คิดต่อรองราคากับอีกฝ่ายได้ยังไง?
สำหรับค่าของหินหมึกนี้แล้ว อ้าวอู่เหยียนไม่ได้รู้ดีนัก หากเขารู้ว่า
หินอุกกาบาตที่มีค่ามากกว่าหมื่นล้านเหรียญ เขาคงรู้สึกอีกแบบ
แต่ตอนนี้เขาซาบซึ้งในบุญคุณของเจ้าของร้านอย่างมากยังไงซะการ
ที่อีกฝ่ายยอมรับหินหมึกนี้ไปก็ถือว่าเป็นการช่วยอ้าวอู่เหยียน
“นี่บัตรเงินหมื่น 30 ใบ ตรวจสอบด้วย” เจ้าของร้านเอาบัตรออกมา
จากลิ้นชัก และนับมันอยู่หลายครั้ง ก่อนจะส่งมันให้กับอ้าวอู่เหยียน
“นอกจากนี้ข้าต้องเตือนท่านอีกครั้ง ของสิ่งนี้เราซื้อแล้วไม่ขายคืน
หากท่านเปลี่ยนใจ มันก็สายเกินไปแล้ว และถ้าท่านไม่คิดที่จะขาย
และออกจากร้านไป เราจะไม่คิดจะซื้อมันอีก”
อ้าวอู่เหยียนรีบรับบัตรมาและพูดขึ้นด้วยความพอใจ “ตกลง”
ตอนนี้เขามีเงินมากมาย เขาจะสนของอย่างอื่นทำไม?
ถึงหลังจากนี้เขาจะพบว่าเขาขาดทุนอย่างมาก แต่ด้วยเกียรติที่เขามี
แล้ว เขาคงไม่มีทางมาหาเรื่องเจ้าของร้าน
เมื่อเห็นสีหน้าดีใจของอ้าวอู่เหยียน เจ้าของร้านก็อดไม่ได้ที่จะพูด
ขึ้นมา “ท่านตกลงจริง ๆ รึ ?”
แต่การซื้อขายจบลงแล้ว แม้ว่าเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว
“ช่างเถอะ ยังไงซะก็แค่ 300,000 เหรียญ ถึงจะไม่ใช่ของดีแต่ก็ไม่ได้
ทำให้ร้านเสียหายอะไรมากนัก” เจ้าของร้านคิดกับตัวเอง
ไม่นานอ้าวอู่เหยียนก็ถือบัตรเงินเดินออกจากร้านมาด้วยรอยยิ้ม ใน
ใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกสำเร็จครั้งใหญ่ “กำไรดีจริง ๆ! หิน
หมึกก้อนเดียวแลกเงินได้ตั้ง 300,000 เหรียญ ครั้งนี้ข้าได้กำไรก้อน
โต!” อ้าวอู่เหยียนตื่นเต้นจนอ้าปากค้าง นี่ไม่ต้องพูดถึง 300,000 เลย
หากเจ้าของร้านเสนอราคามาที่ 30,000 เหรียญ อ้าวอู่เหยียนก็จะตกลง
ทันที บอกได้ว่ามันเกินกว่าที่อ้าวอู่เหยียนคาดเอาไว้ และทำให้เขา
แปลกใจอย่างมาก
ยังไงซะเขาก็ได้เงินมาแล้ว แม้ว่าเขาจะมีเงินแค่ 300,000 เหรียญแต่ก็
น่าจะอยู่ได้สักพัก
อ้าวอู่เหยียนเดินออกมาที่ถนนและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลื้มปริ่ม “ไม่
ง่ายเลยจริง ๆ !”
เงิน 300,000 นี่เขาต้องเดินทางไปทั่วเมืองกวนหยาง กว่าจะได้เงินนี่
มา ตอนนี้นั้นอ้าวอู่เหยียนก็รู้สึกถึงความสำคัญของเงิน เงินมันหา
ยากจริง ๆ !
เมื่อเดินเล่นในเมืองได้สักพัก อ้าวอู่เหยียนก็มาที่ร้านเสื้อผ้าที่เขาผ่าน
มาตอนแรก เขามองไปที่เสื้อผ้าที่งดงามบนชั้นวางและอดคิดถึงเงิน
300,000 เหรียญที่มีในกระเป๋ าไม่ได้ เขาเกิดลังเลขึ้นมา
หลังจากที่คิดอยู่นาน อ้าวอู่เหยียนก็พ่ายแพ้ต่อความเย้ายวนที่เสื้อผ้า
สร้างขึ้นมาในใจเขา และสุดท้ายเขาก็รวบรวมความกล้าเดินเข้าไป
ในร้าน
ครั้งนี้เขาได้บทเรียนมาแล้ว ก่อนที่จะเลือกเสื้อผ้าเขาได้คุยกับพนักงาน
เพื่อกามราคาของเสื้อผ้า จากนั้นเขาค่อยทำการเลือกมัน เขาใช้เวลา
ไปนานกับการเลือกชุดที่ชอบ ราคามันก็ไม่ได้แพงนักแค่ 12,000
เหรียญ แต่นั่นก็ทำให้เขาปวดใจอยู่ดี
มันมีเสื้อผ้าถูก ๆ มากมายในร้าน และบางชุดราคาแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญ
แต่อ้าวอู่เหยียนเป็นใครกัน ? เขาคือองค์รัชทายาทของเผ่ามังกร คน
ที่อยู่ฐานะสูงส่งของโลก เสื้อผ้าธรรมดาเขาจะสนใจได้ยังไง?
นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ก็ยังมีเครื่องประดับในร้านอีก ของพวกนั้นราคา
หลายหมื่นเหรียญ หากเทียบกับของที่เผ่ามังกรแล้ว เครื่องประดับ
พวกนี้ดูหรูหรากว่า ในด้านของความงามนี้มนุษย์สูงส่งกว่าเผ่ามังกร
อ้าวอู่เหยียนชอบมันเป็นอย่างมาก แต่ราคาที่สูงของมันก็ทำให้อ้าวอู่
เหยียนได้แต่มองและเดินหนีออกมา
สักพักอ้าวอู่เหยียนก็เดินออกมาจากร้านอย่างไม่เต็มใจ ชุดสีม่วงของ
เขาถูกแทนที่ด้วยชุดสีขาวที่สลักรูปมังกรและดอกไม้ที่งดงาม
“ค่อยสมกับราคามันหน่อย!” อ้าวอู่เหยียนพอใจเป็นอย่างมาก แม้ว่า
จะเสียเงินไปถึง 12,000 เหรียญ แต่เขายังทิ้งกับทักษะการถักทอของ
ร้านนี้
ชุดนี้อาจจะไม่ได้ดีเท่ากับชุดเดิมของเขา มันไม่ได้มีความสามารถ
พิเศษในการป้องกัน แต่มันทั้งนุ่มและโปร่งเย็นสบาย เมื่อรวมกับ
การออกแบบของมันแล้ว ก็ทำให้อ้าวอู่เหยียนพอใจอย่างมาก
หลังจากที่ได้ชุดที่ชอบแล้ว อ้าวอู่เหยียนก็ออกจากร้านเสื้อผ้าและ
เดินต่อไปทันที
เมืองกวนหยางเป็นที่ที่ทำให้เขาทั้งสุขและเศร้า เขาไม่ต้องการมาที่นี่
อีกเป็นครั้งที่สองในชีวิตนี้
สำหรับเมืองจูอันแล้ว ความคิดที่จะกลับไปยังที่นั่นไม่มีอยู่ในหัว!
สองวันหลังจากที่มายังโลกมนุษย์ อ้าวอู่เหยียนได้ไปมาหลายเมือง
แล้ว แต่ทุกเมืองต่างก็ทิ้งความทรงจำเศร้า ๆ ไว้ในหัวของเขา…
“ชักช้ากว่านี้ไม่ได้! ต้องไปหาตัวสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ !” อ้าวอู่
เหยียนไม่กล้าไปยังเมืองมนุษย์อีกต่อไป เขากลัวว่าเขาจะสนใจบาง
อย่าง แต่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อมัน ความรู้สึกแบบนี้มันน่าสลด เงิน
ที่เหลือพวกนี้เขาจะใช้มันอย่างดี เขาจะไม่ใช้มันฟุ่มเฟือยอีกเด็ดขาด
ไม่งั้นแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดถึงสามวันหรือไม่
หลังจากที่ออกจากเมืองมา อ้าวอู่เหยียนไม่ได้ทำการเคลื่อนย้ายพริบตา
เขาแผ่การรับรู้ออกไป ทุกที่ที่เขาบินผ่าน เขาจะทำเช่นนี้เสมอ
อ้าวอู่เหยียนได้บินข้ามเขาทางใต้ และเตรงไปยังเขตกลางและผลลัพธ์
ที่ได้จากการตรวจสอบ ก็ยังคงเป็นศูนย์เช่นเคย ใช้เวลาไปตั้งนาน แต่
อ้าวอู่เหยียนกลับไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับมา ความอดทนและแรง
กระตุ้นที่มีในตอนแรกเริ่มจะหมดลง
“ไม่ ทวีปป่ าแห่งนี้กว้างใหญ่ แค่ข้าคนเดียวคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตาม
หาตัวสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิในเวลาอันสั้น” อ้าวอู่เหยียนหยุดและ
คิดถึงปัญหาการให้เขาค้นหาทั้งทวีปนั้น มันไม่มีเหตุผลเลยแม้แต่
น้อย หากเขาทำแบบนั้นจริง ๆ เขาคงตายก่อนที่จะหาตัวสุดยอดสัตว์
อสูรศักด์ิสิทธ์ิเจอ “เรื่องนี้ต้องหาคนช่วย !”
เมื่อคิดแบบนั้น อ้าวอู่เหยียนก็ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา “ใช่สิ ข้า
สามารถบอกให้ยอดฝีมือทั้งสี่ของมนุษย์ช่วยได้ !”
กลุ่มสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิได้กำเนิดขึ้นมาในโลกนี้ พวกที่กังวล
ที่สุดไม่ใช่เผ่ามังกรแต่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่คน !
ด้วยการอยู่คนละที่ และสภาพการเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน อ้าวอู่เหยียน
จึงไม่อาจจะปรับตัวเข้ากับชีวิตและกฎเกณฑ์ของโลกมนุษย์ได้ แต่
เขาไม่ได้โง่ การมาของกลุ่มสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ินั้น มีความหมาย
อะไรนั้นเขารู้ดี !
“บางทีพวกนั้นอาจจะพบกับพวกสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิแล้ว?”
อ้าวอู่เหยียนอดไม่ได้ที่จะคาดหวังในเรื่องนี้ “ท่านพ่อบอกว่ายอด
ฝีมือทั้งสี่ของมนุษย์อยู่ที่เขดกลาง ตำแหน่งน่าจะเป็นที่สมาคมปรุง
ยา, หลอม, ตำราและค่ายกล..” เขามีความจำที่ดี หากราชามังกรพูด
มาแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็สามารถจดจำมันได้อย่างชัดเจน
เมื่อตัดสินตำแหน่งของยอดฝีมือทั้งสี่ของมนุษย์ อ้าวอู่เหยียนก็ได้ทำ
การเคลื่อนย้ายไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด และถามหาตำแหน่งสมาคม
ค่ายกลจากคนในเมือง ก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังสมาคมค่ายกลทันที
ในบรรดายอดฝีมือทั้งสี่ของมนุษย์นั้นเซียนค่ายกลแข็งแกร่งและมี
ฐานะสูงที่สุด เป็นธรรมดาที่เป้าหมายแรกของอ้าวอู่เหยียนจะเป็นที่
สมาคมค่ายกล
สุดท้าย อ้าวอู่เหยียนก็มาถึงสมาคมค่ายกลตอนตกดึก ซึ่งความมืดได้
ครอบคลุมทั้งโลกเอาไว้
เมื่อแต่การรับรู้ไปทั่วสมาคมค่ายกล อ้าวอู่เหยียนก็ต้องคิ้วขมวด “ไม่
มีใครเลย”
ไม่ใช่ไม่มีใคร ที่สมาคมค่ายกลนั้นมีคนอยู่มากมาย คนที่แข็งแกร่ง
ที่สุดคือผู้อาวุโสขอบเขตต้นชวนขั้นต่ำ และเป็นถึงปรมาจารย์ด้าน
ค่ายกล 5 ดาว ซึ่งติดตราไว้ที่อกเพื่อบ่งบอกฐานะ
“ใครกัน !”
อยู่ ๆ ผู้อาวุโสที่สำนักงานของสมาคมค่ายกล ก็ได้ลืมตาขึ้นและมอง
ขึ้นไปบนท้องฟ้า
อ้าวอู่เหยียนแปลกใจขึ้นมา “รับรู้ได้ด้วยรึ ?”
มนุษย์ขอบเขตตุ้นชวนขั้นต่ำ กลับรับรู้ตัวตนของเขารึ ?
ผู้อาวุโสได้มองมายังทางที่อ้าวอู่เหยียนอยู่ และพูดขึ้นด้วยสีหน้า
เคร่งเครียด “ข้าไม่รู้ว่าใครกันที่มายังสมาคมค่ายกลของเรา โปรด
แสดงตัวด้วย!”
“ข้าถูกพบแล้วจริง ๆ !” เมื่อเห็นว่ามนุษย์มองมาทางตน อ้าวอู่เหยียน
ก็ไม่ได้สงสัยอีกต่อไป ร่างของเขาหายไปในความมืด และไม่นาน
เขาก็เข้าไปยังห้องโถงของสมาคมค่ายกล ก่อนจะถามขึ้นมาด้วย
ความสงสัย
“เจ้าหาข้าพบได้ยังไง ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก