ณ ยอดเขาเมฆา ที่นี่มีดอกท้อบานสะพรั่ง แสงแดดอบอุ่น
หลินจวิ้นจวิ้นบิดขี้เกียจหลังจากวาดภาพต่อเนื่องมาหลายชั่วยาม
นางเหยียดหลังตรง ชุดสีขาวนวลรัดแน่น วาดเค้าโครงอันสมบูรณ์แบบ
ในขณะนั่นเอง ยันต์ส่งจิตของนางก็สั่นขึ้นมา
“อืม มีเรื่องอันใด”
นางเชื่อมต่อกระแสจิต เสียงทุ้มของบุรุษดังมาจากยันต์ส่งจิต “ใต้เท้าเทียนอวี่ ผู้ทดสอบกลุ่มนั้นกลับมากันหมดแล้ว มิหนำซ้ำ พวกเขาได้รับการสืบทอดจากโบราณสถานด้วย!”
หลินจวิ้นจวิ้นได้ยินก็ชะงัก จากนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความปีติยินดี
นางเข้าใจดีว่าได้รับการสืบทอดจากโบราณสถานทุกคน มันหมายความว่าอะไร
“เร็ว รีบพาพวกเขามา!” หลินจวิ้นจวิ้นพูดอย่างดีใจ
“ใต้เท้าเทียนอวี่ ข้ารออยู่นอกค่ายกลแล้ว” เจียงอันหลานกล่าว
หลินจวิ้นจวิ้นได้ฟังก็เปิดค่ายกลอย่างไม่ลังเล
เธอหยุดคิดครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าการต้อนรับแขกคนสำคัญเช่นนี้จะยิ่งใหญ่ไม่พอ
ดังนั้นนางจึงสะบัดอาภรณ์
ทันใดนั้น ดอกท้อก็ปลิวว่อนกระจัดกระจาย
ราวกับมีแสงตะวันแดงฉานอันฉูดฉาดที่สุดลอยไปรอบๆ ยอดเขา
นี่เป็นฉากที่นางโปรดปรานที่สุด ใช้ต้อนรับแขกเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมไม่มีสิ่งใดเทียบ
ใช่แล้ว นางอยากสร้างความประทับใจแรกอันดีงามแก่วีรบุรุษเหล่านี้
จากนั้น หลินจวิ้นจวิ้นก็ลุกขึ้นไปต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
มังกรยักษ์แผดเสียงทลายเมฆหมอก เหาะขึ้นสู่ยอดแห่งเขาเมฆา
นางเห็นแขกคนสำคัญที่นางจะต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่แล้ว
ใบหน้าอันแสนคุ้นเคย บุคคลที่ปลุกความทรงจำดุจฝันร้ายของนาง…
หลินจวิ้นจวิ้นนิ่งงัน
นางลืมไปแล้วว่าควรทำอะไรบ้างในฐานะเจ้าภาพ ยืนอึ้งอยู่ที่เดิมอย่างนั้น ในใจเหมือนมีฝูงสัตว์นับหมื่นตัววิ่งห้อผ่านไป
มังกรยักษ์กลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง พวกอันหลินเริ่มลอยลงมาบนพื้น
เจียงอันหลานเห็นหลินจวิ้นจวิ้นยืนอึ้ง ก็อดชะงักไม่ได้ แต่เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่ดึงอันหลินมายืนตรงหน้าหลินจวิ้นจวิ้น “ใต้เท้าเทียนอวี่ สหายอันหลินกลับมาจากโบราณสถาน จู่ๆ ก็รู้สึกไม่สบาย ขอให้ใต้เท้าช่วยรักษาด้วยเถอะ”
หลินจวิ้นจวิ้นตื่นจากภวังค์ ดวงตาสุกใสคู่นั้นมองอันหลินที่กำลังยิ้มประจบ ท่าทางเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดอย่างมีเลศนัยว่า “อ้อ สหายอันหลินไม่สบายหรือ ดีเลย ข้าจะตรวจวินิจฉัยให้”
ขณะที่พูด นางก็ยื่นมือขาวไปหาอันหลิน
อันหลินตกใจจนขนลุกชูชัน พูดอย่างตกใจว่า “ไม่ต้องหรอกๆ! จู่ๆ ข้าก็รู้สึกดีขึ้นมาเฉยเลย ไม่ปวดเอวแล้ว ไม่เจ็บขาแล้วด้วย!”
เขารำมวยโชว์ระหว่างที่พูดไปด้วย
เจียงอันหลานเบิกตากว้าง “สหายอันหลิน เจ้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆ หรือ”
“ไม่เป็นไรแล้ว กระปรี้กระเปร่าดีเชียวล่ะ!”
อันหลินฝืนเรียกขวัญและกำลังใจ มวยที่รำนั้นเรียกได้ว่าน่าเกรงขาม
“ข้าคิดว่าหัวหน้ามีหายนะดอกท้อแน่ๆ” จงหย่งเหยียนโบกพัด พูดเสียงเรียบ
พวกเหมียวเถียนต่างก็พยักหน้าจริงจัง
พวกเขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นสีหน้าหวั่นวิตกของหัวหน้ากลุ่ม รวมถึงท่าทางหน้าเนื้อใจเสือของเทพธิดาเทียนอวี่ ก็เดาได้ทันทีว่าหัวหน้าอาจจะสร้างเรื่องไว้ตอนที่มากระโดดหน้าผา
เหมียวเถียนทำท่าเหมือนนึกอะไรออก จึงกอดแขนของเจ้าอัปลักษณ์ไว้แน่น “พี่อัปลักษณ์ ประเดี๋ยวหากถูกขับไล่ เจ้าต้องพาข้าเหาะนะ มิเช่นนั้นข้าต้องตายเป็นแน่!”
ใช่แล้ว นิสัยอย่างอันหลิน เป็นไปได้สูงนักว่าพวกเขาจะถูกเนรเทศ
ถูกไป๋หลิงขับไล่ยังดี พวกเขาเพียงแค่นอนแอ้งแม้งกินหญ้าบนพื้น
แต่หากถูกเทพธิดาเทียนอวี่เนรเทศละก็…
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม