ข่าวการฟื้นของอันหลิน กระจายไปทั่วสำนักราวกับพายุหมุน
ถูกขนานนามว่าเป็นอันดับหนึ่งไร้เทียมทาน ผู้ซึ่งโดดเด่นเหนือใคร!
เพียงชั่วพริบตา นักเรียนต่างก็พากันมาเยี่ยมเยียน ของขวัญกองเต็มห้องเก็บของ!
บอกตามตรง ประหลาดใจเพราะเป็นที่โปรดปรานไม่เพียงพอจะนิยามอารมณ์ในตอนนี้ของเขาแล้ว
ความรู้สึกของเขาตอนนี้คือ ประหลาดใจเพราะเป็นที่โปรดปรานอย่างมหันต์!
กระต่ายจันทราเห็นว่าอันหลินไม่เป็นไรแล้ว และเหมือนว่าสมองจะไม่มีปัญหาอะไร จึงเดินทางกลับวังจันทรา
เมื่อสวีเสี่ยวหลานเห็นอันหลินฟื้นแล้ว ดวงตาก็แดงระเรื่อ ยื่นกระบี่แก้วสีทองเล่มหนึ่งให้เขา
มันเป็นศาสตราวุธชั้นสูง เป็นรางวัลที่อันหลินได้ตอนเข้าร่วมศึกแห่งอิสรภาพ
เพราะตอนรับรางวัลอันหลินยังนอนสลบไสล สวีเสี่ยวหลานจึงช่วยรับแทนเขาก่อน
นอกจากนี้ เพราะอันหลินเป็นนักเรียนที่ติดอันดับเซียนด้วย จึงมีโอกาสเข้าไปหลอมกายในเจดีย์หยก แต่เพราะตอนที่เจดีย์หยกเปิด เขายังไม่ได้สติ จึงพลาดโอกาสไป…
มีอีกเรื่อง เพราะอันหลินโดดเด่นในศึกแห่งอิสรภาพ มีโอกาสได้ขึ้นเขาสุสานเทวะพร้อมกับผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกของสำนัก เพื่อศึกษามรรควิถี แต่เพราะตอนที่เขาสุสานเทวะเปิด เขายังสลบเหมือดอยู่ จึงพลาดโอกาสไปอีกครั้ง…
หลังอันหลินฟื้นขึ้นมา ได้รู้ข่าวพวกนี้ เรียกได้ว่าน้ำตาไหลพราก ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้คำว่าพลาดเงินร้อยล้านมานิยามได้
มีอีกประการหนึ่ง ก็คือว่าที่เขาสลบครั้งนี้ เขาสลบไปสองเดือนเต็มๆ!
โชคดีที่การระเบิดตัวเองในครั้งนี้ไม่มีผลข้างเคียงอะไร
หลังฟื้นขึ้นมา เขาไม่ได้รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง กลับรู้สึกมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยมด้วยซ้ำ ราวกับมีพละกำลังที่ใช้ไม่หมด คิดว่านี่คงจะเป็นสรรพคุณของเม็ดยาสรรสร้างชีวิตด้วยเช่นกัน
อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานกำลังเยื้องย่างในรั้วสำนัก
เพิ่งหายจากอาการป่วย ออกไปเดินเล่นให้มากหน่อยยิ่งดี
ระหว่างนี้ สวีเสี่ยวหลานยังพูดเรื่องอันดับใหม่ล่าสุดของอันดับเซียนให้เขาฟังอีกด้วย
แม้นิ้วนั้นของอันหลินจะน่าตะลึงพรึงเพริด แต่มันเป็นท่าที่ต้องแลกด้วยชีวิต
แต่เพราะสำนักคำนึงถึงความปลอดภัย จึงไม่รวมคะแนนของท่านี้ใส่ในค่าพลังของเขา
ด้วยเหตุนี้ อันดับของอันหลินจึงอยู่ที่ยี่สิบสาม เป็นนักพรตที่มีอันดับสูงสุดนอกเหนือจากนักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณ
การจัดอันดับไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนเหนือชั้นในสำนักของเขาเลยสักนิด
นักเรียนยังคงยกเขาให้เป็นอันดับหนึ่งที่แท้จริงของสำนัก
เมื่ออันหลินได้ยินข่าวนี้ก็ยิ้มขมขื่น มูลค่าของการเสแสร้งครั้งนี้สูงมากเหลือเกิน เกือบตายเพราะร่างกายระเบิด แถมยังติดหนี้บุญคุณฉางเอ๋ออย่างยากจะทดแทนได้
ส่วนท่าที่ถึงตายแบบนี้…ให้ตายเขาก็ไม่มีทางใช้เป็นครั้งที่สอง!
แม้หวังเสวียนจ้านจะตกใจกลัวจนสลบเหมือด แต่ค่าพลังของเขายังคงสูงที่สุดในสำนัก ได้อันดับหนึ่งไปครอง
หลิวเชียนฮ่วนอันดับสอง หยางเฉิงอู่อันดับสาม
เซวียนหยวนเฉิงกับซูเฉี่ยนอวิ๋นต่างก็คว้าอันดับเก้าและแปดไปครองด้วยความสามารถของตัวเอง นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ค่อนข้างฮือฮาในสำนักเหมือนกัน
มีตอนพิเศษโผล่มาด้วย นั่นก็คือต้าไป๋ ‘สัตว์คู่กายอันหลิน’ ไม่ติดหนึ่งในอันดับเซียน ทำให้เกิดการประท้วงไม่น้อยเลย
แต่ว่า ทางสำนักให้คำอธิบายว่า
ต้าไป๋เป็นสัตว์เทพ ไม่ใช่เซียน! หากจะติดอันดับต้องสร้างอันดับสัตว์ก่อน ค่อยประเมินอันดับ…
กับเรื่องนี้ อันหลินก็ยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
เมื่อวานต้าไป๋มาเยี่ยมเขา ก็เคยระบายทุกข์กับเขาเช่นกัน ทั้งๆ ที่มันทำงานอย่างหนัก พฤติกรรมดีงาม แต่กลับไม่ได้สิ่งตอบแทน
และยามมันอยู่ในรั้วสำนักยังเกิดความหวาดกลัวอยู่บ่อยครั้ง ราวกับมีคนกำลังจ้องมัน จะจับมันกินอย่างไรอย่างนั้น
อันหลินเชื่อว่า คนพวกนี้หากไม่ใช่คนที่เคยถูกคู่หูมนุษย์สุนัขจัดการ ก็คงเป็นแฟนคลับผู้คลั่งไคล้เขาอย่างรุนแรง
ใช่แล้ว ตอนนี้อันหลินมีแฟนคลับกลุ่มใหญ่แล้ว!
ตอนนี้เขาเป็นดาราดังแล้ว!
แม้แต่ตอนนี้ที่เดินเล่นกับสวีเสี่ยวหลาน ยังคงมีนักเรียนไม่น้อยตามหลัง…
อันหลินอุทานเบาๆ ว่า แดนบำเพ็ญเซียนก็นิยมคลั่งไคล้ดาราด้วยเหรอ
เขาดูถูกดรรชนีวิถีสวรรค์เสียแล้ว ไม่คิดว่าจะสร้างความแตกตื่นให้กับทุกคนแบบนี้!
เมื่อพูดถึงดรรชนีวิถีสวรรค์ เขาก็นึกถึงเฉินเฉิน
เพราะเฉินเฉิน เขาถึงได้รู้ท่าที่น่ากลัวพรรค์นี้ เฉินเฉินคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
“หา ชายหนุ่มคนที่ทำให้หวังเสวียนจ้านตกใจจนทรุดลงไปคนนั้นไงเล่า!” อันหลินอธิบาย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม