วันที่สามของศึกแห่งอิสรภาพ และเป็นวันสุดท้าย
ม่านแบ่งเขตของป่าพันยอดเริ่มหดตัว สุดท้ายมันจะหดเป็นสมรภูมิรบที่มีรัศมีไม่กี่ลี้
มีนักเรียนมากกว่าร้อยละเก้าสิบเก้าที่ตกรอบแล้ว
พวกเขาต่างก็นั่งอยู่บนจัตุรัสหยกขาว รักษาอาการบาดเจ็บของร่างกาย พลางจ้องหน้าจอผลึกหินที่ดำสนิทเงียบๆ
“เดี๋ยวรอให้เหลือนักเรียนแค่ยี่สิบคน จอฉายผลึกหินก็จะถ่ายทอดสดสถานการณ์ข้างในแล้ว คาดหวังจะเห็นความองอาจของศิษย์พี่อันหลินเหลือเกิน!”
“ศึกแห่งอิสรภาพปีนี้ค่อนข้างดุเดือด สองวันมานี้ผู้แข็งแกร่งอันดับต้นๆ ตกรอบไปมากกว่าครึ่ง ความสามารถอย่างพวกเขา ปกติแล้วมักจะเริ่มต่อสู้อย่างแท้จริงในวันสุดท้าย ไม่คิดว่าจะตกรอบตอนนี้”
“นั่นน่ะสิ อย่างเหยาหมิงซี เหยาซิ่ว ลั่วจื่อผิงเกิดเหตุไม่คาดฝันไม่น่าแปลก แต่อย่างซูเฉี่ยนอวิ๋น ถังซีเหมิน จั่วชิวปิง นั่นมันผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกของอันดับเซียนเชียวนะ ตกรอบไวปานนี้ ไม่น่าเชื่อเลย!”
“น่าจะเป็นฝีมือของศิษย์พี่อันหลิน!”
“อืม เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นฝีมืออันหลิน…”
ขณะที่เหล่านักเรียนกำลังวิจารณ์กันเซ็งแซ่ จอฉายผลึกหินพลันสว่างขึ้นมา
เสียงโห่ร้องของนักเรียนอื้ออึงทั่วจัตุรัสทันที
พวกเขารอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็ได้โอกาสชมไอดอลในดวงใจต่อสู้แล้ว!
นักเรียนกว่าครึ่งต่างก็มองหาร่างร่างหนึ่งจากภาพนับร้อยชิ้นที่แตกต่างกัน
“ดูนั่นสิ! ศิษย์พี่อันหลินอยู่ตรงนั้น!”
“โอ้โฮ ทำไมเขาไปอยู่กับศิษย์พี่หลิวได้ละ ข้าปวดใจเหลือเกิน…”
“ข้าด้วย ทำไมศิษย์พี่อันหลินไม่เลือกข้า”
“พวกเขากำลังทำอะไรกันน่ะ ดูลับๆ ล่อๆ”
“เหมือนกำลังตามใครบางคนอยู่ แต่ภาพดูไม่ชัดเจน”
“พวกเจ้ารีบดูเร็วเข้า เทพเซวียนหยวนเฉิงก็เริ่มรบแล้วเหมือนกัน!”
“ดูเหมือนจะรบกับหูก้วน ไม่มีอะไรน่าติดตามแล้ว”
เมื่อสิ้นประโยคนี้ ก็มีนักเรียนหญิงไม่พอใจ โต้แย้งทันควันว่า “เจ้าจะไปรู้อะไร พวกเราไม่ได้ดูว่าเขาต่อสู้ดุเดือดอย่างไร พวกเราดูหน้าตาต่างหาก!”
คนที่ทำให้นักเรียนเอิกเกริกใหญ่โต พูดจาอย่างไม่มีภาระทางจิตใจได้ ทั้งสำนักเกรงว่าจะมีแค่เซวียนหยวนเฉิงเพียงผู้เดียว
หมัดของหูก้วนทรงพลังอย่างยิ่ง ทุกหมัดล้วนมีอานุภาพทะลายขุนเขา แต่เซวียนหยวนเฉิงกลับมีเพลงกระบี่ดั่งสายน้ำไหล สง่างามคล่องแคล่วเป็นที่สุด สามารถต้านการโจมตีของหูก้วนได้อย่างง่ายดายทุกครั้ง จากนั้นฉวยจังหวะเฉือนท่อนแขนเขาให้เกิดแผลเป็นทาง
ปกติเซวียนหยวนเฉิงจะไม่รุนแรงกับนักเรียนมากนัก นักเรียนส่วนใหญ่ที่แพ้ด้วยน้ำมือเขามักจะปราชัยเพราะพลังปราณแห้งเหือด เมื่อพวกเขาหมดแรงล้มลง เซวียนหยวนเฉิงเพียงแค่ตวัดกระบี่ใส่ร่างของพวกเขา ยันต์ประเมินผลแพ้รบย่อมถูกกระตุ้น
นักเรียนที่ชมจอฉายผลึกหินมากมายต่างก็อดรำพันไม่ได้ว่า การต่อสู้ของเซวียนหยวนเฉิงช่างน่าประทับใจ
แม้หูก้วนจะแข็งแกร่งที่สุดในชั้นปีที่หนึ่ง แต่ก็ถูกเซวียนหยวนเฉิงถ่วงเวลาจนหมดแรงล้มลงกับพื้น
“หูก้วน เจ้าทำได้ดี เจ้าเป็นคนแรกที่บีบคั้นข้าถึงขั้นนี้”
เซวียนหยวนเฉิงยิ้มอ่อนโยน ใช้กระบี่แทงหัวใจหูก้วน
มุมปากของหูก้วนกระตุก ในใจบ่นไม่หยุด
เหมือนเซวียนหยวนเฉิงก็จะพูดแบบนี้กับนักเรียนคนก่อนที่แพ้เขา…
เปลี่ยนบทพูดสักครั้งจะตายหรือไง จริงใจหน่อยได้หรือไม่!
ฉัวะ
เสียงกังวานดังขึ้น ยันต์ประเมินผลแพ้รบทำงานแล้ว
เซวียนหยวนเฉิงยิ้มบางๆ พยักหน้าให้หูก้วน จากนั้นขี่กระบี่จากไป
ยามนี้ หลิวเชียนฮ่วนกับอันหลินกำลังวิ่งอยู่บนพื้นดิน ไล่ตามสวีเสี่ยวหลานที่ขี่กระบี่ห่างออกไปสามลี้
พลังยุทธ์ของพวกเขาสูงกว่าสวีเสี่ยวหลาน ทั้งยังอยู่ไกลปานนี้ สามารถอำพรางลมปราณได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม