อานุภาพของสายฟ้าม่วงทองยิ่งใหญ่นัก ทะลวงร่างมังกรในพริบตา พลังอัสนีทำลายล้างสรรพสิ่งรุกรานร่างกายของมัน ฉีกทึ้งทุกอณูรูขุมขน
กรรซ์ เสียงโหยหวนของมังกรก้องไปทั่วฟ้าดิน
ร่างยาวร่วมร้อยจั้งของมันหล่นสู่พื้นทันที สะเทือนจนก้อนหินลอยฟ้าโยกคลอน
เลือดไหลออกจากมุมปากมังกร มันมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาทีละก้าวด้วยความตะลึง จนตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อว่า ตนจะแพ้ให้กับนักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณคนหนึ่ง
อันหลินรู้จุดอ่อนโจมตีทุกครั้งของมันก็น่าเหลือเชื่อมากแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะสั่งการสายฟ้าม่วงทองอันเป็นสุดยอดแห่งสายฟ้าทั้งปวงได้ นี่มันคนวิปริตอะไรกันแน่! มันไม่อยากเชื่อและไม่เข้าใจ…
“รู้สึกตกใจน่ะถูกแล้ว ราชันปีศาจโอหังก็ผ่านมาเช่นนี้เหมือนกัน…” อันหลินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามังกร มองศีรษะที่มีขนาดใหญ่กว่าเขาหลายสิบเท่าแล้วเอ่ยถามว่า “ต่อไปข้าจะดูดพลังปราณของเจ้าแล้ว เจ้ามีอะไรจะสั่งเสียหรือไม่”
มังกร “เจ้าควบคุมสายฟ้าม่วงทองได้อย่างไร”
จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าตนแพ้ได้อย่างไร ตอนนี้จึงได้พูดสิ่งที่สงสัยที่สุดออกมา
ใช่แล้ว จะตายก็ต้องตายให้กระจ่างแจ้ง!
อันหลินตอบอย่างกำปั้นทุบดินว่า “เพราะข้าเป็นราชาสายฟ้า! เป็นผู้คุมอัสนี!”
มังกรแน่นหน้าอกแล้วกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
“ยังมีอย่างอื่นจะพูดอีกไหม” อันหลินถามอีกครั้ง
มังกรส่ายหน้า “ในโลกใบนี้ ข้าไม่มีอะไรให้อาลัยอยู่แล้ว สิ่งที่รอก็คือคนที่จะเอาชนะฉันได้ เพียงแต่ไม่คิดว่าเมื่อคนคนนั้นมาจริงๆ จะขลาดเขลาปานนี้…”
อันหลิน “…”
เขาไม่พูดอะไรอีก ยื่นมือแนบกับร่างมโหฬารของมังกร
ชั่วขณะที่แสงสีขาวสว่างวาบ พลังปราณของมังกรก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
เขาทำเช่นนี้เพราะภารกิจวรยุทธ์ธาตุน้ำของระบบ
‘วิชาอมฤตนิมิตขั้นหนึ่ง บรรลุภารกิจ: ดูดพลังปราณทั้งหมดของมังกรแปลงจิต’
หนึ่งปีผ่านไป ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้ทำภารกิจนี้แล้ว ในใจจึงอดปลาบปลื้มไม่ได้
สวีเสี่ยวหลาน ต้าไป๋กับเจ้าอัปลักษณ์เห็นอันหลินดูดของประหลาดอีกแล้ว จึงเริ่มวิตกกังวลขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ด้วยเกรงว่าเขาจะเป็นเหมือนเมื่อครู่ หลังดูดเสร็จแล้วเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก
ไม่นาน พลังปราณของมังกรก็ถูกอันหลินดูดจนเกลี้ยง ร่างของมันกลายเป็นลำแสงสีน้ำเงินแล้วค่อยๆ จางหายไป มีเพียงไข่มุกที่รายล้อมด้วยกระแสไฟฟ้าลอยอยู่กลางอากาศ แผ่คลื่นพลังงานเป็นระยะๆ
เมื่อได้รับวิชาอมฤตนิมิต กลิ่นอายของอันหลินเปลี่ยนไปทันที พลังชีวิตกระปรี้กระเปร่าเต็มเปี่ยม
เขายื่นนิ้วแล้วชี้ออกไป หยดน้ำนับไม่ถ้วนก่อตัวทันที หยดน้ำเหล่านี้ค่อยๆ รวมตัวกันทีละนิด สุดท้ายก่อตัวเป็นรูปร่างของมนุษย์
เมื่อแสงสีน้ำเงินสว่างวาบ อันหลินอีกคนก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
สวีเสี่ยวหลาน ต้าไป๋กับเจ้าอัปลักษณ์ต่างก็เบิกตากว้างมองอันหลินสองคนที่อยู่เบื้องหน้า
อันหลินสองคนนี้เหมือนกันราวกับแกะทั้งรูปร่าง อากัปกิริยา กลิ่นอาย…และลักษณะทุกอย่าง พวกเขาอยู่ตรงหน้าแต่กลับแยกไม่ออกเลยสักนิด!
เมื่อเห็นท่าทางตะลึงอ้าปากค้างของทุกคน อันหลินคนหนึ่งก็ระเบิดเสียงหัวเราะ “นี่แหละความสามารถใหม่ของข้า พลังน้ำแยกร่าง! เป็นอย่างไรบ้าง ตกใจล่ะสิ”
สวีเสี่ยวหลานยกมือปิดปาก นัยน์ตาฉายประกายวาบ “คุณพระ เจ้ามีวิชาที่ล้ำค่าปานนี้เชียวหรือ ปกติจะมีเพียงยอดฝีมือระดับหวนสู่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่จะใช้วิชาแยกร่างแบบนี้ได้”
อันหลินยืนพิงต้าไป๋อย่างลำพองใจ “นี่เป็นแค่ขั้นที่หนึ่ง ต่อไปข้าจะฝึกวรยุทธ์ที่สูงกว่า ไม่ได้เหมือนเพียงภายนอก ร่างแยกอาจจะมีพลังต่อสู้เหมือนร่างจริง นั่นต่างหากที่เรียกว่าสุดยอดของจริง!”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม