ปุจฉา ‘จะช่วยอันหลินได้อย่างไร’
ผิวของตำราสวรรค์ปุจฉาวิถีเปล่งแสงสีเหลือง ค่อยๆ ดูดซึมเลือดช้าๆ
จากนั้นมันก็เริ่มลอยออกจากร่างของอันหลิน ลุกไหม้กลางอากาศ
ตัวอักษรสีทองปรากฏให้เห็นกลางอากาศตัวแล้วตัวเล่าหลังตำราสวรรค์ลุกไหม้
ทุกตัวอักษรล้วนสอดคล้องกับเจตจำนงแห่งมรรค แทรกซึมไปในอากาศ ดำรงอยู่คู่ฟ้าดิน
‘วิธีที่หนึ่ง ภายในครึ่งเค่อ[1] ให้สิ่งมีชีวิตระดับรวมมรรคาชะล้างไขกระดูกขับไล่ความเย็นให้อันหลินด้วยพลังเทพวิถี’
‘วิธีที่สอง ภายในครึ่งเค่อ ถ่ายเลือดพญาหงส์ใส่ร่างของอันหลิน ใช้เพลิงดั้งเดิมของสายเลือดขับไล่ความเย็น’
‘วิธีที่สาม ภายในครึ่งเค่อ กินผลเทวะธาตุไฟ ก็มีความเป็นไปได้ครึ่งหนึ่งในการขจัดพลังความเย็นเช่นกัน’
สวีเสี่ยวหลานมองวิธีที่สาม นัยน์ตาสะท้อนเปลวไฟ ร่างกายแลดูบอบบาง
ครึ่งเค่อก็คือเวลาราวๆ เจ็ดแปดนาที เวลากระชั้นชิดยิ่งนัก หากว่าถึงเวลา ลมหายใจของอันหลินก็จะดับสูญ
วิธีที่สามง่ายดายที่สุด นางสำรวจดูในแหวนมิติของอันหลินกับตนแวบหนึ่ง ต่างก็ไม่มีผลเทวะธาตุไฟ จะว่าไปมันก็จริง ผลเทวะที่มีระดับเหนือกว่าผลเซียน แม้จะเป็นยอดฝีมือระดับหวนสู่ความว่างเปล่าก็น้อยคนที่จะมี
ส่วนวิธีที่หนึ่ง ให้สิ่งมีชีวิตระดับรวมมรรคาช่วยชะล้างไขกระดูกขับไล่ความเย็นให้อันหลินด้วยพลังเทพวิถี ตอนนี้นางติดต่อท่านลุงรองไม่ได้ และติดต่อปรมาจารย์ของสำนักไม่ได้เช่นกัน คาดหวังให้ยอดฝีมือรวมมรรคาคนอื่นมาที่นี่ในเวลาครึ่งเค่อมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เหลือแค่วิธีที่สองแล้ว
วิธีนี้นางทำได้พอดีเลย…
นางได้รับมรดกของเสิ่นอิงในสุสานมังกรเหมันต์ ในมรดกเหล่านั้น มีวิธีที่ตงฟางหมิงปลูกถ่ายเลือดให้เสิ่นอิงอยู่ด้วย
เสิ่นอิงเป็นยอดฝีมือเผ่ามังกรที่มีสายเลือดมังกรกับพญาหงส์ สายเลือดพญาหงส์ที่นางมี ได้มาด้วยการปลูกถ่ายก่อนตงฟางหมิงตาย
สองคนนั้นต้องคิดไม่ถึงเป็นแน่ว่า วันนี้ในอีกหมื่นปีให้หลัง จะมีสตรีที่มีสายเลือดมังกรและพญาหงส์คนหนึ่ง ถ่ายเลือดพญาหงส์ของนางให้ชายอีกคน
“เพียงแต่ว่า…วิธีถ่ายเลือดเช่นนี้จะทำให้รากฐานพินาศ พลังจะสูญหายอย่างรวดเร็ว สุดท้ายกลายเป็นหญิงปุถุชนที่บำเพ็ญเพียรไม่ได้อีก...” สวีเสี่ยวหลายรำพันยิ้มๆ รอยยิ้มเจือความขมขื่น
นางอุ้มอันหลินไว้ มองชายหนุ่มที่ถูกน้ำแข็งค้างปกคลุมตรงหน้า ใบหน้าปราศจากความลังเล ปากเริ่มร่ายมนตร์ที่เก่าแก่
คาถานั่นคล้ายคลึงบทเพลง จังหวะไพเราะน่าฟัง
เสิ่นอิงชื่นชอบการร้องเพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นางจึงดัดแปลงคาถาปลูกถ่ายเลือดของตงฟางหมิง ทำให้การปลูกถ่ายเลือดสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยการสนับสนุนจากทำนองดนตรี
มันเป็นการขับร้องเดี่ยวที่ไร้ซึ่งผู้ชม ความจริงเส้นเสียงของสวีเสี่ยวหลานยอดเยี่ยมมาก เสียงของพญาหงส์ที่อบอุ่นเจือความกังวาน ให้ความอบอุ่นและปลอบประโลมจิตใจได้
ไม่รู้ด้วยเหตุใด จู่ๆ สมองนางก็หวนคิดถึงการแสดงที่อันหลินร่วมแสดงในแดนมนุษย์
คืนนั้นนางถือกู่ฉิน กระโปรงขาวพลิ้วไหวดุจกล้วยไม้งดงามกลางหุบเขา
อันหลินขับร้อง นางบรรเลงดนตรี ทั้งสองผสานกันได้อย่างลงตัว รู้ใจราวกับเป็นคู่หูที่ฝึกซ้อมด้วยกันมานานนม
แต่ไม่เคยคิดเลยว่า ความจริงแล้วนั่นจะเป็นการแสดงคู่ครั้งแรกของทั้งสอง และคงจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วย…
ข้ากับเขารู้ใจกันมากทีเดียว…จู่ๆ สวีเสี่ยวหลานก็เกิดความรู้สึกหดหู่ใจ
ราตรีนั้น แสงดาวพร่างพราย สิ่งที่เจิดจ้ายิ่งกว่าคือทะเลแท่งไฟสีขาว แสดงร่วมเวทีเดียวกับอันหลิน ได้รับเสียงโห่ร้องดีใจของผู้คนหลายหมื่น ความจริงตอนนั้นนางตื่นเต้น เพียงแค่ไม่แสดงออกทางสีหน้าก็เท่านั้น
ตอนที่ถอยลงจากเวที เพราะนางกุมมืออันหลิน จึงทำให้รู้สึกสบายใจ
ทำไมข้าคิดถึงรายละเอียดพวกนี้ได้ เพราะข้าทะนุถนอมตลอดมาหรือ…สวีเสี่ยวหลานคิดในใจ
เสียงเพลงไพเราะเสนาะหู พลังซัดสาดในมิติ
ค่ายกลเริ่มก่อตัวบนพื้นช้าๆ แล้วเปล่งแสงสีทอง
ลวดลายสีทองที่สลับซับซ้อนค่อยๆ สรรสร้าง สุดท้ายกลายเป็นรูปพญาหงส์บนพื้น
สวีเสี่ยวหลานกรีดข้อมือ เลือดที่หลั่งออกมาไม่ใช่สีแดง แต่เป็นเลือดสีทองที่เจือปนด้วยพลังเพลิงดั้งเดิม
มือของอันหลินก็ถูกเฉือนด้วยเช่นกัน แต่ไม่มีเลือดไหล


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม