ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 408

ตอนที่ 408 ความแปลกใจของมังกรทั้งสอง(II)
ตอนแรกจางหยูคิดจะหาทางออกให้เรื่องนี้จบลงง่ายที่สุด แต่เมื่อ
มองไปที่อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนแล้ว อยู่ ๆ เขาก็มีความคิดขึ้นมา
“ทั้งสองคน ข้ามีข้อเสนอ พวกท่านสนใจจะฟังหรือไม่?” จางหยูยิ้ม
ออกมา
อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรออกมา
ทั้งสองอยากจะบอกว่าไม่สนใจ แต่พวกเขาจะเอาความกล้ามาจาก
ไหนกัน?
ภาพลักษณ์ของจางหยูในใจของทั้งสอง ได้เปลี่ยนไปจากชายลึกลับ
เป็นคนบ้า หากพวกเขากล้าที่จะปฏิเสธ งั้นคงมีแค่สวรรค์เท่านั้นที่รู้
ว่า คนบ้าแบบเขาจะทำอะไรบ้าง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนบ้าแบบนั้น ทั้งสองก็ไม่มีทางเลือกอื่น
จางหยูไม่รู้ว่าพวกนี้คิดอะไร เขาพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ความแข็งแกร่ง
ของท่านทั้งสองนั้นพอผ่านเกณฑ์ ตอนนี้สำนักคังเฉียงกำลังขาด
อาจารย์ ข้าสงสัยว่าทั้งสองคนคิดจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียงในฐานะ
อาจารย์หรือไม่ ?” ข้อกำหนดคือการรับผู้ที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวน 10
คนมาเป็นอาจารย์ อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนต่างก็อยู่ขอบเขตตุ้นซวน
อีกทั้งยังอยู่ระดับสูงสุดของขอบเขตตุ้นซวนด้วย มันผ่านเกณฑ์ที่
ภารกิจกำหนดเอาไว้ หากรับทั้งสองคนเข้าสำนักคังเฉียง จางหยูก็ไม่
จำเป็นต้องไปหาอาจารย์เพิ่มอีก
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา ทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าสับสน
ยอดฝีมือระดับสูงสุดในสายตาของจางหยูแล้ว แค่แข็งแกร่งผ่านเกณฑ์
งั้นรึ ?
ยิ่งไปกว่านั้น อ้าวเยว่ก็ยังอยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์ นางเป็น
รองแค่เพียงราชามังกรเท่านั้น !
“เรื่องนี้…” อ้าวอู่เหยียนลังเลขึ้นมา
เขาสงสัยเกี่ยวกับสำนักคังเฉียง โดยเฉพาะเจ้าสำนักผู้ลึกลับ แต่เขาก็
กังวลว่าการเข้าร่วมสำนักคังเฉียง ไม่ใช่ว่าจะเป็นการเดินเข้าถ้ำเสือ
หรือไง ?
อ้าวอู่เหยียนมองไปที่อ้าวเยว่และส่งข้อความไป “ท่านน้า เราควรตก
ลงกับเขาหรือไม่ ?”
ตอนที่อยู่ในเกาะมังกร เขาไม่เคยเจอกับวิกฤตใด ๆ จึงไม่กล้าที่จะ
ตัดสินใจ แต่ตอนนี้เขาต้องหวังพึ่งให้อ้าวเยว่ตัดสินใจแทน ยังไงซะ
เขาก็เชื่อใจน้าของตัวเอง
เอาตรง ๆ แล้ว ตอนนี้เขาเป็นเพียงองค์รัชทายาท เขายังไม่ได้ขึ้นเป็น
ราชามังกร เขายังไม่ได้มีพลังและความรับผิดขอบแบบราชามังกร
อ้าวเยว่ไม่ได้ตอบคำถามอ้าวอู่เหยียน แต่กลับมองไปที่จางหยูและ
ถามขึ้น”หากเราเข้าร่วมสำนักคังเฉียง มันจะจำกัดอิสรภาพของเรา
หรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่” จางหยูยิ้มออกมา “ท่านแค่ต้องรับผิดชอบในการสั่ง
สอนศิษย์ หลังจากที่สอนเสร็จ ท่านก็สามารถไปจัดการธุระตัวเองได้
ตามใจ ไม่มีใครมาห้ามท่าน ท่านอาจจะไม่ได้สอนด้วยซ้ำแค่ต้องเข้า
ร่วมกับสำนัก นอกจากนี้ข้าก็ไม่ได้ขอให้ท่านอยู่กับสำนักคังเฉียงไป
ตลอดกาล หากท่านเบื่อหรือเหนื่อยล้า ท่านจะลาออกก็ได้ แน่นอนว่า
ข้อกำหนดขั้นต่ำคือ 1 ปี ท่านไม่อาจจะถอนตัวใน 1 ปีนี้ได้”
อ้าวอู่เหยียนและอ้าวเยว่แปลกใจ เงื่อนไขมันน้อยขนาดนี้เลยรึ?
ตามที่จางหยูบอกมา พวกเขาแค่ต้องอยู่กับสำนักคังเฉียงสักระยะ
มันเหมือนกับวันหยุดพักผ่อน ผ่านไป 1 ปีพวกเขาก็ตัดสินใจได้ว่า
จะอยู่ต่อหรือออกมา
1 ปีสำหรับพวกยอดฝีมือระดับสูงสุดนั้นไม่ได้มีค่าอะไรเลย
“จริงรึ ?” อ้าวเยว่สงสัยขึ้นมา
“ข้าไม่คิดจะโกหกท่านหรอก” จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมา
อ้าวเยว่เงียบไปอีกครั้ง
“นอกจากสอนแล้ว สำนักจะให้เราทำอย่างอื่นหรือไม่?” อ้าวเยว่ยัง
ไม่สบายใจ
“ไม่ นอกจากสอนแล้วสำนักจะไม่ขอให้ท่านทำอะไร หากมีเรื่องที่
ต้องให้ท่านไปจัดการ ข้าจะไปปรึกษากับท่านล่วงหน้า หากท่านไม่
ตกลง ทางสำนักก็จะไม่บังคับท่าน” จางหยูอธิบาย “อันที่จริงแล้วมัน
ก็เข้าใจไม่ยาก เรื่องยุ่งยากเจ้าสำนักก็จัดการด้วยตัวเอง เรื่องง่าย ๆ
เขาคงไม่มารบกวนท่านไม่ใช่หรือไง ?”
แม้ว่ามันจะฟังดูไม่ดี แต่ที่จางหยูพูดมาก็มีเหตุผล
หลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของจางหยูแล้ว อ้าวเยว่และอ้าวอู่
เหยียนต่างก็รู้ถึงความน่ากลัวของสำนักคังเฉียงมากขึ้น ในฐานะคน
ที่รับผิดชอบในการรับอาจารย์ แต่กลับมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้
ที่อยู่ระดับสูงสุดได้ มันยากที่จะคิดได้ว่าเจ้าสำนักนั้นจะน่ากลัวแค่
ไหน !
น่าเสียดายที่จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าชายตรงหน้าเขา คือเจ้า
สำนักลึกลับที่พวกเขาตามหา !
“ข้ายังมีอีกคำถาม” อ้าวเยว่ดูระวังตัวอย่างมาก นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ
และมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าเป็นใครกัน ? ด้วย
ความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว ตำแหน่งที่สำนักคังเฉียงก็ไม่น่าจะต่ำไม่ใช่
รึ ?” พวกที่ก้าวข้ามระดับสูงสุดไปได้ หากมองจากทั้งโลกแล้วถือว่า
ไร้เทียมทาน คนแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากเทพและฐานะก็ไม่น่าจะ
ธรรมดา
“ท่านพูดถูก ตำแหน่งข้าไม่ได้ต่ำอะไร สำหรับว่าข้าเป็นใครนั้น หึหึ
ตอนที่ท่านไปยังสำนักคังเฉียง ท่านจะเข้าใจเอง” จางหยูพูดขึ้นพร้อม
กับยิ้ม
เมื่อตอบคำถามเสร็จ จางหยูก็หุบยิ้มและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยเมย
“เอาล่ะ พวกท่านถามมามากพอแล้ว ตอนนี้พวกท่านต้องเลือกแล้ว
ว่าจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียงหรือไม่ ?”
เขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่ปะทะกับอ้าวเยว่ แต่มันไม่ได้หมายความว่า
เขาจะปล่อยอ้าวเยว่ให้หลุดมือไป
อ้าวเยว่อดไม่ได้ที่จะลังเลเมื่อได้ยินแบบนั้น
หากมีนางคนเดียว นางก็ไม่กลัวที่จะลงมือกับสำนักคังเฉียง อย่าง
มากสุดนางก็แค่ตาย
ปัญหาคืออ้าวอู่เหยียนอยู่กับนางด้วย เขามีฐานะเป็นถึงองค์รัชทายาท
เผ่ามังกร ที่จะขึ้นเป็นราชามังกรในอนาคต หากเกิดอะไรขึ้นกับอ้าว
อู่เหยียน งั้นมันต้องส่งผลต่อเผ่ามังกรแน่ ๆ …
“ข้าเข้าร่วมสำนักคังเฉียงได้ แต่เจ้าต้องรับปากว่าต้องปล่อยหลานข้า
ไป !” อ้าวเยว่กัดปากและพูดขึ้นมา
“ท่านน้า !” อ้าวอู่เหยียนตะลึงและรีบพูดขึ้นมา”ไม่ ท่านไม่ไป ข้าก็
ไม่ไป !”
เขายอมรับว่าเขารู้สึกดีใจอยู่บ้าง แต่เขาไม่อาจจะทนมองให้น้าตนเอง
ต้องอยู่กับวิกฤตที่ตนเองก่อขึ้นมาได้
อ้าวเยว่แสดงสีหน้าเย็นชาออกมา และหันไปมองที่อ้าวอู่เหยียน
“หุบปากซะ ! ที่นี่เจ้าไม่มีสิทธิโต้แย้ง !”
อ้าวอู่เหยียนอ้าปากค้าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของน้าตนเอง เขาก็ไม่
อาจจะพูดอะไรออกมาได้
“ขอโทษด้วย ที่ท่านขอมาข้าคงตกลงด้วยไม่ได้” จางหยูแสดงสีหน้า
เย็นชาออกมาและพูดขึ้น “พวกท่านทั้งสองคนต้องเข้าร่วมสำนักคัง
เฉียง ไม่มีใครกลับออกไปได้” เขาแสดงท่าทีเป็นกันเองให้ได้มาก
ที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้อ้าวเยว่โกรธขึ้นมาอีก “อย่าคิดทดสอบความ
อดทนของข้า ข้าชื่นชมกับความตรงไปตรงมาของท่าน แต่มันไม่ได้
หมายความว่าข้าจะปล่อยให้ท่านทำตามใจชอบได้อีกครั้ง”
“หากเจ้าไม่ตกลง ข้าจะไม่เข้าร่วมสำนักคังเฉียง แม้ว่าข้าจะต้องตาย
ก็ตาม !” อ้าวเยว่ยังคงดื้อด้านเช่นเคย และนั่นก็ทำให้จางหยูกลัว
ขึ้นมา
จางหยูหรี่ตาลงและพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ท่านคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่า
ท่านจริง ๆ รึ ?”
ตอนที่เขาพูดนั้น เขาแฝงจิตสังหารเข้าไปในเสียงด้วย ทำให้อุณหภูมิ
โดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว
ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่จางหยูก็เข้าใจได้ว่า เขาไม่อาจจะฆ่าอ้าวเยว่
ได้ และเขาไม่คิดจะลงมือกับเผ่ามังกรจนกว่าจะรู้จักอีกฝ่ายจริง ๆ
เพื่อที่เขาจะไม่ได้รู้สึกผิดในอนาคต แน่นอนเรื่องที่สำคัญที่สุดคือ
แม้ว่าเขาจะต้องการฆ่าอ้าวเยว่ แต่เขาก็ไม่ได้มีความสามารถมากพอ
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้แล้ว แม้ว่าเขาจะทุ่มสุดตัว แต่ก็
ไม่อาจจะจัดการพวกระดับสูงสุดลงได้
แน่นอนว่าหากเกิดการต่อสู้ขึ้นมา เขาก็ไม่ได้กลัวอ้าวเยว่
“เจ้าฆ่าข้าได้” อ้าวเยว่โดนจางหยูหลอกเสียสนิท นางไม่ได้คิดสงสัย
เรื่องพลังที่จางหยูมี ถึงจะเป็นเช่นนั้นนางก็ยังคงยืนกรานดังเดิม “ถึง
เจ้าจะฆ่าข้า แต่ข้าก็จะยืนยันคำเดิมว่า หากไม่ปล่อยหลานข้าไป ข้าก็
ไม่มีทางเข้าร่วมสำนักคังเฉียง !”
นางเชิดหน้าขึ้นราวกับราชินีผู้สูงส่ง แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าเทพแต่นางก็
ไม่คิดที่จะก้มหัวให้
อ้าวอู่เหยียนที่อยู่ข้าง ๆ ได้แต่ยิ้มออกมา และกลัวแทนอ้าวเยว่ เขาไม่
กล้าที่จะพูดอะไรออกมา !
แต่เขาซึ้งใจอย่างมาก เพราะเขารู้ว่าที่น้าทำไปก็เพื่อเขา
“งั้นรึ ?” จางหยูมองไปที่อ้าวเยว่และเผยรอยยิ้มลึกลับออกมา “อยู่ ๆ
ข้าก็เปลี่ยนใจ เมื่อท่านอยากจะตาย ข้าคงไม่ฆ่าท่าน แต่เด็กข้าง ๆ
ท่าน ข้าไม่รังเกียจที่จะจัดการกับเขา”
อ้าวเยว่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “บังอาจ !”
ทุกอย่างที่นางทำ ก็เพื่อช่วยอ้าวอู่เหยียนให้มีชีวิตรอดต่อไป แต่หาก
จางหยูฆ่าอ้าวอู่เหยียน นางจะทำอะไรได้ ?
อ้าวอู่เหยียนแทบอยากร้องไห้ออกมา ใครหาเรื่องใครกัน แล้วทำไม
สุดท้ายต้องเป็นเขาที่ต้องมีปัญหา ?
เมื่อเห็นการกระทำและความคิดที่แปลกประหลาดของจางหยู เขาก็
ไม่สงสัยเลยว่า จางหยูมีความสามารถในการฆ่าเขาจริง ๆ !
“บังอาจนัก !” อ้าวเยว่ฮึดฮัดและแสดงท่าทีหงุดหงิดออกมา แต่นางก็
ไม่อาจจะมองข้ามอ้าวอู่เหยียนได้ นางต้องทำใจเย็นและมองไปที่
จางหยู “ตัวตนของเหยียนเอ๋อไม่ธรรมดา หากเจ้าลงมือกับเขา มันจะ
นำปัญหากลับมานับไม่ถ้วน ! ตอนนั้นสำนักคังเฉียงคงไม่อยู่ดีแน่ !”
คำขู่นี้ไร้พลังสิ้นดี !
จางหยูยักคิ้วและยิ้มออกมา “ไม่ธรรมดารึ ? ไม่ธรรมดายังไง ? คนที่
อยู่เบื้องหลังเด็กนี่แข็งแกร่งกว่าข้ารึ ?”
“ข้าจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับพวกท่านในการเข้าร่วมสำนักคังเฉียง
ไม่งั้นแล้วข้าจะไม่ฆ่าท่าน แต่เด็กนั่น ข้าคงรับรองไม่ได้ว่าข้าจะไม่
ทำอะไรกับเขา” จางหยูมองออกว่าอ้าวเยว่ไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง แต่
นางเป็นห่วงอ้าวอู่เหยียน มีแค่การเอาอ้าวอู่เหยียนมาต่อรอง ถึงจะ
สั่งให้อ้าวเยว่ทำตามคำสั่งได้ “จำไว้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้าย ท่านควร
คิดทบทวนให้ดี ๆ ชีวิตของเด็กนี่อยู่ในกำมือของท่าน”
นี่คือคำขู่ แต่คำขู่ของเขากลับมีพลังอย่างมาก !
อ้าวเยว่มองไปที่จางหยูด้วยสายตาโกรธแค้น “บังอาจ !”
จางหยูมองไปที่อ้าวเยว่ด้วยสีหน้าเฉยเมย ราวกับไม่ได้ยินคำด่าใด ๆ
อ้าวอู่เหยียนกังวลจนเหงื่อตก จิตสังหารที่จางหยูแสดงออกมาทำให้
เขาถึงกับตัวสั่น
บรรยากาศตึงเครียดอย่างมาก
อ้าวเยว่เงียบอยู่นาน จนสุดท้ายนางก็พูดขึ้นมาด้วยความยากลำบาก
“ข้าตกลง !”
ตอนนั้นนางเหมือนกับไม่มีพลังในตัวแล้ว เสียงอ่อนแรงของนางทำ
ให้คนรับรู้ได้ว่านางหมดหนทาง
“แล้วเจ้าว่าไงล่ะ เด็กน้อย?” จางหยูเหมือนไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่
น้อย เขาหันกลับไปมองอ้าวอู่เหยียนและถามขึ้นมา
“ตกลง ข้าตกลง !” เมื่อถูกจางหยูมองมา อ้าวอู่เหยียนที่เป็นถึงองค์
รัชทายาทผู้ทรงเกียรติของเผ่ามังกร ก็รีบพยักหน้าทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก