ตอนที่ 401 การพบปะ
หากเขาตาย สมาคมค่ายกลเองก็คงจบสิ้นไปด้วย คังชือหลินผูกพัน
กับที่นี่และไม่ต้องการให้สมาคมค่ายกลได้รับผลกระทบไปด้วย
ยิ่งกว่านั้นเขาก็ใช่ว่าจะไม่มีหวังที่จะรอด หากนางมาจากเผ่ามังกร
จริง ๆ งั้นบางทีเขาอาจจะรอดไปได้ และยังรักษาความสัมพันธ์กับ
เผ่ามังกรเอาไว้ได้
คังชือหลินพร้อมที่จะตาย เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้
คังชือหลินสลดคือ นางค่อย ๆ ยกฝ่ามือขึ้นและดูเหมือนว่านางพร้อม
จะจัดการเขา !
“จบแล้ว!” คังชือหลินใจหล่นวูบและสลดขึ้นมาทันที
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือนางไม่ได้โจมตี แต่กลับยกมือค้าง
เอาไว้ ตอนที่เขาสงสัยนั้น ฝ่ามือของนางก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยความเร็ว
ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แค่อึดใจเดียวฝ่ามือของนางก็เต็มไปด้วยเกล็ดสี
ฟ้า…
คังชือหลินยังไม่ทันได้เห็นมันชัดเจน ฝ่ามือของนางก็กลับไปขาว
นวลดังเดิม นางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยชา “ตอนนี้บอกข้ามาได้แล้ว
ว่า อ้าวอู่เหยียนอยู่ที่ไหน”
คังชือหลินอยากที่จะพูด แต่เขาก็นึกถึงบางอย่างและถามขึ้นมา
“เกล็ดมังกร…ท่านเป็นคนจากเผ่ามังกรรึ ?”
เขาจำได้ว่านั่นคือเกล็ดมังกร แม้ว่านางจะไม่ได้เผยร่างมังกรออกมา
แต่แค่มือก็ยืนยันตัวตนของนางได้แล้ว
ดวงตาของนางเย็นชาขึ้นกว่าเดิม นางไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่กลับ
ทำให้อุณหภูมิของห้องลดลงมาอีกครั้ง
“ช้าก่อน ข้าบอกแล้ว!” คังชือหลินรีบพูดขึ้นมา “นายน้อยอ้าวอู่เหยียน
มุ่งหน้าไปทางเหนือของเขตกลาง !”
หลังจากนั้นคังชือหลินก็ก้มหน้าถอนหายใจออกมา ตอนนี้ชุดของ
เขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ พลังที่นางแผ่ออกมานี้แข็งแกร่ง แม้ว่านางจะ
ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่มันก็ทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก !
สักพักตอนที่คังชือหลินเงยหน้าขึ้นมา ร่างของนางก็หายไปจากที่
นั่นแล้ว
“เฮ้อ” คังชือหลินทรุดลงไปนั่งกับพื้นและหอบหายใจออกมา ตัดกับ
ฐานะของตัวเอง ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
กระทั่งเขาค่อย ๆ รวบรวมสติได้ คังชือหลินถึงได้ลุกขึ้นยืน แต่ใบหน้า
ของเขาก็ยังคงซีดเผือด “วุ่นวาย ความวุ่นวายครั้งใหญ่ !”
แค่มังกรตัวเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้ทวีปป่ าตกอยู่ในความวุ่นวาย
ได้แล้ว แต่ตอนนี้กลับมีมังกรถึงสองตัวโผล่มา !
ที่สำคัญว่านั้น มังกรตัวหลังที่โผล่มาก็ดูราวกับราชินี ที่อาจจะไร้
เทียมทานจนแทบจิตนาการไม่ออก !
คังชือหลินไม่ได้สงสัยเลยว่า หากอีกฝ่ายต้องการจะฆ่าเขาจริง ๆ เขา
คงไม่มีโอกาสได้ใช้ค่ายกลของที่นี่ และถึงแม้ว่าเขาจะใช้ค่ายกลนี้
แต่ก็ยากที่จะหยุดอีกฝ่ายได้!
“หากข้าย้อนเวลากลับไปได้ ข้าจะเลือกไม่อยู่ที่นี่ แม้ว่าจะโดนฆ่าก็
ตาม” คังชือหลินแทบอยากจะร้องไห้ออกมา ตอนแรกเขาคิดว่ามัน
เป็นเรื่องที่ดีที่ได้อยู่เฝ้าสำนักงาน และทุกอย่างจะผ่านไปอย่าง
ราบรื่น แต่มันกลับมีมังกรถึงสองตัวโผล่มา การปรากฏตัวของทั้ง
สองนี้ ทำให้คังชือหลินกลัวแทบตาย จนบอกว่าเขาไม่อยากที่จะอยู่
เฝ้าสมาคมค่ายกลต่อ
ในสายตาของยอดฝีมือที่แท้จริงแล้ว ค่ายกลที่นี่เป็นแค่ตัวยื้อเวลา
แม้ว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ด้านใน แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย
…
เมืองอู่อัน เมืองหลวงของจักรวรรดิถัง หนึ่งในสามจักรวรรดิที่รุ่งโรจน์
ที่สุดในเขตกลาง
จักรวรรดิถังอยู่ทางเหนือของเขตกลาง มันคือหนึ่งในจักรวรรดิที่
แข็งแกร่งที่สุดของเขตกลาง มันไม่เหมือนกับจักรวรรดิอื่น ๆ จักรวรรดิ
ถังนั้นมีผู้หญิงที่เป็นราชินี ตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรขึ้นมา มันก็มีแต่
ผู้หญิงที่ขึ้นปกครอง ราชินีนั้นมีทั้งพรสวรรค์, ความฉลาด, ไหวพริบ
ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชาเลย แถมยังมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะที่น่า
กลัว นางแข็งแกร่งจนยากจะมีใครมองข้ามได้ ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ สุด
ยอดอัจฉริยะของยุคคือราชินีผู้ก่อตั้งจักรวรรดิถังขึ้นมา นางขึ้น
ปกครองจักรวรรดิถังทำให้จักรวรรดิอื่น ๆ รอบ ๆ ถึงกับต้องยอมแพ้
ราชาที่แข็งแกร่งมีมากมายหลายคนในประวัติศาสตร์ ทั้งทวีปป่ านี้
กลับมีราชินีผู้ก่อตั้งอาณาจักรแค่เพียงคนเดียว นางถูกเรียกว่าราชินี
นักสู้จากผู้คนนับไม่ถ้วน !
จักรวรรดิถังอาจจะไม่ใช่จักรวรรดิเก่าแก่ อย่างน้อยประวัติศาสตร์
ของจักรวรรดิฉินก็ยาวนานกว่า จักรวรรดิถังเป็นจักรวรรดิที่ถือว่า
พิเศษที่สุดของทวีป และยังมีราชินีที่แม้แต่พวกระดับสูงสุดของ
มนุษย์ ก็ยังต้องให้ความชื่นชม….
“หึหึ เมืองนี้น่าสนใจดี” ที่เมืองอู่อัน บนถนนเส้นหนึ่งมีชายหนุ่มผม
เงินเดินไปตามถนนอย่างช้า ๆ พร้อมกับมองไปโดยรอบก่อนจะส่าย
หน้า “ที่อื่นส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้ชายที่เป็นผู้บ่มเพาะ แต่ที่นี่กลับกัน
ที่นี่ส่วนมากมีแต่ผู้หญิงที่เป็นผู้บ่มเพาะ”
แน่นอน มันไม่ได้บอกว่าผู้ชายดีกว่าผู้หญิง หรือผู้หญิงดีว่าผู้ชาย แต่
ผู้หญิงที่นี่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะที่ดีกว่าผู้ชาย พูดโดยทั่วไปแล้ว
ผู้ชายมีบทบาทสำคัญในสงคราม และแบกรับหน้าที่สำคัญ ดังนั้น
ผู้ชายจึงต้องทำงานให้หนักและบ่มเพาะให้สูงขึ้นกว่าเดิม ตอนที่
ผู้ชายเกิดมานั้นจะมีพรสวรรค์ที่สูงกว่าผู้หญิง เพราะความจริงข้อนี้
จึงทำให้ผู้ชายแข็งแกร่งกว่าผู้หญิง แต่สถานการณ์นี้มันกลับกัน ที่
เมืองอู่อันแห่งนี้หรืออาจจะทั้งจักรวรรดิถัง
ผู้หญิงที่นี่นั้นแข็งแกร่งกว่าผู้ชาย !
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ในจักรวรรดิถังก็มีตำแหน่งสำคัญหลายอย่างที่
มอบหมายให้กับผู้หญิง !
มันเป็นเรื่องที่หาดูได้ยาก !
ไม่ใช่ว่าจักรวรรดิถังจะกดขี่ผู้ชาย แต่ผู้ชายในจักรวรรดิถังไม่ได้มี
ความสามารถมากพอหรือไม่อาจจะทำได้ แม้ว่าจะได้โอกาส แต่
พวกเขาก็ได้แต่ทำทุกอย่างพัง สุดท้ายผู้หญิงก็ยังต้องออกมาแก้ไข
ปัญหาต่าง ๆ
อ้าวอู่เหยียนเดินมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่ร้านอาหารหรูหราแห่งหนึ่ง
ตอนที่เขากำลังจะเดินเข้าไปนั้นเขาก็เหมือนคิดถึงบางอย่างก่อนที่จะ
หยุดเท้า
“ที่นี่หรูหรากว่าร้านเทียนอันอีก ข้ากลัวว่าข้าคงมีเงินไม่พอ” แม้ว่า
มันจะยากที่จะรับความจริงข้อนี้ แต่อ้าวอู่เหยียนก็ยอมรับว่าเงิน
280,000 เหรียญที่เหลือ คงไม่พอที่จะจ่าย เขาอยากจะกินอาหารที่นี่
แต่เมื่อดูจากการตกแต่งของร้านแล้ว เขากลัวว่าเขาคงต้องใช้เงิน
หลายล้านเหรียญ เพื่อกินอาหารที่นี่
อ้าวอู่เหยียนละสายตาจากร้านตรงหน้า และมองไปรอบ ๆ สุดท้าย
เขาก็เห็นตรอกเล็ก ๆ ที่นั่นเหมือนจะมีร้านอาหาร ขนาดของร้านนี้
เทียบไม่ได้กับร้านที่เขาดูในตอนแรก แต่ถึงอย่างนั้นอ้าวอู่เหยียนก็
เหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่น เขาลังเลได้สักพัก ก่อนจะตรงไปที่
ร้านอาหารนั่น มันห่างกันแค่เพียง 300 ฟุตไม่ได้ไกลกันมากนัก
เมื่อเดินเข้ามาในร้าน หญิงสาวคนหนึ่งก็มาต้อนรับเขา “ยินดี
ต้อนรับ”
“ข้าขอดูรายการอาหาร…ก่อนได้หรือไม่?” ครั้งที่แล้วเขาทำเรื่องน่า
อายที่ร้านเทียนอัน แต่ใช่ว่าประสบการณ์นั่นจะไร้ค่า อย่างน้อยอ้าว
อู่เหยียนก็รู้แล้วว่าจะต้องสั่งยังไง เขาแสดงสีหน้าจริงจังและมองไป
ที่หญิงสาวก่อนจะพูดต่อ “เอาอันที่มีราคามาด้วย”
หญิงสาวพาอ้าวอู่เหยียนไปนั่ง และส่งรายการอาหารที่นางพกติดตัว
มาให้เขาดู “นี่คือรายการอาหารของเรา แต่ละอย่างมีราคาบอกไว้ที่
ด้านหลัง ท่านเลือกอาหารได้ตามต้องการ…จริงสิ อาหารสี่อย่างนี้
คืออาหารที่คนมักจะสั่งกัน และเป็นรายการเด็ดประจำร้าน หากท่าน
สนใจ ท่านสามารถสั่งมาลองได้”
อ้าวอู่เหยียนมองไปที่รายการอาหาร เขาเห็นชื่อของมัน แต่ไม่รู้ว่า
มันคืออะไร แต่ราคาด้านหลังทำให้เขาพอใจอย่างมาก หากอิงตาม
ราคานี้ แม้ว่าเขาจะสั่งมาสักสิบจาน แต่ราคาอย่างมากก็ไม่กี่พัน
เหรียญ หากต้องการกินให้อิ่มคงใช้เงินแค่มี่กี่หมื่นเหรียญ
หากเทียบกับราคาที่ร้านเทียนอันแล้ว ราคาของที่นี่ถือว่ายุติธรรมสุด ๆ!
“ข้าอยากได้ไอ้นี่ นี่และนี่!” อ้าวอู่เหยียนชี้ไปที่รายการอาหาร “เอา
มาให้ข้าอย่างละ 10 จาน !”
หญิงสาวลังเลอยู่สักพักและพูดขึ้นมา “อ่ะ ?”
ของเยอะแบบนี้กินคนเดียวจะหมดรึ ?
“ท่านหมายความว่า อาหารที่ท่านสั่งมาเอามาอย่างละ 10 จานงั้นรึ?”
หญิงสาวคิดว่านางหูฝาดไป นางถึงกับต้องถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่า
อ้าวอู่เหยียนพยักหน้า นางก็ยิ่งรู้สึกสับสนยิ่งกว่าเดิม รอยยิ้มบน
ใบหน้าของนางแข็งทื่อไปเพราะความสับสน
อ้าวอู่เหยียนคิ้วขมวด “ทำไมกัน สั่งทีละเยอะ ๆ ไม่ได้รึ ?”
หญิงสาวได้สติและส่ายหน้าทันที ก่อนจะตอบกลับด้วยความเคารพ
“ท่านรอสักครู่…”
จากนั้นหญิงสาวก็รีบเข้าไปในครัว ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาที่โต๊ะ
ของอ้าวอู่เหยียน ซึ่งมันดูแย่กว่าอาหารที่ร้านเทียนอันอย่างมาก ถึง
จะเป็นแบบนั้น แต่มันก็ทำให้อ้าวอู่เหยียนน้ำลายสอ ยังไงซะนี่ก็เป็น
อาหาร ไม่ว่ามันจะแย่แค่ไหนแต่ก็ต้องดีกว่าอาหารของเผ่ามังกร
อ้าวอู่เหยียนสูดดมกลิ่นหอมเข้าไปด้วยดวงตาที่เป็นประกาย “กลิ่น
มันไม่ได้แย่ รสชาติก็ไม่น่าจะแย่”
หากให้คะแนนกลิ่นอาหารที่ร้านเทียนอันสัก 8 คะแนนและรสชาติ
7 คะแนน งั้นกลิ่นของอาหารที่นี่ก็จะได้ 3 คะแนนและรสชาติ 6
คะแนน ในด้านรสชาติแล้วมันต่างกันเล็กน้อย
การกินของอ้าวอู่เหยียนดูมีมารยาท แต่ความเร็วในการกินนั้นน่าทึ่ง
อาหารผ่านเข้าไปในปากเขาราวกับน้ำ เขาไม่ได้เคี้ยวเลยแม้แต่น้อย
อาหารหลายสิบจานแทบจะเกลี้ยงในทันที แม้แต่ข้าวก็ยังกินไปกว่า
สิบชามแล้ว
“เอาอีก 10 !” อ้าวอู่เหยียนพูดขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังกินไม่เสร็จ เขาบอกกับ
หญิงสาว “เอาแบบตะกี้เลย !”
“อ่ะ ?” หญิงสาวตะลึงกับท่าทีของอ้าวอู่เหยียน จนอ้าวอู่เหยียนพูด
ขึ้นอีกรอบนางถึงได้สติ จากนั้นนางก็เดินเข้าไปในครัว
ตอนที่นางยกอาหารชุดที่สองออกมา อ้าวอู่เหยียนก็ไม่ได้สนใจ
ภาพลักษณ์ของตัวเองอีกต่อไป เขาดูราวกับคนหิวโหยที่ไม่ได้กิน
อะไรมาเป็นสิบ ๆ วัน
ตอนที่อ้าวอู่เหยียนกำลังจะกินหมด ร้านอาหารที่ดูคึกคักกลับเงียบ
ลงไป อ้าวอู่เหยียนเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกตินี้ และเงยหน้าขึ้น
มองด้วยความสับสน
เขาสบสายตากับดวงตาคู่งามคู่หนึ่ง ตอนนั้นอ้าวอู่เหยียนอึ้งและ
ตะลึงจนไม่อาจจขยับได้ !
“อึก…ท่านน้า” อ้าวอู่เหยียนกลืนอาหารลงไปก่อนจะลุกขึ้นยืน เขา
ยังมีข้าวที่ติดอยู่ที่คาง สภาพเขาดูน่าขัน แต่เขาไม่ได้สนใจ
ภาพลักษณ์ของตัวเอง เจ้าของตาคู่นี้คือท่านน้าของเขา ท่านน้าที่มี
สายเลือดเดียวกัน
เขาไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะได้มาพบกับท่านน้าตัวเองที่นี่ !
แม้ว่าสายตานั้นจะดูเฉยชา จนผู้คนไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่น แต่
เมื่อเห็นใบหน้าของท่านน้าตัวเอง อ้าวอู่เหยียนถึงกับร้องไห้ออกมา
ด้วยความเศร้า กับสิ่งที่เขาได้เจอมาตลอดหลายวันนี้ ความเศร้าในใจ
เขาได้พรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก ต่อหน้าคนนอกเขาดูแข็งแกร่ง
ไม่มีใครเอาชนะเขาได้ แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่เปราะบาง
ตอนนี้เขาไม่ใช่องค์รัชทายาทของเผ่ามังกรที่แข็งแกร่ง แต่กลับเป็น
เด็กน้อยที่น่าสงสารคนหนึ่งเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก