ตอนที่ 409 โลกนภา
“งั้นไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ลงชื่อซะ” จางหยูโบกมือพร้อมกับม้วน
คัมภีร์ที่ปรากฏขึ้น และลอยไปหาอ้าวอู่เหยียนและอ้าวเยว่
อ้าวอู่เหยียนมองไปที่อ้าวเยว่และรับม้วนคัมภีร์มา ก่อนจะกัดฟัน
แน่นและเขียนชื่อของตัวเองลงไป
หลังจากที่ลงชื่อเสร็จ อ้าวอู่เหยียนก็ได้ส่งม้วนคัมภีร์ให้กับอ้าวเยว่ แต่
เมื่อเห็นว่าอ้าวเยว่ไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ ออกมา เขาก็พูดขึ้น “ท่านน้า”
อ้าวเยว่เงยหน้ามองไปที่จางหยู และพบว่าจางหยูยังแสดงท่าทีเฉยชา
ออกมา
อ้าวเยว่กัดฟันแน่นและรับม้วนคัมภีร์มาจากอ้าวอู่เหยียนก่อนจะ
เขียนชื่อลงไป – อ้าวซวง
แม้จะไม่เข้าใจว่าม้วนคัมภีร์นี้มีความหมายอะไร แต่สัญชาตญาณก็
บอกนางว่าอย่าลงชื่อลงไป
ตอนนี้นางไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้ชื่อปลอมเซ็นลงไป
เมื่อลงชื่อเสร็จ นางก็ส่งม้วนคัมภีร์คืนให้กับจางหยู แต่จางหยูไม่ได้
ยื่นมือออกมารับ เขากลับยิ้มและมองไปที่อ้าวเยว่ “ดูเหมือนว่าท่าน
จะไม่สนใจชีวิตของเด็กนั่นจริง ๆ หากท่านไม่ต้องการให้เขาอยู่ต่อ
ข้าก็จะทำตามที่ท่านต้องการ !”
หลังจากนั้นจางหยูก็มองไปที่อ้าวอู่เหยียนด้วยสีหน้าสงสาร “เด็กน้อย
หากจะโทษก็โทษน้าเจ้าเถอะ ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว”
เมื่อพูดจบ หลิงชี่ธาตุนับไม่ถ้วนก็ไหลเข้ามารวมที่ตัวจางหยู
อ้าวเยว่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “หยุด ! เราตกลงกันแล้ว เหตุใดเจ้าถึง
ได้ทำเช่นนี้ !”
อ้าวอู่เหยียนก็บ่นในใจ “ทำไมต้องเป็นข้าที่ต้องซวยตลอด…”
“ทำไมน่ะรึ ?” จางหยูพูดด้วยท่าทีเฉยชา “ตอนที่ท่านคิดจะหลอกข้า
ท่านก็น่าจะรู้ถึงผลลัพธ์ของมัน หากท่านไม่คิดถึงผลลัพธ์ ก็ถือว่า
ท่านแสดงความโง่เง่าของตัวเองออกมา”
“ข้าจะลงชื่อใหม่ !” อ้าวเยว่ยอมแพ้ ความหวังอันน้อยนิดที่มีอยู่ใน
ใจพังทลายลงไปทันที
อ้าวเยว่กางม้วนคัมภีร์ออก และลงชื่อใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้นางไม่ได้คิด
จะเสี่ยงอีกต่อไป และลงชื่อจริง ๆ ของนางลงไป
นางส่งคัมภีร์คืนให้กับจางหยู ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “พอรึยัง?”
จางหยูเก็บม้วนคัมภีร์ และพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วย จากนี้
ท่านทั้งสองถือว่าเป็นคนของสำนักคังเฉียง !”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของจางหยู อ้าวเยว่ก็ฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา นางไม่
ต้องการจะเห็นหน้าของจางหยูอีก
ทันทีที่นางเห็นใบหน้าของเขา นางแทบอดไม่ได้ที่จะเข้าไปฉีกใบหน้า
นั้นทิ้ง
แม้ว่าท่าทีของอ้าวเยว่จะแย่ แต่จางหยูก็ไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย ยังไง
ซะนางก็ได้ลงชื่อในสัญญานภาไปแล้ว อีกไม่ช้านางก็จะเปลี่ยนท่าที
ทำไมต้องมาโกรธด้วย ?
ต้องรู้ก่อนว่าสัญญานภานั้น ส่งผลต่อคนที่เข้าร่วมสำนักคังเฉียง ราว
กับว่ามีพลังที่ทำให้ยกย่องสำนักคังเฉียง สำหรับเจ้าสำนักอย่างเขาแล้ว
พวกนั้นก็ยิ่งเคารพกว่าเดิม สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ พลังนี้ส่งผลเงียบ ๆ
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่พลังนี้ก็จะรุนแรงขึ้นไปด้วย สุดท้ายแล้ว
มันก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจจะสลัดความคิดพวกนี้ออกจากหัวไปได้
ตอนนั้นเสียงของระบบได้ดังขึ้นมาในหัวของจางหยูอีกครั้ง “ภารกิจ
ย่อย : กลุ่มอาจารย์ เสร็จสิ้น โฮสต์จะรับรางวัลหรือไม่ ?”
“รับ !”
“รางวัลสวนสวรรค์ได้ถูกส่งมอบ โปรดตรวจสอบ”
สวนสวรรค์ เขาพยายามมานานในที่สุดก็ได้มันมา !
รอยยิ้มบนใบหน้าจางหยูดูสดใสขึ้นกว่าเดิม แต่ต่อหน้าอ้าวเยว่และ
อ้าวอู่เหยียนแล้ว เขาไม่สะดวกที่จะตรวจสอบข้อมูลของสวนสวรรค์
ตอนนี้ เขาต้องอดใจไว้ก่อน หลังจากที่กลับไปยังสำนักคังเฉียง เขา
ค่อยตรวจสอบมัน
ตอนนั้นจางหยูอารมณ์ดีอย่างมาก แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะแหย่อ้าวเยว่
“อย่าทำหน้าตาเช่นนั้น ท่านจะรู้เองทีหลังว่าการเข้าร่วมสำนักคังเฉียง
คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของท่าน”
อ้าวเยว่แสดงสีหน้าเย็นชาออกมา
“ผู้อาวุโสยกโทษให้ข้าด้วย ท่านน้าเป็นคนเฉยชาเช่นนี้ นางไม่คิดที่
จะหาเรื่องใคร” อ้าวอู่เหยียนรีบพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโส หาก
มีอะไรจะสั่งก็บอกข้าได้โดยตรง ข้าจะสื่อสารกับท่านน้าเอง”
องค์รัชทายาทของเผ่ามังกรถ่อมตัวแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน ?
อ้าวอู่เหยียนรู้ว่าหากเขาอยากมีชีวิตต่อ เขาก็ต้องทำเช่นนี้
มันคือการเล่นไปตามน้ำ เขาจะทำอะไรได้อีก ? เขาเองก็สลดอยู่พอ
สมควร
จางหยูกวาดตามองไปยังทั้งสองและพูดขึ้น “กลับไปที่สำนักคังเฉียง
กันเถอะ”
เมื่อพูดจบ จางหยูก็ไม่ได้สนใจทั้งคู่ และมุ่งหน้าไปที่สำนักคังเฉียง
โดยไม่กลัวว่าทั้งสองคนจะหนี
อันที่จริงจางหยูไม่ได้สนใจหากทั้งสองจะหนีไป เป้าหมายของเขา
คือการทำภารกิจให้สำเร็จ ตอนนี้เมื่อภารกิจเสร็จแล้วถึงแม้ว่าทั้งสอง
จะไม่ไปยังสำนักคังเฉียง แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไร มันยิ่งดีกว่าเดิม
เพราะจางหยูไม่ต้องกังวลถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
เมื่อคิดถึงปัญหาของอ้าวเสี่ยวหร่าน จางหยูถึงกับสร้างโอกาสให้ทั้ง
สองคนได้หนีไป
สิ่งที่ทำให้จางหยูผิดหวังคือ ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสหนีชัดเจนขนาดนี้ แต่
อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนก็ยังบินตามเขามาไม่คิดที่จะหนี
“มันไม่มีโอกาสไหนดีเท่ากับครั้งนี้แล้ว เมื่อไหร่สองคนนั้นจะหนี
ไป ?” จางหยูถึงกับสลด
เขาไม่คิดว่าทั้งสองคนจะกลัวเขาขนาดนี้ พวกนี้ไม่กล้าที่จะคิดตุกติก
โดยเฉพาะกับตอนที่อ้าวเยว่ใช้ชื่อปลอม เมื่อนางมองมาที่เขา นางก็
เข้าใจว่าเขามีความสามารถมากแค่ไหน อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียน ต่าง
ก็ทิ้งความคิดอื่น ๆ ในหัวทิ้งไปทันที
“ตามข้ามา !”
เมื่อทั้งสองไม่คิดที่จะหนี จางหยูก็ไม่คิดสนใจถึงปัญหาอื่น ๆ อีก
ยังไงซะก็ไล่พวกนี้ไปไม่ได้ไม่ใช่รึ ?
เขาต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อจะรับสองคนนี้เข้าร่วมสำนักคังเฉียง
ผลก็คือพวกนี้ยังไม่ทันได้ไปที่สำนักคังเฉียง แต่เขาจะไล่พวกนี้
ออกไปหรือไง มันไม่เหมือนว่าเขาจะดูเป็นคนบ้ารึ!
แค่คิดร่างของจางหยูก็หายไปทันที
อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนรีบตามไป ร่างของทั้งสองก็หายไปจากที่นั่น
เช่นกัน
หลายสิบกิโลเมตรห่างออกไป เมืองอู่อันค่อย ๆ กลับคืนสู่ความปกติ
มันก็แค่ว่าความร้อนที่น่ากลัวเมื่อครู่นี้ ได้ฝังลึกในใจผู้คน ถึงแม้ว่า
บรรยากาศจะดูสงบ แต่ก็ยังมีเงาตามหลอกหลอนในใจผู้คนอยู่….
ในมิติสูงขึ้นไป ร่างของจางหยูหายและสองมังกรปรากฏตัวขึ้นสลับ
กันไป เขาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไม่นานเขาก็เข้ามาที่เขตเหนือ ด้วยความเร็ว
ระดับนี้ อย่างมากคงใช้เวลาแค่ 15 นาทีเขาก็กลับไปถึงสำนักคังเฉียง
ได้
ด้านหลังของเขานั้น อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนตามเขามาติด ๆ ทั้งสอง
ต่างก็ใช้ทักษะเคลื่อนย้ายในพริบตา ระยะห่างในการเคลื่อนย้ายและ
เวลาที่ใช้ในแต่ละครั้งนั้นด้อยกว่าจางหยู พวกเขาดูเหนื่อยล้าและเริ่ม
ห่างจากจางหยูมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเห็นแบบนั้น อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนต่างก็ตะลึง จางหยูต้องหยุด
เพื่อรอทั้งคู่ แต่เขาไม่ได้ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาใช้เวลานั้นเพื่อ
ตรวจสอบรางวัลที่ได้มา
แค่คิดข้อมูลของสวนสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวทันที
“มันกลับเป็นโลกที่แยกออกไป !” จางหยูแปลกใจเล็กน้อย เขาคิดว่า
สวนสวรรค์ควรเป็นถ้ำหลิงชี่ หรือว่าดินแดนแห่งหลิงชี่ มันอาจจะ
ส่งหลิงชี่มายังสำนักคังเฉียงได้มากกว่าเดิมแต่เขาเดาผิด “รางวัลนี่
มันดีจริง ๆ !”
จางหยูอึ้งกับคำอธิบายที่ระบบให้มา
นี่คือโลก มันจะน่าทึ่งแค่ไหนกัน ?
หากเทียบกับรางวัลนี้แล้ว รางวัลอื่น ๆ ที่ได้มาดูด้อยกว่าไปเลย !
แม้แต่ทักษะสร้างร่างเทียม, มองทะลุขั้นสูง, หลอกลวง, ร่างทองคำ
และการยกระดับต่างก็ไม่อาจจะเทียบกับโลกที่ได้มาได้ !
ต้องรู้ก่อนว่ามันคือโลก โลกที่จางหยูสามารถปกครองมันได้ตามใจ
ชอบ !
จากข้อมูลในหัว จางหยูก็มั่นใจว่าโลกนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของ
เขา เขาคือพระเจ้าของโลกนี้ มันเหมือนกับเต๋าสวรรค์ที่มีอยู่ในโลก
จิตของจางหยูสูงส่งกว่าทุกอย่าง บอกได้ว่าเขาไร้เทียมทานที่แท้จริง
แค่เพียงคิดเขาก็สามารถตัดสินชีวิตใครก็ได้…
โลกนี้เหมือนจะผูกมัดกับวิญญาณของจางหยู เขารู้สึกถึงตัวตนของ
โลกนี้ และเขาก็สามารถเข้าไปยังโลกนี้เมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ
น่าแปลกใจจริง ๆ !
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ชื่อสวนสวรรค์ที่ระบบตั้งมานี้ ทำให้จางหยู
แปลกใจจริง ๆ !
เมื่อใช้การรับรู้ตรวจสอบด้านหลัง จางหยูก็เห็นว่าอ้าวเยว่และอ้าวอู่
เหยียนยังตามมาไม่ทัน จางหยูไม่พอใจอย่างมากและเข้าไปในสวน
สวรรค์ทันที
ในพริบตาร่างของจางหยูก็หายไปจากโลกของทวีปป่า ราวกับว่าอยู่ ๆ
ตัวตนของเขาได้หายไปจากโลก
หลังจากที่เข้ามาในสวนสวรรค์ จางหยูได้มองไปรอบ ๆ และอดไม่ได้
ที่จะพอใจยิ่งกว่าเดิม โลกนี้ชื่อมันคือสวนสวรรค์ มันเต็มไปด้วยหลิงชี่
มันคือโลกที่สมบูรณ์แบบ สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือ โลกนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิต
อื่นอยู่เลย นี่ไม่ต้องนับมนุษย์หรือสัตว์อสูร แม้แต่แมลงก็ยังไม่มี มัน
ดูน่าอึดอัดเล็กน้อย
แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่จางหยูต้องการ เขาก็สามารถเอาสิ่งมีชีวิต
ของทวีปป่าเข้ามาที่นี่ตอนไหนก็ได้
“เมื่อข้าได้โลกนี้มา งั้นข้าก็ควรมีสิทธิตั้งชื่อมันไม่ใช่รึ?” จางหยูหัวเราะ
ออกมา “ในอนาคตโลกนี้จะถูกเรียกว่าโลกนภา นภาที่มาจากชื่อของ
สำนักคังเฉียง หึหึ คนของสำนักจะได้ประโยชน์จากมัน !”
จากนี้โลกนภาจะกลายเป็นฐานที่มั่นของสำนักคังเฉียง และเป็นไพ่
ลับของจางหยู
หลังจากที่ตั้งชื่อเสร็จ จางหยูก็ได้มุ่งหน้าไปยังสุดขอบโลก และพบ
ความจริงที่น่าแปลกใจ “โลกนี้….ใหญ่จนน่าเหลือเชื่อ ! เขตทะเลที่
ไร้ที่สิ้นสุด ที่นี่ใหญ่กว่าทวีปป่าหลายสิบเท่า …”
ไม่ใช่แค่พื้นที่ขนาดใหญ่ แต่มิติก็ยังมั่นคงอีกด้วย !
จางหยูรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า มิติของโลกนภานั้นแข็งแกร่งกว่าโลก
ที่ทวีปป่ าตั้งอยู่ โลกนี้เหมาะกับสิ่งมีชีวิตมากกว่า
ชัดแล้วว่านี่คือโลกที่ระดับสูงกว่าโลกของทวีปป่า
โลกของทวีปป่ านั้นจำกัดไว้ที่เกือบถึงขั้น 7 และโลกนภานี้อยู่ที่ขั้น
7 !
จางหยูสังหรณ์ใจว่า โลกนี้สามารถให้กำเนิดยอดฝีมือขั้น 7 ที่แท้จริง
ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นระดับที่เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก