ตอนที่ 410 เสี้ยวหนึ่งของยอดของภูเขานํ้าแข็ง
ทวีปป่าไม่อาจจะให้กำเนิดยอดฝีมือที่เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวนได้
มันเป็นเพราะเต๋าสวรรค์ของทวีปป่ านั้นอยู่แค่ขั้น 7 เทียม และนั่นคือ
ขีดจำกัดของสิ่งมีชีวิต ที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ไม่อาจจะทลายโซ่
ตรวนนี้ได้ และติดอยู่ที่ขอบเขตตุ้นซวน โลกนภาคือโลกขั้น 7 ที่
แท้จริง ซึ่งสามารถให้กำเนิดผู้ที่แข็งแกร่งเหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน
ได้
จางหยูมั่นใจว่าหากความลับเรื่องโลกนภารั่วไหลออกไป มันจะทำ
ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วโลกทวีปป่ า !
โดยเฉพาะกับยอดฝีมือระดับสูงสุด พวกนั้นอาจจะยอมเสียทุกอย่าง
เพื่อเข้ามายังโลกนภาแห่งนี้ !
“ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากยอดฝีมือพวกนั้นเข้ามายังโลกนภา?”
จางหยูเดา “ยอดฝีมือพวกนั้นอยู่ขั้น 7 เทียม หากขึ้นไปเหนือกว่า
ขอบเขตตุ้นซวนได้จึงจะถือว่าเป็นขั้น 7 จริง ๆ แต่พวกเขาถูกจำกัด
ไว้โดยโลก และไม่อาจจะก้าวขึ้นไปถึงขั้น 7 จริง ๆ ได้…”
หากยอดฝีมือพวกนั้นเข้ามายังโลกนภา พวกเขาจะขึ้นไปถึงขั้น 7
ในทันทีหรือไม่ พวกเขาจะควบคุมพลังของขั้น 7 ได้หรือไม่ ?
จางหยูรู้สึกว่าโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นมันสูง !
“โชคร้ายที่ข้ายังก้าวไปไม่ถึงระดับสูงสุด ไม่งั้นแล้วข้าก็ไม่ต้องเดา”
จางหยูถอนหายใจออกมา ด้วยพลังของทักษะจี๋อู่และความสามารถ
อื่น เขาจึงแข็งแกร่งทัดเทียมกับราชาสัตว์อสูร แต่ระดับการบ่มเพาะ
ของเขาจริง ๆ นั้นอยู่ที่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นกลางซึ่งต่างจากพวกขั้น
สมบูรณ์
จางหยูยังไม่เปิดโลกนภาให้กับใครในตอนนี้ จนกว่าจะรู้ว่าจะเกิด
อะไรขึ้น หากยอดฝีมือระดับสูงสุดเข้ามาในโลกนภาแล้ว
มีแค่สวรรค์ที่รู้ว่าพวกนั้นจะขึ้นไปถึงขั้น 7 ทันทีหรือไม่ !
หากยอดฝีมือพวกนั้นเข้ามาในโลกนภา และขึ้นไปถึงขั้นที่ 7 ได้ งั้น
สถานการณ์ของทวีปป่าก็อยู่เหนือการควบคุมของจางหยู ด้วยการ
ปกป้องจากเต๋าสวรรค์ เขาก็ไม่กลัวพวกขั้น 7 เทียมใด ๆ แต่ไม่
อาจจะรับการโจมตีจากพวกขั้น 7 จริง ๆ ได้…
ในโลกนภา จางหยูไม่กลัวผู้ใด แม้ว่าพวกนั้นจะขึ้นเป็นขั้น 7 จริง ๆ
ได้ แต่แน่นอนว่าก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือกับจางหยูได้ ยังไงซะจางหยูก็
คือเจ้าแห่งโลกนภา เขาคือพระเจ้าที่มีสิทธิเหนือผู้ใดในโลกนภา แต่
เมื่อพวกนั้นออกมาจากโลกนภาแล้ว จางหยูคงไม่ใช่คู่มือของพวก
นั้น แม้แต่เต๋าสวรรค์ก็ไม่อาจปกป้องเขาได้
“ก่อนที่ข้าจะมั่นใจ ตอนนี้โลกนภาคงต้องเปิดให้กับคนของสำนัก
คังเฉียงก่อน” จางหยูตัดสินใจ
นี่คือโลกของเขา โลกนี้ทุกอย่างตัดสินโดยเขา หากไม่ได้รับอนุญาต
จากเขา แม้แต่ราชามังกรก็ไม่อาจจะเข้าไปได้
ตอนนั้นเสียงของระบบก็ดังขึ้นมา “โลกนี้ระดับสูงแต่มันไม่อาจจะ
เติบโตได้ ไม่นานมันจะถูกก้าวข้ามโดยโลกของทวีปป่ าแห่งนี้ ข้า
หวังว่าเจ้าจะไม่พึ่งมันมากนัก”
“เติบโต ?” จางหยูตะลึงและถามขึ้นมา “เติบโตอะไรกัน?”
“บางโลกเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติตั้งแต่ต้น ดังนั้นพวกมันจึงสามารถ
เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่แกนกลางไม่ถูกทำลาย มันก็สามารถ
พัฒนาตัวเองจนไปถึงขั้นที่ 9 ได้และสามารถให้กำเนิดยอดฝีมือขั้น
ที่ 9 ได้ แค่อาจจะใช้เวลานานเกินไป แม้ว่าจะมีโลกแบบนั้นอยู่ แต่ก็
ยากที่จะมีโลกไหนที่คงอยู่ได้นานแบบนั้น…โลกใบนี้เรียกว่าโลก
ขั้นต้น โลกทวีปป่ าเองก็คือหนึ่งในโลกขั้นต้นนับไม่ถ้วน”
“โลกนภาคือโลกที่สร้างขึ้นโดยเจ้าของคนเก่า…โลกที่ถูกสร้างขึ้นมา!”
“โลกนภาเกิดมาอยู่ขั้น 7 เป็นโลกระดับสูง เพราะโลกนี้ถูกสร้างขึ้นมา
มันจึงไม่มีการพัฒนาตัวเองต่อ ไม่ว่าจะรอนานแค่ไหน แต่มันก็จะ
อยู่ที่ขั้นที่ 7 ไปตลอดกาล !”
เสียงของระบบไม่ได้มีอารมณ์แฝงอยู่เลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น
เนื้อหาที่ระบบพูดมาก็ทำให้จางหยูตะลึง
“โลกนภาคือโลกที่ถูกสร้างขึ้นมางั้นรึ?” จางหยูเบิกตากว้างด้วย
ความอึ้ง พื้นดินและทะเลอันกว้างใหญ่นั้น จางหยูคิดภาพไม่ออกเลย
ว่ามันต้องใช้วิธีไหนสร้างมันขึ้นมา มันเกินกว่าที่จางหยูจะคาดถึง
ยิ่งอยู่กับระบบนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรู้ถึงความน่ากลัวของเจ้าของเก่า
มากเท่านั้น !
แม้ว่าโลกนภาไม่อาจจะเติบโตได้เหมือนกับโลกขั้นต้นอื่น ๆ แต่
จางหยูไม่คิดแบบนั้น เพราะโลกนภาเป็นโลกขั้น 7 และหากโลก
ขั้นต้นต้องการจะพัฒนาขึ้นมาอยู่ขั้นที่ 7 นั้น ต้องใช้เวลายาวนานหรือ
อาจจะบอกได้ว่านิรันดร์ ระหว่างนั้นมันอาจจะเกิดวิกฤตนับไม่ถ้วน
และหากผ่านพ้นวิกฤตมาได้ มันถึงขึ้นไปเป็นโลกขั้น 7 ที่แท้จริง
ทวีปป่ ามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเท่าไหร่?
มันอาจจะเป็นโลกที่คงอยู่มานาน แต่ก็ยังติดอยู่ที่ขั้น 7 เทียม มันยาก
ขนาดไหนกันที่จะพัฒนาขึ้นไปอยู่ขั้น 7 จริง ๆ ได้ !
มันไม่เกินไปที่จะบอกว่าเจ้าของคนเก่าของระบบนี้คือตัวตนที่น่ากลัว
ที่สุด !
จางหยูใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำใจเย็นได้และถามขึ้นมา “ระบบ ที่เจ้า
เพิ่งพูดไป อันดับของโลกขั้นต้นเป็นยังไง ? โลกมันแบ่งระดับกัน
ยังไง ? เมื่อมันมีโลกขั้นต้นก็ต้องมีโลกขั้นสูง มันเป็นโลกแบบไหน
และอยู่ระดับไหนกัน ? ระดับเดียวกับโลกนภารึ ?” เขาจับใจความ
สำคัญจากคำพูดของระบบได้ และสุดท้ายก็มีโอกาสได้สื่อสารกับ
ระบบ เป็นธรรมดาที่เขาจะถามทุกอย่างที่เขาสงสัย
“ต่ำกว่าขั้น 7 คือโลกขั้นต้น โลกทวีปป่ าแห่งนี้คือหนึ่งในโลกขั้นต้น
ที่แข็งแกร่งที่สุด ในบรรดาโลกขั้นต้นนับไม่ถ้วน มันอยู่ที่ขั้น 6 หรือ
ขั้น 7 เทียม”
“ขั้น 7 คือโลกขั้นสูง โลกนภาคือโลกขั้นสูง”
“ขั้น 8 คือโลกเทพที่แท้จริง”
“สำหรับขั้น 9 แล้วมันมีหลายชื่อ บางคนเรียกมันว่าสวรรค์ บางคน
เรียกมันว่าโลกศักด์ิสิทธ์ิ บางคนถึงกับเรียกมันว่าโลกนิรันดร์ บาง
คนเรียกมันว่านรกก็มี !”
คำพูดไม่กี่คำของระบบ แต่กลับแฝงความหมายไว้มากมาย เปิดเผย
ถึงความลึกลับของโลกใบนี้
โลกขั้นต้น, โลกขั้นสูง, โลกเทพที่แท้จริงและสวรรค์ที่ลึกลับ !
เลือดในตัวจางหยูสูบฉีดขึ้นมา เหนือกว่าทวีปป่ าแล้วก็ยังมีโลกขั้นสูง
อยู่ !
เขาคิดว่าเขาแข็งแกร่งแล้ว แต่เขากลับพบว่าเขาเห็นเสี้ยวหนึ่งของ
ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
โลกทวีปป่ าแห่งนี้เป็นโลกขั้น 7 เทียม แต่มันให้กำเนิดยอดฝีมือที่น่า
กลัวออกมาได้ แล้วโลกขั้นสูงที่ให้กำเนิดพวกขั้นที่ 7 ออกมาได้ล่ะ
จะน่ากลัวขนาดไหน? ที่น่ากลัวกว่านั้นคือโลกเทพที่แท้จริงที่ระดับ
สูงกว่าโลกขั้นสูงมันจะทรงพลังแค่ไหน? นี่ยังไม่รวมสวรรค์อีก ?
พวกยอดฝีมือในโลกพวกนั้นจะน่ากลัวขนาดไหนกัน ?
“โลกตอนที่หมาป่ าละโมบตายไปคือโลกอะไรกัน? โลกขั้นสูงรึ?
หรือว่าโลกเทพที่แท้จริง? สวรรค์ ?”
“มันอยู่ระดับไหนกัน ? 7 ? 8 ? รึ 9 ?”
“เขามายังโลกทวีปป่ านี้ตอนไหนกัน ? เขตหวงห้ามทั้งสามมันคือ
อะไร?”
โลกอื่น ๆ นั้นจางหยูไม่ได้สนใจ เพราะโลกพวกนั้นเป็นเรื่องไกลตัว
จางหยู แต่การตายของหมาป่าละโมบและการปรากฏตัวของชาย
ลึกลับ คือหนามยอกอกจางหยู ดังนั้นจางหยูจึงรู้สึกได้ถึงวิกฤต และ
ตอนนี้เขาก็มีโอกาสที่จะถามคำถามนี้
แต่เมื่อจางหยูถามคำถามพวกนั้นไป ระบบกลับเงียบ
ดูเหมือนว่าปัญหาของจางหยู จะเป็นความลับที่เขายังไม่มีสิทธิที่จะรู้
ได้ !
“ด้วยความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้ ข้ายังไม่มีสิทธิรู้ความลับพวกนั้น
รึ?” จางหยูคิ้วขมวด วิกฤตที่เขารู้สึกในใจเริ่มหนักขึ้นไปอีก “ขั้น 7 ?
ไม่สิ อย่างน้อยต้องขั้น 8 อย่างน้อยมันต้องอยู่ขั้น 8 แน่ ๆ ไม่งั้นแล้ว
ระบบคงไม่ปิดบังเรื่องนี้…”
สำหรับขั้น 9 แล้ว จางหยูไม่กล้าจะคิดถึง เพราะระบบแบบนั้นมัน
เกินการรับรู้ของเขา
สีหน้าของจางหยูหม่นลง เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะการปกปิดของ
ระบบหรือเพราะภัยที่เขารู้สึกในใจ
ความรู้สึกที่มองเห็นแต่ความมืดนั้นมันน่าอึดอัด โดยเฉพาะกับการที่
รู้ว่าชีวิตของเราตกอยู่ในอันตรายอยู่ทุกเมื่อ มันน่าอึดอัดยิ่งกว่าตอน
ที่เราตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ อีก !
จางหยูไม่มีทางลือกอื่น นอกจากต้องหวังพึ่งระบบ เขาได้มาแต่
ข้อมูลที่จำกัด และคาดเดาหาความเป็นไปได้ทุกอย่าง
จนจางหยูรู้สึกว่า อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนตามมาทัน เขาก็คิดจะออก
จากโลกนภา แต่ในตอนนั้นเองเสียงของระบบได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“หากโฮสต์ไม่ต้องการให้ทวีปป่ าถูกทำลาย ก็จงช่วยให้โลกทวีปป่ า
พัฒนาไปถึงขั้นที่ 7 ให้เร็วที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ มันเหลือเวลาไม่
มาก เราเหลือเวลาไม่มาก” เสียงของระบบยังคงไร้อารมณ์เช่นเคยแต่
ทำให้รู้สึกได้ถึงความหนักใจ
หนักใจ !
จางหยูสีหน้าเปลี่ยนไปและถามขึ้น “เจ้าหมายถึงอะไร ? เวลาอะไร?”
เขาอึดอัดใจ ความอึดอัดนี้เกิดขึ้นมาจากระบบ
ระบบไม่ได้ตอบกลับ
“งั้นบอกข้ามาทีว่าจะช่วยโลกทวีปป่ าพัฒนาขึ้นไปได้ยังไง?” จางหยู
ฮึดฮัดออกมาและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “หากเจ้าไม่พูดแล้วข้าจะ
รู้ได้ยังไงว่าช่วยยังไง ?”
“ภารกิจ โฮสต์แค่ต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้น ไม่ต้องทำอย่างอื่น…”
เสียงของระบบเหมือนจะเบาลงราวกับจะหายไปจากหัวเขา
หลังจากนั้นระบบก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก ไม่ว่าจางหยูจะเรียกแค่
ไหน แต่ระบบก็ไม่ตอบกลับราวกับว่ามันหายไป
“ภารกิจ? บัดซบ ก็ส่งภารกิจมาให้ข้าสิ !” จางหยูโกรธขึ้นมา
มีแต่ความเงียบที่ตอบกลับเขา
จางหยูถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะออกจากโลกนภา แล้วปรากฏตัว
ขึ้นที่โลกทวีปป่ าดังเดิม โดยที่ไม่เกิดอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยตอนที่
เขาออกจากที่นี่
เมื่อแผ่การรับรู้ออกไป เขาก็เห็นว่าอ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียน กำลังมุ่ง
หน้ามาหาเขา เขาจึงยืนรอด้วยสีหน้าเฉยเมย
“ผู้อาวุโส” ไม่นาน อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
เขา อ้าวอู่เหยียนเห็นสีหน้าของจางหยูหม่นลงจึงพูดขึ้นมาว่า “ขอโทษ
ด้วย ท่านเร็วเกินไป เราพยายามที่สุดแล้ว…” เขาคิดว่าจางหยูคงจะ
ไม่พอใจพวกเขา
จางหยูมองไปยังทั้งสอง และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยเมย “ไปต่อ”
ตอนนี้เขาอารมณ์เสียอย่างมาก เขายังไม่มีอารมณ์มาพูดคุยกับอ้าวอู่
เหยียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก