“ไม่คิดเลยว่านักพรตสองคนจะจัดการได้ยากเช่นนี้”
ชิงหลีมองสองคนที่หายใจรวยรินกลางพสุธาที่ทรุดตัว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
อันหลินอุ้มสวีเสี่ยวหลาน บาดแผลดุจผิวหนังปริแตกปรากฏทั่วร่างกาย และมีหิมะปกคลุมเหนือพวกเขา ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“อันหลินๆ…เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
สวีเสี่ยวหลานเรียกชื่อของอันหลินไม่หยุด น้ำเสียงเคล้าเสียงสะอื้น
เท้าของชิงหลีย่ำอากาศ มายังเวหาเหนือทั้งสอง ทอดมองลงมาจากที่สูง เอ่ยอย่างเนิบช้าว่า “ตอนนี้ให้ข้ายุติเรื่องทั้งปวงนี้เถอะ ชิงเสินหิมะพิฆาต!”
มายาวิหคเทวะสีครามขนาดพันจั้งปรากฏกลางท้องฟ้าอีกครั้ง วิหคเทวะกระพือปีก ไอสีครามอันพิศาลลอยลงมาจากผืนนภา ทุกหนแห่งที่พ้นผ่านถูกแข็งตัว หิมะโปรยปรายในอากาศถูกกลุ่ม มไอสีครามสัมผัสก็แข็งตัวในพริบตา จากนั้นก็ถูกพลังบางอย่างบดขยี้จนแหลกเป็นอนุภาคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
สวีเสี่ยวหลานมองกลุ่มไอสีครามอันมืดฟ้ามัวดินที่ลอยลงมากก็กอดอันหลินแน่น หลับตาปี๋
ติ้ง
‘ตรวจสอบพบว่าโฮสต์กำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอันใหญ่หลวง ยอมสังเวยชีวิตหนึ่งส่วนห้าหรือไม่ ท่านจะได้รับพลังที่เหนือจินตนาการ บัดนี้ชีวิตสูญหายหนึ่งในห้าแล้ว’
“ตกลง…”
ครืน
กลุ่มไอสีครามแช่แข็งพสุธาในรัศมีหลายลี้จากนั้นทำลายจนป่นปี้ เกิดหลุมขนาดใหญ่ปรากฏเหนือที่ราบน้ำแข็ง น่าพรั่นพรึงใจ
ตอนแรกชิงหลีคิดจะสะบัดแขนเสื้อจากไป แต่ชั่วอึดใจต่อมา ร่างของนางก็หยุดชะงัก เหลียวหลังมองใจกลางของหลุม ใบหน้าฉายความอึ้งงัน
“เป็นไปได้อย่างไร…” เสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อย
สาวหิมะทั้งสี่ที่เหลือเห็นสีหน้าของชิงหลีเปลี่ยนไป ก็ข้ามมิติมาใกล้ละแวกหลุม เมื่อมองลงไปสีหน้าก็เปลี่ยนไป
ศูนย์กลางของหลุมมหึมาที่ลึกหลายสิบเมตร ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังกอดหญิงสาวคนหนึ่งไว้ มือเปล่งแสงสีเขียว พลังสมานแผลอันยิ่งใหญ่พุ่งทะลักไปที่ร่างของหญิงสาว ฟื้นฟูอาการบาดเ เจ็บภายในร่างกายนาง
“ตกใจหรือไม่” อันหลินถามเสียงเบา
สวีเสี่ยวหลานเม้มปาก ส่ายหน้าเบาๆ น้ำตาสองสายไหลลงจากหางตา สูดจมูกเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ไม่เลย ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเสียหน่อย…”
นางยื่นมือที่ขาวผุดผ่องดุจหยกออกไปลูบหน้าผากของอันหลินอย่างเบามือ “เมื่อก่อนที่เจ้าใช้พลังนี้ หน้าผากมีแค่ร่องรอยเส้นเดียวแท้ๆ ทำไมตอนนี้กลายเป็นสองเส้นล่ะ”
“นี่มันเหลวไหลไม่ใช่หรือไง ใช้กี่ครั้งก็มีร่องรอยกี่เส้นน่ะสิ เจ้าคงไม่ได้ถูกตบจนซื่อบื้อหรอกนะ วิชาสมานแผลของข้าไม่มีสรรพคุณรักษาสติปัญญานะ!” อันหลินพูดอย่างเอือมระอา า
สวีเสี่ยวหลานขำพรืด ใบหน้างดงามดุจบัวน้ำที่ผลิบานในรัตติกาล ผุดผ่องน่าหลงใหล
“แล้วรอยนี่จะวาดกี่เส้นกันแน่”
“ใครจะไปรู้ อาจจะสิบเส้น หรืออาจจะร้อยเส้น…”
“อี๋ วาดอีกไม่กี่เส้นหน้าคงลายหมดแล้ว…”
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เจ้าไม่รังเกียจก็พอแล้ว อีกอย่างใช้หลอกพวกศัตรูได้พอดีเลย”
…
ขณะที่ทั้งคู่กำลังสนทนากันอยู่นั้น เจ้าแห่งวังศักดิ์สิทธิ์ระดับหวนสู่ความว่างเปล่าทั้งห้าคนก็ตื่นจากภวังค์ความตกใจแล้ว
สาวหิมะห้าคนสบตากัน ใบหน้าล้วนแต่มีความเด็ดขาด
“ลงมือพร้อมกัน!” ชิงหลิงพูดเสียงเย็น
“หิมะดาราร่วง!” ใต้ฝ่าเท้าของสาวหิมะที่กำประคำขาวมีภาพน้ำแข็งสีน้ำเงินปรากฏขึ้น เหนือน้ำแข็งมีดวงดาวเล็กกระจ้อยนับพันนับหมื่นดวง ดวงดาวลอยออกจากน้ำแข็ง พุ่งลงไปหาอั นหลินด้วยพลังพิฆาต
“มังกรหิมะสยบการจองจำ!” สาวหิมะที่สองมือเป็นสีน้ำเงินเงื้อมือขึ้นแล้วตบลงไป ชักนำพลังทั้งหมดในร่างกาย วาดมังกรน้ำแข็งขนาดยาวสิบกว่าลี้ตัวหนึ่ง เหาะเหินในอากาศประดุ จจะแหวกทำลายเวหา พุ่งโฉบลงไปหาอันหลินด้วยพลังอันมหาศาลไม่มีที่สิ้นสุด
“กระบี่แสงสุดท้าย” สาวหิมะผู้ฝึกกระบี่คนหนึ่งใช้กระบวนท่าที่เรียบง่ายไม่มีลูกเล่น เพียงแค่ยื่นกระบี่คู่ชะตาสีขาวออกไปเท่านั้น
แต่กระบี่ธรรมดาๆ นี้นี่แหละที่บรรลุระดับคืนสู่สามัญของวิถีกระบี่ แฝงด้วยประกายอันสูงส่ง ตวัดลงมาปานสายฟ้าสีขาวแหวกมิติ หนึ่งกระบี่สะเทือนฟ้าดิน!
สาวหิมะที่บาดเจ็บสาหัสก็เงื้อฝ่ามือแล้วตบลงมาตามมารยาท กลายเป็นหัตถ์หิมะขนาดร้อยจั้ง
วิหคเทวะสีครามด้านหลังชิงหลีกางปีก พุ่งดิ่งลงไปหาอันหลินด้วยอานุภาพมหาศาล!
“ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม” อันหลินถามเสียงนุ่ม
“ไม่เจ็บแล้ว” สวีเสี่ยวหลานส่ายหน้าเบาๆ
“งั้นรอข้าหนึ่งนาที” อันหลินยิ้ม


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม