ตอนที่ 403 ถามทาง
คำพูดของหญิงสาวนั้นไม่ได้ยากที่จะเข้าใจ อ้าวอู่เหยียนก็ได้แต่ฟัง
และไม่มีความกล้าพอที่จะคัดค้าน
องค์รัชทายาทมังกรที่สูงส่ง ต้องมาถูกสั่งสอนกึ่งถากถางเช่นนี้มีหรือ
จะไม่โกรธ
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ได้แต่อดทน ไม่งั้นแล้วเขาไม่สงสัยเลย
ว่า ท่านน้าที่เหมือนคนบ้าอาจจะฆ่าเขาที่นี่แน่
เดิมทีเขาก็อยากจะรู้ว่ามนุษย์ที่เกือบจะเอาชนะท่านพ่อได้เป็นใคร
แต่หลังจากที่ถูกท่านน้าสั่งสอนแบบนี้แล้ว อ้าวอู่เหยียนก็ไม่กล้าที่
จะถามออกมา
“ท่านน้าคิดว่าเจ้าสำนักนั่นเทียบกับท่านพ่อได้จริง ๆ รึ?” อ้าวอู่เหยียน
เปลี่ยนเรื่อง
นางพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยชาเช่นเคย “การที่สั่งราชาสัตว์อสูรมาทำเรื่อง
แบบนี้ได้ ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะเหนือกว่าพ่อของเจ้า”
ราชาสัตว์อสูรเองก็เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด หากนำยอดฝีมือระดับ
สูงสุดมาจัดระดับ ราชาสัตว์อสูรคงอยู่ขั้นสูง, เซียนค่ายกลอยู่ขั้นกลาง,
เซียนโอสถและคนอื่น ๆ คงอยู่ขั้นต่ำ ส่วนราชามังกรอยู่ขั้นสูงสุด
ด้วยความหยิ่งทะนงของราชาสัตว์อสูร แม้แต่พวกที่อยู่ขั้นสูงสุดก็
ยากจะสั่งให้ทำอะไรได้
“ข้าสงสัยอย่างมากว่า เขามีความสามารถเท่าใดกัน ถึงสั่งราชาสัตว์
อสูรได้ดั่งใจ” นางแสดงสีหน้าสงสัยออกมา “ข้ารู้มาว่าราชาสัตว์
อสูรนั้นเย่อหยิ่ง แม้จะเป็นพ่อเจ้าแต่เขาก็คงไม่ฟัง”
“หากเราได้เห็นคงจะได้รู้ความจริงไม่ใช่รึ?” อ้าวอู่เหยียนหัวเราะ
ออกมา
หญิงสาวมองไปที่อ้าวอู่เหยียน “ไปดูรึ ?”
ด้วยการที่ถูกหญิงสาวมองมา อ้าวอู่เหยียนก็อดไม่ได้ที่จะหดคอลง
มา และหัวเราะขึ้น “ราชาสัตว์อสูรเคยบอกว่า นอกจากเจ้าสำนักนั่น
แล้ว ข้ายังคิดว่าสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิอาจจะถูกพบแล้วด้วย”
“เจ้ามั่นใจรึ ?” นางคิ้วขมวดพร้อมกับสายตาที่เป็นประกายขึ้นมา
“ตอนที่ราชาสัตว์อสูรกลับไป เขาได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ จากท่าทีของ
เซียนค่ายกล เขาเหมือนกับสงสัยว่าเหล่าสัตว์อสูรได้พบตัวสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิแล้ว” อ้าวอู่เหยียนพูดขึ้น “ข้าไม่รู้ว่าราชาสัตว์
อสูรพูดอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่ข้ามั่นใจคือ ราชาสัตว์อสูรเหมือนจะไม่
กังวล เรื่องการที่เซียนค่ายกลได้ส่งคนออกไปตามหาสุดยอดสัตว์
อสูรศักด์ิสิทธ์ิ…”
“ข้าเดาว่า ราชาสัตว์อสูรอาจจะพบตัวพวกนั้น และนำพวกนั้นไป
ซ่อนไว้แล้ว” หลังจากนั้นอ้าวอู่เหยียนก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรต่อ
หญิงสาวครุ่นคิดตามคำพูดที่ได้ยินจากอ้าวอู่เหยียน หากราชาสัตว์
อสูรพบพวกสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิจริง ๆ มันคงเป็นปัญหา !
“ราชาสัตว์อสูรไปที่ใด?” นางกลับมาแสดงสีหน้าเย็นชาดังเดิม
“เขาน่าจะไปหาเซียนโอสถและสองคนที่เหลือ ข้าไม่รู้ตำแหน่งที่
แน่นอน” อ้าวอู่เหยียนถอนหายใจออกมา “โชคร้ายที่ท่านมาไม่
ทันเวลา ไม่งั้นแล้วด้วยความแข็งแกร่งที่ท่านมี ท่านคงจับตัวราชา
สัตว์อสูรได้แน่ มันไม่ยากที่จะบังคับให้เขาบอกมาว่าเหล่าสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิอยู่ที่ไหน”
ราชาสัตว์อสูรเป็นพวกระดับสูงในหมู่พวกระดับสูง และหญิงสาว
คนนี้เองก็เช่นกัน ความแข็งแกร่งของทั้งสองคนไม่ได้ต่างกันมาก
นัก หากนางต้องการเอาชนะราชาสัตว์อสูร บางทีมันอาจจะไม่ใช่
เรื่องง่าย แต่นางก็มั่นใจอย่างมาก
“ไป นำทางไป” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยชา
“ช้าก่อนท่านน้า ไปที่ไหนกัน ?” อ้าวอู่เหยียนรีบถามขึ้นมา
“ภูเขาร้าง”
“ภูเขาร้าง? ไม่ใช่ว่าท่านควรจะไปหาราชาสัตว์อสูรหรือไง?” อ้าวอู่
เหยียนถามออกมาด้วยความสับสน “เดาว่าราชาสัตว์อสูรอาจจะยัง
อยู่ในเขตกลาง หากเราโชคดี บางทีเราอาจจะหาเขาเจอในไม่ช้า !”
หากเขาอยู่คนเดียว เขาคงไม่กล้าที่จะทำแบบนี้เพื่อหาเรื่องราชาสัตว์
อสูร และคงได้แต่แอบตามเข้าไปในภูเขาร้างเพื่อสืบหาข้อมูล แต่
เมื่อหญิงสาวผู้นี้มาถึง เขาจึงมีความกล้ามากพอ มันไม่จำเป็นต้องไป
ยังภูเขาร้าง การไปจับกุมราชาสัตว์อสูรโดยตรงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า
หญิงสาวมองไปที่อ้าวอู่เหยียนอย่างใจเย็น “เจ้าจะหาเขายังไง ? หาก
เขาต้องการที่จะหนี เขาก็สามารถหนีไปยังภูเขาร้างได้ ก่อนที่พลังจิต
ของเขาจะหมดลง…”
ในอดีตนั้น แม้ว่าราชาสัตว์อสูรจะหนีไปอีกด้านของโลก แต่นางก็
มั่นใจว่านางจะตามจับเขาได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของเจ้าสำนัก
ลึกลับ ทำให้นางต้องคิดทบทวนกับการไล่จับราชาสัตว์อสูรใหม่
แม้ว่านางจะมั่นใจ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนลึกลับที่อาจจะแข็งแกร่ง
กว่าราชามังกร นางก็ไม่กล้าที่จะลงมือหุนหัน แน่นอนว่านางหวั่น
เกรงอีกฝ่าย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางจะกลัว
ทุกคนต่างก็เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด แม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งกว่า
นาง แต่จะแข็งแกร่งได้มากแค่ไหนกัน ?
นางแค่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของตัวเองออกมาเร็วนัก การที่หลบ
ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ยังไงก็ดีกว่าต้องโดดเด่นอยู่ในด้านสว่าง !
“แทนที่จะตามจับตัวราชาสัตว์อสูร มันจะดีกว่าถ้าหากไปยังภูเขาร้าง
และรอให้เหยื่อมา” อ้าวอู่เหยียนนึกบางอย่างขึ้นได้ ก่อนจะตาเป็น
ประกายขึ้นมา “ด้วยพลังของท่านน้ากับข้าแล้ว ตราบใดที่เราไม่ได้
ทำตัวโดดเด่น มันก็ยากที่เจ้าสำนักนั่นจะหาพวกเราพบ!”
ยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่ อ้าวอู่เหยียนก็ยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้น “ใช่ นี่
แหละ ! เราต้องซ่อนตัวจากเจ้าสำนักและแอบตรวจสอบข้อมูลเรื่อง
สุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ !”
เมื่อเห็นอ้าวอู่เหยียนแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาเหมือนกับเด็ก นางก็
ยิ้มเยาะออกมาแล้วพูดขึ้น “เจ้านำทางไป”
“ได้…” อ้าวอู่เหยียนหยุดหัวเราะและพูดขึ้นมา “ข้าไม่รู้ว่าจะไปภูเขา
ร้างนั่นยังไง”
หญิงสาวมองไปที่อ้าวอู่เหยียนด้วยสายตาแปลก ๆ
อ้าวอู่เหยียนยิ้มออกมา และรวบรวมความกล้าพูดขึ้น “ข้าคงต้องไป
ถามทางก่อน”
เมื่อพูดจบ อ้าวอู่เหยียนก็เดินออกไป จนเดินทางออกมาได้สักพัก เขา
ถึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “การอยู่กับท่านน้านี่ทำให้
กดดันจริง ๆ …” หากมีตัวเลือกอื่น อ้าวอู่เหยียนคงยอมทำดีกว่าได้
อยู่กับน้าของเขา
อ้าวอู่เหยียนทำการตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ อีกครั้ง และมองไปยัง
หมู่บ้านตรงหน้า และพบกับชายหนุ่มที่กำลังเดินอยู่ที่นั่น
“นั่น….โอ้…” อ้าวอู่เหยียนไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม แต่จากนั้น
เขาก็เงียบ เพราะไม่รู้ว่าจะเรียกอีกฝ่ายว่าอะไร
เจ้า ?
อีกฝ่ายเหมือนจะไม่มีสิทธิมากพอให้เรียกแบบนั้น
เด็กน้อย ?
มันไม่ใช่วิธีถามทางสักหน่อย ?
สหาย ?
จากอายุแล้วเขาคงเป็นบรรพบุรุษอีกฝ่ายได้เลย !
มนุษย์ ?
มันไม่ได้เป็นคำที่แย่ แต่มันฟังดูประหลาด
“มีอะไรรึ ?” เด็กหนุ่มคนนี้ดูท่าทางใจดี เขาแสดงรอยยิ้มอันเป็นมิตร
ออกมา ซึ่งทำให้ผู้คนอยากเข้าไปใกล้ชิด บรรยากาศรอบตัวเขาดู
พิเศษ เด็กนี่มีบรรยากาศที่ดูสูงส่งแต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความเป็น
กันเอง
เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย อ้าวอู่เหยียนก็ใจเย็นลงทันที
“นั่นแหละ นั่นแหละ เด็กนี่ดีจริง ๆ ข้าเกือบคิดอะไรไม่ออกแล้ว”
อ้าวอู่เหยียนคิดก่อนจะพูดออกมา “น้องชาย ข้าจะไปยังภูเขาร้างยังไง?”
สำหรับอ้าวอู่เหยียนแล้ว ท่าทีเป็นกันเองแบบนี้ยากที่เขาจะแสดง
ออกมา !
เมื่อได้ยินคำถามจากอ้าวอู่เหยียน เด็กหนุ่มกลับไม่ได้ตกใจ แต่กลับ
มองมาที่อ้าวอู่เหยียนด้วยสายตาแปลก ๆ
“น้องชายรึ ?”
ในอีกความหมายคือไม่มีใครเรียกแบบนี้มานานแล้ว จุดที่สำคัญกว่า
นั้นคือ อ้าวอู่เหยียนดูเด็กกว่าเขาอีก เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเอง และ
ไม่พอใจกับคำเรียกแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดถือสาอะไร
“เจ้าจะไปทำอะไรที่นั่น?” ชายหนุ่มมองไปที่อ้าวอู่เหยียนด้วยความ
แปลกใจ ในใจเขาเกิดความสับสนขึ้นมา “แปลก ที่นี่อยู่ในเขตกลาง
แต่กลับมีคนเคยได้ยินเรื่องภูเขาร้าง ชื่อเสียงของที่นั่นโด่งดังมาถึง
เขตกลางแล้วรึ ?”
ภูเขาร้างเป็นแค่ภูเขาธรรมดาเหมือนกับภูเขาทั่วไปในเขตเหนือ มัน
มีภูเขาแบบนี้เป็นพัน ๆ แห่ง แต่เพราะการปรากฏตัวของสำนักคัง
เฉียง จึงทำให้ภูเขาแห่งนี้ดูต่างไปจากภูเขาลูกอื่น ๆ
ชายหนุ่มคิดสักพักและถามขึ้นมา “เจ้าพูดถึงภูเขาร้างที่เป็นที่ตั้งของ
สำนักคังเฉียงรึ ? หากเจ้าพูดถึงภูเขาลูกนี้ ข้ารู้ว่าจะไปที่นั่นยังไง แต่
หากเป็นภูเขาลูกอื่น งั้นข้าก็ต้องขอโทษด้วย ข้าช่วยเจ้าไม่ได้”
ทวีปป่ านี้กว้างใหญ่ มันมีภูเขาหลายลูกที่มีชื่อเดียวกัน แค่ในเขตเหนือ
ก็มีภูเขาร้างอยู่หลายแห่ง แต่คนส่วนมากรู้จักภูเขาร้างที่เป็นที่ตั้งของ
สำนักคังเฉียง
“ใช่ ภูเขาร้างที่มีสำนักคังเฉียงอยู่!” อ้าวอู่เหยียนพยักหน้า
เขาจำได้ว่าราชาสัตว์อสูรได้พูดถึงเจ้าสำนัก เจ้าสำนักนั่นก็ต้องมี
สำนักและจะต้องเป็นสำนักคังเฉียงไม่ใช่รึไง ?
ชายหนุ่มแสดงสีหน้าแปลก ๆ ออกมา แต่ก็ยังตอบคำถามของอ้าวอู่
เหยียน “ภูเขาร้างอยู่ในอาณาจักรโจว เจ้าไปทางเหนือ หลังจากที่เข้า
ไปในเขตเหนือได้แล้ว เจ้าก็ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือต่อ และเจ้าก็
จะไปถึงอาณาจักรโจว หลังจากที่ไปถึงอาณาจักรโจวแล้ว เจ้าก็หา
คนถามต่อแล้วเจ้าจะรู้ตำแหน่งของภูเขานั่นเอง”
อ้าวอู่เหยียนพอใจอย่างมากและพูดขึ้น “ขอบใจมาก น้องชาย”
ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกรอกตาใส่ น้องชาย เอาจริง ๆ รึ ?
“ใช่สิน้องชาย ข้าถามเจ้าอีกเรื่องได้หรือไม่ ?” อ้าวอู่เหยียนเหมือน
จะติดคำว่าน้องชายไปแล้ว
“หยุดเลย หากมีอะไรก็ถามมาโดยตรง แต่อย่ามาเรียกข้าว่าน้องชาย
ข้ารับไม่ได้” ชายหนุ่มโบกมือไปมา
อ้าวอู่เหยียนอดแปลกใจไม่ได้ “เด็กนี่รู้ตัวตนของข้ารึ ? แต่เด็กนี่ก็ยัง
ดูน่าสนใจอยู่ดี….”
ด้วยอายุและฐานะองค์รัชทายาทของเผ่ามังกรแล้ว มีไม่กี่คนที่มี
คุณสมบัติที่เขาจะเรียกว่าน้องชาย
“เจ้าเคยไปที่สำนักคังเฉียงหรือไม่? เจ้าบอกข้าเกี่ยวกับสำนักคังเฉียง
ทีได้หรือไม่?” อ้าวอู่เหยียนไม่ได้ถามเกี่ยวกับเจ้าสำนักโดยตรง ใน
ความเห็นของเขาแล้ว ชายหนุ่มธรรมดาทั่วไปจะไปเข้าใจความ
ลึกลับของเจ้าสำนักได้ยังไง? คนธรรมดาที่ไม่อาจจะบ่มเพาะได้ กับ
เจ้าสำนักที่อยู่ห่างไกลจากที่นี่ ทั้งสองอยู่โลกคนละใบกันไม่มีทางที่
จะเกี่ยวข้องกันได้
เมื่อได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็ตื่นเต้นขึ้นมา “โอ้ เจ้าอยากเข้าร่วมสำนัก
คังเฉียงรึ ?”
ชายหนุ่มไม่รอให้อ้าวอู่เหยียนได้ตอบกลับ เขาพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“เท่าที่ข้ารู้มา สำนักคังเฉียงกำลังรับคน หากรีบไปตอนนี้ก็คงไม่สาย
เกินไป แต่เกณฑ์การทดสอบมันสูงอย่างมาก แม้ว่าเจ้าจะไปที่นั่น
ทัน แต่เจ้าอาจจะสอบตกก็ได้ …”
“ข้าไม่ได้คิดจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียง ข้ากลัวว่าอาจารย์ของสำนักคัง
เฉียงไม่อาจจะสอนอะไรข้าได้” อ้าวอู่เหยียนเม้มปากพูดขึ้นมาด้วย
ท่าทีไม่พอใจ
“นอกจากเจ้าสำนักแล้ว สำนักคังเฉียงไม่ได้มีอะไรดี ข้า…” ชัดแล้ว
ว่า เขาไม่รู้ว่าราชาสัตว์อสูร ได้เข้าร่วมสำนักคังเฉียง และตอนนี้ก็
ทำงานกับสำนักคังเฉียงในฐานะอาจารย์
เมื่อได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว “งั้นรึ ?”
ไม่นานอ้าวอู่เหยียนก็รู้สึกได้ว่า สายตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไป ราว
กับว่าเขามองทะลุทุกอย่าง และเข้าใจทุกอย่างได้อย่างชัดเจน แม้แต่
อ้าวอู่เหยียนก็ยังรู้สึกว่า ร่างกายเขาไม่อาจจะปกปิดความลับใด ๆ ได้
แต่สายตานี้กลับหายไปในทันทีและอ้าวอู่เหยียนก็สงสัยว่าตะกี้ตัวเอง
แค่คิดไปเอง
เขามองไปที่ชายหนุ่มด้วยความสงสัย เขามองเข้าไปในแววตาของ
อีกฝ่าย แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ชายคนนี้ยังดูเป็นคนธรรมดาดังเดิม
แต่เขาไม่รู้เลยว่า ภายใต้สีหน้าสงบนิ่งของชายหนุ่มคนนี้ ในใจของ
ชายหนุ่มกลับแปลกใจเป็นอย่างมาก
“ชายคนนี้คือองค์รัชทายาทของเผ่ามังกรรึ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก