ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 407

ตอนที่ 407 ความแปลกใจของมังกรทั้งสอง(I)
เมื่อเห็นสายตาเฉยชาของจางหยู อ้าวอู่เหยียนก็กลัวขึ้นมาจากก้นบึ้ง
ของหัวใจ เขาส่งข้อความออกไปหาน้าของตัวเอง “ท่านน้า เราจะทำ
ยังไงกันดี ?”
หลังจากที่ได้ยินคำถามของอ้าวอู่เหยียน อ้าวเยว่กลับเงียบไป
สีหน้าที่นางมองไปที่จางหยูดูซับซ้อน สุดท้ายนางก็ยิ้มออกมา “ควร
ทำยังไงรึ ? ข้าเองก็อยากรู้เช่นกัน!”
ความแข็งแกร่งที่จางหยูแสดงออกมานั้น น่ากลัวเกินกว่าที่อ้าวเยว่จะ
รับรู้ได้ ต่อหน้าจางหยูแล้ว นางรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ ราวกับว่านาง
กำลังเผชิญหน้ากับเทพเจ้า ก่อนที่ได้จะโจมตีจางหยู นางคิดเสมอว่า
พวกยอดฝีมือระดับสูงสุดนั้นร้ายกาจที่สุดในโลกแล้ว พลังของพวก
เขาคือขีดจำกัดของโลกนี้ และไม่มีใครทำลายขีดจำกัดนี้ได้ แม้แต่
ราชามังกรก็ไม่อาจจะทำได้
แต่ตอนนี้นางต้องยอมรับว่า มีคนที่ก้าวขึ้นไปเหนือกว่าขีดจำกัดนั้น
ในโลกนี้ !
และจางหยูก็คือคน ๆ นั้น !
แต่อ้าวเยว่ไม่ใช่คนทั่วไป แม้ว่านางจะสิ้นหวังแต่นางก็ไม่คิดที่จะ
ยอมแพ้ !
นางจะเอาชนะยังไง ?
นางจะทลายการป้องกันยังไง ?
แม้ว่าจะมีโอกาสแค่ 1 ใน 10 แต่นางก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ อย่างน้อย
ก่อนที่นางจะตายนางก็ไม่ยอมให้อ้าวอู่เหยียนต้องบาดเจ็บ คำสัญญา
ที่นางรับปากไว้กับราชามังกรนั้น แม้ว่าต้องตายนางก็จะทำให้ได้
เมื่อเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของอ้าวเยว่ จางหยูก็คิ้วขมวดขึ้นมา “นาง
บ้าไปแล้ว !”
เขากลัวอ้าวเยว่ เขาไม่ได้กลัวอ้าวเยว่โจมตีเขา แต่เขากังวลว่านางจะ
ทำให้เมืองอู่อันต้องถูกทำลายลบออกไปจากโลก !
อันที่จริงด้วยการป้องกันของเต๋าสวรรค์ ไม่ว่าอ้าวเยว่จะโจมตียังไงก็
เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นภัยต่อเขา เขาไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย
แต่การป้องกันของเต๋าสวรรค์นั้นมีจำกัด ซึ่งมันปกป้องแค่เพียงตัว
เขาเท่านั้น….
เพื่อที่จะป้องกันเมืองอู่อัน จางหยูจึงต้องหลีกเลี่ยงกับการปะทะกับ
อ้าวเยว่
หากนางคลั่งขึ้นมา ทุกอย่างก็จบสิ้น จางหยูไม่อาจจะเสี่ยงได้
จางหยูละสายตาจากอ้าวเยว่ และมองไปยังพื้นดินที่ละลายและขบ
คิด “ต้องบอกว่านางแข็งแกร่งจริง ๆ !”
จนถึงตอนนี้ อ้าวเยว่คือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่จางหยูเคยเจอมา ราชา
สัตว์อสูรยังอ่อนแอกว่านาง หากต้องสู้กันจริง ๆ แล้ว จางหยูรับรอง
ได้ว่าเขาจะไม่บาดเจ็บ แต่มันก็ยากที่เขาจะเป็นภัยต่ออ้าวเยว่ได้
ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะลงมือได้ เมื่อเขาลงมือ เขาก็จะเผยจุดอ่อนของ
ตัวเอง !
จางหยูได้แผ่พื้นที่ออกไป แค่เพียงคิดพื้นดินที่ละลายเพราะแมกม่า
นับไม่ถ้วนกลับดับมอดลง ลาวานั้นเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว หลังจาก
นั้นไม่นานก็กลับกลายเป็นพื้นดินดังเดิม ดินที่ไหม้เมื่อโดนธาตุน้ำ
เข้าไปดับก็ได้กลายเป็นเศษทราย เมื่อลมพัดผ่านมามันก็ได้ปลิวไป
ตามแรงลม จนทำให้บรรยากาศรอบ ๆ เหมือนกับถูกย้อมด้วยสี
เหลือง
อ้าวเยว่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่น สิ่งที่นางเคยเรียนรู้มา
เหมือนพลิกตาลปัตรจากสิ่งที่จางหยูแสดงออกมา !
หากจางหยูสามารถควบคุมหลิงชี่ธาตุน้ำได้ มันก็อธิบายว่าจางหยู
เข้าใจธาตุน้ำจนเหนือกว่าระดับสมบูรณ์และอาจจะถึงระดับที่นาง
ไม่รู้จัก แต่เมื่อครู่นี้จางหยูไม่ใช่แค่ควบคุมหลิงชี่ธาตุน้ำ เขากลับ
ควบคุมหลิงชี่ธาตุไฟได้ด้วย…
คนที่ควบคุมหลิงชี่ธาตุทั้งสองได้พร้อมกัน !
นางถึงกับสงสัยว่าจางหยูคือเทพในตำนาน !
นอกจากเทพแล้วจะมีใครอีกที่ควบคุมหลิงชี่ธาตุทั้งสองอันได้ !
ตอนนั้นอ้าวเยว่ตะลึง นางถึงกับไม่กล้าลงมือโดยไม่คิดทบทวนให้ดี ๆ
เมื่อเห็นว่านางตะลึงกับสิ่งที่เขาทำ จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะแอบถอน
หายใจออกมา “ในที่สุดก็หลอกนางได้”
การที่เขาควบคุมธาตุไฟได้จะไม่ทำให้ทั้งสองตกตะลึงได้ยังไง?
ไม่งั้นแล้วเขาคงใช้พลังงานไปอย่างเสียเปล่า ยังไงซะด้านหลังของ
เขาก็มีเมืองอู่อันอยู่ ความร้อนที่นี่ไม่ได้ส่งผลต่อเมืองอู่อันมากนัก
ต่อให้เขาจะมองข้ามไป แต่ลาวาที่นี่ก็จะเย็นตัวลงเองในเวลาไม่กี่
เดือน
“ข้าควรทำยังไงต่อ?” จางหยูเริ่มปวดหัวขึ้นมา การปล่อยอ้าวเยว่กับ
อ้าวอู่เหยียนไป ก็จะทำให้เขาดูเหมือนคนที่ไม่สนใจเรื่องราวใด ๆ
แต่หากเขาลงมือกับทั้งคู่ ภาพลักษณ์ที่เหมือนกับเซียนของเขาก็จะ
พังลงทันที เมื่อภาพลักษณ์นั้นถูกทลาย ความยิ่งใหญ่ที่เคยสร้างมาก็
จะหายไปด้วย
ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะปล่อยทั้งสองไปได้ง่าย ๆ และต้องหลีกเลี่ยง
การทำให้อ้าวเยว่โกรธ
ในเวลาเดียวกัน อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนต่างก็มองมาที่จางหยูด้วยสี
หน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะอ้าวอู่เหยียนที่ถึงกับกังวลและหายใจ
ติดขัด
ตอนนั้นทุกอย่างเงียบสนิท บรรยากาศแบบนี้ดูน่ากังวล
สุดท้ายจางหยูก็มองไปที่อ้าวเยว่และพูดขึ้น “บอกเหตุผลข้าทีว่า
ทำไมถึงโจมตีข้า ?”
เมื่อได้ยินคำถามนั้น อ้าวเยว่ก็ขยับริมฝีปากเล็กน้อย แต่ด้วยนิสัยดื้อ
ด้านของนาง จึงทำให้นางไม่อาจจะอธิบายมันออกมาได้
พูดอะไรกัน ?
นางรู้สึกได้ถึงอันตรายเลยคิดจะลงมือกับจางหยูรึ?
หรือว่าเพราะหลานถูกรังแก ดังนั้นนางที่เป็นน้าจึงออกตัวเพื่อปกป้อง
หลานงั้นรึ?
นางอยากจะพูดความจริง แต่นั่นคงทำให้จางหยูโกรธ !
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ นางรู้สึกกระอักกระอ่วนกับการทำแบบนั้น
แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าผู้ไร้เทียมทาน ที่อาจจะอยู่เหนือกว่าขอบเขตตุ้น
ซวน แต่นางก็ไม่คิดที่จะก้มหัวให้ใคร
เมื่อเห็นว่านางไม่พูดอะไรออกมา จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสายตา
เย็นชาออกมา “อย่าคิดทดสอบความอดทนข้า !”
อ้าวเยว่ใจสั่น นางกัดปากและไม่คิดจะตอบอะไรกลับมา
เมื่อเห็นว่าจางหยูสีหน้าหม่นลง อ้าวอู่เหยียนก็อึ้งไป เขารวบรวม
ความกล้าและพูดขึ้นมา “ผู้อาวุโส คงเป็นเพราะข้าเข้าใจผิดคิดว่า
ท่านต้องการจะฆ่าข้า เพราะความหุนหันข้าจึงลงมือ ทุกอย่างเป็น
เพราะความเข้าใจผิด หากผู้อาวุโสต้องการลงโทษก็จงลงโทษข้า
อย่าถือสาท่านน้าของข้าเลย”
มีแค่สวรรค์ที่รู้ว่าเขาต้องใช้ความกล้าขนาดไหนที่จะพูดแบบนี้
ออกมา “ปกติแล้วท่านน้าไม่ใช่คนช่างพูด ผู้อาวุโสได้โปรดยกโทษ
ให้ด้วย”
อ้าวเยว่มองไปที่อ้าวอู่เหยียนด้วยสีหน้าซับซ้อน
นางไม่คิดว่าอ้าวอู่เหยียนจะทำแบบนี้เพื่อนาง นางไม่คิดว่าในตอน
วิกฤตแบบนี้ อ้าวอู่เหยียนที่ทำตัวเหมือนกับเด็กกลับออกตัวปกป้อง
นาง
นี่ยังใช่อ้าวอู่เหยียนที่นางรู้จักรึ ? นี่ยังเป็นเด็กน้อยที่เป็นหลานของ
นางรึ ?
“หุบปาก!” อ้าวเยว่ซึ้งใจ แต่นางก็ยังหันไปตะคอกใส่อ้าวอู่เหยียน
ด้วยท่าทีเฉยเมย
นางหันกลับไปมองที่จางหยู ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ข้าไม่คิดว่า
เจ้าจะเป็นคนดี ข้าจึงต้องการจะฆ่าเจ้า มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนอื่น !
หากเจ้าต้องการจะฆ่าข้า ข้าก็ไม่คิดจะอ้อนวอนใด ๆ !”
อ้าวอู่เหยียนตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าตอนนี้น้าของเขา กลับกล้าท้าทาย
ยอดฝีมือแบบนี้
บ้า ท่านน้าบ้าไปแล้ว !
ไม่ใช่แค่อ้าวอู่เหยียน แม้แต่จางหยูก็ยังรู้สึกประหลาดใจ ตอนแรก
เขาคิดจะมองข้ามเรื่องนี้ ตราบใดที่อ้าวเยว่บอกเหตุผลที่ฟังขึ้น เขาก็
จะปล่อยนางไป
ยังไงซะจางหยูก็ไม่อาจจะทำอะไรนางได้ !
แต่เหตุผลที่นางให้มาตอนนี้….มันไม่อาจจะฟังขึ้นได้เลย !
“ดูเป็นคนไม่ดีเลยจะฆ่าข้ารึ ? ท่านไม่คิดพูดคุยหน่อยรึ ?” ปากของ
จางหยูบิดเบี้ยวขึ้นมา เขายืนยันแล้วว่านางมันบ้า
แต่จางหยูก็ต้องเล่นตามน้ำ !
แปะ แปะ แปะ
อยู่ ๆ จางหยูก็ปรบมือและชมออกมา “ดี ! ท่านเป็นคนตรง ๆ แบบนี้
ข้าชอบ !”
ตอนที่เขาพูดเขาถึงกับมองไปที่อ้าวเยว่ด้วยสายตาชื่นชม
อ้าวเยว่มองมาที่จางหยูด้วยสีหน้าสับสน อ้าวอู่เหยียนเองก็คิดอะไร
ไม่ออกได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่
สายตาของทั้งจางหยูและอ้าวเยว่ดูประหลาดไปจากเดิม
“ท่านน้าที่ว่าบ้า แต่ชายคนนี้กลับบ้ายิ่งกว่า?” อ้าวอู่เหยียนไม่อาจจะ
เข้าใจความคิดของจางหยูได้ เขาถึงกับต้องการชำแหละหัวของจางหยู
มาดู ว่าจางหยูคิดอะไร
เริ่มมีลมก่อตัวขึ้นมาและเริ่มพัดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ !
แม้แต่อ้าวเยว่ก็ยังสับสนกับการกระทำของจางหยู แม้ว่านางจะดู
เหมือนคนบ้า แต่จิตใจของนางปกติดี นางแค่ดื้อด้านและมักจะทำ
บางอย่างที่ไม่คาดคิด
แต่การกระทำของจางหยูในตอนนี้ ทำให้นางรู้สึกว่าจางหยูคือคนบ้า
จริง ๆ
ใครกันที่โดนหาเรื่อง แต่กลับมาชมคนที่มาหาเรื่องตัวเอง
สำหรับจางหยูแล้ว ชีวิตคือการแสดง จะละอายใจไปใย!
แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เคยรู้สึกละอายใจอยู่แล้ว ต่อให้ทางข้างหน้า
จะเป็นเหว เขาก็ไม่กลัวที่จะควบม้าพุ่งทะยานข้ามไป!
แน่นอนเขารู้ว่าพฤติกรรมของเขานั้นมันทั้งโง่และบ้าแค่ไหน แต่
ปัญหาคือ อ้าวเยว่นั้นดูเหมือนคนบ้า นางไม่กลัวตาย ถ้าหากเขาไม่
ทำแบบนี้ งั้นความขัดแย้งเล็กน้อยนี้อาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่
ขึ้นมาได้
เมื่อเห็นว่าทั้งสองแสดงสีหน้าสับสนออกมาจางหยูก็ยิ้มขึ้น
ภาพลักษณ์ที่ฉลาดและสูงส่งของเขาถูกทำลายลงไปแล้ว !
โชคดีที่ที่นี่มีแค่อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่งั้น
แล้วเขาคงเสียหน้าและภาพลักษณ์ที่เขาสร้างมาคงถูกทำลายแน่ ๆ
….
จางหยูหุบยิ้มและส่งสายตาไม่พอใจไปที่อ้าวอู่เหยียน “ทำไม หรือ
เจ้าไม่คิดแบบนั้นรึ ?”
เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่จางหยูจับจ้องมา อ้าวอู่เหยียนก็กลืนน้ำลาย
และฝืนยิ้มออกมา “ไม่ ไม่ ผู้อาวุโสพูดถูกแล้ว ท่านน้าเป็นคนตรงไป
ตรงมาดี…”
เขาจะกล้าปฏิเสธได้ยังไง ?
ท่านน้าที่เป็นคนตรงไปตรงมา นางหาเรื่องยอดฝีมือลึกลับแต่กลับ
ได้คำชมงั้นรึ !
จางหยูแอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่เขาก็ยังออกปาก
ชมออกมา “ดีมาก ดูเหมือนว่าเจ้าเองก็คิดเหมือนกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก