ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 399

สรุปบท ตอนที่ 399 คนทรยศของมนุษย์: ระบบเจ้าสำนัก

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 399 คนทรยศของมนุษย์ – ระบบเจ้าสำนัก โดย Internet

บท ตอนที่ 399 คนทรยศของมนุษย์ ของ ระบบเจ้าสำนัก ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 399 คนทรยศของมนุษย์
อ้าวอู่เหยียนไม่เคยเห็นราชาสัตว์อสูรมาก่อน แต่เขาก็เคยได้ยินเรื่อง
ของอีกฝ่ายจากราชามังกร
ตามที่ราชามังกรบอกมา ราชาสัตว์อสูรคือสัตว์อสูรที่โดดเด่นที่สุด
ในรอบหลายหมื่นปีที่ผ่านมา ตอนที่เขาทะลวงขึ้นมาอยู่ระดับสูงสุด
ได้ เขาก็สามารถรับมือกับผู้โด่งดังที่สุดของมนุษย์ได้ ในอดีตนั้น
ความแข็งแกร่งของราชาสัตว์อสูรพัฒนาขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง แม้ว่าจะ
อ่อนแอกว่าราชามังกร แต่ก็ใช่ว่าจะอ่อนแอกว่ามากนัก
หากราชามังกรไม่ได้มีการสืบทอดมาช่วย เขาก็สามารถชนะราชา
สัตว์อสูรได้ แต่การต่อสู้นั้นต้องยากลำบากอย่างแน่นอน
แม้แต่อ้าวอู่เหยียนที่ภาคภูมิใจในตัวเอง ก็ไม่กล้าบอกว่าตัวเองจะเทียบ
ราชาสัตว์อสูรได้ เพราะเขารู้ดีว่าเขายังไม่ใช่คู่มือของราชาสัตว์อสูร
ผู้ที่มีพลังทัดเทียมราชามังกรตอนที่ยังไม่ได้รับการสืบทอดได้ แล้ว
องค์รัชทายาทมังกรจะไปเทียบได้รึ ?
อ้าวอู่เหยียนคิดทบทวนและมองไปยังทั้งคู่ยังไงซะเขาก็เจอตัวเซียน
ค่ายกลแล้ว แม้ว่าเขาต้องการจะประมือกับเซียนค่ายกล แต่เขาก็ไม่ได้
เร่งรีบ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องการใช้โอกาสนี้ เพื่อตรวจสอบความ
แข็งแกร่งของราชาสัตว์อสูร และดูว่าราชาสัตว์อสูรแข็งแกร่งเหมือน
ที่ราชามังกรบอกไว้หรือไม่ หากราชาสัตว์อสูรอ่อนแอกว่าที่คิด เขา
คงไม่สนใจจะประมือกับเซียนค่ายกล…เขาจะลองท้าทายราชาสัตว์
อสูรดู
ด้านบนของหินก้อนใหญ่ อ้าวอู่เหยียนยับยั้งพลังของตัวเองเอาไว้
ด้วยสายตาและหูที่น่าเหลือเชื่อของเขา เขาจึงเห็นทั้งสองได้อย่าง
ชัดเจน
ตอนนั้นราชาสัตว์อสูรและเซียนค่ายกลมัวแต่สนใจกันเอง ดังนั้น
พวกเขาจะมารู้ตัวได้ยังไงว่ามีบุคคลที่สามแอบดูอยู่ ?
หากพวกเขาแผ่การรับรู้ออกไป มันก็ง่ายที่จะตรวจจับอ้าวอู่เหยียน
ได้ แต่อ้าวอู่เหยียนยับยั้งพลังเอาไว้แล้ว หากไม่ตรวจสอบดี ๆ มันก็
ยากที่จะตรวจสอบได้ว่ามีผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งอย่างเขาอยู่ ยิ่งไป
กว่านั้นพวกระดับสูงสุดของทวีปนี้ก็มีน้อย ราชาสัตว์อสูรและพวก
ระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่ต่างรู้จักกัน แม้ว่าจะเห็นอ้าวอู่เหยียน แต่
พวกนั้นคงไม่สนใจเท่าไหร่นัก
แน่นอนนั่นคือสิ่งที่อ้าวอู่เหยียนคิดไปเอง ราชาสัตว์อสูรแข็งแกร่ง
กว่าเขามาก เขาไม่ได้มั่นใจว่าจะหลบพันการตรวจจับของราชาสัตว์
อสูรได้ ในทางกลับกันแล้วหากเป็นเซียนค่ายกล อ้าวอู่เหยียนก็มั่นใจ
อย่างมากว่าอีกฝ่ายจะมองไม่เห็นความแข็งแกร่งของเขาแม้ว่าจะยืน
อยู่ตรงหน้ากัน แต่เซียนค่ายกลคงต้องใช้เวลาสามวันสามคืน แต่ถึง
อย่างนั้นก็ยากที่จะมองพลังของเขาออก
เหนืออากาศสูงขึ้นไป
เซียนค่ายกลมองไปที่ราชาสัตว์อสูรด้วยท่าทีระวังตัว ก่อนจะพูด
ขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ราชาสัตว์อสูร โลกมนุษย์นี้ไม่ใช่ที่ที่
เจ้าควรจะเข้ามา…”
ตอนนั้นเซียนค่ายกลนึกหวาดกลัวนั้นมา ในฐานะที่ศัตรูแล้วเขากลัว
เฉินกูเป็นอย่างมาก เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งเพียงใดนั้น เขารู้ดี เขาไม่
มีทางที่จะปล่อยให้อีกฝ่ายได้โจมตี ราชราสัตว์อสูรแกร่งกว่าเขา
หากเขาไม่ระวังตัวและโดนโจมตีเป้า ด้วยความที่แกร่งที่เฉินกูมี
เซียนค่ายกลคงต้องบาดเจ็บหนัก !
“ไม่ต้องกังวลไป ข้ามาที่นี่เพื่อส่งข้อความให้กับเจ้า” เฉินกูพดขึ้น
ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ท่าทีของเขาดูเกียจคร้าน เขาไม่ได้สนใจอีกฝ่าย
นอกซะจากว่าพวกระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่จะร่วมมือกัน งั้นมันก็
ไม่มีใครเป็นภัยต่อเขาได้ แน่นอนว่าเขาไม่อาจจะจัดการเซียนค่ายกล
ได้ในเวลาอันสั้น หากเซียนค่ายกลยื้อเขาเอาไว้ และรอจนกว่าอีก
สามคนตามมาสมทน นั่นคงเป็นผลเสียต่อเขา
เซียนค่ายกลคิ้วขมวด “ส่งข้อความรึ?”
เขาไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้ !
สีหน้าที่เขาแสดงออกมา บ่งบอกแล้วว่าเขาไม่เชื่อในคำพูดของเฉินกู
เฉินกูเป็นถึงราชาสัตว์อสูร เขาเป็นรองแค่ราชามังกร แน่นอนว่าเขา
ไม่เชื่อว่าจะมีใครสั่งให้ราชาสัตว์อสูรมาส่งข้อความได้!
“ไม่ต้องสงสัยไป ข้าได้รับคำสั่งมาจากเจ้าสำนัก เชิญเจ้าไปยังสำนัก
คังเฉียง” เฉินกูยิ้มออกมา “วันที่ 15 เดือน 7 ที่ยอดเขา เจ้าสำนักจะรอ
เจ้าอยู่!”
เซียนค่ายกลหรี่ตาลง ในใจเขาเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา “เจ้าสำนักรึ?”
เฉินกูเป็นใครกัน ?
เขาเป็นถึงราชาสัตว์อสูร !
คนที่เป็นรองแค่ราชามังกร !
ตัวตนแบบนี้ กลับบอกว่าตัวเองมาส่งข้อความ มันยากที่จะคิดได้ว่า
จะเกิดเรื่องแบบที่เฉินกูบอกมา!
อ้าวอู่เหยียนที่ซ่อนตัวอยู่เองก็ตกตะลึง เขาเกือบหลุดการควบคุมพลัง
ของตัวเอง ข่าวนี้เหมือนกับระเบิดสำหรับเขา มันน่าแปลกใจจริง ๆ !
หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะถูกพบ อ้าวอู่เหยียนคงพุ่งเข้าไปหาเฉินกู
และถามว่าเจ้าสำนักนั่นเป็นใครกัน !
“เจ้าสำนักเป็นใครกัน?” คิ้วของเซียนค่ายกลขมวดเข้าหากัน เห็นได้
ว่าเขาสงสัยว่าเจ้าสำนักที่เฉินกูพูดนั้นเป็นใคร เจ้าสำนักผู้นี้น่ากลัว
ยิ่งกว่าเฉินกู เมื่อคิดแบบนั้นถึงพวกเขาทั้งสี่จะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่
กล้าก่อเรื่องขึ้น หากนับรวมเฉินกูที่น่ากลัวนี่เข้าไป งั้นพวกระดับสูง
ทั้งสี่ของมนุษย์จะมีทางรอดรึ?
อ้าวอู่เหยียนถึงกับชมเซียนค่ายกล คำถามที่เซียนค่ายกลถามขึ้นมานี้
คือคำถามที่เขาอยากรู้มากที่สุด
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉินกูก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เจ้าไม่ต้องรู้ว่าเจ้า
สำนักเป็นใคร เจ้าแค่ต้องรู้ว่า…เจ้าสำนักเป็นยอดฝีมือ ยอดฝีมือระดับ
สูง ในชีวิตข้าเฉินกู ไม่เคยรับใช้ใครมาก่อน ต่อให้เป็นราชามังกร ข้า
ก็ไม่คิดจะรับใช้ มีแค่เจ้าสำนักเท่านั้นที่ข้าจะยอมให้เขา!”
เมื่อพูดจบสีหน้าของเฉินกูก็แสดงความเคารพออกมา
เขาชื่นชมจางหยูจริง ๆ !
หากไม่นับเรื่องความแข็งแกร่งที่จางหยูมี การสอนและความน่าเชื่อถือ
รวมถึงอุดมการณ์ของจางหยูนั้น ก็ทำให้เขาประทับใจอย่างมาก !
ยิ่งกว่านั้นจิตใจและนิสัยของจางหยู ก็ยากจะหาใครในประวัติศาสตร์
มาเทียบได้!
ตอนที่มนุษย์, สัตว์อสูรและมังกรต่างก็มองอีกฝ่ายเป็นศัตรู แต่มุมมอง
ของจางหยู กลับมองข้ามเรื่องพวกนั้นและคิดจะกำจัดความอคตินี้
ออกไปให้ได้ ความคิดและมุมมองแบบนี้มีใครบ้างที่เทียบได้?
เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินกู และได้ยินที่เขาพูดถึงเจ้าสำนัก ไม่ว่าจะเป็น
เซียนค่ายกลหรืออ้าวอู่เหยียนที่ซ่อนตัวอยู่ ต่างก็แสดงสีหน้าตะลึง
ออกมา
“ข้าพบความลับที่ยิ่งใหญ่เข้าแล้ว!” อ้าวอู่เหยียนตื่นเต้นขึ้นมา
ตอนที่เฉินกูพูดว่า “ต่อให้เป็นราชามังกร ข้าก็ไม่คิดจะรับใช้” อ้าวอู่
เหยียนไม่พอใจอย่างมาก แต่เขาก็สงสัยมากขึ้นว่าเจ้าสำนักเป็นใคร
และมีความสามารถแบบไหน ที่ทำให้ราชาสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งผู้นี้
ชื่นชมได้ถึงเพียงนี้ ?
หากอ้าวอู่เหยียนแค่สงสัย งั้นเซียนค่ายกลคงเรียกว่าตะลึง
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีตัวตนที่น่ากลัวแบบนั้นซ่อนตัวอยู่ในทวีปแห่ง
นี้ แม้แต่เฉินกูก็ยังเป็นได้แค่คนส่งสารนี้ให้กับเจ้าสำนักผู้นั้น วิธีที่
เจ้าสำนักผู้นี้ใช้ช่างน่ากล้วจริง ๆ ที่สำคัญคือเขาเกิดมาในโลกนี้มา
นาน แต่กลับไม่เคยรู้ถึงเบาะแสของเจ้าสำนักนั่นเลย
อยู่ ๆ ก็มีเรื่องหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อไม่นานมานี้ มียอดฝีมือระดับสูงสุดที่ใช้เคลื่อนย้ายพริบตา ออก
จากเขตกลางไปด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะรับรู้ได้ถึงตัวตน
ของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่อาจตามอีกฝ่ายทัน ชัดแล้วว่าความแข็งแกร่งที่
อีกฝ่ายมีนั้นมากกว่าเขา ตอนนั้นเซียนค่ายกลเดาว่าความแข็งแกร่ง
ของอีกฝ่าย คงอยู่ในระดับที่น่าทึ่งและอาจจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่า
ราชามังกรเลย
“เจ้า…เจ้าสำนักที่ราชาสัตว์อสูรพูดถึงนั้น คือชายลึกลับผู้นั้นรึ?”
เซียนค่ายกลคิดในใจ
ทวีปป่ าแห่งนี้กว้างใหญ่ คงบอกไม่ได้ว่าไม่มียอดฝีมือแบบนั้นหลบ
ซ่อนตัวอยู่ แต่ตัวตนแบบนั้นน่ากลัวพอ ๆ กับราชามังกรเลยรึ
เพื่อที่จะพิสูจน์ความคิดของตัวเอง เซียนค่ายกลก็ถามขึ้นมา “ข้าขอ
ถามเจ้าที่ว่า เจ้าสำนักที่เจ้าพูดถึงนั้นเป็นมนุษย์หรือไม่ ?” จางหไม่รู้
ว่าเขาถูกพบตัวโดยพวกระดับสูงทั้งสี่ของมนุษย์ จนถึงตอนนี้เขาก็
ยังไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปกปิดพลังของตัวเองและเป็นธรรมดาที่จะ
เผยข้อมูลว่าเขาเป็นมนุษย์
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉินกูก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจขึ้นมา “เจ้ารู้ได้ยังไง?
เจ้าเคยเห็นเจ้าสำนักรึ ?”
“แน่นอนว่าเป็นเขา !” เซียนค่ายกลอึ้งไปคำพูดของเฉินกู จุดนี้ได้ยืนยัน
ความคิดของเขา แม้ว่าจะไม่ได้มีหลักฐานโดยตรงแต่เขาก็มั่นใจกว่า
9 ใน 10 ว่าชายลึกลับผู้นั้นคือเจ้าสำนักที่เฉินกูพูดถึง
แม้ว่าจะได้คำตอบที่ต้องการแล้ว แต่เขากลับไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่น้อย
ยอดฝีมือของมนุษย์ที่อาจจะทัดเทียมกับราชามังกรได้นั้น ร่วมมือกับ
ราชาสัตว์อสูร เขาจะดีใจได้ยังไง ?
เมื่อคิดถึงเผ่ามนุษย์ที่ต้องใช้เวลาหลายหมื่นปี หรืออาจจะนานกว่านั้น
กว่าที่จะสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดขึ้นมาได้ แต่กลับไม่ได้สนใจมนุษย์
และไปร่วมมือกับสัตว์อสูร มันทำให้เซียนค่ายกลโกรธขึ้นมาราวกับ
ว่า จางหยูเป็นคนทรยศต่อเผ่ามนุษย์และคนทรยศนี้ก็อยู่ระดับสูงที่สุด
ในหมู่มนุษย์ด้วย
ในมุมมองของเซียนค่ายกล เมื่อเจ้าสำนักมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัว
เช่นนั้น เป็นธรรมดาที่เขาควรจะแบกรับบางอย่างเพื่อมนุษย์ อย่างแรก
เลยควรที่จะกำจัดราชาสัตว์อสูร !
ไม่ใช่แค่นั้น เจ้าสำนักควรจะไปหาตัวสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ
จากนั้นก็ทำการฆ่ามันทีละตัว ๆ เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาอีก !
นั่นคือสิ่งที่ยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์ควรจะทำ !
ตอนนี้ไม่ใช่แค่เจ้าสำนักร่วมมือกับราชาสัตว์อสูร และไม่ได้ฆ่าเหล่า
สุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ แต่ยังให้ราชาสัตว์อสูรที่เป็นคนนอก มา
เรียกพวกเขาไปพบ มันคืออะไรกัน ? ราชาสัตว์อสูรคือคนของเจ้า
สำนัก และพวกเขาเป็นคนนอกแทนรึ ?
ไร้เหตุผลสิ้นดี!
ยิ่งคิดเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งไม่พอใจชายลึกลับที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก
เท่านั้น !
“มีเป้าหมายอะไรถึงเรียกพวกเราไป? เจ้าคิดจะร่วมมือกันเพื่อกำจัด
พวกเราทั้งสี่คนงั้นรึ?” สีหน้าของเซียนค่ายกลไม่ได้สู้ดีนัก เขามอง
ไปที่เฉินกูด้วยสายตาเบิกกว้าง เขามีอคติต่อเฉินกูและรวมไปถึงเจ้า
สำนักที่เขาไม่เคยเห็นหน้า สิ่งแรกที่โผล่เข้ามาในหัวคือนี่จะเป็นกับ
ดักหรือไม่ เจ้าสำนักมีแผนการอะไรหรือไม่ อย่างการร่วมมือกันเพื่อ
กำจัดยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งหมด?
หากเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่อาจจะเดินเข้าสู่กับดักได้ !
“ข้าต้องบอกว่าพวกเจ้าคงตีค่าตัวเองมากเกินไป!” เฉินกูฮึดฮัดออกมา
และพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าสำนัก
แล้ว หากเขาต้องการฆ่าเจ้าจริง ๆ มันง่ายซะยิ่งกว่าง่ายแม้ว่าเจ้าสี่คน
จะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของเจ้าสำนักได้ เจ้าสำนักยัง
ต้องให้ข้าช่วยอีกรึ ?”
เฉินกูแสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมา “เรื่องตลกพวกนี้เจ้าคิดไปเอง
ทั้งหมด !”
เซียนค่ายกลมองมาที่เฉินกูด้วยสายตาโกรธแค้น
“ทำไม? ไม่เชื่อรึ ?” เฉินกูไม่ได้กลัว เขาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “เจ้าสี่
คนร่วมมือกัน อย่างมากก็แค่ดีกว่าข้า แต่ต่อหน้าราชามังกรแล้วพวก
เจ้าคงต้องตาย เจ้าสำนักนะแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชามังกรเสียอีก เจ้าคิด
ว่าการที่เจ้าสำนักจะฆ่าพวกเจ้ามันจะเป็นเรื่องยากนักหรือไง?” เขา
ไม่เคยได้สู้กับจางหยูจริงจัง แต่สิ่งที่จางหยูแสดงออกมานั้นก็ทำให้
เขาไม่สงสัยเลยว่า จางหยูต้องเหนือกว่าราชามังกร
อย่างน้อยความเข้าใจเรื่องกฎมิติของราชามังกร ก็ด้อยกว่าจางหยู
เฉินกูมองไปที่เซียนค่ายกลและพูดขึ้นมา “ข้าส่งข้อความเสร็จแล้ว
จะมาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าเอง อันที่จริงข้าหวังว่า
เจ้าจะไม่มา…” เขารู้สึกว่า จางหยูจะมีแผนการครั้งใหญ่และแผนการ
ครั้งใหญ่นี้คงจะส่งผลดีสำหรับยอดฝีมือระดับสูงสุดทั้งสี่ของมนุษย์
และแม้แต่สำหรับมนุษย์ทั้งหมดด้วย หากยอดฝีมือทั้งสี่ปฏิเสธคำ
เชิญชวน เขาคงดีใจ
“ธุระข้าเสร็จแล้ว ข้าต้องไปหาเซียนโอสถและคนอื่น ๆ อีก ข้าไม่ได้
มีเวลามาไร้สาระกับเจ้า”
เมื่อพูดจบ ร่างของเฉินกูก็หายไป ในตำแหน่งที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้
มีการผันผวนของมิติทิ้งเอาไว้
เซียนค่ายกลยังไม่ทันได้ใจเย็น เฉินกูก็ส่งข้อความเข้ามาในหัวของ
เขา “ข้าลืมบอกเจ้าไป พวกสัตว์อสูรที่ข้าส่งออกไปตามหาสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ข้าได้เรียกกลับมาแล้ว หากเจ้าสนใจในตัวสุด
ยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะหาพวกมันเจอ! ฮาฮาฮา
ฮา…”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก