เมื่อเห็นพวกเขาหนีออกจากค่ายกลทีละคน ชายขาวดำจึงบันดาลโทสะ
เขาตระหนักได้ว่าตนรั้งทุกคนไว้ไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจว่าจะรั้งไว้ให้ได้สักคนสองคน!
“อัสนีบงกชสีชาด!”
ชายหนุ่มเงื้อมมือแล้วฟาดลงไป ดอกบัวสีแดงฉูดฉาดงดงามเบ่งบานบนเส้นทางที่พวกหวังเสวียนจ้านต้องผ่าน
เมื่อทุกคนเพ่งมอง ความจริงแล้วบงกชสีชาดก่อตัวจากกระแสไฟสีแดง กระจายคลื่นพลังงานอันน่ากลัว
ด้านหน้าเป็นอัสนีบงกชสีชาด ด้านหลังเป็นชายขาวดำที่กำลังไล่กวด จำต้องเลือกภายในพริบตา
หวงส่านใช้วิชาต้องห้าม ร่างกายเป็นดุจกระบี่อัสนีสีทอง รวดเร็วอย่างยิ่ง ไม่อาจตามฝีเท้าของเขาได้ทัน
หวังเสวียนจ้านกับชิงจือเลือกที่จะหยุด ใช้พลังเซียนระยะไกลขัดขวางการไล่ล่าของชายขาวดำ
ตูม!
การระเบิดของดอกบัวสีแดง ทำให้สายฟ้าที่เจือกลิ่นอายของความประหลาดและความบริสุทธิ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงปกคลุมหวงส่านตั้งแต่หัวจรดเท้า พุ่งสูงนับร้อยจั้งทันใด อานุภาพที่บ้าระห่ำอย่างที่สุดทำให้ทุกสรรพสิ่งที่สัมผัสเกรียมและละลาย…
หวังเสวียนจ้านวิ่งตรงไปที่ช่องโหว่ทันทีที่ระเบิด
ชายขาวดำขว้างสายฟ้าเส้นหนึ่งออกมา ฟาดมาทางเขาประหนึ่งเป็นกระบี่คม พยายามขัดขวางการฝ่าวงล้อมของเขา
ใครจะรู้ว่าหวังเสวียนจ้านกลับไม่สนใจสายฟ้าเส้นนั้น ทุ่มเทกำลังทั้งหมดกับการพุ่งชน กระแสไฟทิ่มแทงเกล็ดมังกร ทะลวงร่างกายของเขา ทำให้อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย กระอักเลือดออกมา แต่ความเร็วยังคงไม่ลดละ ใช้ความเฉื่อยพุ่งออกจากช่องโหว่
ส่วนชิงจือใช้วิชาต้องห้ามคุ้มกันตน ชั่วขณะที่พลังโรยราอย่างแสนสาหัสนั้น ม่านแสงสีทองเป็นเหมือนกระดองเต่า สายฟ้าและใบมีดลมทลายไม่ได้ พุ่งออกจากช่องโหว่ไปด้วยเช่นกัน
หวงส่านกลับเป็นคนสุดท้ายที่ตั้งสติได้ มันประเมินอานุภาพของอัสนีบงกชสีชาดต่ำไป ถูกระเบิดกระแทกจนกลิ้งหลุนๆ เนื้อตัวเหวอะหวะ พอได้สติกลับมา มันก็ตามหลังหวังเสวียนจ้านกับชิงจือแล้ว
ไม่พิรี้พิไร มันระเบิดความเร็วพุ่งไปทางช่องโหว่ด้วยความเร็วทั้งหมด
หวังเสวียนจ้านกับชิงจือออกมาแทบจะไล่เลี่ยกัน
“โธ่!”
หลิวเชียนฮ่วนอุทานขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นฉากนี้ จากนั้นก็ล้มลงช้าๆ ราวกับเป็นก้านหลิวอ่อนเปลี้ย เรือนร่างที่มีทรวงทรงองค์เอวนอนแผ่หราอยู่บนพื้น หายใจรวยริน ท่าทางน่าอาดูร
นางทำปากคว่ำพูดเสียงละห้อยว่า “ไม่มีแรงแล้ว…”
ไม่มีคนคอยควบคุมช่องโหว่ไว้ พลังขัดขวางที่ฟื้นฟูด้วยตัวเองของค่ายกลว่างเปล่าทันใด
เมื่อค่ายกลถูกยับยั้งนานเกินไป ยามฟื้นฟูจึงแฝงพลังสะท้อนกลับ ฟื้นฟูช่องโหว่ในชั่วอึดใจ ทุกคนแทบจะตั้งตัวไม่ทันเลยสักนิด
“พับผ่าสิ!”
นี่เป็นเสียงคำรามสุดท้ายของหวงส่านที่ดังออกมาจากข้างใน
สายฟ้าสีทองชนกับกำแพงค่ายกลเข้าอย่างจัง เกิดเสียงดังกึกก้อง…
“หวงส่าน!”
หงโต้วกับตงเยี่ยนต่างก็อุทานดังลั่น ใช้เวทมนตร์โจมตีตำแหน่งที่เคยเป็นช่องโหว่กันพัลวัน
เสียงระเบิดดังไม่ขาดสาย ขณะที่พลังงานซัดสาดนั้น ตาข่ายวายุสายฟ้าเพียงแค่กระเพื่อมเบาๆ ไม่มีทีท่าว่าจะพังทลายเลยสักนิด
ตาข่ายหนาแน่นบดบังทัศนวิสัย พวกมันไม่อาจรับรู้สถานการณ์ภายในได้ แต่ไม่ว่าใครก็ย่อมรู้ว่า สถานการณ์ในตอนนี้อันตรายอย่างยิ่ง!
“เจ้ารีบเปิดช่องโหว่จากข้างนอกสิ!” หงโต้วตะคอกอันหลินอย่างโกรธเกรี้ยว
ตอนนี้ก็มีแค่อันหลินคนเดียว ที่สามารถหาโอกาสให้หวงส่านได้
ความเย้ยหยันฉายวาบในแววตาของอันหลิน นอนแผ่หลาหายใจหอบอยู่บนพื้น โบกมืออย่างไร้เรี่ยวแรง “ไม่มีแรงแล้วพี่หงโต้ว”
หงโต้วมองอันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนที่นอนแอ้งแม้งเหมือนปลาเค็ม ทรวงอกระเบิดทันที พูดเสียงสั่นเครือว่า “พวก…พวกเจ้าจงใจชัดๆ!”
อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนไม่สนใจมัน ลอบกำหนดลมหายใจ ฟื้นฟูพลังปราณของตน
ผู้คนที่อยู่นอกค่ายกล ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน แต่ในจัตุรัสฟ้าคราม หลายหมื่นชีวิตที่ได้ชมศึกระดับความละเอียดสูง กลับเห็นท่าทางอันน่าสังเวชของหวงส่าน
เสียงหวีดร้องของหวงส่านดังไม่ขาดสาย ทั้งๆ ที่เป็นผู้แข็งแกร่งด้านพลังอัสนี กลับถูกชายขาวดำใช้พลังสายฟ้าย่ำยีจนหมดสภาพสิ้นดี…
ชายขาวดำฉุนเฉียวมาก คนหนีออกไปได้มากมายขนาดนี้ จับได้เพียงคนเดียว ย่อมระบายอารมณ์กับสิ่งมีชีวิตตนนี้
“กระบี่วิหควายุ!”
“อ๊าก…”
“หอกอัสนีทลายอนธการ!”
“อ๊าก…”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม