ตอนที่ 411 แนะนำตัว
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของจางหยูหม่นลงเหมือนจะอารมณ์เสีย อ้าวอู่เหยียน
ก็ปิดปากเงียบทันที
แม้แต่อ้าวเยว่ก็ยังแสดงสีหน้าไม่มั่นใจออกมา และไม่กล้าที่จะหา
เรื่องจางหยู
ทั้งสองรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจางหยูอารมณ์เสีย สีหน้าของเขาหม่น
และดูน่ากลัว ท่าทีเป็นกันเองและใจดีก่อนหน้านี้หายไป มันทำให้
ผู้คนรู้สึกเหมือนกับภูเขาไฟที่เงียบสงบมานาน กลับมีลาวาระเบิด
ออกมา
จางหยูบินนำหน้าโดยที่มีสองคนบินตามมาติด ๆ บรรยากาศนี้แทบ
ทำให้ทั้งสองไม่กล้าหายใจ ทั้งสองรู้สึกกดดันอย่างมาก
หลังจากที่เข้ามาในเขตอาณาจักรโจว และรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่
คุ้นเคย จางหยูถึงได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง ความกดดันที่เขาแผ่ออกมา
ค่อย ๆ สลายไป มันทำให้อ้าวเยว่ถึงกับโล่งใจเพราะแรงกดดันที่นาง
ได้รับนั้นลดลง
ร่างของจางหยูได้หายไปอีกครั้ง ก่อนจะปรากฏตัวที่ด้านบนเมือง
ทะเลทราย
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ร่างของอ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนก็ปรากฏขึ้น
ทีละคน ๆ
“ถึงแล้วรึ ?” เมื่อเห็นว่าจางหยูหยุด อ้าวอู่เหยียนก็อดไม่ได้ที่จะมอง
ลงไปยังเมืองทะเลทราย ที่แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ แต่หากมองจาก
ท้องฟ้าจะพบว่ามันมีขนาดเล็ก ใจกลางเมืองนี้มีภูเขาที่รายล้อมไป
ด้วยหมอกขาว ภายใต้หมอกขาวนี้มีตึกอาคารต่าง ๆ ที่งดงาม “นี่คือ
ภูเขาร้างที่ว่ารึ ?”
อ้าวอู่เหยียนผิดหวังเล็กน้อย แม้ว่าเมืองทะเลทรายจะได้รับการขยับ
ขยาย แต่มันก็ยังเล็กกว่าเมืองใหญ่ ๆ อย่างเมืองอู่อัน บางทีมันอาจจะ
มีขนาดแค่ 1 ใน 5 ของเมืองอู่อันหรืออาจจะน้อยกว่านั้นอีก ภูเขาที่
อยู่ใจกลางเมืองไม่ได้ดูพิเศษอะไร มันต่างจากภูเขาที่เขาคิดภาพเอาไว้
มันยากที่จะคิดว่าสำนักคังเฉียงในตำนาน ตั้งอยู่บนยอดเขาลูกนี้และ
มีผู้บ่มเพาะจำนวนเพียงไม่กี่คนอยู่บนยอดเขานี้ด้วย
จางหยูไม่ได้สนใจอ้าวอู่เหยียน และเคลื่อนย้ายไปยังลานของสำนัก
จากนั้นเขาก็ส่งข้อความหาโอวเสินเฟิงและคนอื่น ๆ
ไม่นาน โอวเสินเฟิง, ซู่เหยียน, อู่ฉิงฉวนและคนอื่น ๆ ก็มารวมตัว
กัน นอกจากเฉินกูแล้ว อาจารย์และผู้ช่วยทุกคนต่างก็มารวมตัวกัน
ที่นี่ แม้แต่อู่ฉิงฉวนและโหวเทียนหมางก็ยังมาที่นี่ด้วย
หลังจากที่ทุกคนมารวมตัวกันที่ลาน พวกเขาก็หันไปสนใจอ้าวเยว่
และอ้าวอู่เหยียนกันทันที
ต้องบอกก่อนว่า อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนนั้นโดดเด่น ซึ่งยากที่จะ
มองข้ามพวกเขาได้
อ้าวอู่เหยียนเป็นองค์รัชทายาทของเผ่ามังกร เขาดูสูงส่งและสง่า
แม้ว่าจะยังไม่เติบโตเต็มที่ก็ตาม
อ้าวเยว่ไม่ต้องให้พูดอะไรมาก แค่หน้าตา, รูปร่าง ไม่ว่าจะเป็นด้าน
ไหนก็อยู่ในระดับสูงสุด แม้ว่านางจะยืนนิ่ง ๆ แต่ก็ทำให้ผู้คนหลงใหล
ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้านางแล้ว แม้แต่ซู่เหยียนที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนก็ยัง
รู้สึกร้อนรน นี่ยังนับคนอื่นอีกรึ ?
สายตาของทุกคนดูเหม่อลอยจับจ้องไปยังสองคนนี้
“ข้าเรียกพวกท่านมาก็เพื่อบอกพวกท่านเกี่ยวกับสองคนนี้ พวกเขา
เป็นอาจารย์ของสำนักคังเฉียง” จางหยูมองไปที่อ้าวเยว่และอ้าวอู่
เหยียน ก่อนจะแนะนำออกมา “นี่คือ อาจารย์อ้าวเยว่และอีกคนคือ
อาจารย์อ้าวอู่เหยียน จากนี้พวกท่านจะได้ร่วมงานกัน รู้จักกันไว้”
ตอนที่พูดนั้น จางหยูเห็นว่าอ้าวเยว่หน้าซีดลง เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัย
“ทำไมนางถึงอ่อนแอลงได้ ?”
อ้าวเยว่หน้าซีดและลมหายใจอ่อนแรง ราวกับว่านางบาดเจ็บหนัก
จางหยูจำได้ว่าเขายังไม่ทันได้ทำอะไรนางเลยไม่ใช่รึไง ?
“เด็กน้อย น้าเจ้าเป็นอะไรไป ?” จางหยูถามอ้าวอู่เหยียนด้วยการส่ง
ข้อความ
อ้าวอู่เหยียนยิ้มและตอบกลับมา”ท่านน้าใช้พลังวิญญาณไปมากตอน
ที่สู้กับท่านที่เมืองอู่อัน รวมถึงยังใช้การเคลื่อนย้ายมาอย่างต่อเนื่อง
อันที่จริงแล้วท่านน้า …นิสัยของนางดูแข็งกร้าว แต่จริง ๆ แล้วข้าง
ในนั้น ข้ากลัวว่ามันจะเปราะบาง แต่นางก็ไม่คิดที่จะให้ใครมาช่วย
หรือเห็นใจ”
จริง ๆ แล้วเขาอยากค้อนกลับไปว่า “ผู้อาวุโส ท่านจะรีบไปไหน หาก
ไม่ใช่ว่าเพราะรีบตามท่านมา ท่านน้าจะมีสภาพแบบนี้ได้ยังไง ?”
นี่ไม่ต้องพูดถึงอ้าวเยว่เลย แม้แต่อ้าวอู่เหยียนนั้นก็ยังอยู่ในสภาพแย่
อย่างมาก
เพื่อที่จะตามจางหยูให้ทัน พวกเขาได้ทุ่มเทไปอย่างมาก ถึงจะแบบ
นั้นก็ยังตามหลังจางหยูอยู่ไกล หากจางหยูหยุดรอดูพวกเขาบ้าง
พวกเขาคงไม่มีสภาพเป็นเช่นนี้
เคลื่อนย้ายพริบตาเหมือนกัน แต่ทักษะที่อ้าวเยว่กับอ้าวอู่เหยียนมี
นั้นไม่อาจจะเทียบกับเคลื่อนย้ายพริบตาของจางหยูได้ !
แม้ว่าในใจจะด่าออกมา แต่อ้าวอู่เหยียนก็ไม่กล้าที่จะด่าจางหยูออกมา
ตามที่ใจคิด ถึงในใจเขาจะบ่นแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าจะพูดมันออกมา
“ผู้หญิงคนนี้” จางหยูมองไปที่อ้าวเยว่ และอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
“หยิ่งในศักด์ิศรีจริง ๆ”
จางหยูเคยเจอกับผู้หญิงมาหลายคน แต่คนที่ดูเย่อหยิ่งแบบอ้าวเยว่
นั้นไม่เคยมีมาก่อน ผู้หญิงคนนี้หยิ่งจนเข้าถึงกระดูก นางยอมตาย
ดีกว่าต้องยอมแพ้ให้กับใคร นางเป็นคนที่น่าชื่นชม
ความแข็งแกร่งของอ้าวเยว่ จางหยูได้รับรู้ด้วยตัวเองมาแล้ว เขาต้อง
ยอมรบว่านางแข็งแกร่งจริง ๆ ไม่ได้แย่กว่าราชามังกร การจะบอกว่า
นางคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดโลกก็คงไม่เกินไป ในโลกที่มีแต่ผู้บ่มเพาะ
ผู้ชาย แต่อ้าวเยว่กลับก้าวขึ้นมาในระดับสูงสุดนี้ได้ ก็แสดงให้เห็น
แล้วว่านางต้องทุ่มเทและผ่านความยากลำบากมามากแค่ไหน นาง
น่าชื่นชมจริง ๆ
จางหยูละลายตาและบอกกับโอวเสินเฟิง และคนอื่น ๆ “พวกท่าน
แนะนำตัวให้อาจารย์ใหม่ทั้งสองได้รู้จักสิ”
โอวเสินเฟิง, ซู่เหยียน, อู่ฉิงฉวน และคนอื่น ๆ มองหน้ากัน ซู่เหยียน
เป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา “ข้า ซู่เหยียน อยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นต่ำ ยินดี
ที่ได้พบ !”
ซู่เหยียนอยู่ขอบเขตตุ้นซวนไม่ได้ถ่อมตัว เขาดูมั่นใจในตัวเอง
อ้าวเยว่ไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ ตอบกลับ
อ้าวอู่เหยียนแค่พยักหน้าให้เล็กน้อยและพูดทักทาย
ชัดแล้วว่าสำหรับซู่เหยียนแล้ว ท่าทีของสองคนนี้ดูเย็นชาไปหน่อย
“สวัสดี ข้า โอวเสินเฟิง เป็นอาจารย์ ตอนนี้อยู่ขอบเขตหลี่ซวนขั้น
สูง” โอวเสินเฟิงพูดออกมาด้วยท่าทีสำรวม “เพราะเหตุผลบางอย่าง
ข้าได้ตายไปแล้วหลายปี แต่วิญญาณไม่ได้สลายไปด้วย หลังจากที่
ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าสำนัก วิญญาณข้าก็เสถียรขึ้นและคงร่าง
นี้ไว้ พวกท่านจะเรียกข้าว่าวิญญาณหรือผีก็ได้”
ผี !
ผีในตำนาน !
อ้าวอู่เหยียนมองไปที่โอวเสินเฟิงด้วยความแปลกใจ แม้ว่าอีกฝ่ายจะ
อ่อนแอ แต่ร่างวิญญาณก็ทำให้อ้าวอู่เหยียนแปลกใจอย่างมาก เขา
สนใจโอวเสินเฟิงยิ่งกว่าซู่เหยียน ยังไงซะก็มีคนขอบเขตตุ้นซวนขั้น
ต่ำมากมายในเผ่ามังกร หลังจากที่มายังโลกมนุษย์แล้ว เขาก็รับรู้ได้
ว่ามีพวกขอบเขตตุ้นซวนนั้นมีกันอยู่หลายคน มีแค่ผีในตำนานเท่านั้น
ที่เขาพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
“เจ้าสำนักผู้ลึกลับ, ราชาสัตว์อสูร, ผีในตำนาน…สำนักคังเฉียงเล็ก ๆ
นี่มีความลับมากแค่ไหนกัน ?” อ้าวเยว่เครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ
โอวเสินเฟิงไม่ได้สนใจสายตาประหลาดของอ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียน
สายตาแบบนี้เขาเจอมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เขาเฉยชากับมัน เขาจะ
ไปสนใจมันได้ยังไง ?
หลังจากที่โอวเสินเฟิงแนะนำตัวเสร็จก็ถึงตา อู่ฉิงฉวน,โหวเทียน
หมาง, หลินจื้อเป่ ยและคนอื่น ๆ
หลังจากที่ทุกคนแนะนำตัวกันเสร็จ อ้าวอู่เหยียนก็ถามอู่ฉิงฉวนด้วย
ความตื่นเต้น “เจ้า…ท่านเป็นปรมาจารย์กำหนดอาหาร 6 ดาวรึ ?”
น้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นอย่างมาก คำว่าเจ้าในตอนแรกถูกเปลี่ยนเป็น
ท่าน เพื่อแสดงความเคารพต่ออู่ฉิงฉวน
“เอ่อ…” อู่ฉิงฉวนตกใจและพยักหน้าตอบรับ “ใช่”
“ยอดเยี่ยม !” อ้าวอู่เหยียนดีใจอย่างมาก เขาได้ยินชื่อของปรมาจารย์
กำหนดอาหารมาในร้านเทียนอันและที่ร้านอู่อันด้วย บอกได้ว่าอาหาร
ที่ทำขึ้นโดยพวกปรมาจารย์กำหนดอาหารนั้นดีอย่างมาก หากเทียบ
กับร้านทั่วไป อาหารที่พวกนี้ทำคงอร่อยกว่าเป็นสิบเป็นร้อยเท่า
อาหารขั้นที่ 6 ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นของระดับสูงในหมู่อาหาร มันคือ
อาหารที่ดีที่สุดในโลก ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบ
อื่น ๆ ด้วย ผลของอาหารไม่ได้ด้อยไปกว่าสมบัติสวรรค์เลย
อ้าวอู่เหยียนคิดเสมอว่าอยากรู้จักปรมาจารย์ด้านอาหาร 6 ดาว แต่
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้ตามฝันเมื่อมายังสำนักคังเฉียงแห่งนี้
อ้าวอู่เหยียนมองไปที่อู่ฉิงฉวน และคิดว่าชายคนนี้คือคนที่น่ารัก
ที่สุดในโลก !
เขาอดไม่ได้ที่จะต่อว่าจางหยู “หากผู้อาวุโสบอกข้าว่าสำนักคังเฉียง
มีปรมาจารย์กำหนดอาหาร 6 ดาว ข้าคงพาท่านน้ามาเข้าร่วมสำนัก
คังเฉียงตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมต้องทำให้เรื่องยุ่งยากด้วย ? นี่ไม่ต้อง
พูดถึงปรมาจารย์กำหนดอาหาร 6 ดาวเลย แค่ระดับ 5 ดาวก็เพียงพอ
ให้ข้าเข้าร่วมสำนักคังเฉียงได้แล้ว !”
หากนำจางหยูกับอ้าวเสี่ยวหร่านมาเทียบ อ้าวอู่เหยียนนี่แหละนักกิน
ตัวจริง เขามองข้ามทุกอย่างได้เลย
แม้ว่าจะต้องขายน้าตัวเองแต่เขาก็ไม่ลังเล !
อู่ฉิงฉวนไม่เข้าใจว่า ทำไมอ้าวอู่เหยียนถึงได้ดูตื่นเต้นนัก แต่เขาก็
ดีใจที่ถูกนับถือโดยอาจารย์คนใหม่ ด้วยการที่จำนวนอาจารย์เพิ่ม
ขึ้นมา เขาในฐานะพ่อครัวก็จะได้รับผลกระทบอย่างมาก แม้ว่าจะ
ไม่ได้รับผลโดยตรงแบบโอวเสินเฟิง แต่มันก็ต้องกดดันยิ่งกว่าแต่
ก่อน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาหวังว่าจะได้ผูกมิตรกับคนอื่น ๆ
เอาไว้
“เจ้าสำนัก ท่านช่วยบอกระดับการบ่มเพาะของสองคนนี้จะได้
หรือไม่ ?” ซู่เหยียนถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
เขามองระดับการบ่มเพาะของอ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนไม่ออก แม้ว่า
ทั้งสองจะดูเด็ก โดยเฉพาะอ้าวอู่เหยียนซึ่งเหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วไป
แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงความอันตรายจากทั้งคู่ ชัดแล้วว่าทั้งสองไม่ธรรมดา
ที่สำคัญที่สุดคือ ซู่เหยียนรู้สึกว่าอ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนเย็นชาต่อ
เขาอย่างมาก ดูเหมือนว่าในสายตาของทั้งคู่แล้ว เขากับหลินจื้อเป่ ย
และพวกขอบเขตหลี่ซวนคนอื่น ๆ ไม่ได้ต่างอะไรจากมดเลย
เขาไม่ได้โกรธ ยังไงซะว่าภายนอกเขาจะดูเป็นชายวัยกลางคน แต่
อายุจริง ๆ ของเขานั้นไม่ใช่น้อย ๆ เขาเลยวัยที่จะต้องมาโกรธกับ
เรื่องแบบนี้แล้ว แม้ว่าท่าทีของอ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียนจะทำให้เขา
อึดอัด แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเพราะเรื่องนี้
“ระดับการบ่มเพาะรึ ?” จางหยูมองไปที่อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียน
ก่อนจะพูดขึ้น “ตามขอบเขตแล้ว พวกเขาอยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้น
สมบูรณ์ ผู้คนเรียกพวกเขาว่ายอดฝีมือ….ระดับสูงสุด !”
ยอดฝีมือระดับสูงสุดถึงสองคนมาเป็นอาจารย์ !
ซู่เหยียน, อู่ฉิงฉวน, โอวเสินเฟิง…ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง และมอง
ไปยังทั้งสองคนด้วยความตะลึง
พวกเขาคิดไม่ถึงกันจริง ๆ ว่า อาจารย์ใหม่ทั้งสองจะเป็นยอดฝีมือ
ระดับสูงสุด !
ในเวลาเดียวกัน อ้าวอู่เหยียนก็แสดงท่าทีออกมา “เดี๋ยวนะ ผู้อาวุโส
ท่านเรียกเขาว่า…เจ้าสำนักรึ ?”
อ้าวอู่เหยียนตะลึง
ชายหนุ่มที่ดูร้ายกาจผู้นี้ คือเจ้าสำนักลึกลับที่พวกเขาตามหา !
อ้าวเยว่เองก็ตะลึง สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความสับสน “ชายคนนี้
คือเจ้าสำนักของสำนักคังเฉียงรึ ?”
“ข้าขอแนะนำตัว ข้า จางหยู เจ้าสำนักของสำนักคังเฉียง” จางหยูยิ้ม
ออกมา “พวกท่านเรียกข้าว่า….เจ้าสำนักก็ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก