หุบเหวหมื่นกาลีก็เป็นเหมือนกับบาดแผลขนาดใหญ่ของแผ่นดินบรรพกาล
มันทอดยาวนับพันลี้ ลึกไม่รู้ตั้งเท่าใด เป็นเหมือนร่องน้ำธรรมชาติขวางกั้นแดนจิ่วโจวกับผืนทรายขาว
แต่ไม่กี่วันมานี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว
จู่ๆ ก็มีหมอกดำทะมึนลอยขึ้นจากหุบเหวอย่างต่อเนื่อง พวกมันก่อตัวเป็นสะพาน สะพานนี้แม้จะถูกทำลาย หมอกดำก็จะรวมตัวกันใหม่อีกครั้ง
สะพานหมอกทมิฬทำให้สองเผ่าพันธุ์มีการเชื่อมต่อกันเป็นครั้งแรก ราวกับเผ่าพันธุ์มดวางแผนมาล่วงหน้า ก่อตัวเป็นฝูงมดยักษ์ฝูงแล้วฝูงเล่า มุ่งหน้าสู่แดนจิ่วโจว
นอกจากดินแล้ว พวกมันกินทุกอย่าง ทุกหนแห่งที่ผ่านเหี้ยนเตียนอย่างแท้จริง กลายเป็นที่ว่างเปล่าปราศจากทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง เพียงไม่กี่วัน แปดสิบกว่าเมืองในแคว้นเทียนเหอก็ล่มสลาย มนุษย์ที่ตายในปากมดยักษ์มีร่วมหลายสิบล้าน
เพื่อปราบปรามหายนะของเผ่าพันธุ์มดครานี้ ท้าววิรุฬหกผู้พิทักษ์ทางใต้ของแดนจิ่วโจว[1] นำทัพขุนพลสวรรค์สองหมื่นนายมุ่งหน้าสู่แดนทรายขาว เพื่อปราบปรามหายนะของเผ่าพันธุ์มดทันใด
ผู้ที่ติดตามเขามีขุนพลสวรรค์ทั้งแปดใต้บัญชาเขาอย่างหลิวจวิ้น สวินเหล่ยจี๋ ผางอวี้ ปี้จงหยวน เติ้งป๋อเวิน ซินฮั่นเฉิน จางหยวนป๋อและเถาหยวนซิ่น
พวกเขาเดินเข้าไปในแดนทรายขาวของเผ่าพันธุ์มดแล้ว ยังไม่ทราบสถานการณ์รบที่แน่ชัด
เพราะความโกลาหลในครั้งนี้ การทดสอบประจำปีของนักศึกษาชั้นปีที่สองของสรวงสวรรค์ ภารกิจจึงกลายเป็นปกป้องหุบเหวหมื่นกาลี การทดสอบครั้งนี้ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน อันตรายอย่างยิ่ง แม้จะมีอาจารย์ที่ปรึกษาของแต่ละห้องนำทัพ แต่เรื่องที่นักเรียนบาดเจ็บล้มตายก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ดี
นักเรียนที่มีพลังต่อสู้ค่อนข้างสูงอย่างอันหลิน จำเป็นจะต้องทำภารกิจพิเศษด้วย…
“ข้าจะส่งพวกเจ้าถึงตรงนี้”
อิฐดำลอยลงมา อันหลินยิ้มอำลาหลิวหู่กับหลิวซู่ซู่
“ผู้อาวุโสอันหลิน ท่านไม่เข้าไปพบผู้อาวุโสท่านนั้นหรือ” หลิวซู่ซู่เอ่ยถามอย่างฉงน
อันหลินมองป้อมป้องกันที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว รวมถึงสะพานหมอกดำที่ทอดขวางผืนแผ่นดินทั้งสอง สะพานหมอกดำเช่นนี้ ไม่รู้มีตั้งเท่าใดในหุบเหวกาลี
เขายิ้มบางๆ แล้วตอบว่า “ตอนนี้มีภารกิจติดพัน ผ่านศึกนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ผู้อาวุโสอันหลิน…เราจะมีโอกาสได้พบกันอีกไหม”
หลิวซู่ซู่ก้มหน้าเล็กน้อย ถามด้วยความขี้ขลาดและหงอยเหงา
ความรู้สึกของหญิงสาวมักจะซ่อนเร้นได้ยาก ยามนี้ต่อให้เป็นคนที่ไม่ละเอียดอย่างอันหลิน ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่เจือความอาลัยของหญิงสาว
“เอ่อ…ต้องพบกันอีกแน่นอน อืม ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง ยกให้พวกเจ้าไว้ป้องกันตัวก็แล้วกัน!” อันหลินหยิบกระบี่สีทองวาวระยับออกจากแหวนมิติ ยื่นให้หลิวซู่ซู่
เห็นได้ชัดว่าหลิวซู่ซู่คิดไม่ถึงว่าอันหลินจะมอบอาวุธให้นางก่อนอำลาจาก ปากจิ้มลิ้มเผยอเล็กน้อย ถือกระบี่อึ้งๆ จ้องอันหลินตาไม่กะพริบ แลดูทั้งตกใจและน่ารัก
กลับเป็นหลิวหู่ที่ได้สติ เขารู้ว่าอาวุธที่ยอดฝีมืออย่างอันหลินมอบให้นั้นมีค่ามหาศาลปานใด หลิวซู่ซู่ให้คำนับขอบคุณอีกครั้งด้วยความปลาบปลื้มใจ
กระบี่เล่มนั้นเป็นกระบี่แก้วทอง ศาสตราวุธชั้นสูงที่อันหลินใช้เป็นประจำ แม้แต่ในสำนักความร่วมมือบำเพ็ญเซียนที่มีอัจฉริยะชูสลอน ก็นับว่าเป็นอาวุธดีทีเดียว
แต่ตอนนี้อันหลินมีกระบี่พิชิตมารแล้ว ยากจะได้พบกัน มอบกระบี่ให้ผู้หญิงเป็นการผูกมิตร ก็รู้สึกไม่เลวเหมือนกัน
“ไม่ต้องเกรงใจ ตั้งใจบำเพ็ญเพียร แล้วเราจะพบกันใหม่” อันหลินยกมือลูบศีรษะของหลิวซู่ซู่ ปล่อยท่าไม้ตายลูบหัว
หลิวซู่ซู่ไม่ขัดขืน แต่ก้มหน้าน้อยๆ ขานรับในลำคอด้วยใบหน้าแดงก่ำ
อันหลินที่สวมบท ‘ผู้อาวุโส’ จนหนำใจแล้ว เริ่มขี่อิฐลอยขึ้นฟ้า หายลับไปชั้นเมฆท่ามกลางสายตาของหลิวซู่ซู่กับหลิวหู่

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม