หลังไล่พวกอันหลินออกไปแล้ว ประตูของสถาบันวิจัยก็ปิดลงอีกครั้ง สภาพด้านในกลับสู่ความเงียบสงัด
ฝ่ามือของไป๋หลิงยังคงซ่อมแซมลูกบอลสีดำ ใบหน้าฉายความอ้างว้าง “ศูนย์วิจัยสายเลือดของสิ่งมีชีวิต จะแสดงคุณค่าของการดำรงอยู่ได้ด้วยวิธีนี้วิธีเดียวหรือ ช่างเป็นความน่าเสียดายที่น่าเศร้าเสียจริง…”
“ผู้ทดสอบกลุ่มต่อไป ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อใด”
“แต่ทว่า…แม้จะมีคนใหม่มาเยือน ก็คงจะไม่มีผู้ทดสอบที่น่าสนใจเช่นนั้นอีกแล้วกระมัง”
จากนั้น นางก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงป้องปากขำ มีรอยยิ้มน่าหลงใหลปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย็นเยือกดุจน้ำแข็งละลาย
เพียงแต่ว่า ภายในศูนย์วิจัยมืดมนและเงียบสงัดแห่งนี้ ไม่มีใครมองเห็นฉากนี้
พวกอันหลินถูกพลังมหาศาลซัดออกไป พุ่งออกจากผิวน้ำ ตกลงบนทุ่งหญ้าข้างทะเลสาบ
ลั่วจื่อผิงพ่นหญ้าที่เผลอกินเข้าไปออกมา ชมเปาะว่า “พี่อัน คราวนี้ข้าสะใจจริงๆ! เจ้าไม่ได้ทำให้ไป๋หลิงปิดประตูไล่แขกเท่านั้น แต่ยังทำให้นางไล่ตะเพิดพวกเราออกมาอีก เยี่ยมสุดๆ ไปเลย!”
อันหลินกระตุกมุมปาก สหายลั่วชมเขาเหรอเนี่ย
“อา…แต่อากาศข้างนอกช่างดีเสียจริง ผ่อนคลายไปทั้งตัวเลย!” จงหย่งเหยียนนอนแผ่บนพื้นหญ้า แหงนหน้ามองผืนฟ้า สูดหายใจอย่างสบายอกสบายใจ
“อีกอย่างครั้งนี้พวกเราก็ได้ประโยชน์กันมากเลยไม่ใช่หรือ” เหมียวเถียนหรี่ตา พูดพลางยิ้มหวานหยดย้อย
ทุกคนได้ยินก็พยักหน้ายิ้มๆ ใบหน้าฉายความพึงพอใจ
การสืบทอดสายเลือดสุดท้ายนั่น…มีประโยชน์มากจริงๆ!
มีเพียงอันหลินคนเดียวที่ใบหน้ามีแต่ความเสียดาย
ข้อมูลการถ่ายทอดหยุดชะงักกลางคัน ราวกับพูดอยู่ดีๆ ก็หยุดลง ช่างอึดอัดใจเหลือเกิน
เฮ้อ หลังตัวนิ่มพูดอะไรกันแน่!
ใต้ทะเลสาบเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง มังกรยักษ์ตัวหนึ่งพุ่งตัวออกมา มองพวกอันหลินอย่างประหลาดใจ
มันกลายร่างเป็นชายวัยกลางคนอีกครั้ง เดินมาหยุดตรงหน้าพวกอันหลิน
“สหายอันหลิน พวกเจ้าออกมาได้อย่างไร” ชายคนนั้นเพ่งมองทุกคน ซ้ำยังขยี้ตาด้วย
อันหลินยิ้มขมขื่น “พวกข้าถูกไล่ตะเพิดออกมา เหมือนว่าเจ้าของข้างในจะไม่ค่อยชอบพวกข้า จึงผลักพวกข้าออกมา”
ชายคนนั้นอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสีหน้าของทุกคนจริงจัง ดูไม่เหมือนว่าโป้ปด สุดท้ายก็ทำได้แค่เค้นเสียงออกมา “มีแบบนี้ด้วยหรือ พวกเจ้าทำเรื่องขาดสติอะไรลงไปกันแน่!”
ตั้งแต่ที่เขาดูแลทะเลสาบเมฆขาวแห่งนี้ ไม่เคยเห็นนักพรตกลุ่มไหนที่เข้าไปในโบราณสถานแล้วถูกขับไสไล่ส่งออกมาเช่นนี้เลย
อันหลินทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ เขาไม่กล้าพูดจริงๆ ว่าทำอะไรในนั้นไปบ้าง
ชายคนนั้นเห็นเขาไม่อยากพูด จึงเบี่ยงประเด็นไปยังเรื่องที่เขาสนใจที่สุด “มีใครในพวกเจ้าที่ได้รับการสืบทอดหรือไม่”
ทุกคนสบตากันแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า
ชายคนนั้นกะพริบตาปริบๆ “หมายความว่าอย่างไร”
“หมายความว่าได้รับการสืบทอดทั้งหมดอย่างไรเล่า” อันหลินตอบ
“ได้รับการสืบทอดทั้งหมดเลยหรือ!” เขามังกรของชายผู้นั้นตั้งขึ้น ทำท่าไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่เพียงเท่านี้ ซุนเซิ่งเหลียนกับเสี่ยวหงได้รับการสืบทอดตั้งสองครั้ง” อันหลินเบะปาก
หากไม่ใช่เพราะชายคนนี้เป็นคนที่พาพวกเขาเข้าไปในโบราณสถาน เขาก็คร้านจะคุยกับชายคนนี้
“คุณพระ! นี่ข้าฝันไปหรือ เจียงอันหลานคนนี้ได้เห็นเหตุการณ์ที่สมาชิกได้รับการสืบทอดทุกคนกับตางั้นหรือ!” เจียงอันหลานทั้งตะโกนและหัวเราะอย่างตื่นเต้นดีใจ
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คิดในใจว่าชายคนนี้เป็นอะไรกัน ระริกระรี้เหลือเกิน
“พวกเจ้าผ่านการทดสอบที่มีอัตราการรอดเป็นศูนย์ใช่ไหม” จู่ๆ แววตาของเจียงอันหลานก็เป็นประกายยิ่งกว่าเจ้าอัปลักษณ์เสียอีก
ทุกคนพยักหน้า
“ระหว่างที่รับการสืบทอด สมองของพวกเจ้ามีข้อมูลเพิ่มมาใช่หรือไม่” เจียงอันหลานหายใจถี่กระชั้น
ทุกคนสบตากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า
“ฮ่าๆ ๆ ยอดไปเลย ฮ่าๆ ๆ!” เจียงอันหลานทั้งโห่ร้องและหัวเราะ แถมยังกระโดดโลดเต้น
มุมปากของอันหลินกระตุก “เขาบ้าไปแล้วหรือ”
สมาชิกทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม