ตอนที่ 397 ตระกูลอ้าว
การที่ชายหนุ่มผมเงินปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้า ก็ทำให้ผู้อาวุโสของ
สมาคมค่ายกลถึงกับต้องหรี่ตาลงทันที “ยอดฝีมือระดับสูงสุด !”
ระดับการบ่มเพาะที่ไร้เทียมทาน มีเคลื่อนย้ายพริบตานอกจากพวก
ระดับสูงสุดแล้วจะมีใครอีกที่มีมันได้ ?
ผู้อาวุโสมองไปที่อ้าวอู่เหยียนด้วยสายตาตกตะลึงและหวั่นเกรง
เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นอ้าวอู่เหยียนมาก่อน ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าอ้าวอู่
เหยียนไม่ใช่พวกระดับสูงสุดที่โด่งดัง แต่เป็นพวกระดับสูงสุดที่เขา
ไม่เคยเจอมาก่อน !
“พระเจ้า ไม่นานมานี้ก็มีชายลึกลับที่อยู่ระดับสูงสุดปรากฏตัวขึ้นมา
และตอนนี้ก็ยังมีเพิ่มอีกรึ?” ผู้อาวุโสใจเต้นรัว สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งที่สุด
คือ ชายที่ปรากฏตัวตรงหน้าเขาตอนนี้ดูเด็กเกินไป !
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสไม่ได้ตอบอะไรกลับ อ้าวอู่เหยียนก็คิ้วขมวด “เจ้า
เฒ่า เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้าเลย !”
ผู้อาวุโสได้สติและลุกขึ้นยืน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความเคารพ “ข้าผู้
อาวุโสสมาคมค่ายกล ขอคาราวะ !”
เมื่อเห็นท่าที่หมดความอดทนของอ้าวอู่เหยียน คังชือหลินก็รีบพูด
ขึ้นมา “นายท่าน ข้าหาท่านพบก็เพราะค่ายกลป้องกันซึ่งเป็นค่ายกล
ขั้น 6 ที่สร้างขึ้นมาโดยบรรพบุรุษของสมาคม หลังจากที่ผ่านการ
ปรับปรุงมาหลายรุ่น ค่ายกลนี้จึงขึ้นถึงระดับสูงสุดของขั้นที่ 6 ได้
และถือว่าสมบูรณ์แบบ”
ค่ายกลป้องกันของที่นี่ หากมองทั้งทวีปป่ าแล้ว มันถือว่าเป็นค่ายกล
ที่ทรงพลังที่สุด!
ด้วยการปกป้องของค่ายกลนี้ แม้แต่พวกระดับสูงสุดก็อาจจะทำ
อะไรไม่ได้!
อ้าวอู่เหยียนเดาะลิ้นด้วยความแปลกใจ “ฟังดูน่าที่งดีจริง ๆ !”
คังชือหลินพูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ “ค่ายกลป้องกันของเรา เป็นค่ายกล
อันดับหนึ่งในโลก ทางทฤษฎีแล้วมันเป็นภัยต่อพวกระดับสูงสุด
ได้!” นี่คือความภูมิใจของสมาคมค่ายกล แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าอ้าวอู่เห
ยียน แต่คังชือหลินก็ไม่ได้ปกปิดความรู้สึกที่ตัวเองมี
อ้าวอู่เหยียน เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจและพูดขึ้น “น่าที่งดี !”
เขาลองคิดทบทวนดู และพูดขึ้น “หรือว่าจะลองดูดี? ดูว่ามันจะเป็น
ภัยต่อข้าจริงหรือไม่ ?”
เป้าหมายของการมายังทวีปป่ านี้คือการหาประสบการณ์ และค่ายกล
นี่ก็ทำให้เขาสนใจอย่างมาก หากสามารถรับรู้พลังของมันด้วยตัวเอง
ได้ นั่นเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องลอง
เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของคังชือหลินก็เปลี่ยนไป เขาหัวเราะแห้ง ๆ
ออกมา “อย่าเลย”
ค่ายกลป้องกันนี้เป็นภัยต่อพวกระดับสูงสุดจริง ๆ แต่พลังที่มันต้อง
ใช้นั้นไม่ใช่น้อย ๆ มันต้องใช้ทรัพยากรอย่างมากกว่าจะทำงานได้
สมาคมค่ายกลร่ำรวยก็จริง แต่ไม่ได้ร่ำรวยพอที่จะใช้ของอย่างสิ้น
เปลืองแบบนั้นได้ สำหรับคังชือหลินแล้ว หากไม่จำเป็น ค่ายกลนี้ก็
จะไม่ถูกใช้งานออกมา
หากอยู่ในสถานการณ์ปกติแล้ว ค่ายกลนี้จะอยู่ในภาวะกึ่งทำงาน
หากไม่มีศัตรูบุกเข้ามา ค่ายกลนี้ก็จะไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่
“ข้าไม่รู้ว่านายท่านจะมายังสมาคมค่ายกลเพราะอะไรกัน ท่านมี
เป้าหมายอะไร?” คังชือหลินกลัวว่าอ้าวอู่เหยียนจะคิดทำลายค่ายกล
เขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
หลังจากที่โดนคังชือหลินถาม อ้าวอู่เหยียนก็จำธุระของตัวเองได้
เขาถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเฉยเมย “ข้ามาที่นี่เพื่อพบกับเซียนค่ายกล ข้า
ไม่คิดว่าหัวหน้าของเจ้าจะไม่อยู่และให้เจ้าดูแลที่นี่ ข้าอยากรู้ว่าเขา
อยู่ที่ไหน ?”
คังชือหลินตกใจและพูดออกมาด้วยความอึดอัดใจ “นายท่านการที่
ท่านตามหาเซียนค่ายกลนี้มีธุระอะไร ?”
“ทำไม ต้องมีธุระถึงจะพบเขาได้รึ? เขาสูงส่งขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
กัน ?” อ้าวอู่เหยียน ขมองไปที่คังชือหลินด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
ด้วยการที่ถูกสายตาอันเป็นชาของอ้าวอู่เหยียนมองมา คังชือหลินก็
รู้สึกกลัวขึ้นมา
หากคำตอบที่เขาตอบออกมาไม่ดีนัก ไม่ต้องเดาเลยว่าอ้าวอู่เหยียน
ต้องฆ่าเขาแน่ ๆ !
“นายท่านเข้าใจผิดแล้ว ผู้น้อยหมายความว่าหากนายท่านต้องการ
ความช่วยเหลือ บางทีเราอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง” คังชือหลิน กลืน
น้ำลายแล้วพึมพำออกมา
ก่อนที่เขาจะรู้นิสัยของอ้าวอู่เหยียน เขาก็ไม่กล้าที่จะเอาชีวิตของ
ตัวเองไปเสี่ยง ดังนั้นเขาจึงคิดทบทวนก่อนที่จะพูดออกมา
อ้าวอู่เหยียนมองไปที่คังชือหลินด้วยสีหน้าไม่พอใจ และพูดขึ้นมา
“เจ้าน่ะรึจะช่วยข้า? คนที่อยู่ขอบเขตตุ้นชวนขั้นต่ำอย่างเจ้าจะทำ
อะไรได้ ?”
คนที่อยู่ขอบเขตตันซวนซึ่งถือว่าเป็นเทพของโลกนี้ กลับถูกมองว่า
เป็นมดในสายตาของอ้าวอู่เหยียน ซึ่งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับ
องค์รัชทายาทของเผ่ามังกรแล้ว นี่ไม่ต้องนับคังชือหลินที่อยู่ขอบเขต
ตุ้นชวนขั้นต่ำเลย แม้แต่พวกมังกรที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นต่ำ อ้าวอู่
เหยียนก็ไม่ได้สนใจ
คังชือหลินสลดมาก เขาอยู่ขอบเขตตุ้นซวน ซึ่งในสายตาของผู้คน
นับไม่ถ้วน เขาสูงส่งแต่ชายหนุ่มผู้นี้กลับไม่ไว้หน้าเขา และถึงกับ
พูดออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจด้วย
คังชือหลินได้แต่อดทนเอาไว้ ใครบ้างที่อยากจะหาเรื่องพวกระดับ
สูงสุด ?
เขาบอกว่าตนเองคือผู้ที่อยู่ขอบเขตตุ้นชวนขั้นต่ำ แม้แต่หัวหน้าของ
เขาที่อยู่ขอบเขตตุ้นชวนขั้นสูง ก็ยังไม่กล้าที่จะปฏิเสธชายหนุ่มผู้นี้ !
“พวกเจ้าพบตัวสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิหรือยัง?” อ้าวอู่เหยียนมอง
ไปที่คังชือหลินและถามขึ้นมา
คังชือหลินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขารีบตอบกลับทันที
“ไม่กี่วันก่อน เราได้ส่งสมาชิกจำนวนมากไปทั่วทุกที่ และเซียนค่าย
กลก็ออกไปตรวจสอบด้วยตัวเอง โดยมีศูนย์กลางที่เขตกลางก่อนจะ
กระจายไปโดยรอบ เพื่อตามหาว่าสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ินั้นอยู่ที่
ไหน โชคร้ายที่นานขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับสุดยอดสัตว์
อสูรศักด์ิสิทธ์ิเลย…”
สมาคมและกองกำลังใหญ่ต่างก็ทำแบบเดียวกัน พวกเขาใช้วิธีค้นหา
แบบปูพรม ไม่กี่วันพวกเขาก็หาแทบจะทั่วทุกที่ของเขตกลางแล้ว
แต่ก็ยังไม่พบอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ยังไม่ได้ข่าว?” อ้าวอู่เหยียนหงุดหงิดขึ้นมา นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาคิด
เอาไว้
ทวีปป่ านี้ใหญ่โต นอกจากเขตกลางแล้วก็ยังมีภูเขาทางใต้, เขตเหนือ
และภูเขาทางตะวันตก แต่ละเขตมีขนาดใหญ่โต นี่ยังไม่รวมป่ าหวง
หยวน และภูเขาแสนลูกที่เป็นพื้นที่ของสัตว์อสูร มันยากที่จะค้นหา
ได้ทั้งทวีปป่ า!
คังชือหลินพูดขึ้นมา “นายท่านมาเพื่อตามหาสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ
รึ?”
ระดับการบ่มเพาะของเขาต่ำกว่าอ้าวอู่เหยียนอย่างมาก และเขาไม่
อาจจะมองระดับของอ้าวอู่เหยียนออก จนตอนนี้เขาก็ไม่เข้าใจว่า
อ้าวอู่เหยียนเป็นสัตว์อสูรหรือไม่
“ใช่” เป้าหมายของอ้าวอู่เหยียนคือสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิจริง ๆ
การที่มาหาประสบการณ์นั้นเป็นเรื่องรอง “ในเมื่อข้าหาตัวสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิไม่พบ ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก ช่างเถอะ เจ้าเฒ่า
บอกข้ามาว่าเซียนค่ายกลอยู่ที่ไหน ข้าได้ยินมาว่าเขาคือหัวหน้าของ
ยอดฝีมือระดับสูงสุดทั้งสี่ของมนุษย์ ข้าอยากจะรู้ความแข็งแกร่งที่
เขามี”
เมื่อมายังเขตของมนุษย์แล้ว ใครบ้างที่ไม่ต้องการจะสู้กับมนุษย์ที่
แข็งแกร่งที่สุด
อ้าวอู่เหยียนอยากที่จะพิสูจน์ตัวเองว่า องค์รัชทายาทของเผ่ามังกร
สามารถเอาชนะมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้
พัฒนาไปจนถึงขีดสุดก็ตาม !
เมื่อได้ยินแบบนั้น คังชือหลินก็จึงพร้อมกับล่าคอที่แห้งผากขึ้นมา
“นายท่าน…”
เสียงของเขาสั่นไหวเล็กน้อย
“อย่าทดสอบความอดทนที่ข้ามี !” น้ำเสียงของอ้าวอู่เหยียนเย็นชายิ่ง
กว่าเดิม แม้ว่าเขาจะตกลงกับพ่อเอาไว้ว่าจะไม่ลงมือกับมนุษย์ แต่
การสู้กับเซียนค่ายกลนั้นต่างออกไป มันไม่ใช่การฝ่าฝืนกฎ “เจ้าก็รู้
ด้วยความสามารถที่ข้ามี ตราบใดที่ข้ามีความอดทนมากพอ มันก็ไม่
ยากที่ข้าจะหาตัวเซียนค่ายกล เจ้าอย่าทำให้ข้าเสียเวลาจะดีกว่า”
เวลาของพวกระดับสูงสุดนั้นมีค่าอย่างมาก !
คังชือหลินได้แต่เงียบ อ้าวอู่เหยียนพูดถูก ตราบใดที่อ้าวอู่เหยียนมี
ความอดทนในการออกค้นหา เขาก็สามารถหาตัวเซียนค่ายกลได้
จริง ๆ ยังไงซะเซียนค่ายกลก็ยุ่งอยู่กับการตามหาตัวสุดยอดสัตว์อสูร
ศักด์ิสิทธ์ิ ซึ่งไม่อาจจะปกปิดพลังของตัวเองได้ เซียนคนอื่น ๆ ก็
เช่นเดียวกัน พวกนั้นเหมือนโคมไฟอันโตภายใต้ค่ำคืนที่มืดมิด อ้าว
อู่เหยียนสามารถหาพวกนั้นเจอในเวลาอันน้อยนิด
“หากท่านยังยืนกรานที่จะพบเซียนค่ายกล ข้าก็ไม่กล้าปิดบัง” คังชือ
หลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้นมา “แต่ข้าขอถามแซ่ท่านไว้จะ
ได้รู้ตัวตน เพื่อที่เซียนค่ายกลกลับมา ข้าจะได้แจ้งเขา”
ตอนนั้นคังชือหลินเหมือนจะใจเย็นลงกว่าเดิม คำพูดของเขาไม่ได้ดู
ถ่อมตัวอีกต่อไป
“ข้าชื่ออ้าวอู่เหยียนสำหรับตัวตนของข้า เจ้าน่าจะเดาออก !” อ้าวอู่
เหยียนยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มแบบจักรพรรดิ
คังชือหลินคิดทบทวน ไม่ต้องเดาเลยว่า ชื่ออ้าวอู่เหยียนแปลกอย่าง
มาก คังชือหลินไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเป็น
ชื่อที่สูงส่ง แซ่อ้าวนี้มีมากมายในทวีปป่ า คนที่แซ่นี้ต่างก็น่าทึ่ง เท่าที่
เขารู้มาก็มีแค่พวกสายเลือดมังกรที่กล้าจะใช้แซ่นี้ คนส่วนมากไม่
อาจจะใช้แซ่นี้ได้ ไม่งั้นแล้วจะทำให้เผ่ามังกรต้องโกรธเคือง !
หลังจากที่คิดทบทวนดูแล้วคังชือหลินก็เดาขึ้นมา”หรือว่าเขาคือคน
ตระกูลอ้าวจากจักรวรรดิฉินงั้นรึ?”
ตระกูลอ้าวของจักรวรรดิฉินคือหนึ่งในตระกูลใหญ่ของเขตกลาง
ผู้นำตระกูลนี้อยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูง นอกจากหัวหน้าตระกูลแล้ว
ก็ยังมีสมาชิกตระกูลอีกสามคนที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวน พวกเขาไม่ได้
อ่อนแอกว่าราชวงศ์อิ๋งของจักรวรรดิฉินเลย ในด้านความแข็งแกร่ง
ตระกูลอ้าวถึงกับแข็งแกร่งกว่าราชวงศ์เล็กน้อยด้วยซ้ำ
ในหมู่ตระกูลใหญ่ที่เขตกลาง ตระกูลอ้าวคือตระกูลเดียวที่สามารถ
ทัดเทียมกับราชวงศ์อิ๋งได้!
นอกจากตระกูลอ้าวและราชวงศ์อิ๋งแล้ว ก็ยังมีตระกูลใหญ่อีกหลาย
ตระกูลในจักรวรรดิฉินที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเฉิน ตระกูลเมิ่งและ
ตระกูลตู้ สามตระกูลนี้มีคนขอบเขตตันซวนอย่างละคน
แซ่ของอ้าวอู่เหยียนคืออ้าว คังชือหลินถือว่าเขาคือคนของตระกูล
อ้าว มีข่าวลือว่าคนของตระกูลอ้าวมีสายเลือดมังกร และพรสวรรค์ก็
ไม่ได้ต่างอะไรจากอัจฉริยะเลย ตลอดหลายปีมานี้มียอดฝีมือใน
ตระกูลอ้าวนับไม่ถ้วน การที่มีพวกระดับสูงสุดโผล่มาในตระกูลอ้าว
ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลก
“ตระกูลอ้าว? ไม่ใช่ ข้าเกี่ยวข้องกับตระกูลอ้าวก็จริง แต่ข้าไม่ใช่คน
ของตระกูลอ้าว” อ้าวอู่เหยียนส่ายหน้า “ลองเดาดู!”
อ้าวอู่เหยียนรู้เกี่ยวกับตระกูลอ้าว คนพวกนั้นมีสายเลือดมังกรอยู่
จริง บรรพบุรุษของพวกนั้นคือมังกรของเผ่ามังกร ตระกูลอ้าวจึงมี
สิทธิที่จะใช้แซ่นี้ ตลอดหลายปีมานี้ เผ่ามังกรไม่ได้สนใจอะไรพวก
เขา และครั้งนี้การมายังทวีปป่ าของเขา ราชามังกรยังบอกกับเขาว่า
หากตระกูลอ้าวพบเจอเรื่องลำบากใด ๆ เขาจะต้องช่วยทันที
แต่อ้าวอู่เหยียนคิดว่า พวกนั้นไม่ใช่คนของเผ่ามังกร พวกเขาก็เหมือน
กับสัตว์อสูรที่มีสายเลือดศักด์ิสิทธ์ิ มันยากที่จะเทียบกับสายเลือดของ
มังกรจริง ๆ ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดไปที่ตระกูลอ้าว
มันเป็นเรื่องตลกหากเขาจะลดตัวลงไปช่วยพวกนั้น !
“เกี่ยวข้องกับตระกูลอ้าวแต่ไม่ใช่คนของตระกูลอ้าว แซ่อ้าวและมี
พลังที่น่ากลัวเช่นนี้…” ใจของคังชือหลินเต้นรัว มันมีความคิดที่
แปลกโผล่ขึ้นมาในหัวของเขา
เขาเงยหน้าขึ้นมองอ้าวอู่เหยียน และพึมพำออกมา “มังกร เผ่ามังกร !
ท่านคือคนของเผ่ามังกร ?”
พระเจ้า วันนี้มันวันอะไรกัน มังกรในตำนานกลับมาปรากฏตัวที่
สมาคมค่ายกลแห่งนี้ !
ที่สำคัญคือ…มังกรนี่กลับอยู่ระดับสูงสุดด้วย !
ยอดฝีมือระดับสูงสุดของเผ่ามังกร !
ภายในหัวของคังชือหลิน แซ่อ้าว มีความแข็งแกร่งจนถึงจุดสูงสุด
คนที่สูงส่ง นอกจากเผ่ามังกรแล้วเขาก็คิดหาความเป็นไปได้อื่นไม่
ออกเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก